พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1553 ข้อมูลรั่วไหล
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1553 ข้อมูลรั่วไหล
เมื่อถึงเมืองแฟรี่แล้ว สถานที่แรกที่ไปตระกูลภูสรีดาว
เทวเทพเห็นนราธิปมา ก็เอ่ยพูดออกมาด้วยความเป็นกังวล
สองวันมานี้เขากินอะไรไม่ลงเลย พูดกล่าว : “คุณธิป ฉันคิดๆดูแล้ว เราจะนั่งรอความตายไม่ได้นะ จะต้องรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว คนของนรเทพจ้องมองอยู่พร้อมลงมือได้ทุกเมื่อ ฉันได้ให้คนไปสืบดูแล้ว หากจะจัดการพวกเหล่านั้นที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา ไม่ยากเลย ”
“มั่วซั่ว ถ้าหากคนของนรเทพเกิดเรื่องขึ้นที่เมืองแฟรี่ นรเทพจะยอมวางมือยุติเรื่องราวงั้นเหรอ?เขาชอบฆ่าแกงจะเป็นนิสัย ถ้าหากระบายความโกรธทั่วทั้งเมืองแฟรี่ งั้นเราก็กลายเป็นผู้ร้ายน่ะสิ”
นราธิปลูบคลำที่คาง ก็คิดไอเดียดีๆอย่างอื่นไม่ออก เทวเทพที่อยู่อีกฝั่งจนใจ ในที่สุดก็ระเบิดความโกรธออกมา หลังจากที่อดกลั้นมานานแล้ว : “งั้นคุณธิปคิดว่าจะทำยังไง?ก็แค่สัตว์ร้ายตัวหนึ่งไม่ใช่เหรอ ต้องทำถึงขนาดนี้เลย?”
เรื่องของนรเทพ ต่อให้เล็กแค่ไหนก็เป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างนี้ก็ใช่แค่เรื่องของมังกรตัวเดียว เขาจะรู้สึกว่าอำนาจของเขาได้รับการท้าทายแล้ว
นราธิปพูดถาม : “พ่อบ้านคนนั้นของคุณ ทำไมวันนี้ถึงไม่เห็นเขา?สำหรับเรื่องนี้เขาก็มีคุณงามความดีไม่น้อยเลยนะ”
“ฉันหักขาทั้งสองข้างของเขาแล้ว ปล่อยเขาปล่อยไปตามยถากรรม เจอหน้าก็มีแต่ความซวย หลายปีมานี้อาศัยชื่อเสียงของตระกูลภูสรีดาวของเรา ไปทำเลวไว้ทั่ว ฉันเกลียดเขาตั้งนานแล้ว”
นราธิปพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง พวกคนใหญ่คนโตไม่ค่อยเข้ามาพัวพันแต่พวกที่ต่ำช้าไม่มีการศึกษาชอบเข้ามาทำร้ายหาผลประโยชน์
“คนๆนี้เก็บมันไว้ไม่ได้ ว่าแต่รู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน?”
เทวเทพไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น ในตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าพ่อบ้านเตชิตอยู่ที่ไหน อ้อมแอ้มๆ ได้ยินคำพูดของนราธิปถึงจะรู้สึกว่าทำเรื่องนี้เหมือนเด็กไปได้
นราธิปเห็นสีหน้าของเทวเทพ ก็รู้ไปโดยปริยายว่าตอนนี้การหาตัวพ่อบ้านเตชิตให้เจอ ถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
ถึงอย่างไร แม้ว่าพ่อบ้านเตชิตคนนี้จะไม่มีความสามารถอะไร แต่กลับว่ารู้ความลับของตระกูลภูสรีดาวไว้มากมาย!
ไม่ชักช้ารีรอ นราธิปรีบออกไปเลย
เขาวนรอบเมืองอยู่หนึ่งรอบก่อน ไม่เห็นพ่อบ้านเตชิต เจอกับผลินและปัณฑาเข้าแล้ว
ปัณฑารู้สึกเบื่อก็เลยมาเมืองแฟรี่ ไม่คุ้นชินกับเมืองแฟรี่ ทำได้เพียงไปหาผลิน
เวลานี้ในมือกำลังถือปิงถังหูหลุอยู่หนึ่งไม้ ปัณฑาพูดถาม : “ตาแก่ธิป คุณมาหาใคร รพีพงษ์ให้คุณมาพาตัวฉันกลับไปเหรอ?”
