พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1417 ผมจะแก้แค้นแทนคุณเอง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1417 ผมจะแก้แค้นแทนคุณเอง
เมื่อคิดถึงทุกอย่างในคุกน้ำใต้ดินแล้ว นีย์ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉันท์ชนกในตอนนี้ก็มีแววตาที่เคร่งขรึมทันที
ร่างกายของเธอเหมือนว่าจะถูกห่อล้อมด้วยพลังทิพย์ ตอนนี้ เผชิญหน้ากับฉันท์ชนก แม้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะถึงพละกำลังของแดนเทพขั้นพีค แต่ว่า นีย์ก็เชื่อว่าตัวเองน่าจะต้องต่อสู้กับฉันท์ชนก!
ถ้าหากแม้แต่ความกล้าหาญนี้ก็ยังไม่มีเลย งั้นวันนี้ฉันก็ไม่ควรกลับไปยังทวีปโอชวินแล้ว!
“ฉันท์ชนก วันนี้ แกจะต้องชดใช้กับทุกสิ่งอย่างที่แกเคยทำไว้ก่อนหน้านี้!”
นีย์พูดกล่าว แส้ยาวสะบัดออกไป ฉันท์ชนกขมวดคิ้วนิดหน่อย กระโดดอย่างสบายๆ หลบหลีกไปเลย
“นังสารเลว ดูเหมือนว่าเมฆและชาคริตคนทรยศสองคนนี้จะถ่ายทอดผลการฝึกตนของตัวเองให้แกแล้วสินะ แกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ว่าแม้ว่าเป็นเช่นนี้ แกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน!”
พูดแล้ว บนมือของฉันท์ชนกก็รวบรวมพลังจิตวิญญาณ รอบกายของเธอ ราวกับว่าอากาศถูกแช่แข็งแล้วยังไงอย่างนั้น
“สาวน้อยคนนี้ พละกำลังในการโจมตีนี้แข็งแกร่งจริงๆ!”
ธีรพัฒน์พูดอย่างเคร่งขรึม
รพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆก็สามารถเห็นถึงความสุดยอดของอีกฝ่ายแล้ว
“นีย์ คุณรีบออกไป!”นีย์พูดกล่าวเสียงดัง
นีย์สองมือกำหมัดแน่น : “ไม่ รพีพงษ์ วันนี้ฉันจะต้องฆ่าผู้หญิงคนนี้ เธอคือตัวการที่ก่อกรรมทำชั่ว !”
“เหอะ อยากจะฆ่าฉัน เกรงว่ายังเร็วไปมาก!”
พูดแล้ว ฉันท์ชนกก็พุ่งสองกำหมัดไปยังข้างหน้า พลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังรวบรวมอยู่บนมือและพุ่งโจมตีไปยังนีย์เลยทันที
ประกายแสงระยิบระยับส่องสว่างไปทั่วทั้งทวีปโอชวิน พลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังอย่างนี้ ทำให้ทุกคนต่างก็ได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของมัน
“ไม่ได้การแล้ว!”
คิ้วโค้งเรียวของรพีพงษ์ขมวดแน่น แม้ว่าจะดูดซับผลการฝึกตนของเมฆและชาคริต แต่พละกำลังของนีย์ในตอนนี้ก็ไม่เพียงพอที่จะเป็นแดนเทพขั้นกลาง
และการโจมตีของฉันท์ชนก เห็นได้ชัดว่าลงมือฆ่าสังหารแล้ว พละกำลังที่รวมอยู่ในนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ก็ไม่แน่ใจว่าจะรับไหว
“มันเป็นเพราะเหตุใดกันแน่ ถึงได้ทำให้พละกำลังของเธอเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขนาดนี้ได้?”
