พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1395 ออกจากภูเขาสามสิบไมล์เพื่อไปต้อนรับ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1395 ออกจากภูเขาสามสิบไมล์เพื่อไปต้อนรับ
ขณะที่พูด เขาก็ได้พาหงส์มาที่ประตูร้านค้าแห่งหนึ่งในถ้ำนั้น
ร้านนี้ขายเสื้อผ้าของผู้หญิงและเสื้อผ้าภายในเป็นโมเดลล่าสุดจากงานมิลานแฟชั่นวีคในปีนี้
“เชิญเลือกได้เลย เดี๋ยวฉันจะจ่ายให้เอง” รพีพงษ์กล่าว
“จริงเหรอ? คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันเลือกตามใจชอบ?” หงส์พูดกับรพีพงษ์อย่างสนุกสนาน
“แน่นอน ฉันพูดคำไหนคำนั้น”
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ!”
หงส์พูดด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหันไปเลือกเสื้อผ้า
ร้านนี้มีเสื้อให้เลือกหลายแบบ หงส์ไม่เพียงมีรูปร่างที่สูงพริ้วแต่ยังมีสัดส่วนที่เรียกได้ว่าเกือบสมบูรณ์แบบ
เธอสามารถจัดการเสื้อผ้าอะไรก็ได้ หลังจากสวมเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์เหล่านี้บนตัวของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าจะทำให้เธอดูมีรสนิยมมากขึ้น
แม้แต่พนักงานขายผมสีบลอนด์ที่ย้ายมาจากมิลาน ก็มองรูปร่างหงส์ด้วยความอิจฉา
“ทำยังไงดี เสื้อผ้าที่นี่ดูดีไปหมดเลย” หงส์พูด เธอรู้สึกลังเลไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อตัวไหนดี
รพีพงษ์พูดอะไรบางอย่างกับคนขาย จากนั้เขาก็ดงหงส์ไป พร้อมกับพูดว่า “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
“ไป?ฉันยังไม่ได้ซื้ออะไรเลยนะ คุณไม่บอกคำไหนคำนั้นเหรอไง!” หงส์พูดอย่างเร่งรีบ ในใจก็คิดว่าคนอย่างรพีพงษ์คงไม่ได้หลอกเธอหรอกนะ!
รพีพงษ์ยิ้มและพูดว่า “ฉันซื้อทุกอย่างจากร้านนี้ให้เธอแล้ว อีกเดี๋ยวคงจะไปส่งที่ห้องของเธอ เพียงเท่านี้เธอก็ไม่ต้องมานั่งคิดเล็กคิดน้อยแล้วจริงไหมล่ะ?”
“อะไร นี่คุณ…ซื้อหมดเลยเหรอ?”
หงส์อ้าปากกว้าง แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเงื่อนไขของตนนั้นดีเลิศแค่ไหน แต่เธอก็พอรู้ว่าจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่หากซื้อเสื้อผ้าทั้งหมดของร้านนี้
ถึงแม้จะเป็นตัวเธอเองก็ตาม ก็คงไม่ทำขนาดนี้
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่พนักงานขายเหล่านี้เต็มใจที่จะเดินทางหลายพันไมล์เพื่อมาทำงานในถ้ำ ดูเหมือนว่าเงินที่พวกเขาหาได้จากที่นี่มากกว่าเงินของโลกภายนอกเสียอีก” รพีพงษ์กล่าว
หงส์พยักหน้า สิ่งที่รพีพงษ์พูดนั้นคือเรื่องจริง
เนื่องจากถิ่นของกลุ่มสิงโตนั้นห่างไกล คนของกลุ่มสิงโตนอกจากการฝึกฝนและปฏิบัติภารกิจต่างๆ ก็ไม่ได้มีความบันเทิงอย่างอื่นอีกแล้ว มีแต่ถ้ำที่นี่เท่านั้นที่สร้างความบันเทิงให้ได้
สำหรับนักฝึกวิชาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่ไม่ได้ขาดเหลือเรื่องเงิน ด้วยเหตุนี้ธุรกิจการค้าขนาดใหญ่ในถ้ำจึงดีมาก
แม้แต่เสมียนธรรมดาก็สามารถหาเงินภายในหนึ่งปีได้มากกว่าข้างนอกถึงสิบเท่า
หลังจากกลับมาที่กลุ่มสิงโต รพีพงษ์ได้จัดประชุมรวมคน พร้อมกับบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องการโต้กลับที่จะเกิดขึ้นกับทวีปโอชวิน
หลังจากที่คนของกลุ่มสิงโตได้ฟังแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เห็นด้วย
การกำจัดทวีปโอชวินก็ถือเป็นสิ่งที่พวกเขาปรารถนา เมื่อมีโอกาส พวกเขาจะปฏิเสธมันได้อย่างไรกัน?