“ฉันมาหาพ่อบ้านนั่น ตอนนี้รพีพงษ์วุ่นวายอยู่กับการฝึกตน ไม่มีเวลามาสนใจคุณหรอกนะ คุณวางใจได้”
“งั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องกลับไป ตอนนี้ไม่มีศัตรูกับตระกูลภูสรีดาว ฉันก็ไม่มีทางเป็นอันตราย”
เมื่อปัณฑาพูดจบ ก็มัวแต่กินปิงถังหูหลุ
นราธิปขี้เกียจจะไปสนใจพวกเขา หากจะตามหาคนก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างอ่อนไหว จะตามหาแบบไม่เกรงกลัวใครเลยขนาดนั้นก็คงไม่ได้
ผลินพาปัณฑาไปบ้านของเธอ ดึงปัณฑาไปถามเรื่องเกี่ยวกับรพีพงษ์มากมาย ปัณฑาเว้นแต่เรื่องที่รพีพงษ์มาจากโลกเท่านั้น เรื่องอื่นๆพูดเล่าไปจนหมด
ก่อนที่ผลินจะพาปัณฑาออกไปเที่ยวเล่นได้พูดข้อเสนอกับปัณฑาไว้ดิบดีแล้ว ตอนที่ปัณฑากลับไปยังเขาห่านตนุ จะต้องพาเธอไปด้วย
ขอเพียงแค่เป็นสถานที่ที่รพีพงษ์อยู่ เธอถึงจะสัมผัสได้ถึงความสงบ ผ่านเรื่องราวเหล่านี้มา มีเพียงรพีพงษ์เท่านั้นที่สามารถให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอได้
เห็นเธอครุ่นคิดอย่างเป็นกังวลพร้อมขมวดคิ้ว ปัณฑายักๆไหล่ : “คุณก็ไม่ต้องคิดแล้ว รพีพงษ์เป็นผู้ที่หลงใหลในเรื่องความรักคนหนึ่ง ภรรยาของคนเขาก็ยังรอคอยอยู่ที่บ้าน เขาไม่มีทางมาคบกับคุณหรอกนะ ฉันขอแนะนำให้คุณล้มเลิกความคิดในใจซะเถอะนะ”
“ฉันไม่ได้คิดถึงรพีพงษ์ คุณออกมานานแล้ว รพีพงษ์จะเป็นกังวลเอานะ พรุ่งนี้เรากลับไปยังภูเขาสองกระบี่กันเถอะ”
“ฉันยังเที่ยวไม่พอเลยนะ คุณไปแล้ว ใช่ว่าตาแก่ธิปจะยอมรับไว้ดูแลนะ ฉันขอแนะนะคุณให้อยู่ในเมืองนี้ให้ดีๆดีกว่านะ ไม่ต้องไปคิดเพ้อเจ้อทำเรื่องที่ควรทำดีกว่า”
ผลินไม่อยากพูดอะไรกับเขามากมาย เขาจะไปรู้อะไรล่ะ ความรักระหว่างชายหญิงเด็กอย่างเขาจะไปเข้าใจอะไรกันล่ะ
แม้ว่าจะมีชีวิตพันปี ก็ไม่เคยได้สัมผัสเรื่องรักๆใคร่ๆในโลกมนุษย์
เธอจัดเตรียมห้องให้ปัณฑาแล้ว ให้ปัณฑารีบพักผ่อน ตัวเองกลับมาพักผ่อน เมื่อกี้ปิดไฟแล้ว เห็นแสงไฟน้อยๆลอดผ่านหน้าตา
ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาทันที ในเวลานี้ ใครจะมาได้อีก
เมื่อเห็นว่าคนที่มาเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่คนเดียว ใครกัน?
เธอรีบลุกขึ้นไปเรียกแม่ของเธอ ให้หญิงชราตื่น แล้วก็ปัณฑา
ปัณฑามองไปยังข้างนอก ขมวดคิ้ว พูดกล่าว : “เพียงแค่กลัวว่าคนที่มาไม่ได้มาดี”
เธอเป็นภูต ขอเพียงแค่มองอย่างละเอียด ก็รู้ว่าคนๆนั้นก็คือพ่อบ้านเตชิต เบื้องหลังของเขาก็ยังมีคนมาด้วยไม่น้อยเลย
“ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี คนที่มาเป็นใครกัน ปัณฑา คุณเห็นหรือเปล่า?”
