พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1422 เรื่องสุดท้ายที่ทำได้
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1422 เรื่องสุดท้ายที่ทำได้
“เหอะ ไอ้พวกหมา ยังกล้ามาเห่าหอนแถวนี้อีกรึไง!”
ฉันท์ชนกพูดเสียงเย็น มือหนึ่งข้างก็ยกขึ้น พวกคนของกลุ่มสิงโตก็รู้สึกว่ามีแรงกดมหาศาลกดลงมาที่ตนเอง
จากนั้น พลังจิตวิญญาณที่ตนเองรวบรวมไว้ ก็หายไปจนหมดสิ้น!
“กลุ่มสิงโต ประเทศจีน ลาก่อน!”
ธีรพัฒน์คิดในใจ สายตาของเขาก็มองรพีพงษ์ เขารู้ว่า ถ้ายังมีหนุ่มคนนี้อยู่ ประเทศจีนจะไม่ล่มสลายแน่ จะไม่มีทางพ่ายแพ้แน่!
“งั้นก็ผมทำเรื่องสุดท้ายเพื่อโลกนี้ก็แล้วกัน”
ธีรพัฒน์เอ่ยออกมา ใบหน้าก็ยิ้มๆ
พลังจิตวิญญาณของชายชุดดำทั้งสี่ก็พุ่งไปยังธีรพัฒน์ ส่วนฉันท์ชนกที่อยู่ด้านหลังสี่คนนั้นก็ยิ้มเย็น
“อาจารย์!”
ธัชธรรมพูดเสียงดัง พวกหงส์ของกลุ่มสิงโตก็น้ำตาคลอเบ้า
ถึงแม้เวลาส่วนใหญ่ของธีรพัฒน์จะเป็นเศษวิญญาณที่เกาะอยู่บนผนังหิน พวกคนของกลุ่มสิงโตไม่ค่อยไปมาหาสู่กับเขามากนัก แต่ช่วงเวลานี้ ในใจพวกเขาชื่นชมความเป็นตำนานของธีรพัฒน์
ไม่เพียงชื่นชมพลังฝีมือของเขา แถมยังซาบซึ้งในจิตใจที่ยอมทำเพื่อโลกนี้ของธีรพัฒน์!
ตอนนี้ ถ้าธีรพัฒน์ถูกฆ่าตาย สำหรับประเทศจีนแล้ว มันจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มาก และยิ่งทำให้จิตใจของคนในกลุ่มสิงโตแหลกสลาย
ตอนที่พลังจิตวิญญาณทั้งสี่สายกำลังโจมตีมายังธีรพัฒน์นั้น ธัชธรรมที่อยู่ใกล้กับธีรพัฒน์ที่สุด ก็เห็นว่า ร่างกายของธีรพัฒน์กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง
ดวงตาของธัชธรรมเต็มไปด้วยความกลัว ในขณะเดียวกัน ชายแก่คนนี้ที่ไม่รู้ว่า ไม่ได้ร้องไห้มานานแค่ไหนแล้ว วันนี้น้ำตาก็ไหลย้อยออกมา
“อาจารย์……”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงสีฟ้าสาดออกมา จากนั้น ก็เป็นเสียงดังสนั่น
ภายใต้การระเบิดจนฝุ่นดินที่พื้นลอยกระจาย คละคลุ้งไปทั่วอากาศ จนปกปิดแสงอาทิตย์!
นี่คือการระเบิดตนเองของยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีค!
ชายชุดดำทั้งสี่คนรวมทั้งฉันท์ชนกก็คิดไม่ถึงเลยว่า ช่วงเวลาคับขันแบบนี้ ธีรพัฒน์จะทำเรื่องที่ทำให้คนพูดไม่ออกแบบนี้!
