พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1426 ตัดสิ้นแพ้ชนะ

“แกกล้าบอกว่าคัมภีร์ทิพย์เป็นเศษสวะงั้นหรือ?” ฉันท์ชนกโมโหหนัก แต่ว่าเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมรพีพงษ์ถึงได้เหมือนกับตนเอง หรือว่าจุดชีพจรลมปราณของเขาจะถูกทะลวงเปิดหมดแล้วเหมือนกันงั้นหรือ?

“ถึงแม้วิชาลับจะสามารถเพิ่มพลังวิชาได้เร็ว แต่มันก็จะเกิดการสะท้อนแว้งกัดของวิชา วิชาลับแบบนี้มันเป็นวิชามารที่ทำร้ายคนชัดๆ ！” รพีพงษ์พูดออกมาเสียงดัง

คนของทวีปโอชวินพวกนี้ ล้วนฝึกวิชาลับ พอได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ในใจก็เริ่มสับสนวุ่นวาย

ความรู้สึกที่มีพลังมาก ก็เป็นเรื่องดี แต่พวกเขาก็สามารถสัมผัสได้ว่าร่างกายของตนเองเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้

“เหอะ แกจะรู้อะไร คัมภีร์ทิพย์เป็นสุดยอดวิชาลับ ถ้าไม่ได้มันมาล่ะก็ ฉันจะก้าวขึ้นสู่ระดับแดนเทพขั้นพีคได้อย่างไรล่ะ แล้วจะฆ่าพวกแกได้อย่างสบายๆ ได้อย่างไรล่ะ ยิ่งกว่านั้น การสะท้อนแว้งกัดของวิชาที่แกบอกมา ไม่เห็นเกิดขึ้นกับตัวฉันเองเลย แต่กลับกัน ฉันรู้สึกว่าผิวพรรณของฉันขาวขึ้นเรียบเนียนขึ้นเสียด้วยซ้ำ” ฉันท์ชนกยิ้มพูดอย่างได้ใจ

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เหอะ มันก็แค่เป็นการหลอกลวงตนเองชั่วคราวเท่านั้นแหละ”

“แกอย่ามาพูดพล่อยๆ ！เรื่องของฉันเดี๋ยวฉันจัดการเอง ไม่ต้องให้แกมาพูดมากแถวนี้หรอก！”

ฉันท์ชนกพูดเสียงดัง ในขณะเดียวกัน ก็สะบัดแขนออกมา พลังจิตวิญญาณก็ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง

รพีพงษ์มือถือกระบี่สยบเซียน แล้วก็สะบัดกระบี่ให้เป็นพลังออกมา เข้าทำลายพลังจิตวิญญาณของฝั่งตรงข้ามจนกระจายไป

ในร่างกายมีพลังทิพย์ รพีพงษ์รู้สึกว่าพลังจิตวิญญาณในร่างกายตนเองเต็มเปี่ยมมากขึ้น

พอเห็นว่าการโจมตีของตนเองทำอะไรรพีพงษ์ไม่ได้เลย ฉันท์ชนกก็หัวเสียมาก ดวงตาแดงเป็นเลือด แล้วก็ปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาอีก

“แกมันสมควรตาย ฉันจะทำให้แกเห็นว่าความแตกต่างของฉันกับแกมันเป็นอย่างไร！”

ทันใดนั้น ฟ้าดินก็เปลี่ยนสี บนท้องฟ้าก็กลายเป็นสีมัวหมอง

ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปดู เห็นว่าในเมฆหนาๆ นั้น มีสายฟ้าแฝงตัวอยู่ หมอกควันปกคลุม

จากนั้น พลังจิตวิญญาณสายหนึ่งก็ฟาดลงมาจากฟ้า กระบวนท่าแบบนี้คล้ายกลับฝ่ามืออรหันต์นภาของธีรพัฒน์ แต่ว่า เมื่อเทียบกับฝ่ามืออรหันต์นภาของธีรพัฒน์แล้ว กระบวนท่าของฉันท์ชนกแข็งแกร่งกว่ามาก พลังจิตวิญญาณก็มากกว่า

แบบนี้ต้องอาศัยพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งในตัวเธอ ถึงจะทำแบบนี้ได้

ทุกคนก็มองพลังจิตวิญญาณที่แพร่ไปทั่วท้องฟ้า และร่วงหล่นลงพื้นราวกับเม็ดฝน หลังจากที่พลังจิตวิญญาณทุกสายร่วงลงพื้นแล้ว ก็กระแทกทำให้พื้นยุบเป็นหลุมใหญ่！

รพีพงษ์ขมวดคิ้วว ในหัวก็คิดอะไรออก แล้วมนุษย์ทองคำก็บินลอยออกมา

ฉันท์ชนกมองมนุษย์ทองคำอย่างตกใจ ถึงแม้เธอจะเคยเห็นสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้มาแล้ว แต่มนุษย์ทองคำที่ลอยไปบนอากาศตอนนี้ มันตัวใหญ่ขึ้นในทันที สุดท้ายมีความสูงเท่าๆ กับมนุษย์เพศชายคนหนึ่งจริงๆ

แม้แต่รพีพงษ์เองก็คิดไม่ถึง นี่คงจะแสดงว่าพลังจิตวิญญาณเทพของตนเองทำให้มนุษย์ทองคำเติบโตได้ถึงขนาดนี้

ดูเหมือนว่า พลังทิพย์ไม่เพียงจะสามารถหล่อเลี้ยงนักฝึกวิชาเท่านั้น แถมยังมีผลต่อมนุษย์ทองคำด้วยเหมือนกัน

มือของมนุษย์ทองคำถือกระบี่สยบเซียน แล้วป้องกันพลังจิตวิญญาณทั้งหมดที่เข้ามาโจมตีรพีพงษ์ ในขณะเดียวกัน มังกรสีทองตัวใหญ่ก็ปรากฏออกมา รพีพงษ์นั่งอยู่บนมังกรยักษ์นั้น แล้วบุกเข้าไปฝั่งฉันท์ชนก

“ให้ตายเถอะ！”

ฉันท์ชนกด่าในใจ ไม่คิดเลยว่ารพีพงษ์จะมีไพ่ไม้เด็ดนี้ ถึงได้แยกร่างออกมาป้องกันพลังจิตวิญญาณของตนเองได้ ในขณะเดียวกันก็เริ่มบุกออกไปเหมือนกัน

ลูกบอลไฟลูกใหญ่ก็พุ่งมาทางฉันท์ชนก

สองมือของฉันท์ชนกอยู่ที่หน้าอก ในพริบตา อากาศตรงหน้าเธอก็เหมือนจะแข็งตัวขึ้น

พลังเย็นเข้ามาที่หน้า แต่รพีพงษ์ก็ไม่เกรงกลัวอะไรแม้แต่น้อย

นี่คือการปะทะกันของน้ำแข็งและไฟ ในกลางอากาศนั้น เกิดเป็นแสงสีฟ้าแสบตา

รพีพงษ์ยังคงมีสายตาที่ตั้งมั่น พอฉุกคิด พลังจิตวิญญาณของพลังทิพย์ก็ปล่อยออกมาไม่หยุด

ลูกบอลไฟใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และหมุนอยู่ตลอดเวลา และด้านนอกนั้น ก็คือพลังจิตวิญญาณที่ผนึกเป็นน้ำแข็งของฉันท์ชนก

“ไอ้หนู แกจะเทียบพลังจิตวิญญาณกันฉันงั้นหรือ? ช่างไม่ดูพลังตัวเองบ้างเลย！”

ฉันท์ชนกพูดประชด แล้วก็เพิ่มพลังเข้าไปอีก

สายตาของรพีพงษ์มีความมั่นใจ เขาในตอนนี้ รับรู้เพียงว่าพลังจิตวิญญาณเทพของตนเองนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากที่เพิ่มระดับขึ้นมานี้ พลังจิตวิญญาณของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม

และที่สำคัญกว่านั้น เขารับรู้ได้ว่าพลังทิพย์ในร่างกายตนเองแทบจะล้นออกมาแล้ว ตอนนี้ก็เลยจะหาช่องทางที่เพิ่มระดับขึ้นไป

“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรเล่า！” รพีพงษ์พูดอย่างมั่นใจ

ในขณะเดียวกัน เขาก็เพิ่มพลังจิตวิญญาณเข้าไปอีก

สายตาของฉันท์ชนกแฝงความดูถูกไว้ หลังจากที่ฝึกคัมภีร์ทิพย์ สิ่งที่เธอภูมิใจที่สุดก็คือ ตนเองมีพลังจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม

ตนเองประมือกับธีรพัฒน์และธัชธรรม ก็สามารถเอาชนะได้ พลังจากที่ประมือกับพลังจิตวิญญาณของธีรพัฒน์แล้ว ก็ยิ่งทำให้ยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคอย่างธีรพัฒน์พ่ายแพ้ราบคาบ

