พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1428 สำเร็จการใหญ่
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1428 สำเร็จการใหญ่
“นีย์ ตอนนี้แกเห็นฉันในสภาพนี้ คงจะสะใจมากสินะ แกอย่าคิดว่าแค่นี้จะเอาชนะฉันได้ ฉันไม่เคยพ่ายแพ้ จะบอกพวกให้นะ ไม่ใช้เพราะว่าพวกแกเอาชนะฉันได้ แต่เป็นเพราะว่าฉันพ่ายแพ้ให้กับตัวเอง!” ฉันท์ชนกพูดกับนีย์และคนของกลุ่มสิงโตทั้งหมด
“ฉันไม่ได้ชนะ ที่ผ่านมานี้ ตอนที่ฉันอยู่ที่กลุ่มสิงโต ก็ได้คิดอะไรออกเรื่องหนึ่ง สำหรับเรื่องการต่อสู้กันระหว่างทวีปโอชวินกับโลก เดิมทีนั้นยังไม่มีใครที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง ตลอดเวลามานี้ ทวีปโอชวินเป็นฝ่ายผิด พวกเราจะเอาแต่ผลประโยชน์ของตนเอง แต่ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเลย” นีย์พูดเสียงขรึม
“ช่างมันสิ ก็แค่พวกไร้ประโยชน์ ใครจะไปสนใจล่ะว่าพวกมันจะเป็นหรือตาย!”
ฉันท์ชนกหัวดื้อไม่หาย เห็นได้ชัดว่า ในใจของเธอ ดูถูกพวกนักฝึกวิชาของประเทศจีนมาโดยตลอด ความคิดแบบนี้ได้ฝังรากลึกลงไปแล้ว!
“คนของทวีปโอชวินทุกคนจงฟัง!ฆ่าไอ้สวะพวกนี้ให้หมด!”
ฉันท์ชนกพูดเสียงดัง
แต่ทว่า นักฝึกวิชาที่เหลืออยู่ของฝั่งทวีปโอชวิน ก็มองหน้ากันไปมา และไม่ได้ลงมืออะไรเลย
“ทำไม พวกแกไม่ฟังคำสั่งของฉันแล้วงั้นหรือ เร็วเข้า บุกเข้าไป!ไปฆ่าพวกมันให้หมด” ฉันท์ชนกแหกปากพูด
แต่ทว่า คนพวกนี้ก็ไม่ขยับตัวอะไรเลย
“พวกแก พวกแกหักหลังทวีปโอชวิน ฉันจะฆ่าพวกแก จะฆ่าพวกแกให้หมดเลย!” ฉันท์ชนกพูดอย่างโมโห
รพีพงษ์เดินขึ้นหน้าไป “ฉันท์ชนก คุณก็มีสภาพแบบนี้แล้ว ทำไมยังจะต้องให้คนอื่นไปตายด้วยล่ะ? คุณคิดว่าตอนนี้พวกเขาจะฟังคำสั่งคุณงั้นหรือ? จะกล้าบุกเข้ามาหรือ?”
ฉันท์ชนกเงยหน้ามองรพีพงษ์ที่กำลังยืดอกพูด เธอรู้ดีว่า วันนี้ตนเองแพ้ราบคาบแล้ว
มียอดฝีมือระดับแดนเทพอย่างรพีพงษ์อยู่ ต่อให้มีคนฝีมือระดับแดนดั่งเทพนับร้อยคน ก็ไม่มีประโยชน์
“พี่คะ วางมือเถอะ ถ้าจะมัวแต่อาฆาตแค้น ไม่สู้ปล่อยวางไปดีกว่า แล้วจากไปอย่างสงบ” นีย์กล่าว นี่เป็นการเรียกว่า พี่ ครั้งแรก หลังจากที่แตกหักกับฉันท์ชนกไปแล้ว
พอได้คำเรียกขานแบบนี้ ฉันท์ชนกก็ใจสั่น แต่ไม่นาน สีหน้าของเธอก็โหดเหี้ยมขึ้นมาอย่างมาก
คัมภีร์ทิพย์สะท้อนแว้งกัดเร็วมาก ร่างกายของฉันท์ชนกก็ค่อยๆ จางหายไปเหมือนกับวิญญาณ
“ฉันไม่ต้องการให้ใครมาสงสารฉัน ฉันไม่มีวันแพ้ ฉันเป็นราชินีคนเดียว…….ของโลกใบนี้!”
