พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1398 ไม่นับถือและไม่สนใจเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1398 ไม่นับถือและไม่สนใจเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา
“ฮะ?”
แม่นางทอผ้าตกใจ แล้วเธอก็คุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว เธอดูเหมือนกลัวมาก: “ท่านค่ะ นี่ท่านจะขับไล่พวกเราออกไปหรอ? ฉันเต็มใจได้ที่จะรับการลงโทษใดๆทั้งสิ้น แต่ได้โปรดอย่าขับไล่ฉันและชยนต์ออกไปเลยนะ!”
“ใช่ครับ เจ้านาย ชยนต์ก็คิดเช่นนั้น อย่าขับไล่พวกเราออกไปเลยนะ!”
รพีพงษ์สับสนและงงเล็กน้อย: “ผมเคยพูดเมื่อไหร่ว่าผมจะขับไล่พวกเธอออกไป?”
“ท่านค่ะ ท่านเพิ่งพูดไปในเมื่อกี้นี้เองว่า จะไม่ให้พวกเราเป็นหุ่นเชิดอีกต่อไป นี่ไม่ใช่จะขับไล่พวกเราออกไป งั้นหมายความว่าอย่างไร?” แม่นางทอผ้าพูด
ในวันนั้น จอมมารชูราได้มอบคนสองคนนี้ให้กับรพีพงษ์ พวกเขาก็ต้องอยู่กับรพีพงษ์ ไปตลอดชีวิต ตอนนี้ ถ้ารพีพงษ์คิดที่จะขับไล่พวกเขาออกไปแล้วก็ สำหรับหุ่นเชิดสองคนนี้ ก็จะได้รับความเสียใจและโศกเศร้ามากๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“พอเถอะ รพีพงษ์ อย่าแกล้งพวกเขาแล้ว”
ในเวลานี้ ธัชธรรมเดินออกมาและมองไปที่ชยนต์กับแม่นางทอผ้าแล้วพูดว่า:“เธอทั้งสองคนเข้าใจผิดกันละ เจ้าสำนักไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ความหมายของท่านนั้นคือ ท่านตั้งใจที่จะให้พวกเธอกำจัดหุ่นเชิดนั้นออก และแปลงร่างกลับมาเป็นคนใหม่อีกครั้ง!”
“ฮ่ะ? ได้เหรอ……ได้จริงๆเหรอ?”
แม่นางทอผ้าตกใจจนหัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มละ
หลายร้อยปีผ่านไป นับตั้งแต่วินาทีที่พวกเขากลายเป็นเศษวิญญาณนั้น พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลย ว่าวันหนึ่งพวกเขาจะได้เปลี่ยนร่างของพวกกลับมาเป็นร่างคนใหม่ได้อีกครั้ง
ชยนต์ก็ประหลาดใจเช่นกัน: “ท่านครับ เขา……สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริงไหมครับ?”
“จริงสิ ผมจะพูดโกหกได้อย่างไรละ? ถ้าไม่เชื่อก็ เธอมองดูอาจารย์ของผมสิ!”
ทันใดที่พูด ธัชธรรมก็ชี้ไปในฝ่างของธีรพัฒน์
“พวกเธอดูสิ เมื่อก่อนอาจารย์ของผมก็เป็นเหมือนพวกเธอ และก็อ่อนแอกว่าพวกเธอเยอะมาก แต่ตอนนี้ พวกเธอดูสิว่าเขาแตกต่างจากคนปกติหรือไม่?”ธัชธรรมพูด
ชยนต์และแม่นางทอผ้ามองไปที่ธีรพัฒน์ หากเป็นเศษวิญญาณเช่นกัน พวกเขาควรจะสัมผัสได้ทันทีเลย แต่ตอนนี้ ในร่างกายของธีรพัฒน์นั้น พวกเขาไม่รู้สึกถึงลมหายใจของเศษวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ในร่างของท่านเลยแม้แต่น้อย
“ท่านครับ นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? เป็นไปได้เหรอ ที่จะเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นร่างคนใหม่ได้หรอ?”