รพีพงษ์เกิดความสงสัย แต่เขากล้ายืนยันเลยว่า คัมภีร์ทิพย์นั่นที่ฉันท์ชนกพูดออกมาทั้งนั้น จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกังฟูเสนครึ่งหลังที่ตัวเองฝึกตนอย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของรพีพงษ์ นีย์ก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย
แต่ว่า นีย์ในวันนี้ เดิมทีก็เป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่อย่างไม่คิดชีวิตในการมาที่นี่
“ฉันท์ชนก ฉันจะสู้กับแกจนถึงที่สุด!”
นีย์พูดตะโกนเสียงดัง ระบายความไม่พอใจที่เก็บไว้ในใจกว่าหลายปีออกมาทั้งหมดแล้ว
ตรงหน้าของนีย์ เกราะกำบังที่ก่อร่างขึ้นมาด้วยพลังจิตวิญญาณได้สร้างขึ้นมาโดยตรง
เสียงระเบิดดังตุ้ม
พลังจิตวิญญาณของฉันท์ชนกกับเกราะกำบังนี้ชนกระแทกกัน ตีฝ่าเกราะกำบังไปเลย
และในเวลานี้ นีย์ละทิ้งแส้ยาวที่อยู่ในมือ เปลี่ยนเป็นกริชสีดำ
เธอไม่ได้เลือกที่จะหลบหนี ในทางตรงกันข้าม เห็นแค่นีย์จรดเท้าที่พื้นเบาๆ หยิบกริชและพุ่งตรงไปยังพลังจิตวิญญาณที่เปล่งประกายโดยฉันท์ชนกแล้ว
“แกนี่รนหาที่ตาย!”
ฉันท์ชนกพูดอย่างเยือกเย็น เธอไม่เชื่อเลยว่านีย์สามารถบุกผ่านการโจมตีในครั้งนี้ของเธอได้ ในทางกลับกัน เธอเลือกที่จะบุกเข้ามาโดยตรง เท่ากับว่ารนหาที่ตายให้ตัวเองแท้ๆ
หลังจากที่เกราะกำบังของนีย์ถูกทำลาย เธอใช้พลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งห่อหุ้มตัวเองไว้ทั้งตัวแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ สามารถต้านทานพลังจิตวิญญาณในการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้มากที่สุด เธอก็สามารถแสดงข้อได้เปรียบด้านความเร็วของตัวเองออกมาได้มากยิ่งขึ้น!
ตอนที่รพีพงษ์ต่อสู้กับนีย์เป็นครั้งแรก ก็เคยยอมต่อความเร็วของนีย์
ตอนนี้ นีย์ที่อยู่ต่อหน้าของผู้คนราวกับลูกศรยังไงอย่างนั้น พุ่งตรงไปยังอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเธอก็ลอยตัวกลางอากาศ คนทั้งคนรักษาเส้นขนานกับพื้นดิน ในเมื่อเป็นอย่างนี้ แม้ว่าพลังจิตวิญญาณของอีกฝ่ายจะมีพละกำลังที่มหาศาล แต่ว่า นีย์อยากจะฉีกขาดการโจมตีอย่างนี้โดยตรง
เหมือนกับที่เรียกว่าท่ากระบี่ดับยังไงอย่างนั้น การเปลี่ยนที่มากมายหลากหลายไม่ขาดสายโดยคุณ ฉันก็ตรงไปตรงมาโดยไม่อ้อมค้อม เพียงแค่โจมตีเล็กน้อย!
รพีพงษ์พวกเขาตกตะลึงจนตาค้าง สามารถเลือกวิธีการอย่างนี้มาใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ได้ แค่ความกล้าหาญนี้ก็เพียงพอที่จะให้ผู้คนในกลุ่มสิงโตชื่นชมแล้ว
แต่ว่า ความเจ็บปวดข้างในนี้ ตอนนี้ก็มีแค่นีย์เพียงคนเดียวที่รู้
คิ้วของเธอล็อกแน่น ถึงแม้ว่าจะรวดเร็วอย่างมาก แต่ว่า ทั้งสี่ด้านล้วนเป็นพลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งที่ฉันท์ชนกแพร่กระจายออกมา พลังจิตวิญญาณแบบนี้ได้ฉีกทำลายพลังจิตวิญญาณที่นีย์นำมาห่อหุ้มร่างกายของตัวเองไว้เป็นเสี่ยงๆอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยพุ่งโจมตีไปยังนีย์แล้ว
“เหลือแค่นิดเดียวแล้ว จะต้องยืนหยัดต่อไป!”
