พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1390 จะกลับกันหมด
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1390 จะกลับกันหมด
จากนั้น พวกนีย์ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เดิมที่พลังในร่างกายที่ว่างเปล่า ก็ค่อยๆ เต็มเปี่ยมขึ้นมา ผนึกที่ปิดอยู่ในร่างกายก็หายไปหมดแล้ว
“รพีพงษ์ นี่คุณ……” นีย์มองรพีพงษ์อย่างตกใจ
รพีพงษ์ก็พูดนิ่งๆ ว่า “ตอนนี่ผมเชื่อใจพวกคุณแล้ว ก็เลยรีบปลดผนึกของพวกคุณเสีย”
“รพีพงษ์……”
นีย์น้ำตาคลอ เธอไม่คิดเลยว่า ในทวีปโอชวิน ตนเองจะถูกจิรกิตติ์และฉันท์ชนกสงสัย แต่รพีพงษ์ที่ตนเองจ้องทำร้ายมาตลอด ตอนนี้กลับเชื่อใจตัวเธอเอง
“พระคุณที่เจ้านายหลินช่วยให้มีชีวิตอีกครั้ง พวกเราจะไม่ลืมเลย”
ชาคริตและเมฆพูดเหมือนกัน
จากนั้น ทั้งสองคนก็มองหน้ากัน ชาคริตก็พูดขึ้นว่า “พี่ชาคริต พวกเรารีบไปที่ทางเชื่อมเถอะ ต่อให้ไปถึงที่ทวีปโอชวิน แล้วจะเหลือแค่เศษวิญญาณ พวกเราก็จะต้องช่วยครอบครัวของเราออกมาให้ได้!”
เมฆพยักหน้า แล้วทั้งสองก็รีบวิ่งไปยังทางเชื่อมนั้น
ถึงแม้พวกเขาจะรู้ดี ว่าฉันท์ชนกคงจะไม่สนใจตนเองแน่ และจะไม่รับพวกเขาไปยังทวีปโอชวินด้วยแน่นอน
“รอเดี๋ยว”
รพีพงษ์ก็เรียกทั้งสองคนนั้นให้หยุด
ชาคริตและเมฆหันมามองรพีพงษ์ “เจ้านายหลิน ไม่ทราบว่ามีอะไรจะสั่งอีกหรือ?”
“พวกคุณบุ่มบ่ามเข้าไป ฉันท์ชนกจะรับพวกคุณเข้าไปในทวีปโอชวินงั้นหรือ?” รพีพงษ์ถาม
ชาคริตขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วส่ายหัว “แต่ว่า ก็แต่ลองสักตั้ง วันเดียวไม่สำเร็จ ก็ลองสองวัน สองวันไม่สำเร็จงั้นก็สิบวัน!”
รพีพงษ์ยิ้มเย็นพูดว่า “ช่างเถอะ ครอบครัวของพวกคุณ เดี๋ยวผมช่วยเอง!”
“นี่คุณ”
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วก็มองนีย์ที่ทำอะไรไม่ถูก พร้อมพูดเสียงเบาว่า “การจะกลับไปทวีปโอชวินครั้งนี้ ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจไหมนะ?”
นีย์ตกใจมองรพีพงษ์ โดยไม่รู้ว่ารพีพงษ์พูดออกมาแบบนี้ มันหมายความว่าอย่างไร
หลังจากชาคริตและเมฆได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
“เจ้านายหลิน คุณหมายความว่า? หรือว่าคุณอยากจะให้องค์หญิงน้อยกลับไปทวีปโอชวินงั้นหรือ?” ชาคริตถาม
“คุณโง่รึเปล่า เห็นอยู่ว่าฉันท์ชนกจะทำร้ายองค์หญิงน้อยของเรา ตอนนี้เธอเพิ่งได้เป็นเจ้าทวีป แล้วจะมารับองค์หญิงน้อยกลับเข้าไปทวีปโอชวินตอนนี้ได้อย่างไร? ต่อให้ยอมรับองค์หญิงน้อยกลับทวีปโอชวิน เกรงว่าหลังจากองค์หญิงน้อยกลับไปที่นั่นแล้ว จะร้ายมากกว่าดีน่ะสิ” กล่าว
สองตาของรพีพงษ์ก็มองนีย์ที่กำลังครุ่นคิดอย่างลำบากใจ
“รพีพงษ์ นี่คุณกำลังลองใจอยู่ใช่ไหม?”
