พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1530 เชื่อผม
ปัณฑาก็พูดได้ทีขี่แพะไล่ขึ้นมาว่า “นี่แม่ยายกำลังมองหาลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งถูกใจนะ รพีพงษ์ ฉันว่าคุณก็อยู่ที่นี่เถอะ”
“พูดมั่วอะไรเนี่ย”
รพีพงษ์จ้องถมึงใส่ปัณฑา ตอนที่กำลังจะคิดหาทางพูดอ้อมค้อมบอกแม่ของผลินไปนั้น ผลินก็ยกถาดน้ำชาเข้ามา
“แม่ จริงๆเลยนะ เขาเป็นแค่เพื่อนของหนูเฉยๆค่ะ อย่าถามนู่นถามนี่สิคะ จะให้เขาตอบแม่ได้อย่างไรล่ะ”
พูดไป ผลินก็พูดกับรพีพงษ์เบาๆ ว่า “คุณรพี เชิญดื่มน้ำก่อน”
รพีพงษ์รับถ้วยน้ำชามา แต่ด้านในเป็นน้ำเปล่า
ดื่มลงท้องไป รสหวานนิดๆ แต่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะ
จริงสินะ น้ำในเทวโลกไม่ธรรมดา
“ลูกแม่ ครั้งนี้ลูกออกบ้านไป เอาของมาแล้วใช่ไหม?”
ในตอนนี้ จินตราก็ถามขึ้นมา
“เอามาแล้วค่ะ หนูตั้งใจไปที่ภูเขา ถึงได้ตัวยาที่สามารถรักษาอาการป่วยของแม่ได้ เดี๋ยวรอวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวหนูจะไปให้หมอยาในเมืองกลั่นยามาให้ แล้วเอามารักษาแม่นะ”
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี ลำบากหน่อยนะ ลิน”
จินตราพูดเบาๆ
พอได้พวกเธอสองแม่ลูกคุยกัน รพีพงษ์ก็แอบใช้พลังจิตวิญญาณ ไม่นานก็พบว่า บางตำแหน่งในร่างกายของจินตรา เหมือนจะมีบางจุดที่อุดตัน เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก
อาการเล็กน้อยแบบนี้ รพีพงษ์แค่ใช้พลังทิพย์เข้าไปวิ่งในตัวสักรอบ ก็สามารถแก้ไขได้หมดแล้ว
แต่ทว่า พวกเธอสองคนเป็นคนของเทวโลก ถึงแม้ดูไปแล้วจะไม่ใช่คนชั่วร้ายอะไร แต่ในคนเรานั้นไม่เหมือนกัน รพีพงษ์ก็มาที่เทวโลกเป็นครั้งแรก เขารู้สึกว่าเก็บพลังไว้จะดีที่สุด
“ดังนั้น คุณออกไปครั้งนี้ ก็เพราะไปเก็บยาให้แม่งั้นหรือ?” รพีพงษ์ถาม
“อืม ใช่ แต่ว่าจะต้องกลั่นยาอีก ตอนนี้ก็มืดมากแล้ว คงต้องรอวันพรุ่งนี้แล้วล่ะ”
ผลินตอบตามตรง จากนั้นก็มองแม่ตนเองแล้วพูดว่า “แม่คะ วันนี้ก็ทนหน่อยนะ เดี๋ยวเช้าวันพรุ่งนี้จะรีบไปหาหมอยาแต่เช้าเลย เพื่อที่จะได้กลั่นยานี้ พวกเรารอมา2ปีเต็มๆ”
“ไม่เป็นไรจ่ะๆ แม่ทนได้”
จินตราเอามือตบไหล่ของลูกสาวตนเอง ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความชื่นชม จากนั้นก็หันไปมองรพีพงษ์ พร้อมพูดว่า “อาการป่วยของฉันนี้ พอถึงเวลากลางดึกก็จะไป ตอนกลางวันเป็นปกติ”