พวกเขาหลบไม่ทัน ชายชุดดำที่อยู่ห่างจากธีรพัฒน์ใกล้ที่สุดตอบสนองไม่ทัน จากนั้นก็ถูกเผาเป็นจุณ ส่วนฉันท์ชนกก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
แรงระเบิดที่รุนแรง ทำให้เสื้อผ้าของธัชธรรมและรพีพงษ์ถูกทำลายไปไม่น้อย คนของกลุ่มสิงโตและทวีปโอชวินก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เพียงแต่ ฝั่งของกลุ่มสิงโตรู้สึกเสียดายและโศกเศร้ากับสิ่งที่ท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ทำลงไป ส่วนฝั่งของทวีปโอชวินก็เป็นห่วงความปลอดภัยของฉันท์ชนก
ควันไฟสลายไป บนพื้นไม่มีร่างของธีรพัฒน์แล้ว ระเบิดตนเองตายแบบนี้ ทำให้ร่างกายของธีรพัฒน์สลายรวมเข้ากับอากาศของทวีปโอชวินไปหมดแล้ว มลายหายไปหมดแล้ว
พอหลังจากฝุ่นควันทั้งหมดจางหายไป สายตาทุกคนก็หยุดอยู่ที่สนามรบ ชายชุดดำทั้งสี่คนได้ถูกโจมตีจนตายไม่เหลือซากแล้ว เพียงแต่ ทางฝั่งฉันท์ชนกพลังเกราะป้องกันได้ล้อมตัวเธอไว้ด้านใน
ฉันท์ชนกในตอนนี้ ก็นอนหงายอยู่ที่พื้น ตาทั้งสองปิดสนิท
การต่อสู้ดำเนินมาถึงตอนนี้ เสื้อผ้าของฉันท์ชนกเพิ่งฉีกขาดออกเป็นครั้งแรก ทั้งใบหน้าและร่างกายก็เพิ่งมีบาดแผลเป็นที่แรก
ส่วนพลังเกราะป้องกันของเธอนั้น ในตอนนี้ก็เหมือนกับกระจกที่แตกร้าว เป็นรอยร้าวเชื่อผสานกัน
ทุกคนก็หยุดลมหายใจ แล้วก็มองฉันท์ชนกที่นอนนิ่งบนพื้น ผู้หญิงคนนี้ ตายหรือยัง?
ธัชธรรมขมวดคิ้วแน่น การระเบิดตนเองของธีรพัฒน์ เกิดขึ้นต่อหน้าเขาไม่ไกล
พอนึกถึงอาจารย์ตนเองต้องมาตายเพราะสงครามครั้งนี้ ในใจของธัชธรรมก็ร้อนรุ่มดั่งเปลวไฟ
“มึงนี่มัน…..เป็นปีศาจ กูจะฆ่ามึง!”
ธัชธรรมรวบรวมพลังขึ้นมา แล้วลุกขึ้นเดินไปทางฉันท์ชนกสองก้าว แต่เพิ่งเดินไปได้สองก้าว ก็ต้องล้มลงพื้นเพราะบาดเจ็บหนัก
ธัชธรรมก็มองฉันท์ชนกบนพื้นด้วยความโกรธแค้น เพียงแต่ตอนนี้ตนเองไม่มีแม้แต่แรงจะเดินไปหาฝั่งตรงข้าม
“มังกร เมื่อครู่เอ็งบอกจะช่วยไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ได้เวลาแล้ว!”
ทางฝั่งของกลุ่มสิงโต ธมกรก็พูดกับพวกของมังกรว่า “พลังเกราะป้องกันของนังผู้หญิงคนนี้ ถูกท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์ทำลายไปแล้ว และตอนนี้นังนั่นก็นอนอยู่ที่พื้น หายใจโรยริน ต่อให้เป็นคนของพวกเรา ก็สามารถฆ่านังนั่นได้!”
“ใช่ ถูกต้อง ต้องแก้แค้นให้กับท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์!” มังกรพูดอย่างร้ายๆ
จากนั้น เขาก็ลุกขึ้น แล้วพูดกับทุกคนว่า “พี่น้องทุกคน พวกเราบุกเข้าไปพร้อมกัน แก้แค้นให้กับท่านผู้อาวุโสธีรพัฒน์!”
“บุกเข้าไป!”
ธมกรก็เรียกทุกคนเหมือนกัน
พวกเขาก็บุกเข้าไปพร้อมกัน
คนพวกนี้อดกลั้นมาจนถึงตอนนี้ พอตอนนี้เห็นธีรพัฒน์ระเบิดตัวเองตายต่อหน้า ในใจก็ยิ่งโกรธแค้นคนของทวีปโอชวินหนักมากขึ้น!