ก่อนที่รพีพงษ์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือพูดอะไร ทั้งสองคนยังคงรู้สึกว่าเหมือนกำลังคุยกันอยู่ในความฝัน
“เป็นความจริงแน่นอน แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนร่างเป็นคนใหม่ พวกเธอต้องกินยาสองตัวนี้ก่อน!”
พูดเสร็จ รพีพงษ์ได้มอบยาสมุนไพรอีกสองเม็ดที่ได้มาจากการนักปรับยาให้แก่ชยนต์พวกเขา
พวกเขาได้รับกินยาสมุนไพรนั้น และเพียงแค่ดูสีของเม็ดยาสมุนไพรนี้ พวกเขาก็สามารถบอกได้ว่ามันไม่ใช่ยาธรรมดาแน่นอน
“ท่านค่ะ ท่านใจดีกับพวกเรามากเหลือเกิน!”
แม่นางทอผ้าก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และจับแขนเสื้อของรพีพงษ์:“ชาตินี้ได้เป็นทาสของท่าน มันเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดละ”
รพีพงษ์จ้องมองไปที่อารียาอย่างอึดอัดใจ ในช่วงระยะเวลานี้ อารียาอยู่กับแม่นางทอผ้า และก็รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก
“นี่ เธอ พวกเรารีบแสดงความขอบคุณต่อท่านสิ!” แม่นางทอผ้ารีบดึงชยนต์อย่างเร่งรีบ
ทั้งคู่จ้องมองรพีพงษ์ ในสายตานั้นเต็มไปด้วยความขอบคุณ
“โอเค ค่ำแล้ว หลังจากที่เธอทั้งสองกินยาสมุนไพรลงไปแล้ว เรื่องที่เปลี่ยนร่างเป็นคนใหม่นั้น รอกลับไปที่กลุ่มสิงโตค่อยว่ากัน”
รพีพงษ์จับมือของอารียานั้นขึ้น มองไปที่ผู้คนและพูดว่า:“สำหรับในวันนี้ ขอบคุณทุกคนมาก กลับกันเถอะ!”
หลังจากกลับไปถึงที่กลุ่มสิงโต ตลอดทางที่กลับมา อารียาก็คงรับรู้เล็กน้อยแล้วว่ารพีพงษ์กำลังทำอะไรอยู่ในช่วงเวลานี้
แต่ว่า เธอไม่นึกเลยว่า เรื่องที่รพีพงษ์ทำนั้นมันจะยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่เช่นนี้
นี่ก็ทำให้อารียาเข้าใจว่า ในฐานะผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังของรพีพงษ์ เธอก็ควรแบกรับความรับผิดชอบไว้เช่นกัน
ฝูงชนแยกย้ายกันไป หนูลินถูกอาหารของหงส์เพิชิตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว และในตอนนี้ก็ยังคงนอนอยู่ในห้องของหงส์โดยไม่ยอมจากไป
ดีที่หงส์ก็ชอบและรักเด็กที่น่ารักอย่างหนูลิน และนังหนูน้อยนี้ก็ให้การสนับสนุนมาก หงส์ก็มีความสุขมากเช่นกัน
ในห้องนั้น เหลือเพียงแต่รพีพงษ์และอารียาสองคน
“ในที่สุดครอบครัวของพวกเราก็ได้กลับมาอยู่รวมกันอีกครั้ง”รพีพงษ์กอดอารียา และพูดว่า เฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้แหละ รพีพงษ์ถึงจะดูอ่อนโยนมาก
ใบหน้าของอารียามีรอยยิ้มที่บอกบาง ในวินาทีนี้ ตัวเองรอเป็นเวลานานมาก
“ฉันเพิ่งรู้ ว่าบนใบโลกของพวกเรานี้มีความอันตรายอยู่มากมาย ทำไมเธอไม่บอกฉันในก่อนหน้านี้?” อารียาเงยหน้าขึ้น จ้องมองรพีพงษ์และถามว่า
“ผมไม่อยากให้พวกเธอเป็นห่วง แต่ว่า ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ ปัญหาหลักได้รับการแก้ไขหมดแล้ว หลังจากนี้ ก็แค่มีแค่ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ต้องจัดการเท่านั้นเอง”รพีพงษ์พูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันต้องการให้เธอรับปากกับฉัน ว่าในอนาคต ไม่ว่าเธอจะพบเจอเรื่องอะไร เธอต้องบอกให้ฉันได้รับรู้ สัญญาได้ไหม?” อารียาถาม
รพีพงษ์พยักหน้า: “สัญญาครับ คุณภรรยา!”
