พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1480 ก้าวสู่เส้นทางการฝึกคู่
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1480 ก้าวสู่เส้นทางการฝึกคู่
รพีพงษ์พูดเสียงต่ำว่า “แคลร์ต่อจากนี้คุณต้องเริ่มฝึกวิชาพร้อมกับผม เดี๋ยวตอนนี้ผมจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกวิชาให้คุณเอง”
อารียาพยักหน้า แล้วตั้งใจฟังรพีพงษ์
“โลกของเรานี้นะ เคยเป็นสถานที่ที่มีพลังทิพย์จำนวนมาก และพลังทิพย์นั้นสามารถบุงหัวใจบำรุงปอดให้กับคนธรรมดาได้ ทำให้คนรู้สึกปลอดโปร่ง แต่สำหรับนักฝึกวิชาแล้ว ถ้ามีพลังทิพย์มาช่วย ก็จะสามารถเพิ่มระดับพลังได้อย่างรวดเร็ว”
“แต่เนื่องจากหลายร้อยปีก่อน การเข้ามาของทวีปโอชวิน พวกของจิรกิตติ์มาแย่งชิงเอาพลังทิพย์บนโลกไป และสถานที่ที่มีพลังทิพย์จำนวนมาก ก็มีเพียงป่าหมอกที่เดียว และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมนักฝึกวิชาของประเทศจีนเราถึงได้มีมากกว่าประเทศอื่นๆ” รพีพงษ์กล่าว
อารียาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่คิดแล้วก็เข้าใจได้ ว่าการกระทำของทวีปโอชวินและพวกของจิรกิตติ์นั่นน่าเกลียดมาก
“แต่ตอนนี้ ผมก็ได้รู้แล้วว่า ทวีปโอชวินไม่ได้แยกออกไปจากโลก แต่เป็นแดนลับแห่งหนึ่งของลก นีย์ได้กลายเนเจ้าทวีปโอชวินแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ ระดับของพวกเรายังไม่สูงพอ ถึงแม้นีย์จะอยากจะคืนพลังทิพย์ที่เคยเอาไปจากพวกเราคืนมาให้ แต่ยังไม่มีพลังมากพอ ตอนนี้ก็เลยยังไม่มีวิธีที่จะส่งคืนให้” รพีพงษ์เล่าไปตามจริง
อารียาพยักหน้า “ไม่เป็นไร ฉันว่าสักวัน เรื่องนี้มันจะต้องเกิดขึ้นได้แน่”
“งั้นหรือ มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ?” รพีพงษ์ยิ้มมองเธอ
“เพราะว่าฉันเชื่อ ฉันเชื่อว่าผู้ชายของฉันจะต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดบนโลกนี้ ไม่มีเรื่องไหนที่เขาทำไม่ได้!” อารียาพูดไปพร้อมมองตาของรพีพงษ์
รพีพงษ์ก็จับมือของอารียา “ดังละก็นะ แคลร์ ในเมื่อพวกเราจะฝึกวิชาด้วยกัน ป่าหมอกก็จะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด และเป็นสถานที่ที่จะทำให้คุณเข้าสู่การฝึกวิชาได้เร็วที่สุด”
“ฉันเชื่อคุณ รพีพงษ์ ไม่อย่างนั้นละก็ ฉันก็คงไม่ยอมลำบากลำบนจากเกี่ยวโตมาถึงที่นี่” อารียาพูดอย่างอ่อนโยน
“เพียงแต่………ในป่าหมอกนั้น มันมักจะมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น ที่นั่นมีสัตว์ป่ามากมาย” รพีพงษ์กล่าว
“สัตว์ป่างั้นหรือ?” อารียาขมวดคิ้ว “ถึงแม้หนูลินจะชอบพวกสัตว์เอามากๆ แต่ว่าจะมีพวกสัตว์ร้ายด้วยไหม จะอันตรายหรือเปล่า”
รพีพงษ์ยิ้มส่ายหัว “ผ่าหมอกนั้น เป็นสถานที่ที่มีพลังทิพย์รวมตัวอยู่ สัตว์ที่นั่นคุณคิดไม่ถึงหรอก พวกเราเรียกมันว่า สัตว์เซียน!”
“สัตว์เซียนหรือ?”