สุดท้ายฉันท์ชนกก็สลายไปพร้อมกับความอาฆาตแค้นนี้
ราชินีคนแรกของทวีปโอชวิน เวลาไม่ถึงเดือน ก็ถูกโจมตีจนแหลกสลายไป!
แต่รพีพงษ์ก็รู้ดีว่า เมื่อเทียบกับพวกของจิรกิตติ์แล้ว ฉันท์ชนกรับมือได้ยากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่า ฉันท์ชนกที่ถูกอำนาจครอบงำความคิด สามารถทำอะไรออกมาได้ทุกอย่าง ในขณะเดียวกัน ก็มีความคิดแยบยล โหดเหี้ยมทารุณ ถ้าปล่อยนานไป แล้วปล่อยให้ฉันท์ชนกได้พัฒนาฝีมือล่ะก็ เกรงว่าบทสรุปในอนาคต ก็ยากจะสรุปได้ว่าใครจะชนะ!
นีย์มองไปสถานที่ที่ฉันท์ชนกร่างแหลกสลายไป น้ำตาก็ไหลพรากออกมา
ตอนนี้ญาติของตนเองได้ตายไปหมดแล้ว ตอนนี้นีย์กำลังลิ้มรสว่าอะไรคือความโดดเดี่ยว
รพีพงษ์ยืนอยู่ที่นั่น ในใจก็สับสนวุ่นวาย
ฉันท์ชนกถูกกำจัดไปแล้ว ภัยร้ายที่ทวีปโอชวินมีต่อโลกได้หมดไปแล้ว ตามหลักแล้ว จากผลลัพธ์ที่ได้ การบุกเข้ามโจมตีทวีปโอชวินครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
เพียงแต่ ทุกคนในกลุ่มสิงโตล้วนดีใจไม่ออก เพราะถึงอย่างไร สงครามวันนี้ ฝั่งตนเองก็ได้สูญเสียยอดฝีมือระดับแดนเทพขั้นพีคไป นั่นก็คือ ธีรพัฒน์
เมื่อเทียบกับคนที่มีวิชาระดับสูงแล้ว สิ่งที่ธีรพัฒน์ทำให้ทุกคนเคารพนับถือก็คือ ความเชื่อมั่น รวมทั้งประสบการณ์ความสามารถที่โดดเด่นกว่าใคร
สำหรับรพีพงษ์แล้ว ดวงจิตของจอมมารชูร่าได้แตกดับไปแล้ว ธีรพัฒน์ก็เหมือนกับคนนำทางของตนเอง นำพาตนเองเดินไปยังเส้นทางของการฝึกวิชาอันยาวไกล
วันนี้ ธีรพัฒน์ได้ตายไปแล้ว ในใจของทุกคนก็เจ็บปวดมาก
“รพีพงษ์ คนพวกนี้ ก็ให้พวกเราจัดการเองก็แล้วกัน”
หงส์มองนักฝึกวิชาที่เหลือของทวีปโอชวิน แล้วพูดออกมา
คนพวกนี้ก็มีสายตากังวล ฉันท์ชนกได้ตายไปแล้ว พวกเขารู้ดีว่า ต่อจากนี้ก็จะถึงทีของตนเองแล้ว
แต่ว่า ตรงหน้าของรพีพงษ์ คนพวกนี้สู้ไม่ไหวด้วยซ้ำไป จะหนีก็หนีไม่รอด ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในทางตันทั้งสองด้าน
“เอ่อ……คุณชายรพีพงษ์ ปล่อยพวกเราไปเถอะ องค์หญิงใหญ่โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเราก็แค่อยากมีชีวิตรอด ถึงได้ยอมฟังคำสั่งของเธอ และเคารพเธอเป็นผู้นำ”
ทุกคนคุกเข่าลงพื้น แล้วพูดกับรพีพงษ์
“รพีพงษ์ ขอเพียงแค่คนพวกนี้เสีย ต่อไปพวกเราก็จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว” มังกรก้าวออกมาพูด
รพีพงษ์มองคนพวกนี้ คนพวกนี้ก็หวั่นกลัวสุดขีด อย่างเห็นได้ชัด
สายตาที่อ้อนวอนของพวกเขา มองมาที่นีย์ “องค์หญิงน้อย ช่วยพวกเราด้วยนะ องค์หญิงน้อย!”