รพีพงษ์พยักหน้า “ไม่ทราบว่า จะไอตอนประมาณตีสองมากที่สุดเลยใช่ไหม”
“ถูกต้อง คุณรู้ได้ไง? หรือว่า คุณจะรักษาอาการป่วยได้?” จินตรามองรพีพงษ์อย่างตกใจ
รพีพงษ์พูดเบาๆว่า “รู้แค่บางโรคเท่านั้น เวลาตีสองกว่าๆนั้น เป็นเวลาที่ทำความสะอาดปอด ถ้ามีบางส่วนที่เลือดลมไม่ไหลเวียน ตอนนั้นก็จะเป็นช่วงที่อาการแย่สุด”
“ไม่คิดเลยว่า คุณรพีจะตรวจอาการได้ด้วย” จินตรายิ้มมองรพีพงษ์ จากนั้นก็พูดกับลูกสาวตนเองว่า “ลูกแม่ มีเพื่อนเก่งแบบนี้ตอนไหนเนี่ย ไม่รีบพามาช่วยแม่ดูอาการหน่อยล่ะ”
รพีพงษ์ก็ทำท่าผ่อนหัวไหล่ แล้วพูดกับผลินที่กำลังหน้าแดงว่า “ถ้าสะดวก ก็ให้ผมลองดูตัวยาในตะกร้าหน่อยก็ได้ครับ”
“หรือว่า แม้แต่ยาสมุนไพรคุณก็รู้จักงั้นหรือ?”
ผลินพูดอย่างแปลกใจ
รพีพงษ์ก็ไม่ตอบสนองอะไร ตอนที่ตนเองอยู่ที่สำนักเทพยาเซียนนั้น ได้อ่านหนังสือในถ้ำจนหมด บอกได้เลยว่า ยาสมุนไพรทุกชนิดบนโลกนี้ เขารู้จักหมด
คิดดูแล้ว ยาสมุนไพรของเทวโลกกับโลกน่าจะไม่ต่างกันมาก
รพีพงษ์รับตะกร้ามาเปิดดู ยังดีที่เป็นยาพื้นฐานทั่วไป ถูกต่อโรคของจินตรา และถูกต่ออาการ
เพียงแต่ ระดับของยาพวกนี้มันสูงมาก ล้ำค่ากว่าสมุนไพรในป่าหมอกเสียอีก
แต่รพีพงษ์ก็รู้ดี ว่าที่นี่คือเทวโลก เห็นสภาพของผลินแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ครอบครัวที่ร่ำรวยอะไร
ในเมื่อแม้แต่เธอยังสามารถซื้อยาระดับนี้ได้ แสดงว่ายาพวกนี้ไม่ได้มีค่าอะไรมากในเทวโลก
“แอ่กๆ …….พวกคุณคุยกันไปก่อนนะ แม่ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ขอกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน”
จินตราลุกขึ้นพูด
เธอโค้งตัวเล็กน้อย แล้วก็ไอออกมา
“แม่ไม่เป็นอะไรนะคะ”
ผลินรีบเข้าไปพยุงตัวไว้
“ไม่เป็นไร ลิน ไปคุยเป็นเพื่อนคุณรพีเถอะ คืนนี้ก็ไปเอาผ้าห่มใหม่ออกมาให้พวกเขาใช้” จินตรากล่าว
รพีพงษ์เห็นสองแม่ลูกคู่นี้ ในใจเขาก็รู้สึกอะไรมากมาย
นี่คือครอบครัวที่ตนเองต้องการ พอมองแม่ของผลิน แล้วนึกถึงตอนนั้น ที่แม่จะเอาชีวิตตนเอง ทำไมมันช่างแตกต่างกันขนาดนี้
“คุณป้าครับ เดี๋ยวครับ!”
รพีพงษ์พูดขึ้นมา
จินตราและผลินก็หันกลับมาพร้อมกัน
สายตาของผลินแปลกๆ ทำไมบนหน้าของคุณรพี เหมือนจะมีสีหน้าของการชื่นชมอยู่ด้วยนะ?
“เดี๋ยวผม……..กลั่นยาให้คุณป้าเอง!”