“ใช่แล้ว เป็นสัตว์เซียนที่มีความคิดแบบมนุษย์ พวกมันสามารถฟังพวกเรารู้เรื่อง และหนึ่งในนั้น มีแรดโบราณตัวหนึ่ง สามารถพูดได้ด้วย” รพีพงษ์แนะนำคร่าวๆ
“คุณพระช่วย มีเรื่องมหัศจรรย์แบบนี้ด้วยหรือเนี่ย?” อารียาพูดอย่างตกใจ แล้วก็มองรพีพงษ์ จากนั้นก็เบาใจ
นั่นน่ะสิ สามีของตนเอง และเรื่องที่เขาได้ทำ ไม่มีเรื่องไหนไม่มหัศจรรย์เลยสักเรื่อง
“เอาเถอะ แต่ว่าพวกเราบุกเข้าไปในพื้นที่ของสัตว์เซียน พวกมันจะโจมตีพวกเราหรือเปล่าล่ะ?” อารียาถามอย่างกังวล ถึงแม้เธอจะรู้ว่ามีรพีพงษ์อยู่มุมไหนของโลกก็ปลอดภัย
“วางใจเถอะ สัตว์เซียนพวกนั้นฟังคำสั่งของผม ผมเชื่อว่าคุณและหนูลินจะเป็นเพื่อนกับสัตว์เซียนพวกนั้นได้แน่” รพีพงษ์พูดเสียงต่ำ
“งั้นก็ดีเลย” อารียาพยักหน้าเบาๆ “รพีพงษ์ ตอนที่เพิ่งรู้จักคุณ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งคุณจะกลายเป็นแบบนี้ได้”
รพีพงษ์ก็เผยสายตาอ่อนโยน แล้วก็ดึงอารียาเข้ามากอด “แคลร์ ผมขอสาบาน ว่าจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดบนโลกนี้ และผมก็จะอยู่กับคุณไปทั้งชีวิต ตอนนี้ให้พวกเราพยายามทำในด้านนี้กันต่อไปนะ”
“อืม” อารียาพยักหน้า เธอแต่งงานกับรพีพงษ์มาได้ไม่ผิดเลยจริงๆ !
“แต่ว่า ป่าหมอกมันเป็นป่า ถ้าพวกเราไปในนั้นแล้วจะอยู่ที่ไหนล่ะ?” อารียาถาม
“วางใจเถอะ ผมจัดการไว้หมดแล้ว” รพีพงษ์ยิ้มพูด “คุณก็รอตอนที่เราเข้าไปในป่าหมอกก็แล้วกันนะ!”
……
ช่างหลายวันนี้ ตอนกลางวันรพีพงษ์มักจะหายไปบ่อยๆ ส่วนในกลุ่มสิงโต แคลร์ ฝนสุดาและหงส์ก็อยู่ด้วยกัน จนกลายเป็นพี่น้องกันไปแล้ว
หนูลินก็มีพี่สาดูแลอยู่ ศาสตราจารย์ปรีดิทก็มาสอนหนังสือให้กับหนูลินอาทิตย์ละครั้ง เวลาที่เหลือจิลลาและชุติเดชน้อยก็จะพาหนูลินไปเล่นในหุบเขา
ที่นี่ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง ทิวทัศน์ก็จะสวยมากกว่าที่อื่นเป็นธรรมดา และมีจิลลาและชุติเดชอยู่ด้วย รพีพงษ์ก็วางใจ
หลายวันนี้รพีพงษ์ทำการใหญ่เรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ ได้ให้ชายคนที่ทำธุรกิจไปสั่งจองของไว้ ตอนนี้ได้ขนย้ายมาที่นี่แล้ว
และสร้างบ้านหลังเล็กๆ ไว้ในป่าหมอก!
นี่ก็คือเรื่องที่รพีพงษ์คิดไว้นานแล้ว
บอกว่าเป็นบ้านหลังเล็ก แต่ก็ใหญ่กว่าบ้านพักอื่นๆ ในเมืองเสียอีก!
เพื่อที่จะได้ตามความต้องการนี้ รพีพงษ์วางแผนให้คนงานกว่า500ร้อย และได้ให้นักออกแบบที่มีชื่อเสียงของจีนมาออกแบบ
คนที่สั่งการคน500คน มีเพียงรพีพงษ์สั่งการคนเดียว
แน่นอนว่า เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เซียนในป่าหมอกออกมา แล้วทำให้คนในเมืองตกใจ รพีพงษ์ได้บอกกล่าวกับแรดโบราณไว้แล้ว ว่าช่วงนี้สัตว์เซียนอยู่ในถ้ำหรือในน้ำไปก่อน ไม่ต้องออกมา
500คนสร้างบ้านพักหนึ่งหลัง ผลลัพธ์เป็นที่น่าตกใจ
ไม่กี่วัน บ้านพักไม้หลังนี้ก็ถูกสร้างเสร็จ แล้วพวกข้าวของในลังที่เอาไปเก็บไว้ที่กลุ่มสิงโตก่อนหน้านี้ ก็ขนมาด้วย
มีของเล่น เครื่องออกกำลังกาย และหนังสือต่างๆ
ของพวกนี้ก็ถูกใส่ไว้ในบ้านจนเต็ม และข้าวของที่จองไว้ก็ถูกจัดแต่งเข้าไปข้างใน
วันที่เสร็จงาน รพีพงษ์ยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านพัก เขายืนภูมิใจกับบ้านพักที่ถูกสร้างมาได้เข้ากับป่าหมอกเป็นอย่างดี
ในหลายปีสิบกว่าปีข้างหน้า ตนเองก็จะอยู่กับแคลร์และหนูลินที่นี่ และในใจของรพีพงษ์ก็คิดด้วยว่า รอวันที่ตนเองเดินออกมาจากป่าหมอก ระดับพลังของตนเองจะเป็นอย่างไร!