นีย์ก็กัดปาก สำหรับในใจลึกๆแล้ว ก่อนหน้านี้คนพวกนี้อยู่ในทวีปโอชวินก็ไม่ได้รู้จักอะไรกัน ก่อนหน้านี้ตนเองก็ไม่ได้มีปัญหาด้านผลประโยชน์อะไรกัน
ในขณะเดียวกัน ปกติแล้วคนพวกนี้ก็เคารพตนเอง ไม่ได้มีความอยากจะขัดคำสั่งใดๆ
ในใจนีย์ก็รู้ดี จริงๆ คนพวกนี้ก็อยู่อย่างยากลำบาก ถ้าอยากจะมีชีวิตรอด ก็ต้องติดตามฉันท์ชนก
“รพีพงษ์…….” นีย์มายืนข้างๆ รพีพงษ์ แล้วเงยหน้าพูดว่า “คนพวกนี้ คุณก็จัดการเองก็แล้วกัน”
“องค์หญิงน้อย ช่วยพวกเราด้วย!”
ทำคนก็พูดเสียงดัง พวกเขารู้ดีว่า ถ้าตนเองถูกส่งให้รพีพงษ์จัดการล่ะก็ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ ก็มีแต่ความตายเท่านั้น
รพีพงษ์ก็มองคนของทวีปโอชวินพวกนี้ ด้วยสายเย็นชา “ตั้งแต่วันที่พวกคุณไปติดตามฉันท์ชนก ก็ควรจะรู้ได้ว่าสักวันจะมีวันนี้ แต่ผมก็รู้ดี ตอนนั้นพวกคุณคงไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ไม่ว่าอย่างไร โทษตายเว้นได้ แต่โทษอื่นละเว้นไม่ได้!”
พอนึกถึงก่อนหน้านี้ ที่ตนเองปล่อยคนของทวีปโอชวินไปสิบกว่าคนบนยอดเขาคุณหลุน คนพวกนั้นก็อยากจะไปแก้แค้นกับอารียาและขวัญนลิน
เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก รพีพงษ์ก็คิดได้ แล้วพูดเสียงเย็นว่า “เอาคนพวกนี้ไปขังไว้ในคุกน้ำใต้ดิน รอการลงโทษ”
“รับทราบ!”
พวกของธมกรก็ตอบรับ “ทีนี้ล่ะดีเลย กูจะใช้เครื่องทรมานต่างๆ มาลองใช้บนตัวพวกมึงเสียหน่อย”
พูดไป คนของกลุ่มสิงโตก็นำตัวของคนทวีปโอชวินเข้าไปยังคุกน้ำใต้ดิน
ในสนามรบด้านนอกคุกน้ำใต้ดิน เต็มไปด้วยหลุมยุบที่เกิดจากพลังจิตวิญญาณที่ปะทะกัน
พอเอาคนของทวีปโอชวินพวกนี้เข้าไปขังเรียบร้อยแล้ว รพีพงษ์ก็มายืนต่อหน้าคนของกลุ่มสิงโต
“ฉันท์ชนกได้ตายไปแล้ว ที่ทวีปโอชวินไม่มีคนที่จะทำอันตรายต่อพวกเราได้อีกแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทวีปการฝึกตนในประเทศจีนของพวกเรา ถือว่าเอาชัยชนะมาได้อย่างสมบูรณ์!ทุกท่านเหนื่อยกันหน่อยนะครับ!” รพีพงษ์กล่าว
ทุกคนในกลุ่มสิงโต รวมทั้งพวกของนฤชัยในสมาคมสยบเซียน พอได้ยินรพีพงษ์บอกแบบนี้ น้ำตาก็คลอเบ้าขึ้นมา
เพื่อจะเอาชนะครั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมา บนโลกไม่รู้ว่ามีคนมากมายเท่าไรต้องเสียสละชีวิตไป และไม่รู้ว่ามีคนอีกมากเท่าไรที่คอยเฝ้าระวังอยู่บนยอดเขาคุนหลุนอย่างโดดเดี่ยวเป็นร้อยปี!