“พ่อบ้านเตชิตนะ มาที่นี่ จะต้องมาหาเรื่องวุ่นวายให้คุณแน่”
ผลินค่อนข้างร้อนใจ เตรียมจะให้แม่ของเธอรีบออกไป ตอนนี้ขาของชายชราเดินเหินไม่ค่อยสะดวก รู้ว่าต้องมาไม่ดีอย่างแน่นอน พูดกล่าว : “พวกคุณออกไป ปัณฑา พาลินไป ไอ้หมอนี่ทำชั่วไว้มากมาย เพียงแค่กลัวว่าครั้งนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อน ”
เบื้องหลังของเขาพาคนมาไม่น้อยเลย ผลินร้องไห้พร้อมพูดกล่าว : “แม่ เขามาหาหนูแน่ๆ ขอแค่หนูไปกับเขา เขาไม่มีทางทำร้ายแม่ หนูจะให้แม่ต้องมารับกรรมแทนหนูที่นี่ไม่ได้หรอกนะ”
ระหว่างที่ผลินพูดกล่าวนั้น ก็จับมือของปัณฑาไว้แน่น : “ปัณฑา คุณพาแม่ของฉันไปนะ คุณไปหารพีพงษ์ ขอเพียงแค่รพีพงษรู้ว่าพ่อบ้านเตชิตจับตัวฉันไว้ รพีพงษ์จะต้องมีวิธีแน่”
ปัณฑาพยักหน้า เธอพูดถูกมาก
ตระกูลภูสรีดาวไม่มีทางที่จะรู้เห็นเป็นใจให้พ่อบ้านเตชิต สร้างเรื่องเดือดร้อนไปทั่วพ่อบ้านเตชิตก็เป็นแค่คนต่ำทรามที่ชอบประจบสอพลอ วันนี้คนที่สามารถขับไล่เขาออกไปได้ นอกจากคนของนรเทพแล้วก็ไม่มีคนอื่นแล้ว
พ่อบ้านเตชิตปรารถนาในตัวผลินไม่ใช่แค่วันสองวันเท่านั้น พวกเขาจากไปตอนนี้ ผลินไม่มีทางเป็นอันตรายแน่
อยู่ที่นี่ต่อ งั้นก็ยากที่จะพูดแล้ว
แม่ของผลินไม่ยอมไป ปัณฑาจนใจไม่มีทางเลือกอื่นทำได้เพียงตบให้สลบแล้วพาตัวออกไป
พาแม่ของลินไปอยู่ในที่หลบซ่อนตัว อยู่ที่ตรงนั้นคอยแอบมองดูลินอย่างเงียบๆ
พ่อบ้านเตชิตยิ้มอย่างชั่วร้าย ในมือถือคบเพลิง แสดงให้เห็นถึงลมหายใจแห่งการฆ่าไปทั้งตัว
เขาไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว บนตัวมีพลังด้านร้ายเพิ่มขึ้นมา คนที่อยู่ข้างหลังล้วนแต่เชื่อฟังคำสั่งของเขา
“เด็กน้อย ทำไมเหรอ แม่ของหนูไปไหนแล้วล่ะ?”
“แม่ของฉันจะไปไหน แกไม่ต้องมาสนใจ แกคิดจะทำอะไร”
“ฉันชอบหนูมานานมากแล้ว แน่นอนว่าต้องมาหาหนูเพื่อให้มาเป็นเมียของฉันไงล่ะ ลิน หนูมาอยู่กับฉัน ฉันรับรองว่าจะดูแลทะนุถนอมหนูอย่างดี”
“แกมันคนสารเลว อายุมากขนาดนี้เป็นพ่อฉันยังรังเกียจเลย คำพูดนี้ยังกล้าที่จะพูดออกมาอีก”
ผลินจ้องมองพ่อบ้านเตชิตด้วยสายตาที่เย็นชา พ่อบ้านเตชิตพูดฮึออกมาอย่างเยือกเย็น : “แกคิดว่า แกจะได้แต่งานกับรพีพงษ์ไอ้เด็กนั่นเหรอ แกไม่มีทางได้เจอเขาอีกแล้วล่ะ เจ้านายของฉันจะฆ่าเขา ตอนนี้คนของเขาไปยังภูเขาสองกระบี่แล้ว แกยอมอยู่กับฉัน ฉันก็สามารถไว้ชีวิตอันไร้ค่าของคุณได้”
ปัณฑาได้ยินข่าวนี้ถึงกับตกใจอย่างมาก ไอ้หมอนี่เข้าไปพัวพันกับคนของนรเทพแล้วงั้นเหรอ?
ทำแบบนี้พวกรพีพงษ์ก็มีอันตรายแล้วนะสิ เขาไม่ทันได้ทำอะไร รีบไปภูเขาสองกระบี่โดยเร็วที่สุด แม้แต่แม่ของผลินก็ไม่ได้พาไปด้วย หญิงชราจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พรุ่งนี้เช้านั่นแหละ
พ่อบ้านเตชิตจับตัวผลินได้ก็ออกไป ไม่มีทางพบแม่ของผลิน
ถึงภูเขาสองกระบี่แล้ว ไม่เห็นเงาร่างของพวกรพีพงษ์เลย นราธิปเรียกเขาจากด้านหลัง : “ที่นี่อันตราย กลับมาทำอะไร?”
“ตาแก่ธิป คุณรู้เรื่องแล้วหรือยัง?”
“ศัตรูมาแล้วนะ งั้นก็ต้องออกมาสู้ มัวแต่หลบซ่อนไม่ใช่การแก้ปัญหาใดๆ”
“รพีพงษ์พวกเขาล่ะ ฉันอยากจะเจอรพีพงษ์ ลินถูกจับตัวแล้ว”
ระหว่างที่พูดก็รีบร้อนใจอย่างมาก นราธิปพูดอย่างจนใจ : “แม้แต่ตัวของเขาเองยังยากจะปกป้องได้ คุณก็ไม่ต้องไปสร้างความลำบากให้เขาแล้วโอเคไหม”