รพีพงษ์กล่าว
“คณ…..กลั่นยาเป็นด้วยหรือ?” ผลินมองรพีพงษ์อย่างตกใจ
“ผม………”
ยังไม่ทันให้รพีพงษ์เปิดปากพูด ปัณฑาที่อยู่ข้างๆ ก็ชิงพูดก่อนว่า “ฝีมือการกลั่นยาของรพีพงษ์น่ะ เป็นหนึ่งในสำนักเทพยาเซียนเชียวนะ ถ้าเขากลั่นยาไม่เป็น แล้วใครจะกลั่นเป็นล่ะ?”
“สำนักเทพยาเซียน?คือที่ไหน?”
จินตราและผลินสงสัยเล็กน้อย
รพีพงษ์รีบหยิบขนมขึ้นมาโดยไม่สนใจสายตาโมโหของปัณฑา แล้วยัดปากเธอเข้าไป
ยัยหนูคนนี้ ถ้ายังไม่ปิดปากไปล่ะก็ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาบ้าง
“ผมพอมีวิชากลั่นยาอยู่บ้าง ถ้าเชื่อใจผมล่ะก็ เรื่องนี้ เดี๋ยวผมจัดการเอง” รพีพงษ์กล่าว
“เอ่อ……เรื่องจริงใช่ไหม?”
สายตาของจินตรายังคงสงสัย แต่หลังจากที่ผลินเห็นสายตาของรพีพงษ์แล้วนั้น กลับพูดออกมาว่า “ฉันเชื่อ คุณรพี ถ้ากลั่นยาไม่สำเร็จล่ะก็ พรุ่งนี้ฉันก็แค่ออกไปซื้อยามาใหม่”
“วางใจเถอะ สำเร็จแน่นอน”
รพีพงษ์พูดเสียงต่ำ
ยาทุกอย่างถูกแผ่ออก วางลงบนโต๊ะ รพีพงษ์กำลังเตรียมจะลงมือ แต่ได้ยินจินตราพูดอยู่ข้างๆ ว่า “รอเดี๋ยวคุณรพี คุณไม่มีแม้กระทั่งสูตรกลั่นยา แล้วจะกลั่นอย่างไรกัน? รู้หรือว่าจะใส่ลำดับไหนก่อน?”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กๆ คุณป้าครับ ผมรู้อาการคุณป้าดีแล้ว จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก เชื่อผมสิว่าภายในไม่ถึง5นาที ยาเม็ดก็ถูกกลั่นเสร็จแล้ว
จินตราเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ผลินก็พูดว่า “แม่คะ เชื่อคุณรพีเถอะ เขาไม่หลอกลวงพวกเราหรอก”
รพีพงษ์ยิ้มเบาๆ แล้วก็เริ่มลงมือ
พลังสัมผัสของพลังจิตวิญญาณเทพ รพีพงษ์สามารถรู้คุณสมบัติทุกชนิด
รพีพงษ์ในตอนนี้ มนุษย์ทองคำน้อยในหัวก็ยิ่งสว่างกว่าเดิม มนุษย์ทองคำได้ควบคุมร่างกายตนเองอยู่ ขอเพียงแค่คิด มือของรพีพงษ์ก็สามารถเอาพลังจิตวิญญาณปล่อยเข้าไปในยาสมุนไพรได้ เพื่อเริ่มกลั่นยา
จินตราและผลินก็อึ้งไป
พวกเขาเห็นแค่ว่าชายวัยรุ่นคนนี้ปิดตาอยู่ แต่มือทั้งสองสามารถขยับได้เร็วมาก
ยาสมุนไพรแต่ละต้น พออยู่ในมือเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
“ลิน เขา……ขะกลั่นยาได้จริงไหมเนี่ย?” จินตราพูดอย่างแปลกใจ
“น่า…….น่าจะ” ผลินพูดอย่างอึ้งๆ
“ลิน ลูกไปรู้จักกับคุณรพีได้ไง เขาเก่งมากเลยนะ!”