พอกลับมายังสำนักเทพยาเซียน ก็ดึกแล้ว
คืนนี้ จะเป็นอาการมื้อสุดท้ายที่รพีพงษ์จะกินในสำนักเทพยาเซียน
“ทุกท่าน!”
รพีพงษ์ยกแก้วเหล้าขึ้น แล้วพูดกับทุกคนว่า “วันพรุ่งนี้ ผมจะพาแคลร์และหนูลินไปที่ป่าหมอก”
“จะไปกันแล้วหรือ?” ปยุตตกใจ “พวกเราสองคนยังกินเหล้ากันไม่พอเลยนะ”
“เวลาไม่รอใครครับ ผมอยากจะรีบบรรลุพลังขั้นแดนเทพขั้นพีค” รพีพงษ์กล่าว
ปยุตพยักหน้า “ก็ดี ถ้าผมคิดถึงคุณ ผมก็จะเอาเหล้าเข้าไปหาคุณในป่าหมอกเอง”
“ครับ ตามนี้นะ” รพีพงษ์ยิ้มพูด จากนั้นก็มองทุกคน
“หลายวันนี้ ผมได้สร้างบ้านพักไว้ในป่าหมอกหลังใหญ่ ถ้าทุกท่านอยากจะตามผมเข้าไปอยู่ในป่าหมอกล่ะก็ ก็เชิญได้เลยนะครับ ยินดีต้อนรับ” รพีพงษ์กล่าว
“ได้ยินมานานแล้วว่า พลังทิพย์ในป่าหมอกเข้มข้นกว่าสำนักเทพยาเซียน ในเมื่อเจ้าสำนักเชิญมาแบบนี้ ฉันก็ไปด้วยแล้วกัน” หงส์กล่าว
“หงส์ไป ผมก็ไป” ธมกรยกมือขึ้นพูด แล้วก็หันไปยิ้มมองหงส์ที่อยู่ข้างๆ แต่ได้ถูกหงส์มองบนตอบกลับมา
“เพื่อนๆฉันไปกันหมด ฉันก็ไปด้วยแล้วกัน” ฝนสุดายิ้มพูด
“ดีเลย มีพี่สาวทั้งสองไปด้วย จะได้หนูไปเล่น” หนูลินพูดอย่างดีใจ จากนั้นก็มองจิลลาและชุติเดช “พี่ชายพี่สาวคะ พวกพี่ทั้งสองคนก็ไปกับพวกเราด้วยสิคะ”
จิลลาก็ยิ้มมองหนูลิน “ไม่แล้วล่ะจ่ะ พี่สาวยังไม่ไปนะ พี่สาวต้องเรียนกลั่นยาอยู่ที่นี่อีกนะ”
“อ๋อ” หนูลินดูเศร้าๆ อยู่ด้วยกันหลายวันนี้ หนูลินชอบพวกเขาสองคนมาก
“พี่สาวรับปากนะ ว่าถ้ามีเวลา จะเข้าไปหาหนูลินในป่าหมอกดีไหมจ๊ะ”
“ได้ค่ะ อย่าลืมนะคะ” หนูลินยื่นนิ้วก้อยออกไปเกี่ยวก้อยสัญญา
สุดท้าย นอกจากคนของสำนักเทพยาเซียนแล้ว พวกของหงส์และฝนสุดาล้วนเตรียมเข้าไปในป่าหมอก
คิดดูก็จริงอยู่ ครั้งนี้รพีพงษ์เอาหนังสือที่สามารถเพิ่มระดับของยาเม็ดมาจำนวนมาก พวกของจิรภัทรคงจะมีใจแต่เรื่องกลั่นยาเท่านั้น
เช้าวันต่อมา พระอาทิตย์ดวงใหญ่โผล่พ้นขอบฟ้า ในสำนักเทพยาเซียน มีหมอกหนาทึบ ราวกับเป็นแดนเทพเซียน
“ทุกท่าน พวกเราจะไปกันแล้วนะ”
ด้านข้างของป่าหมอก รพีพงษ์หันมายกมือคำนับพวกของจิรภัทรที่เดินมาส่ง
พวกของจิรภัทรก็พยักหน้า ยืนตรงหน้ารพีพงษ์
“เจ้านายหลิน พอคุณออกมาจากป่าหมอกแล้ว ผมจะจัดงานเลี้ยงไว้ต้อนรับคุณกลับมา!”
รพีพงษ์ก็ยิ้ม แล้วก็ยื่นมือไปจับอารียา
“เจ้าจิรภัทร ปยุต พวกเราขอตัวก่อน ถ้าสำนักเทพยาเซียนมีเรื่องอะไรล่ะก็ บอกผมได้เลยนะ ผมจะยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างแน่นอน” รพีพงษ์พูดอย่างตั้งมั่น
จิรภัทรพยักหน้า แล้วก็มองพวกของรพีพงษ์เดินเข้าป่าหมอกไป
“รอรพีพงษ์ออกมาครั้งหน้า เขาจะต้องดั่งกระฉ่อนไปทั้งโลกแน่นอน!”
จิรภัทรชื่นชมในใจ และคนอื่นๆ ที่อยู่ก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน……