พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1421 ธีรพัฒน์ตกอยู่ในอันตราย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1421 ธีรพัฒน์ตกอยู่ในอันตราย
ธีรพัฒน์ล้มลงพื้น คนแก่ที่มีอายุ200ปี และมีพลังระดับแดนเทพขั้นพีคล้มลงที่พื้น
ฉันท์ชนกปากยิ้มเยาะเย้ย แล้วก็ค่อยๆ เดินมาตรงหน้าธีรพัฒน์
ใบหน้าของเธอมีความดีใจที่ซ่อนเร้นไว้ไม่ได้ เธอรู้ดีว่า ตาแก่คนนี้เป็นคนที่เก่งที่สุดบนโลก ตอนนี้แม้แต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเอง ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นแล้วล่ะ!
“ไม่คิดเลยว่า พ่อฉันและอาทั้งสองจะแพ้ให้กับคนพวกนี้ ดูเหมือนว่า พลังของพวกเขาทั้งสามคนก็ไม่เท่าไรหรอก!” ฉันท์ชนกยิ้มพูด
เธอไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นที่เขาคุนหลุน ตอนแรกเธอคิดว่าจอมมารชูร่าเป็นคนเอาชนะพวกพ่อของตนเอง แต่ตอนนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่เธอเห็นกระบี่สยบเซียนในมือของรพีพงษ์ จากนั้นก็เปลี่ยนความคิดของตนเองทั้งหมด
ที่แท้ ดวงจิตของจอมมารชูร่าได้สลายไปแล้วจริงๆ คนที่เอาชนะพ่อตนเองและอาทั้งสองคน ก็คือตาแก่คนนี้!
ดูเหมือนว่า พวกของจิรกิตติ์อยู่ในทวีปโอชวินนานไปจนออกรบไม่เป็น พลังก็เลยถดถอย ส่วนตอนนี้ตนเองได้เหยียบให้ธีรพัฒน์อยู่แทบเท้า ดูเหมือนว่าพลังของตนเองได้มากกว่าสามพี่น้องจิรกิตติ์ไปแล้ว!
พอนึกถึงจุดนี้ ฉันท์ชนกก็ยิ่งรู้สึกได้ใจขึ้นไปใหญ่
แบบนี้ล่ะก็ ตนเองจะเป็นเจ้าทวีปของทวีปโอชวินก็สมเหตุสมผลแล้ว เพราะว่า ไม่เพียงมีความฉลาดและการตัดสินใจที่เหนือกว่าพ่อตนเอง แม้แต่พลัง ก็ยังอยู่เหนือกว่าจิรกิตติ์!
และทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่าล้วนเป็นคัมภีร์ทิพย์ที่ให้พลังแก่เธอ!
“เจ้าทวีปจงเจริญ!”
คนของทวีปโอชวินที่อยู่ด้านหลังเธอก็ตะโกนออกมาดังลั่น แววตาของฉันท์ชนกก็ยิ่งยิ้มแย้ม ตอนนี้ตนเองได้กลายเป็นผู้ปกครองของดินแดนนี้แล้ว และกล้าที่จะทำให้คนที่ต่อต้านตนเองต้องแหลกสลายเป็ยผุยผง!
“ธีรพัฒน์ วันนี้จะเป็นวันตายของแก!”
ฉันท์ชนกพูดเสียงเย็นชา
ธีรพัฒน์ที่ล้มลงพื้น สายตาอันแก่ชราก็มองไปยังฉันท์ชนกที่ยืนตรงหน้าตนเอง
หลายปีมานี้ ยังไม่เคยมีใครกล้ายืนพูดแบบนี้กับตนเอง ตาแก่ที่เย่อหยิ่งก็จ้องมองไปด้วยสายตาโมโห
“ไอ้แก่ แกยังกล้ามาจ้องมองฉันอีกนะ!”
ฉันท์ชนกตบเข้าไปที่ใบหน้าของธีรพัฒน์
สำหรับคนแก่อย่างธีรพัฒน์แล้ว นี่มันเป็นการเหยียดหยามอย่างมาก!
“อาจารย์!”
ธัชธรรมตะโกนอยู่ข้างๆ แต่ว่าเขาก็บาดเจ็บหนัก ขยับตัวไม่ได้เหมือนกัน “นังชั่วนี่ มึงกล้าเหยียดหยามอาจารย์กูงั้นหรือ กูจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับมึง!”