วันนี้ สามพี่น้องจิรกิตติ์ได้จบชีวิตอยู่บนยอดเขาคุนหลุนแล้ว ส่วนฉันท์ชนกก็ร่างแหลกสลายไป นักฝึกวิชาที่เหลือในทวีปโอชวินก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกน้ำใต้ดิน อีกอย่าง รพีพงษ์ก็ได้ตัดสินใจแล้ว ที่จะปิดผนึกพลังของนักฝึกวิชาทวีปโอชวินที่ฝึกวิชาลับพวกนั้นไป!
พวกเขารู้ดีว่า ตนเองคงจะไม่จำเป็นต้องทำเหมือนก่อนแล้ว ที่ต้องคอยเฝ้าอยู่บนยอดเขาคุนหลุน เพื่อเฝ้าระวังการโจมตีของทวีปโอชวิน
ที่ผ่านมานี้ มันเป็นความเชื่อของคนในกลุ่มสิงโต วันนี้ สิ่งที่ตนเองนับถือมาตลอด ได้บอกกับตนเองว่า ไม่ต้องยืนหยัดทำมันต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันได้ถูกแก้ไขหมดแล้ว
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ทำให้นักฝึกวิชาของกลุ่มสิงโตมีความสุข หรือเศร้าโศกอย่างพูดไม่ออกกันแน่ พวกเขารู้สึกเพียงว่าในใจมันหวิวๆ
“ดูเหมือนว่า แผนเที่ยวรอบโลกของฉัน จะได้เริ่มออกเดินทางแล้วล่ะ”
หงส์ยิ้มพูดออกมา
“นั่นสิ ผมก็ควรได้กลับไปในเมืองแล้ว ไปจัดการกับกิจการของตระกูลเสียหน่อย” พยัคฆ์ก็พูดออกมาเหมือนกัน จากนั้นก็มองมังกร “นายล่ะ มังกร?”
“ผมอยากไปที่สำนักเทพยาเซียน ที่นั่นมีพลังทิพย์มากมาย จะไปลองเสียหน่อยว่าตนเองจะเพิ่มระดับพลังได้ไหม” มังกรพูดเสียงขรึม
“ดีเลย ผมก็อยากไปสำนักเทพยาเซียนเหมือนกัน อยากจะไปอยู่ที่นั่นสักพัก ที่นั่นมันมหัศจรรย์มากเลย”
นฤชัยกล่าว ในขณะเดียวกันสายตาก็มองไปยังรพีพงษ์
ที่ผ่านมานี้ รพีพงษ์เป็นจุดมุ่งหมายที่เขาวิ่งตาม เพียงแต่ตอนนี้ ตนเองและชายหนุ่มวัยรุ่นในรุ่นเดียวกันคนนี้ เทียบกันแล้วมันช่างแตกต่างกันมากเลย
พอได้ยินเข้าพูดแบบนี้ คนในนี้ทั้งหมดก็เริ่มวางแผนชีวิตของตนเองขึ้นมา ว่าต่อจากนี้จะทำอะไรต่อไป
มีคนจะไปผจญภัย มีคนอยากจะไปหาที่เงียบสงบฝึกวิชาเพิ่ม และมีคนจำเป็นต้องกลับไปสืบทอดกิจการของตระกูลตนเอง
แม้แต่พวกของธมกรก็ตัดสินใจว่าจะอยู่เฝ้ากลุ่มสิงโต ไปเก็บตัวฝึกวิชาอยู่ที่นั่น นี่ค่อนข้างผิดจากที่คาดการณ์ไว้
ชาคริตและเมฆ ก็พาครอบครัวของตนเองออกมาจากคุกน้ำใต้ดิน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
ตอนนี้ พวกเขาทั้งสองได้กลายเป็นคนธรรมดาไปแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกเบาใจแบบนี้มาก่อน ต่อจากนี้ พวกเขาทั้งสองก็สามารถปล่อยวางทุกอย่างได้แล้ว ไปใช่ชีวิตอยู่กับครอบครัวตนเองได้แล้ว
แต่ในตอนนี้ มีเพียงนีย์คนเดียวที่อยู่ในความโศกเศร้า คนอื่นมีความสุขกัน แต่ตนเองกลับไม่มี