นีย์คิดในใจ กริชที่อยู่ในมือส่องสว่างด้วยความเหน็บหนาว ในเวลานี้ เสื้อผ้าบนตัวของเธอก็ถูกพลังจิตวิญญาณที่มหาศาลทำลายจนฉีกขาดมากมาย เผยผิวที่ราวกับหิมะของเธอ และนีย์ก็สามารถสัมผัสได้ ภายในร่างกายของเธอ อวัยวะภายในทั้งหมดสุดที่จะรับแรงกดดันนี้ ได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว
เพียงแค่ ตอนนี้อาศัยผลการฝึกตนที่ได้มาจากชาคริตและเมฆ และความเชื่อและความมุ่งมั่นอย่างยิ่งใหญ่ของตัวเองถึงจะสามารถฝืนทนได้!
ปลายกริชเข้าใกล้ฉันท์ชนกเข้ามาเรื่อยๆ แต่ว่าสีหน้าของนีย์ก็ดูแย่อย่างมากแล้ว
“เหอะ นีย์ ทั้งชีวิตนี้ของแกก็ต้องถูกฉันเหยียบอยู่ใต้เท้าตลอดไป!” ฉันท์ชนกมองไปยังอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น
“ไม่ แกไม่มีทางทำได้ แม้ว่าต้องตาย ฉันก็จะสู้กับแกให้ถึงที่สุด!”
นีย์พูดกล่าวเสียงดัง หายใจไม่สม่ำเสมอ เลือดสดๆพ่นกระเซ็นออกมาจากปากของเธอเลย
คนของกลุ่มสิงโตที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแต่เคลื่อนไหวแล้ว ถึงแม้ในเวลานี้ พวกผู้ฝึกตนเหล่านั้นของทวีปโอชวินเห็นอดีตองค์หญิงน้อยของตัวเองมีท่าทีที่แน่วแน่อย่างนี้ แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะสงสารนีย์ขึ้นมาแล้ว
ตอนแรกที่นีย์อยู่ทวีปโอชวิน แม้ว่าจะเป็นคนที่ป่าเถื่อนและเอาแต่ใจ แต่สำหรับลูกสมุนเหล่านี้และคนธรรมดาของทวีปโอชวินแล้ว ก็ไม่เคยทำพฤติกรรมที่เกินไปเลยจริงๆ และระบายความโกรธกับอีกฝ่ายเพียงเพราะเรื่องเล็กๆ
ในทางกลับกัน เมื่อเปรียบเทียบกับนีย์แล้ว ฉันท์ชนกองค์หญิงใหญ่คนนี้แม้ว่าอยู่ที่พระราชวัง ล้วนมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ ตอนที่พูดด้วยอารมณ์ก็มักจะพูดว่าตัวเองคำนึงถึงทวีปโอชวินอยู่เสมอ แต่ทุกคนต่างก็รู้ดี อารมณ์ขององค์หญิงใหญ่แปลกประหลาด หากใครกล้าที่จะล่วงเกินเธอ จะต้องมีจุดจบที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
เพราะงั้น ในใจของผู้คน เดิมทีก็มีความรู้สึกอันดีต่อนีย์ และมีความรู้สึกหวาดกลัวต่อองค์หญิงใหญ่ฉันท์ชนก
เพียงแต่ พละกำลังของฉันท์ชนกช่างยิ่งใหญ่นัก และในตอนนี้เจ้าทวีปจิรกิตติ์ก็ดันมารักลูกสาวคนโตของตัวเองเป็นพิเศษอีก บวกกับ ทั้งทวีปโอชวินในตอนนี้ คนที่เข้าสู่แดนเทพขั้นพีคมีเพียงฉันท์ชนกเพียงคนเดียวเท่านั้น ยอดฝีมือแดนเทพคนอื่นๆนั้น ก็เป็นคนสนิทของฉันท์ชนกทั้งนั้น เพราะเหตุนี้ พวกเขาก็เลยไม่คิดอะไรมากมายอีกแล้ว
“ไม่ได้การ ดูเหมือนว่านีย์จะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว”ธีรพัฒน์พูดอย่างเยือกเย็น
เพิ่งจะพูดจบ ธีรพัฒน์เตรียมที่จะลงมือไปช่วย ก็เห็นรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆก้าวเท้ายาวบุกเข้าไปแล้ว
“นีย์ ผมจะช่วยคุณเอง!”