ตอนนี้ ก็แค่รพีพงษ์เท่านั้นเอง ฉันท์ชนกไม่มองรพีพงษ์อยู่สายตาเสียด้วยซ้ำ

ทั้งสองคนรู้ดีว่า ถึงเวลาที่ต้องตัดสินแพ้ชนะแล้ว

“รพีพงษ์ อย่างแก่น่ะหรือคิดจะมาสู้กับฉัน เอาไว้ชาติหน้าแล้วกัน！”

ฉันท์ชนกพูดเสียงขรึม “วันนี้ ยอดฝีมือของแดนฝึกวิชาบนโลกอย่างแก จะตายภายใต้เงื้อมมือของฉัน！”

พูดไป ทุกจุดลมปราณในร่างกายเธอ ก็มีพลังจิตวิญญาณไหลออกมา พลังจิตวิญญาณที่เข้มข้น จนแทบจะทำให้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

รพีพงษ์ที่นั่งอยู่บนมังกรยักษ์ ก็กำหมัดแน่น ตรงหน้าเขานั้น เป็นแรงกดมหาศาลเหมือนกับคลื่นน้ำหลายลูกทับซ้อนกัน

จุดลมปราณชีพจรถูกทะลวงเปิดทั้งหมด รพีพงษ์สัมผัสได้ถึงพลังทิพย์ในจุดชีพจรของตนเอง

จากนั้น สมองก็สั่งการ แล้วก็ปล่อยพลังทิพย์ในร่างกายออกมาเหมือนกัน

พริบตา ในกลางอากาศ พลังแข็งแกร่งทั้งสองสายก็เข้าปะทะกัน ท้องฟ้าที่มืดมิด เกิดเป็นแสงสว่างวาบออกมา！

ทุกคนก็เงยหน้ามองพลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งที่ทั้งสองคนสร้างมันขึ้นมา

ตอนนี้ ในใจของพวกเขาทุกรู้ดีว่า รพีพงษ์และฉันท์ชนก เป็นตัวแทนการดำรงอยู่ของประเทศจีนและทวีปโอชวิน สงครามในวันนี้ ไม่ตายไม่เลิกรา！

อีกอย่าง สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจไปกว่านั้นก็คือ ดูไปแล้วกระบวนที่ทั้งสองคนใช้ออกมานั้น มันไม่ต่างกันมาก

หรือว่าพวกเขาใช้วรยุทธแบบเดียวกัน?

ตอนนี้รพีพงษ์ก็กำลังรับมือกับฉันท์ชนกอยู่

พลังทิพย์ที่เต็มเปี่ยม ก็เหมือนจะหาจุดที่เพิ่มระดับออกไปได้ แล้วก็หาช่องทางหลุดออกมาจากร่างกายของรพีพงษ์ แล้วพุ่งเข้าไปโจมตีฉันท์ชนก

การโจมตีที่แฝงพลังจิตวิญญาณและพลังวิเศษเสนของพลังทิพย์นี้ ฉันท์ชนกก็จำเป็นต้องใช้พลังจิตวิญญาณที่มากกว่าเดิม เพื่อมารับมือกับรพีพงษ์

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า รพีพงษ์จะสู้กับตนเองได้นานขนาดนี้ ในขณะเดียวกัน พลังที่เขาใช้ออกมา ก็เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าพลังของตนเอง

“ไอ้หมอนี่ วันนี้จะต้องฆ่ามันให้ได้！”

ฉันท์ชนกคิดในใจ มือก็ยิ่งเพิ่มพลังเข้าไปอีก

รพีพงษ์ก็กัดฟันสู้ไป รับมืออย่างสุดกำลัง

“ผู้หญิงคนนี้ ต่อสู้กันมานานขนาดนี้ ทำไมยังมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อีก！”

รพีพงษ์คิดในใจ แล้วก็อดเงยหน้าขึ้นมามองฉันท์ชนกตรงหน้าไม่ได้

ฉันท์ชนกในตอนนี้ มุมปากก็ยิ้มร้ายๆ ใบหน้าเหยเกไปหมด ทั้งตัวดูรวมๆ แล้วน่ากลัวมาก

ผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้กำลังเสพสุขกับการมีพลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง

“รพีพงษ์ ระดับแกน่ะหรือจะมาสู้กับฉัน? พวกแกทุกคนสู้ฉันไม่ได้หรอก สู้ไม่ได้！”

ฉันท์ชนกพูดเสียงดัง ในสายตาก็เต็มไปด้วยความโกรธที่ระเบิดออกมา

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว น่าแปลก ทำไมผิวพรรณของผู้หญิงคนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้

แม้แต่นีย์ที่มองอยู่ข้างๆ ก็รับรู้ได้ว่าร่างกายของฉันท์ชนกเกิดการเปลี่ยนแปลงไป