และประการที่สอง รพีพงษ์ได้บอกเรื่องที่สำคัญกว่ากับพวกเขา
“ทุกท่าน หากไม่มีอะไรผิดแปลกไป ภรรยาและลูกของฉันจะมาถึงที่กลุ่มสิงโตในวันพรุ่งนี้เช้า” รพีพงษ์กล่าว
“อะไรนะ ภรรยาของเจ้านายหลินจะมางั้นเหรอ?”
“ฉันเคยได้ยินมาว่าภรรยาของเจ้านายหลินนั้นสวยมากๆเลยล่ะ ดูเหมือนว่าเราจะได้ยลโฉมกันแล้ว”
“นั่นสิ ฉันก็อยากเห็นเหมือนกัน ผู้หญิงที่อยู่กับเจ้านายหลินคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ”
…
ทุกคนพูดคุยกันไปมา ทุกคนต่างต้อนรับ
รพีพงษ์ยืนขึ้นพร้อมกับพูดเสียงดัง “เมื่อไม่กี่วันก่อน ดูเหมือนว่าฉันจะตัดสินใจอะไรผิดพลาดไป ซึ่งการตัดสินใจนั้นเกือบคร่าชีวิตภรรยาและลูกของฉันไป”
หงส์ที่อยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้ดีว่า สิ่งที่รพีพงษ์ตัดสินใจผิดพลาดก็คือการปล่อยตัวนักฝึกวิชาจากทวีปโอชวินกี่สิบคนนั่นเอง
“เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษแก่ภรรยาของฉัน พรุ่งนี้ตอนเช้า ฉันจะไปจากกลุ่มสิงโต ออกจากภูเขาสามสิบไมล์เพื่อไปต้อนรับ!” รพีพงษ์กล่าว
ทุกๆคนมองไปที่รพีพงษ์ พวกเขาตระหนักดีว่าชายหนุ่มผู้มีอำนาจให้ความสำคัญกับภรรยาและลูกมากแค่ไหน
ออกจากภูเขาสามสิบไมล์เพื่อไปต้อนรับ รพีพงษ์คงไม่ทำแบบนี้กับใครอื่นเป็นแน่ แต่กับภรรยาและลูกของเขา เขาเต็มใจที่จะทำ แสดงถึงความเคารพของตน
“ฮ่าฮ่า คราวที่แล้ว ข้าเองก็ไม่ได้พบนางเป็นเวลานานแล้ว พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปด้วย!” ธีรพัฒน์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันก็จะไปด้วย” ธัชธรรมพูด “รพีพงษ์ ในเมื่อคุณต้องการแสดงความขอโทษ งั้นเรากลุ่มสิงโตทั้งหมดก็จะไปด้วย แบบนี้ มันจะดูจริงใจเป็นอย่างมากเลย คุณเห็นด้วยไหมล่ะ?”
“ลูกน้องเต็มใจที่จะไปด้วย ออกจากภูเขาสามสิบไมล์เพื่อไปต้อนรับภรรยาของเจ้านายหลิน!”
ทุกคนพูดพร้อมกัน
รพีพงษ์มองไปที่คนเหล่านั้น “เอาล่ะ หากทุกคนว่าเช่นนี้ ฉันก็จะไม่ปฏิเสธอีกต่อไป พรุ่งนี้เช้า ก็ออกไปพร้อมกับฉัน!”
“รับทราบ!”
ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน เสียงของพวกเขาดังก้องอยู่ในล็อบบี้ของกลุ่มสิงโต
พวกเขามองรพีพงษ์ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งนั่น ฮีโร่เหล่านี้รู้ดีว่า รพีพงษ์นั้นยอมแยกจากครอบครัวเพื่อกลุ่มสิงโตและเพื่อโลกใบนี้
อันที่จริง เขาสามารถเพลิดเพลินกับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งของโลกในเมืองได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้อีก เขาไม่จำเป็นที่จะต้องมาสนใจอะไรมากนัก
แต่รพีพงษ์นั้นยอมเลือกเส้นทางที่ยากที่สุด และดูเหมือนว่าาเขายังคงเลือกที่จะเดินต่อไปในเส้นทางนี้อีก
พวกเขารู้ดีว่า รพีพงษ์นั้นรู้สึกขอโทษอารียา ผู้ฝึกหัดในโลกนี้ก็ควรจะรู้สึกขอโทษผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังอย่างอารียาด้วยเช่นกัน?