รพีพงษ์พูดเสียงดัง
ฉันท์ชนกหัวเราะอย่างเย็นชา : “มาหาที่ตายอีกคนแล้ว!”
และในเวลาเดียวกัน เธอก็ใช้พลังจิตวิญญาณพุ่งตรงไปยังรพีพงษ์ด้วยเช่นกัน
กระบี่สยบเซียนในมือของรพีพงษ์ ขวางไว้อยู่ตรงหน้า ตั้งรับการโจมตีของอีกฝ่าย แต่ว่า การโจมตีของแดนเทพขั้นพีคก็ยังโค่นล้มรพีพงษ์ที่อยู่กลางอากาศลงมาแล้ว
“สมควรตาย!”
รพีพงษ์พยายามอย่างแน่วแน่ เตรียมที่จะพุ่งขึ้นอีกครั้ง
กลับเห็นอีกฝั่ง มีแสงสีฟ้าสาดส่องเข้ามา พุ่งโจมตีไปยังฉันท์ชนกแล้ว
หันกลับไปมองด้านหลัง ที่แท้เป็นการลงมือของธีรพัฒน์
ธีรพัฒน์ในเวลานี้ ทำให้ฉันท์ชนกต้องใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อต้านรับ นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีให้กับรพีพงษ์ได้พอดีเลย
เขารีบก้าวขึ้นไปด้านหน้า ไล่ตามนีย์ที่บุกโจมตีไปยังฉันท์ชนกเลย
นีย์ในเวลานี้ ริมฝีปากขาว ร่างกายได้ถึงจุดขีดสุดแล้ว
รพีพงษ์เอามากอดไว้ในอ้อมกอด จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ก่อกลายเป็นแนวป้องกันที่ไร้เทียมทาน
หลุดพ้นจากการโจมตีของพลังจิตวิญญาณ ทั้งตัวของนีย์ก็ผ่อนคลายลง กริชในมือตกลงกับพื้น กลายเป็นความว่างเปล่า
“รพีพงษ์……ฉัน……”
นีย์เบิกตามองกว้าง มองไปยังรพีพงษ์ที่อยู่ข้างหน้า
“ไม่ต้องพูด ตอนนี้คุณต้องพักผ่อน”
รพีพงษ์พูดจาเคร่งขรึม
ฝั่งตรงข้ามก็คือฉันท์ชนกที่ต่อสู้กับธีรพัฒน์ รพีพงษ์ไม่กล้าที่จะอืดอาดยืดยาด ปลายเท้าจรดพื้น กลับไปถึงอีกฝั่งทันที
เห็นเสื้อผ้าบนตัวของนีย์ถูกฉีกขาดมากมาย รพีพงษ์ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถอดเสื้อคลุมข้างนอกออก คลุมลงบนตัวของนีย์เลย
“หงส์ ดูแลแธอให้ดี!” รพีพงษ์พูดกล่าว
“วางใจ”
หงส์รีบเอ่ยพูดทันที ประคองนีย์มาอยู่อีกฝั่งหนึ่งแล้ว
“รพีพงษ์……”
นีย์ที่อ่อนแอมองไปยังรพีพงษ์ ในแววตาซ่อนเร้นคำพูดไว้มากมาย