พวกเขาบุกเข้าไปอย่างกล้าหาญ แต่ตัดมาทางฝั่งทวีปโอชวิน ไม่มีใครเป็นผู้นำ เมื่อเผชิญกับการโจมตีของกลุ่มสิงโต พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน
มังกร พยัคฆ์ก็บุกเข้าไปก่อนเลย พวกของธมกรก็ไม่อ่อนข้อ
ตอนที่พวกเขากำลังรวบรวมพลังจิตวิญญาณ เพื่อเตรียมจะโจมตีไปนั้น ธัชธรรมที่อยู่ใกล้กับฉันท์ชนกที่สุด ก็พบว่ามือของฉันท์ชนกที่เคยแบมืออยู่ ตอนนี้ได้กำหมัดแน่นแล้ว
“ไม่ได้การแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังมีชีวิตอยู่!” ธัชธรรมพูดออกมาอย่างตกใจ
มังกรขมวดคิ้ว ฝ่ามือร้อยแปดโจมตีออกไป มุ่งไปทางฉันท์ชนก
“ต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ กูก็จะทำให้มึงตายเอง!” มังกรพูดเสียงดัง
ตอนที่ตนเองกำลังจะโจมตีถูกตัวฉันท์ชนกนั้น ทันใดนั้น บนร่างกายของฉันท์ชนกนั้น ก็มีพลังเกราะป้องกันปรากฏออกมา เกราะป้องกันนั้นได้ทำลายการโจมตีของมังกร
“แย่แล้ว อีผู้หญิงคนนี้มันฟื้นพลังได้แล้ว จะรอช้าไม่ได้ พวกเรารีบบุกโจมตี!”
ธมกรก็พูดเสียงดัง คนชั่วทำเคยทำชั่วในเมืองใหญ่พวกนี้ ตอนนี้กลับมีความสังเกตมากกว่าคนปกติทั่วไปเสียอีก
พอทุกคนได้ยินแล้วนั้น ก็หยุดฝีเท้า พลังจิตวิญญาณในมือก็รวบรวมเข้าหากัน
พลังจิตวิญญาณต่างๆ พุ่งเข้าโจมตีฉันท์ชนกจากทุกด้าน ในกลุ่มคนพวกนั้น คนที่มีฝีมือระดับต่ำสุด ก็คือระดับแดนดั่งเทพขั้นต้น การโจมตีแบบนี้ยังมีขึ้นไม่หยุด
แต่ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไร ชุดเกราะป้องกันบนร่างกายของฉันท์ชนกก็ยังถูกสร้างขึ้นมาในพริบตา ป้องกันการโจมตีของทุกคน
ทุกคนก็หายใจหอบ ธมกรที่ยืนอยู่หน้าสุด ก็ทำตาโตมองไปทางฉันท์ชนกที่อยู่ไม่ไกล
ลางสังหรณ์ไม่ดีก็เกิดขึ้นในหัวของพวกเขา เขารีบยื่นมือออกไป “ทุกคนหยุดก่อน จะเสียแรงไปเปล่าๆ”
“อะไรนะ,หยุดโจมตีงั้นหรือ?” มังกรไม่เข้าใจ。
ธมกรพยักหน้า “ถูกต้อง พวกเราถอยก่อน นังนั่นมันฟื้นพลังกลับมาแล้ว ให้ตายเถอะ!แม่งเอ้ย ฆ่าไม่ตายสักที!”
“ในตอนนี้ เอ็งมาบอกว่าให้พวกเราถอยงั้นหรือ ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะฆ่ามันนะ!” มังกรกล่าว
“ไม่ ไม่ได้!” ธมกรกล่าว “ฟังผม ผมหนูตะกายฟ้า ที่มีชีวิตรอดได้มาถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะว่าถ้ามีอันตราย จะสัมผัสได้ก่อนใคร หลายครั้งก่อนผมก็ไม่เคยพลาด ครั้งนี้ ผมก็จะไม่พลาด ถอยก่อน รีบกลับมาตำแหน่งของตนเองเร็วเข้า!”
พวกของมังกรก็ลังเลอย่างเห็นได้ชัด ทางนี้ ชายฉกรรจ์ที่มีหมายจับเหมือนกับธมกร แล้วมาเข้าร่วมกับกลุ่มสิงโตคนหนึ่ง ก็บอกขึ้นว่า “เชื่อเขาเถอะ ไอ้หนูตัวนี้ มีวิธีการเอาตัวรอดเป็นที่หนึ่ง!”
พอได้ยินคนพวกนี้พูดอย่างมั่นใจ มังกรก็กัดฟัน แล้วก็ปล่อยพลังจิตวิญญาณสุดท้ายออกมาอย่างไม่พอใจ
“ถอย!”
มังกรก็พาคนของกลุ่มสิงโตทุกคนถอยกลับออกมา ทางนี้ พลังจิตวิญญาณที่ฟาดลงไปใส่เกราะป้องกันของฉันท์ชนก ก็เกิดเป็นแสงแสบตา
พอสิ้นแสง ฉันท์ชนกที่นอนอยู่บนพื้นตลอดนั้น ก็ลืมตาขึ้น………