ดังนั้น การที่จะออกจากภูเขาไปต้อนรับกับรพีพงษ์นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาเต็มใจที่จะทำ
ตอนกลางคืนดวงดาวก็พร่างพรายเล็กน้อย ดวงดาวบนเทือกเขาคุนหลุนมีมากมายและสว่างไสวกว่าในเมืองเสมอ
รพีพงษ์พิงศีรษะอยู่ที่หัวเตียง นอนไม่หลับเป็นเวลานานแล้ว
พรุ่งนี้จะได้พบกับคนที่ตัวเองคิดถึงมาตลอดอย่างงอารียาและหนูลินแล้ว รพีพงษ์ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ตั้งหน้าตั้งตารอพระอาทิตย์ขึ้นโดยเร็วที่สุด
วันนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น แต่เขาก็พอจินตนาการได้ว่าสองแม่ลูกคงต้องเผชิญหน้ากับอันตรายแบบใดกัน อารียาถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์คุยกับตน
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เขาผุดคำถามหนึ่งขึ้นมา
รพีพงษ์เชื่อเสมอว่าด้วยความสามารถและการทำงานหนักของเขา ความแข็งแกร่งของพลังแดนเทพจะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเขา การไปถึงจุดสูงสุดของแดนเทพก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไปไม่ได้
เมื่อถึงตอนนั้น ตนจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดและแทบไม่มีจุดอ่อนใดเลย
หากจะพูดถึงจุดอ่อน ครอบครัวก็ดูเหมือนจะเป็นข้อจำกัดเดียวของรพีพงษ์
ในกรณีที่มีคนเกเรหรือคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง เช่นเดียวกับพวกขี้ขลาดในทวีปโอชวินพวกนั้น เมื่อเห็นว่าไม่มีทางที่จะชนะตนได้ จึงหันไปทำร้ายอารียาและหนูลินแทน เมื่อเวลานั้นมาถึง รพีพงษ์คงจะไม่มีแม้แต่เวลาให้มานั่งเสียใจเป็นแน่
“ไม่ได้ ฉันจะต้องทำให้อารียาแข็งแกร่ง!”
รพีพงษ์ตัดสินใจแล้ว เขาจะทำให้อารียาเป็นเหมือนกับเขา เดินสู่ทางการฝึกตน
ไม่เพียงแค่อารียา แม้แต่หนูลินเอง เขาก็ได้ตัดสินใจเอาไว้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขาอยู่เกียวโตก่อนหน้านี้ รพีพงษ์บังเอิญค้นพบว่าลูกสาวที่น่ารักของเขานั้นมีพรสวรรค์ในเรื่องของจิตวิญญาณอีกด้วย สิ่งนี้ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม หนูลินนั้นยังเด็ก การฝึกฝนนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างน้อยรพีพงษ์จะยังไม่สอนอะไรจนกว่าหนูลินจะอายุครบสิบห้าปี เมื่อถึงตอนนั้นเขาถึงจะปล่อยให้เธอยอมรับเส้นทางนี้ด้วยตนเอง
“แค่สิบห้าปีเอง ไม่นานนักหรอก”
รพีพงษ์คิดกับตัวเอง สำหรับนักฝึกวิชา สิบห้าปีนั้นถือว่าไม่มีอะไรเลยจริงๆ
เมื่อเวลานั้นมาถึง ครอบครัวก็จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที…
เขาหลับตาลงและเมื่อรพีพงษ์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็สว่างสดใสแล้ว…
ที่ยอดเขาคุนหลุน คนของกลุ่มสิงโตมารวมตัวกัน
รพีพงษ์ยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ขอบคุณทุกคนที่จะมาต้อนรับภรรยาของฉันแต่เช้า” รพีพงษ์กล่าวพร้อมกับโบกมือ
หลังจากนั้น เขาก็ชี้นิ้วไปข้างหน้า “ออกเดินทางได้!”
ทุกคนเดินลงจากภูเขาไปด้วยกัน
การออกจากภูเขาสามสิบไมล์นี้ มีรพีพงษ์เดินนำอยู่ด้านหน้าสุด
เมื่อพวกเขาไปถึงที่โล่ง เสียงของเครื่องบินก็ดังมาจากระยะไกล
เฮลิคอปเตอร์มุ่งหน้าไปหาทุกคนสู่แสงแดดยามเช้า
ทุกคนเงยหน้าขึ้น บางคนถึงกับโบกมือให้กับเฮลิคอปเตอร์
“อารียา ในที่สุดเธอมาแล้ว…”
ดวงตาของรพีพงษ์อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาซึม
เฮลิคอปเตอร์ลดระดับลงอย่างช้าๆ ศรีใสเป็นคนแรกที่กระโดดลงมา หลังจากนั้นก็ตามด้วยคมกริช
รพีพงษ์รีบตามขึ้นไปจนถึงประตูห้องโดยสาร
“พ่อ…”
เสียงที่เรียกว่าพ่อ ทำให้หัวใจของรพีพงษ์นั้นสั่นไหว น้ำตาไหลออกมา…