พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 14
บทที่ 14 รพีพงษ์ ผู้ที่ลึกลับจนไม่สามารถคาดเดาได้
“ไอ้บ้านี่ จะมาหาเรื่องใช่ไหม”
เมื่อชายร่างกายกำยำได้ยินสิ่งที่เขาพูด สีหน้าก็แสดง ความโกรธออกมาทันที จากนั้นชายสองคนนั้นก็ด่ารพีพงษ์ ทันที
“ฉันให้เวลาสามนาที ไม่อย่างนั้นแกก็รอรับกรรมได้เลย” รพีพงษ์ไม่สนใจท่าทีของทั้งสองคน
“ไอ้นี่มันคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาทำจองหองที่นี่ แกเบื่อการใช้ชีวิตแล้วหรือไง” ชายกำยำหนึ่งในนั้นพูดขึ้น
มา
“ไอ้นี่มันเป็นเขยที่แต่งเข้าไปในตระกูลฉัตรมงคลนิ โอ้โห กล้ามาทำจองหองที่นี่ ดูท่าแล้วคงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ล่ะสิ” ชายอีกคนจ้องเขาแล้วพูดออกมา
“เขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลฉัตรมงคลอย่างนั้นเหรอ คนที่ วันๆ เอาแต่ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้านอะเหรอ คนที่ดูต่ำกว่า หมานั้นอะเหรอ”
“ใช่ มันนั่นแหละ”
หลังจากที่ทั้งสองคนรู้ว่าเป็นรพีพงษ์ สายตาที่มองมาก็ยิ่ง
ดูถูกเขาเข้าไปอีก
“ไอ้สวะ รีบไสหัวไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่แกควรจะมา”
รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วจะเดินเข้าไปข้างใน “ไอ้นี่ อุตส่าห์ไว้หน้า แต่แกก็ยังจะกล้าอีกนะ วันนี้แกต้อง ได้รู้ฤทธิ์ของพวกฉัน!”
ชายร่างกำยำสองคนกำลังจะทำร้ายรพีพงษ์ จู่ๆ ก็มีชาย อายุราวๆ ยี่สิบแปดยี่สิบเก้าปี ไว้ผมทรงผมสกินเฮด เดิน ออกมาจากข้างในด้วยสายตาแน่วแน่
เขาเห็นรพีพงษ์ยืนอยู่หน้าประตู ตาก็เป็นประกาย อีกทั้ง ยังเห็นผู้ชายสองคนกำลังจะทำร้ายรพีพงษ์ เขาเหงื่อแตก พลักๆ
“พวกแกทำบ้าอะไรกัน หยุดเดี๋ยวนี้!” ไตรทศตะโกนออก
ไป แล้วรีบวิ่งเข้ามาแล้วเขกหัวผู้ชายทั้งสองคน
ผู้ชายสองคนนั้นเอามือกุมหัวตัวเอง แล้วมองไตรทศด้วย
สายต่างุนงง
“ลูกพี่ ไอ้เด็กนี่มันไม่รู้ความ มันกล้าบอกให้พวกเราไป
เรียกพี่ออกมา พวกเราเลยจะจัดการมัน” ชายร่างกำยำพูด ขึ้น
ไตรทศได้ยินดังนั้นก็รีบจ้องพวกนั้นตาเขม็ง เขาคิดในใจ ว่าถ้าพวกมันทำร้ายรพีพงษ์ ต่อจากนี้พวกมันก็เตรียมตัว นอนนิ่งๆ บนเตียงไปตลอดชีวิต
“นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกแกไสหัวไป ถ้าเห็นเขาอีกก็ปล่อย ให้เขาเข้ามา ถ้าแกกล้ารั้งเขาไว้ฉันจะหักขาแกทิ้ง!” ไตร ทศก่นด่า
เมื่อไล่สองคนนั้นไปแล้ว ไตรทศก็รีบเข้าไปหารพีพงษ์ แล้วโค้งตัวทำความเคารพ “พี่รพี พี่มาได้ยังไงครับ ลูกน้อง ของผมมันมีตาหามีแววไม่ เลยพูดจารุนแรงกับพี่ เดี๋ยวผม จะกลับไปจัดการมันให้”
รพีพงษ์หัวเราะ เขาไม่ได้ติดใจอะไร
การที่ไตรทศนอบน้อมกับเขาขนาดนี้ เพราะรพีพงษ์เป็นผู้ ที่ทำให้เขามีทุกอย่างในวันนี้
สี่ปีก่อน ไตรทศถูกศัตรูตามฆ่า เขาหนีมาถึงเมืองริเวอร์ เพราะว่าการช่วยเหลือจาก รพีพงษ์ ทำให้เขาสามารถสะสา งกับศัตรูได้ อีกทั้งรพีพงษ์ยังให้สถานบันเทิงสตาร์กาย กับ เขา