นีย์ถาม “ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆล่ะก็ คุณก็คงคิดมากไปแล้ว ฉันได้สาบานไปแล้ว ว่าจะออกมาจากทวีปโอชวิน ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันจะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ต่อไปให้ดี”
รพีพงษ์ยิ้มอ่อนๆ “คุณคิดมากไปแล้วล่ะ ถ้าผมสงสัยในตัวคุณ ก็คงจะไม่ปลดผนึกที่อยู่ในตัวคุณหรอก”
พูดจบ รพีพงษ์ก็มองพวกเขาสามคน “ที่ผมให้พวกคุณกลับไปที่ทวีปโอชวิน จริงๆ แล้วที่ผมคิดไว้คือ พวกคุณคุ้นเคยกับที่นั่นเป็นอย่างดี แบบนี้พวกคุณก็จะสามารถนำทางให้ผมได้”
“นำทางให้คุณงั้นหรือ?” นีย์ก็ยิ่งแปลกใจ
รพีพงษ์พูดเสียงขรึม “ถูกต้อง คุณพูดถูก ตอนนี้ฉันท์ชนกเป็นภัยร้ายต่อนักฝึกวิชาของประเทศจีนเรา ก็เหมือนกับที่คุณบอกไว้ เธอนั้นเป็นคนจิตใจอำมหิต ถ้าเธอให้คนที่เหลือในทวีปโอชวินเพิ่มพลังฝีมือขึ้นมาล่ะก็ แล้วลงมารุกรานพวกเราอีกครั้ง พอถึงตอนนั้นก็จะเป็นสงครามสาหัสกันอีกครั้ง”
นีย์ขมวดคิ้ว “นี่ก็คือเรื่องที่ฉันกังวล ด้วยฝีมือของฉันท์ชนก เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
“ถ้าถึงตอนนั้นเข้าจริงๆ ถ้าฝั่งพวกเราสามารถตั้งรับศัตรูได้ล่ะก็ ก็คงเป็นเรื่องที่ดีมากเลย แต่ถ้าศัตรูมีพลังที่แข็งแกร่งมากล่ะ ถึงตอนนั้น ไม่ใช่แค่พวกเรา เธอก็คงไม่ปล่อยพวกคุณสามคนไว้แน่” รพีพงษ์กล่าว
นีย์ เมฆและชาคริต ทั้งสามคนก็ผงะเหมือนกัน
เมฆเดินมาข้างๆ นีย์ “องค์หญิงน้อยครับ เจ้านายหลินพูดถูก ถ้าฉันท์ชนกกล้าเข้ามารุกรานที่นี่จริงๆล่ะก็ คงจะต้องฆ่าพวกเราทิ้งหมดแน่นอน”
นีย์ขมวดคิ้ว แล้วก็ข้าสู่การครุ่นคิดอย่างหนัก
หลายวันมานี้กว่าตนเองจะตัดสินใจได้ ว่าต่อไปจะไม่ยุ่งเรื่องของทวีปโอชวินอีกแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า พอรพีพงษ์จะพูดออกมาแบบนี้ ตนเองถึงจะเข้าใจขึ้นมาได้ว่า ตนเองอยากจะออกมาจากทวีปโอชวิน แต่ว่าฉันท์ชนกจะไม่ปล่อยตนเองไว้แน่
“โลกนี้กว้างใหญ่ คุณมาอยู่ในโลกนี้นานกว่าฉันท์ชนกเสียด้วยซ้ำ แต่ว่า พวกคุณทั้งสามคนจะหลบซ่อนกันไปแบบนี้ทั้งชีวิตงั้นหรือ?” รพีพงษ์ถาม ในขณะเดียวกันก็มองไปยังชาคริตและเมฆ “ยิ่งกว่านั้น ครอบครัวของคุณก็ยังอยู่ที่ทวีปโอชวิน ถ้าไม่ผิดอย่างที่คาดการณ์ไว้ ตอนนี้คงจะถูกฉันท์ชนกควบคุมตัวไว้แล้ว หรือว่าพวกคุณจะทนเห็นพวกเขาถูกฉันท์ชนกฆ่าตายงั้นหรือ?”
“ดังนั้น ตอนนี้ที่ต้องทำก็คือ ฆ่าฉันท์ชนกทิ้งเสีย ตัดรากถอนโคน!” รพีพงษ์ตาเป็นประกาย
ชาคริตและเมฆก็กังวลอย่างเห็นได้ชัด “เจ้านายหลินพูดถูกต้อง แต่เมื่อครู่พวกเราก็ได้บอกไปแล้ว ฉันท์ชนกคงจะไม่มารับพวกเรากลับไปทวีปโอชวินแน่นอน”
“ปัญหานี้ ผมจัดการเอง พวกคุณแค่ตอบผมมาก็พอ ว่าจะยอมไปกับผมหรือไม่!” รพีพงษ์มองทั้งสามคน
“คุณ……คุณมีวิธีงั้นหรือ?”
ชาคริตและเมฆก็คาดไม่ถึง แม้แต่นีย์เองก็ยังคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้
รพีพงษ์พยักหน้า “ผมไม่เคยพูดโอ้อวด พวกคุณตอบผมมาก็พอแล้ว”
ชาคริตและเมฆก็มองหน้ากัน จากนั้นก็ยกมือคำนับพูดว่า “เจ้านายหลินมีวิธีทำให้พวกเราสามารถกลับไปที่ทวีปโอชวินได้จริงๆล่ะก็ งั้นก็ดีมากเลย ช่วงนี้พวกเราอึดอัดใจมากเลย อยากจะสั่งสอนฉันท์ชนกเสียจนแย่”
พอนึกถึงตอนที่ถูกนักฆ่า5คนล้อมโจมตีครั้งก่อน ถ้าไม่ได้ความฉลาดของนีย์ และความกล้าหาญของเต่าและหงส์ ตอนนี้ สองคนนี้คงกลายเป็นศพไปแล้ว
“คุณล่ะ?” รพีพงษ์พูดกับนีย์ “ในเมื่อชาคริตและเมฆตัดสินใจดีแล้ว คุณก็ยอ่าไปเลย อยู่ที่กลุ่มสิงโตก็ปลอดภัยดี”
นีย์ส่ายหัว “ฉันเป็นคนรักตัวกลัวตายที่ไหนกัน คุณพูดถูก ถ้าจะมามัวหลบๆ ซ่อนๆ ก็ไม่สู้เขาไปสู้กับเธอซึ่งหน้าเลยดีกว่า เพียงแต่ คุณมีวิธีที่จะพาพวกเราเข้าไปในทวีปโอชวินจริงๆ งั้นหรือ?”
รพีพงษ์มองนีย์อย่างภูมิใจ สำหรับผู้หญิงที่รู้จักกันมานานแล้วคนนี้ รพีพงษ์เข้าใจดี ถึงแม้เมื่อก่อนนีย์จะไม่ถูกกับรพีพงษ์ แต่รพีพงษ์ก็รู้ว่า ต่อให้ผู้หญฺงคนนี้ต้องเผชิญกับอันตรายตรงหน้า ความกล้าหาญก็ยังโดดเด่น
“เรื่องที่จะโจมตีกลับทวีปโอชวิน ให้ผมจัดการเอง ในเมื่อพวกคุณตัดสินใจแล้ว งั้นช่วงนี้ก็อยู่พักรักษาตัวอยู่ที่กลุ่มสิงโตก่อน รอให้โจมตีกลับทวีปโอชวินสำเร็จแล้ว ถ้าพวกคุณอยากจะกลับออกไปก็ยังไม่สาย” รพีพงษ์พูดกับนีย์
นีย์ก็พยักหน้า เอาเถอะ ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไปไม่ได้แล้ว
แต่ว่า ไม่รู้ว่าทำไม พอรพีพงษ์ถึงรั้งตนเองไว้ได้แล้ว ในใจของนีย์ก็รู้สึกดีใจแปลกๆ
พอส่งทั้งสามคนแล้ว รพีพงษ์ก็เดินมาหาที่ห้องหงส์
ยังเดินไม่ถึงประตูห้อง รพีพงษ์ก็ได้กลิ่นหอมของอะไรบางอย่าง
“ทำอะไรกินน่ะ ให้ผมชิมหน่อย”
รพีพงษ์ยืนพูดอยู่ที่ประตู
เขาก็เคาะประตูอย่างมีมารยาท เพราะว่าก่อนหน้านี้ตนเองบุ่มบ่ามเข้าไป ทำให้เกิดเรื่องเคอะเขินแบบนี้กับผู้หญิงมาหลายคนแล้ว เพื่อที่จะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ดังนั้นรพีพงษ์ก็เลยต้องระวังมากหน่อย
“เข้ามาเถอะ”
เสียงของหงส์ส่งออกมา
รพีพงษ์เปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่าบนโต๊ะอาหารในห้องยังว่างเปล่า ไม่ได้มีอะไรกิน
ส่วนกลิ่นหอมที่ได้กลิ่นก่อนหน้านี้ หลังจากที่ดมดูแล้ว รพีพงษ์ถึงรู้ได้ว่า มันคือครีมอาบน้ำมีกลิ่นหอมพิเศษที่หงส์ใช้
พอเห็นว่าหัวหงส์ยังเปียกอยู่ รพีพงษ์ก็ยิ้มพูดว่า “ไม่คิดเลยว่าคุณจะคุ้นเคยกับการอาบน้ำตอนเช้าด้วย”
หงส์ยิ้มพูด “วันนี้จะไปแล้ว อาบน้ำเสียหน่อยจะได้สบายตัวตอนออกไป”
รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้ว “วันนี้เป็นวันดีอะไรหรือเปล่าเนี่ย? เหมาะกับการเดินทางหรือไงกัน? ทำไมแต่ละคนอยากจะกลับออกไปกันหมดล่ะ?”
“ห้ะ? ยังมีใครอยากจะกลับอีกล่ะ?” หงส์ถาม
“ก็พวกนีย์น่ะสิ” รพีพงษ์ตอบไปตามตรง “แต่ว่า ถูกผมรั้งไว้แล้ว คุณล่ะ จะกลับไปทำไม?”
“ทำไมจะไม่ไปล่ะ พวกจิรกิตติ์ถูกฆ่าตายหมดแล้ว ฉันก็จะได้พักร้อนยาวๆ ในเมืองใหญ่ ฉันยังมีเพื่อนๆ รอฉันไปช็อปปิ้งอีกเยอะเลย”
พอพูดถึงช็อปปิ้ง ใบหน้าของหงส์ก็ยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“ตอนนี้ ยังไม่ใช่เวลาไปช็อปปิ้งนะ”
รพีพงษ์พูดเสียงขรึม