……
ไม่ถึง5นาที ยาเม็ดระดับสูงที่มีชี่ยาก็ถูกกลั่นเสร็จเรียบร้อย
พอเห็นยาเม็ดสีแดง จินตราก็หยิบเอามาในมืออย่างตื่นตกใจ
“คุณป้าครับ กินยาเม็ดนี้ไปเลยครับ อาการของผ้า ไม่นานก็ดีขึ้นครับ” รพีพงษ์กล่าว
“ยาเม็ดนี้……”
“แม่ หนูเคยเห็นพวกคนขายยาเขาขายยา เป็นแบบนี้แหละ เพียงแต่ ยาของคุณรพี มีชี่ยาออกมาเพิ่มจากคนอื่นก็เท่านั้นเอง แม่กินไปเถอะ”
ผลินกล่าว
จินตราพยักหน้า แล้วก็เอาน้ำเปล่ามากินยานี้ลงไป
ไม่ถึงครึ่งนาที จินตราก็รู้สึกว่ารู้สึกเย็นที่ท้อง จากนั้นก็พลุ่งพล่านไปทั้งร่างกาย
พริบตา ลมหายใจของตนเองก็สะดวกขึ้นมาทันที บริเวณที่ไม่สบายก่อนหน้านี้ ก็สบายขึ้นมากแล้ว
“อัศจรรย์มากเลย ลิน แม่……หายแล้วลูก” จินตรากล่าว
“จริงหรือคะแม่? แม่หายแล้วใช่ไหม?”
ผลินถาม พอเธอเห็นจินตราพยักหน้า ถึงจะมั่นใจ
สองแม่ลูกร้องไห้ ผลินก็มองรพีพงษ์พร้อมพูดว่า “คุณรพี ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ขอบคุณคุณมากจริงๆ อาการป่วยของแม่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสาวๆ ครั้งนี้ได้คุณมาช่วยไว้ ฉันซาบซึ้งมาก”
“ผลิน พวกเราเป็นเพื่อนกัน ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน ถ้าผมช่วยได้ก็จะช่วย อีกอย่าง ถ้าวันนี้ไม่ได้คุณล่ะก็ ผมก็คงไม่ได้เข้าเมืองมาได้ และคืนนี้ก็ไม่รู้จะไปนอนที่ไหน”
รพีพงษ์กล่าว
ผลินพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง เธอมองรพีพงษ์ ในใจก็คิดว่า ผู้ชายคนนี้ยังมีอะไรที่ตนเองยังไม่เห็นอีกนะ?
“นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเราไปพักผ่อนกันได้แล้วล่ะ”
รพีพงษ์กล่าว ภายใต้การดูแลของผลิน ก็พาปัณฑาเดินเข้าห้องพักไป
ประตูห้องผิดลง ปัณฑาก็หลับผล็อยไปอย่างรวดเร็ว แต่รพีพงษ์ยังหลับไม่ลงอีกนาน
นี่เป็นคืนแรกในเทวโลก ที่รพีพงษ์ไม่รู้ก็คือ ต่อจากนี้ ตนเองจะพบกับอะไรบ้าง
ส่วนในห้องนอนหลักของบ้าน จินตราที่หายดีแล้วก็กำลังคุยกับผลินบนเตียง
คืนนี้ จินตราไม่ได้ไอ แต่มาคุยกันเรื่องที่ว่าลูกสาวตนเองไปรู้จักกับรพีพงษ์ได้อย่างไร
ตื่นเช้ามา พระอาทิตย์ของเทวโลกดูเหมือนจะใหญ่กว่าบนโลกเสียหน่อย
รพีพงษ์เปิดประตูห้องนอนออกมา ปัณฑาก็กำลังกินอาหารเช้าแล้ว
จินตรามองรพีพงษ์ สายตาก็ยิ้มๆ
“คุณรพีเมื่อคืนหลับเป็นอย่างไรบ้าง?”
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วก็หยิบขนมเตรียมจะกิน
“คุณรพี เมื่อคืนป้าได้ยินลินเล่าแล้วนะ คุณกำพร้าพ่อแม่ แถมยังดูเหมือนจะไม่มีญาติพี่น้อง ถ้าคุณไม่รังเกียจล่ะก็ ก็มาเป็นลูกเขยบ้านป้าเถอะ!”
“แอ่กๆ ……”
ได้ยินดังนั้น รพีพงษ์ก็แทบสำลักขนมในปากตาย!