ถ้าไม่มีรพีพงษ์ ก็ไม่มีไตรทศผู้ที่เป็นหนึ่งในสามของรา ชาใต้ดิน เขารู้สึกขอบคุณรพีพงษ์มาตลอด อีกอย่างเขาก็รู้ ดีว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อย่างที่ทุกคนคิด คนที่ ลึกลับจนไม่สามารถคาดเดาได้อย่างรพีพงษ์ไม่ใช่ผู้ที่คน ธรรมดาๆ จะจินตนาการได้
ต่อให้เขาจะเป็นราชาใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์แต่เขาก็รู้ดีว่า รพีพงษ์สามารถพังทุกอย่างของเขาได้อย่างสบายๆ
“อีกไม่กี่วันตระกูลฉัตรมงคลจะจัดนิทรรศการแสดงวัตถุ โบราณที่วิลล่าฟ้าอนงค์ นายหาคนให้ฉันสองสามคน เพื่อ ไปดูแลความปลอดภัยที่งานนั่น” รพีพงษ์ไม่พูดอ้อมค้อม
“ไม่มีปัญหา สิ่งที่พีรี่ ที่พีรพีมอบหมายมาให้ ผมจะทำมันให้ดีที่ สุด” ไตรทศยิ้มแล้วพูดตอบรับ
เมื่ออยู่ต่อหน้าของรพีพงษ์ เขาไม่สามารถแสดงมาดอันดุ ร้ายตามปกติออกมาได้
“พี่รพี พี่เข้ามานั่งข้างในก่อนสิ พวกเรามาดื่มอะไรกันสัก หน่อย” เมื่อไตรทศเห็นว่ารพีพงษ์มอบหมายงานให้ เรียบร้อยแล้ว เขาก็พูดออกมา
“ไม่แล้วล่ะ ฉันต้องรีบกลับบ้าน อย่าลืมเรื่องที่ฉันสั่งไว้ล่ะ ถ้าเกิดเรื่องยุ่งเหยิง ก็รอรับหมัดของฉันได้เลย ” รพีพงษ์เอ่ย ขึ้นมา
ไตรทศรีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เขาไม่กล้าทำแบบลวกๆ
เขาเคยโดนหมัดของรพีพงษ์มาแล้ว ความรู้สึกนั้นสำหรับ เขาแล้วมันคือฝันร้าย
ในขณะเดียวกัน ในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเมืองริเว อร์ธายุกร กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่กับชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ชายคนนั้นก็คืออินทัชหนึ่งในสามของราชาใต้ดิน ๘ 4
“พี่ทัช ครั้งนี้พี่ช่วยส่งคนฝีมือดีๆ มาให้ผมสักสองคนสิให้พวกมันไปขโมยวัตถุโบราณของคุณปู่ในงานนิทรรศการ เมื่อถึงเวลานั้นผมจะโยนความผิดให้รพีพงษ์ ให้มันออกจาก ตระกูลฉัตรมงคลไปตลอดกาล เราแบ่งวัตถุโบราณกันคน ละครึ่ง พี่ว่าเป็นไง” ธายุกรพูดแล้วแสยะยิ้ม
อินทัชสูบบุหรี่แล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันหาคนให้นายได้ แต่ ว่าวัตถุโบราณพวกนั้น ต้องเป็นของฉันทั้งหมดแล้วนายต้อง ให้ฉันอีกหนึ่งแสน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาพูดกัน”
ธายุกรกัดฟันกรอด ไม่คิดว่าไอ้อินทัชจะใจดำอำมหิต ขนาดนี้ จะเอาวัตถุโบราณยังไม่พอ แถมต้องการเงินอีกหนึ่ง
แสน
แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่รพีพงษ์ให้เขาคุกเข่าขอโทษอารียา แล้ว เขาก็แค้นจนกัดฟันกรอด เขาสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า “ได้ เอาอย่างที่พี่ต้องการ ขอแค่คนของพี่ไม่ทำให้ผมผิดหวัง
ก็พอ”
“อย่างนั้นนายก็วางใจเถอะ ฉันไม่เคยทำงานพลาด” อิน
ทัชตบอกตัวเอง
ช่วงดึกภายในห้องรับแขก
“ลูก มานี่เร็ว หัวใจวีตัสถูกคนซื้อไปแล้ว ตั้งสี่สิบห้าล้าน แน่ะ!” ศศินัดดาดูข่าวในโทรทัศน์แล้วพูดเสียงดังออกมา
ไม่กี่วันมานี้ ศศินัดดาสนใจสร้อยคอหัวใจวีตัสมาก และเธอก็หลงใหลในเครื่องประดับหรูหราพวกนี้มาก
“คิดไม่ออกจริงๆ ว่าพวกคนรวยเขาคิดยังไง ถึงใช้เงิน เยอะขนาดนั้นมาซื้อสร้อยคอเพียงเส้นเดียว สิ้นเปลืองจริงๆ” ศักดาพูดพึมพำ
“อย่าใช้สายตาของตัวเองไปตัดสินคนอื่น เขาเรียกว่าค วามสุข ใครจะเหมือนคุณที่ไร้ประโยชน์จะตาย ฉันว่าคุณยิ่ง กว่าไอ้สวะรพีพงษ์เสียอีก” ศศินัดดาพูดเหน็บแนมศักดา ศักดารีบหดคอลงทันที เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
“พูดถึงไอ้สวะนั่นก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที ถ้าไม่ใช่เพราะมัน แคลร์ของพวกเราก็จะมีโอกาสแต่งกับคนรวยๆ เมื่อถึงตอน นั้นหัวใจวีตัสก็แค่เรื่องเล็กๆ แต่มันกลับต้องพังทลายลง เพราะไอ้สวะนั่น”
ไม่ว่าจะทำอะไร ศศินัดดาก็สามารถหาเรื่องมาด่ารพีพงษ์ ได้เสมอ เขากลายเป็นที่ระบายของเธอไปเสียแล้ว
อารียาเดินเข้ามา แล้วดูข่าวในโทรทัศน์ เธอรู้สึกหดหู่ หญิงสาวคิดในใจว่าคนที่ซื้อสร้อยในราคาแพงขนาดนี้ น่า จะเป็นคนที่โรแมนติก น่าเสียดายที่เธอไม่อาจจะสัมผัสกับค วามรู้สึกแบบนั้น เธอสังเกตเห็นคนที่ถูกจับภาพอยู่บนจอทีวี ผู้ชายที่สามารถประมูลสร้อยคอหัวใจวีตัสได้ เขาสวมหมวก แก๊ป มันเป็นแค่เงารางๆ แต่ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกคุ้นเคยกับเงา นั้นมาก
“ทำไมรู้สึกว่าคล้ายกับรพีพงษ์จังเลย” อารียาพูดพึมพำ
“สงสัยจะคิดมากไปเอง” เธอสะบัดหัวไปมา หญิงสาวรู้สึก ว่าความคิดเมื่อครู่มันน่าตลกสิ้นดี รพีพงษ์ ดูปฏิกิริยาของอารียาอยู่หน้าประตูห้องครัว เขา
เผยยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็เอามือไปจับตรงกระเป๋ากางเกง
รออีกไม่กี่วัน เขาจะเอาสร้อยคอหัวใจวีตัสเป็นของขวัญ
ให้กับอารียา
ในขณะเดียวกันที่บ้านของชรินทร์ทิพย์ เธอนั่งมองทีวีด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเพ้อฝัน เพราะเธอก็กำลังติดตาม ข่าวสร้อยคอวีตัสที่โดนคนประมูลไปในราคาสี่สิบห้าล้าน เธอจินตนาการว่าสร้อยคอเส้นนี้ อาจจะเป็นเจ้าของวิลล่า
ฟ้าอนงค์ที่เป็นคนประมูลไป เพื่อเตรียมเป็นของขวัญให้กับ
เธอ
“สร้อยคอเส้นนี้ต้องเป็นสิ่งที่ว่าที่สามีในอนาคตใช้ขอฉัน แต่งงานแน่ๆ เขาตั้งใจซื้อให้ฉัน สำหรับสามีในอนาคตของ ฉันซื้อสร้อยแค่นี้ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงอยู่แล้ว”
สองวันมานี้เธอถือว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์เป็นสามีในอ นาคตของเธอไปเรียบร้อย
“โอ๊ย ฉันตั้งตารอล่ะเนี่ย ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ฉัน มั่นใจว่าเขาจะมาหาฉันในเร็วๆ นี้”
“ที่ อารียา เธอหน้าตาสวยแล้วไง สุดท้ายก็แต่งงานกับ สามีไร้ประโยชน์ไอ้สวะรพีพงษ์ ทั้งชีวิตมันก็ไม่สามารถซื้อ สร้อยคอแพงขนาดนี้ให้เธอได้”
“รอให้ฉันแต่งเข้าไปในบ้านเขาก่อนเถอะ ฉันจะเหยียบ พวกแกให้จมดิน ฉันจะทำให้พวกแกขอร้องให้ฉันสงเคราะห์ พวกแก!”