อารียาเหลือบมองรพีพวษ์อย่างแปลกใจ
“เอาละ อารียา เรายังมีเพื่อนเก่าอยู่ที่นี่คนหนึ่ง เธออยากเจอไหม?” รพีพงษ์ถาม
“เพื่อนเก่า? ใครหรอ? ฉันรู้จักไหม?”อารียาถามอย่างงงงวย
“เธอรู้จักแน่นอน และพวกเธอคุ้นเคยกันมาก”รพีพงษ์พูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงหรือ?”
อารียาขมวดคิ้ว และถูกรพีพงษ์ลากออกจากห้องทันที
ในที่สุดทั้งสองก็หยุดที่หน้าประตูห้องหนึ่ง
“ที่นี่คือ.…..”
รพีพงษ์ยิ้มอย่างลึกลับ และเคาะประตู
“นั่นใคร” เสียงของนีย์ ดังออกมาจากประตูด้านใน
อารียาสงสัยเล็กน้อย เป็นเสียงของผู้หญิงได้อย่างไร?
“ผมเอง เปิดประตูให้หน่อย” รพีพงษ์พูด
เมื่อประตูเปิดออกนีย์เงยหน้าขึ้นแล้วมองเห็นรพีพงษ์และอารียาที่ยืนอยู่หน้าห้องประตู
วินาทีที่เธอเห็นอารียา รพีพงษ์รู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่า ใบหน้าของเธอนั้นดูอึดอัดขึ้นทันที
“รพีพงษ์ เธอ……”นีย์ หน้าแดงและจ้องมองรพีพงษ์ แน่ใจเลยว่า นี่คือแผนของรพีพงษ์
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็จะได้พบกันในไม่ช้าก็เร็วๆนี้”รพีพงษ์พูดอย่างเสียงเบา
แต่อารียาที่ยืนอยู่ด้านข้างๆ ยิ่งฟังเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
นี่มันหมายความว่าอย่างไร? อะไรคือการที่จะได้พบกันไม่ช้าก็เร็วๆนี้ หรือว่าเธอกับรพีพงษ์นั้น……
“เธอเป็นใคร”อารียาถามและมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร เธอคิดอยู่ในใจแล้วว่า หากเป็นอย่างที่ตัวเองคิด เธอก็จะไม่อยู่ในกลุ่มสิงโตแม้แต่วินาทีเดียว จะรีบพาหนูลินกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันคือ……”
“ฉันไม่สนใจว่าเธอเป็นใคร สรุปคือ ช่วงที่ผ่านมาขอบคุณที่ดูแลรพีพงษ์ ลำบากเธอละ”
ทันทีที่พูดเสร็จ อารียาก็หันหลังและจากไป
“อารียา เธอจะไปไหน?”รพีพงษ์รีบคว้าอารียาไว้
อารียาพูดอย่างเย็นชา: “รพีพงษ์ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมกลับบ้าน มีผู้หญิงสวยๆคอยอยู่ข้างๆ เธอจะไม่มีความสุขได้ไงละ แต่ว่า สิ่งที่เธอทำกับฉันในวันนี้ เธอไม่รู้สึกว่ามันค่อนข้างจะโหดร้ายเกินไปกับฉันหน่อยเหรอ?”
“ฉัน.…..ฉันทำอะไรลงไป ก็แค่วางแผนให้พวกเธอได้พบเจอกันอีกครั้งไม่ใช่เหรอ?”ผู้ชายแท้ๆและเหล็กตรงอย่างรพีพงษ์พูดด้วยสีหน้าอย่างมึนงง
โชคดีที่นีย์เข้าใจทันทีว่า อารียากำลังเข้าใจผิดในตัวเองอยู่
“ต้องโทษเธอแหละ ชอบทำให้คนอื่นเข้าใจผิดในสิ่งที่เธอพูด”
นีย์จ้องมองและโทษรพีพงษ์แล้วพูดกับอารียาทันทีว่า: “อารียา เธอ…… เธอไม่รู้จักฉันจริงๆแล้วเหรอ?”
อารียามืนงงมาก เธอมองดูดวงตาที่ตลกขบขันของรพีพงษ์นั้น แล้วมองไปที่นีย์อีกครั้ง นึกในสมองของเธออย่างต่อเนื่อง แต่ยังไงก็นึกอะไรไม่ออกเช่นกัน
“พวกเรา.…..เคยรู้จักกันมาก่อนเหรอ?”อารียาถาม
“ไม่ใช่แค่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ยังเคยอยู่ร่วมกันด้วย แล้วเธอก็ยังชอบพาเขามารังแกฉันด้วย!”
รพีพงษ์พูดด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่ะ ยังมีเรื่องอะไรอย่างนั้นด้วยหรอ? พวกเรายังเคยอยู่ด้วยกัน?”อารียาจ้องมองนีย์อย่างแปลกใจ
“อารียา ฉันไง.….. ฉันคือนีย์ ฉันเคยใช้ชื่อชลิตามาก่อน” นีย์พูดอย่างเขินอาย
“เธอคือชลิตา.….. นี่ เป็นไปได้ยังไง!” อารียาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สาวสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ อายุก็คงแค่ยี่สิบต้นๆ อะไรชลิตา แม่เลี้ยงของตัวเองละ?
“ที่ผ่านมา ฉันใช้การแต่งหน้าเอฟเฟคปลอมตัวเป็นสภาพนั้น และก็ เรื่องที่ฉันทำกับเธอและคุณพ่อเธอในก่อนหน้านี้ ฉันต้องขออภัยและขอโทษเธอด้วย หากเธอต้องการที่จะแก้แค้น ก็ตามใจเลย ฉันจะไม่สู้กลับแน่นอน”นีย์พูดว่า
อารียาขมวดคิ้ว เธอจ้องมองนีย์
นี่มันคือชลิตาที่โหดร้ายจริงๆเหรอ? เป็นคนที่ที่ทำร้ายเจ้าอ้วนและคุณพ่อของฉันในวันนั้น และก็ยังเป็นชลิตาที่ทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ลำบากเช่นนี้จริงเหรอ?
“นีย์เป็นคนของทวีปโอชวินมาก่อน และทุกอย่างที่เธอทำเพื่อทวีโอชวินทั้งหมด แต่ตอนนี้ เขารู้สึกผิดในเรื่องทุกอย่างที่ตัวเองทำลงไป รพีพงษ์พูดอยู่ด้านข้าง
อารียามาถึงตรงหน้าของนีย์ รพีพงศ์กลับรู้สึกประหม่ามาก อย่างไรก็ตาม พ่อของอารียาได้รับความบาดเจ็บจากนีย์ในวันนั้น และเกือบจะเสียชีวิตไปโดยตรง
ตอนนี้ แม้อารียาจะตบตีนีย์สักสองสามครั้ง มันก็สมเหตุสมผล
แต่ที่ไม่น่าเชื่อนั่นก็คือ อารียาจับมือนีย์ขึ้นมา และพูดด้วยความตกใจว่า:“ไม่นึกเลย ว่าฉันจะได้พบเจอเธอในที่นี่อีก ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนอย่างกับความฝัน เธอช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม”
นีย์ตกใจเล็กน้อย เธอพร้อมและเตรียมตัวที่จะยอมให้อารียาตบตี แต่ไม่คิดเลยว่า อารียากลับไม่นับถือเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในห้อง รพีพงษ์กลับถูกทิ้งอยู่ในด้านนอกห้อง
รพีพงษ์ส่ายหัว โอเค ผมตั้งใจว่าวันนี้ผมจะอ่อนโยนสักหน่อย ถ้าผมรู้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ ผมก็จะไม่พาอารียามาที่นี่ละ