“เหอะ อาศัยกำลังของแกน่ะหรือ?”
พูดไป ฉันท์ชนกก็ยิ้มเย็น จากนั้นก็เอาเท้าเตะเข้าไปที่ลำตัวของธีรพัฒน์
“นี่มึง…..” ธัชธรรมกัดปากแน่น ได้แต่โมโหที่ตนเองทำอะไรไม่ได้
“คนบนโลกอย่างพวกแก ล้วนเป็นเหมือนฝูงมดกันทุกคน! ในเมื่อสามารถเข้ามาในทวีปโอชวินของเราได้ ก็มีแต่ตายอย่างเดียว!” ฉันท์ชนกพูดเสียงเย็น
ทันใดนั้น ทางฝั่งธีรพัฒน์ที่อยู่บนพื้น ก็มีแสงสว่างบาดตาเข้ามา แล้วก็พุ่งโจมตีไปยังฉันท์ชนก
นี่คือพลังจิตวิญญาณและพลังวิเศษเสนสุดท้ายที่ธีรพัฒน์รวบรวมได้
โจมตีไปกะทันหันแบบนี้ เพียงพอที่จะบอกว่าธีรพัฒน์นั้นมีประสบการณ์การต่อสู้มากน้อยเพียงใด
ด้วยระยะใกล้แบบนี้ ต่อให้เป็นจิรกิตติ์เอง ก็ไม่สามารถหลบไปได้ จะต้องถูกพลังที่แข็งแกร่งนี้โจมตีเข้าไปอย่างแน่นอน ต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องได้รับบาดเจ็บหนัก ไม่ต่างกันเท่าไร
ฉันท์ชนกก็จะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน!
เมื่อเผชิญกับการโจมตีกะทันหันแบบนี้ ฉันท์ชนกก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าระลอกอยู่ในสภาพแบบนี้ ยังสามารถปล่อยพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้อีก
“ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ ทำได้ดีมากเลยครับ!”
คนของกลุ่มสิงโตตะโกนอย่างดีใจ
พลังจิตวิญญาณโจมตีเข้าลำตัวของฉันท์ชนกไปเต็มๆ จากนั้น ก็เหมือนกับหลายครั้งก่อน ร่างกายของฉันท์ชนกก็กลายเป็นเกราะกำบังที่แข็งทื่อทำลายไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้ง
การโจมตีครั้งนี้ของธีรพัฒน์ ได้ปะทะเข้ากับเกราะกำบัง พอฝุ่นสายไป ฉันท์ชนกก็ยังคงเป็นปกติเหมือนเดิม
ครั้งนี้ แม้แต่นักฝึกวิชาของกลุ่มสิงโตทั้งหลาย ก็อึ้งไปตามกัน
“ผู้หญิงคนนี้ ช่างน่ากลัวเสียจริงๆ”
“แล้วยังจะมีกระบวนท่าอะไรที่สามารถเอาชนะเธอได้อีกล่ะเนี่ย?”
……
ธีรพัฒน์ก็มองฉันท์ชนก สายตาที่เจ็บปวดนั้น ก็แฝงความตกใจเอาไว้ด้วย
“ไอ้แก่ แกกล้าลอบโจมตีฉันงั้นหรือ!”
ฉันท์ชนกโมโหมาก ถ้าไม่ใช่เพราะตนเองทะลวงจุดลมปราณหมดแล้ว และพลังจิตวิญญาณก็สามารถออกมาปกป้องร่างกายได้อย่างใจนึกแล้วล่ะก็ ตนเองก็คงไม่มีทางที่จะป้องกันตัวเองได้เร็วขนาดนี้
ถ้าถูกโจมตีด้วยกระบวนท่านี้ไปล่ะก็ ไม่อยากจะคาดคิดถึงผลลัพธ์มันเลย!
“ไอ้แก่ แกจะฆ่าฉันหรือ!”
ฉันท์ชนกก็เรียกกระบี่ยาวขึ้นมาในมือ กระบี่เล่มนั้นสีดำไปทั้งเล่ม ตัดกับสีผิวขาวๆของเธออย่างมาก!
ในตอนนี้ชายชุดดำสี่คนหลังจากที่พักฟื้นพลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้พักฟื้นจากอาการบาดเจ็บแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้น แล้วเดินมาข้างๆ ฉันท์ชนก
การรักษาความปลอดภัยของฉันท์ชนก เป็นหน้าที่เดียวของพวกเขา ดังนั้น เมื่ออาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว ก็เลยเดินเข้าไปปกป้อง
ตอนนี้ ธีรพัฒน์และธัชธรรมได้รับบาดเจ็บหนัก ส่วนรพีพงษ์ก็ยังคงต่อสู้กับพลังทิพย์พวกนั้นอยู่
ตัดมามองทางฝั่งของทวีปโอชวิน ฉันท์ชนกเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการกับพวกของรพีพงษ์ทั้งสามคน ไม่เพียงเท่านั้น ชายชุดดำพลังฝีมือระดับแดนเทพทั้งสี่คน ก็ได้ฟื้นพลังกลับมาแล้ว ความแตกต่างนี้ พลังของทวีปโอชวินได้สูงกว่าพวกของรพีพงษ์ไปมากแล้ว
ผลแพ้ชนะมันชัดเจนแล้ว!
“ใครที่กล้าเข้ามาเหยียบในทวีปโอชวิน ฆ่าให้หมด!”
ฉันท์ชนกสั่งการเสียงขรึม
ความฝันของตนเองจะเป็นจริงแล้ว ความฝันที่พ่อของเธอจิรกิตติ์ ที่อยากจะกำจัดนักฝึกวิชาของประเทศจีน วันนี้มันจะเป็นจริงแล้ว
และฉันท์ชนก ก็เป็นคนที่ทำให้เรื่องมันสำเร็จขึ้นมาจริงๆ !
ชายชุดดำสี่คนเดินมาตรงหน้าธีรพัฒน์ ฉันท์ชนกอยู่ด้านหลังของชายสี่คนนั้น สายตาก็อมยิ้ม
“ธีรพัฒน์ จะฆ่าแก ใช้คนพวกนี้ก็พอแล้ว!” ฉันท์ชนกพูดเสียงเย็น
ธีรพัฒน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “กูธีรพัฒน์ต่อสู้มาหลายร้อยปี มีพลังวิชาถึงระดับแดนเทพขั้นพีค ไม่คิดเลยว่า วันนี้จะมาตายในเงื้อมมือของคนฝีมือระดับแดนเทพสี่คนนี้!”
“เหอะ” ฉันท์ชนกส่งเสียงไม่พอใจ แล้วก็มองฝั่งตรงข้าม สิ่งที่เธอจะทำ ไม่ใช่แค่จะฆ่าธีรพัฒน์ แถมยังทำให้ธีรพัฒน์ตายไปอย่างสูญเสียศักดิ์ศรี!
ธีรพัฒน์ก็มองธัชธรรม ลูกศิษย์ตนเอง แล้วก็หันกลับไปมองคนของกลุ่มสิงโตทุกคน สุดท้าย ก็เอาสายตาไปหยุดไว้ที่ฝั่งของรพีพงษ์
ตอนนี้รพีพงษ์เองก็รู้ว่าทางธีรพัฒน์เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ตนเองไม่มีทางหลุดออกไปได้ แม้แต่จะให้มนุษย์ทองคำออกมา แล้วเข้าไปช่วยธีรพัฒน์ไว้ ก็จะถูกพลังทิพย์พวกนี้ดูดกลืนไปจนหมด!
“ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ ทนไว้นะครับ……” รพีพงษ์คิดในใจ พายุหมุนตรงหน้าก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ทว่า ร่างกายของตนเองได้มาถึงขีดสุดแล้ว ถ้าตอนนี้จะปลีกตัวออกไปล่ะก็ ไม่เพียงตนเองเท่านั้น แม้แต่ธีรพัฒน์และธัชธรรม รวมทั้งนักฝึกวิชาของประเทศจีนทั้งหมด ก็จะถูกพลังจิตวิญญาณพวกนี้ดูดกลืนไปจนหมดสิ้น!
“ลงมือเถอะ!”
ฉันท์ชนกกล่าว
ชายอัปลักษณ์ชุดดำทั้งสี่คน ใบหน้าไร้สีเลือด แต่ละคนก็เรียกพลังจิตวิญญาณออกมา
“อย่านะ!”
คนของกลุ่มสิงโตทั้งหลายตะโกนออกมา ในขณะเดียวกัน คนระดับแดนดั่งเทพขึ้นไป ก็เรียกพลังจิตวิญญาณออกมาจากร่าง แล้วปล่อยไปโจมตีตรงหน้า