พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1595 ปีศาจหิมะ
ผลินพูดว่าอีกเดี๋ยวก็จะถึงแล้ว เพียงแค่ในเขาลึกนี้ไม่มีคนเดินมานานหลายปีแล้ว ความเร็วช้าลงกว่าเมื่อก่อนมาก
มีเสียงดังคำรามเสียงหนึ่ง ตามหลังปัณฑามา ทำให้ผลินตกใจจนกอดปัณฑาไว้แน่น ปัณฑาขมวดคิ้ว พูดถาม : “อะไรเนี่ย?”
มองไปยังสถานที่ที่เกิดเสียงขึ้นมา ปัณฑาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทำไมถึงได้โชคไม่ดีแบบนี้?
ภาพฉากที่อยู่ตรงหน้าในเวลานี้แปลกมาก ปัณฑาดูแล้วเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง ถูกผลินที่ตัวโตกว่าโอบกอดไว้
สิ่งที่เผชิญอยู่ตรงหน้าก็คือเสือดาวตัวหนึ่ง กำลังมองมาที่ปัณฑาและผลิน ผลินตกใจจนร้องไห้แล้ว พูดกล่าว : “ปัณฑา คุณมีวิธีบ้างไหม?”
“คุณไม่ได้บอกว่าระหว่างทางจะมีสัตว์ร้ายนะ” ปัณฑาต่อว่าผลิน
เมื่อผลินได้ยินประโยคนี้เข้า แสดงความมั่นใจออกมา พูดกล่าว : “ขอเพียงแค่หาตัวรพีพงษ์เจอไวๆ ต่อให้มีสัตว์ร้ายมากแค่ไหนฉันก็ไม่กลัว”
ปัณฑามองไปยังผลินที่จับมือของเธอไว้ เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง : “ในเมื่อคุณก็พูดแบบนี้แล้ว ปล่อยฉันสิ ตัวตั้งใหญ่ ทำไมถึงได้ไร้ความสามารถเช่นนี้?”
ผลินไม่กล้าที่จะพูดออกมาไปชั่วขณะ เสือดาวตัวนั้นจ้องมองไปยังผลินและปัณฑาอย่างพร้อมที่จะตะครุบ เดินเข้ามาทีละก้าวๆ
ผลินสลัดมือแล้ววิ่งหนีไป ปัณฑาจนใจ ไม่เคยเห็นใครที่โง่ขนาดนี้มาก่อน ต่อให้วิ่งได้สุดยอดแค่ไหน จะวิ่งสู้เสือดาวได้เหรอ
เสือดาวนั่นวิ่งตามไปอย่างดุเดือด ผลินหกล้มกับพื้น เห็นปากของเสือดาวที่กำลังจะกัดไปยังคอของผลิน ปัณฑาร่ายมนตร์ คำรามเสียงใส่เสือดาว เสือดาวหายวับทันที
เดิมทีปัณฑาเป็นภูติในป่า จะกลัวสิ่งเหล่านี้ที่ไหนกัน ตอนที่อยู่ในป่าหมอก สัตว์เหล่านั้นที่สุดยอดกว่าเสือดาวเป็นหลายร้อยเท่าเธอก็เจอมาหมดแล้ว
หลังจากที่เสือดาวหนีไป น้ำตาของผลินยังไม่ทันแห้ง ปัณฑาให้เธอรีบๆหน่อย เธอไม่อยากรอให้รพีพงษ์ทำธุระเสร็จแล้วกลับไป พบว่าพวกเธอไม่อยู่ แล้วออกมาหาพวกเธอ
ฝั่งรพีพงษ์ถึงที่ภูเขาหิมะซีหลิงแล้ว เมื่อตอนที่ข้ามพรมแดนของภูเขาหิมะซีหลิง เสียงลมหนาวพัดผ่าน เสียง“ฟู่ฟู่ฟู่”กระทบบนใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ทันใดนั้นก็เหน็บหนาวขึ้นมาทันที
มีภูเขาหิมะลูกหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล มีชั้นน้ำแข็งอยู่ใต้ฝ่าเท้า เขาเดินตรงไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินเข้าไปข้างใน ก็ยิ่งเห็นหิมะที่ปกคลุมหนาแน่น
ในเวลานี้ก็เห็นรอยเท้าที่ใหญ่มากอยู่ไม่ไกล นึกถึงสัตว์ประหลาดหิมะที่ปริตรพูดกล่าว?
เขาระมัดระวังตัวอย่างมาก ก็แค่กลัวว่าจู่ๆจะมีอะไรโผล่ออกมา ถูกโจมตีอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือตามหายอดเขาที่สูงที่สุดของภูเขาหิมะซีหลิง รพีพงษ์ไม่แน่ใจ การเจริญเติบโตของต้นคงจิตนั่นมีเพียงสองร้อยปีเท่านั้น หวังว่าตัวเองจะหามันเจอ
ถ้าหากครั้งนี้หาไม่เจอ ต่อให้มีนรเทพอยู่ในกำมือก็คงไม่อาจจะช่วยเหลือหนูลินได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับภรรอย่างอารียาแล้ว
ไม่รู้ว่าอารียาอยู่ที่หุบเขาราชาโอรสแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง รพีพงษ์อยากที่จะกลับไปดู แต่เมื่อนึกถึงหนูลินก็อดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ว่าเป็นพ่อไม่ที่ดี
ความรู้สึกแบบนี้ของรพีงษ์มีเพียงคนที่เป็นพ่อเท่านั้นถึงจะรับรู้ได้ เดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ
เขารู้ นี่เป็นเพียงทางเข้าเดียวของภูเขาหิมะซีหลิง ถ้าหากจะไปยังยอดเขาจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่จะให้ล่าช้าไม่ได้ ตอนนี้ที่ตระกูลภูสรีดาวมีอันตรายอย่างมาก ถ้าหากเป็นเพราะนรเทพทำให้ตระกูลภูสรีดาวเดือดร้อนไปด้วย งั้นตัวเองก็มีความชั่วมหันต์
แสงหิมะทิ่มแทงนัยน์ตา เสียงตูมตาม แผ่นดินเริ่มมีการสั่นสะเทือน รพีพงษ์ค่อนข้างตื่นตระหนก ขมวดคิ้วแล้ว หิมะถล่ม?
สายตาของเขามองไปยังภูเขาหิมะ กลับว่าไม่เห็นความผิดปกติ
ในเวลานี้ก็ได้ยินเสียงหนึ่งเสียงขึ้นมา : “คิดไม่ถึงว่ายังจะมาคนมาตายอีก ฉันอยู่ที่นี่มามากกว่าหมื่นปีแล้วยังไม่มีใครกล้าเข้ามา เด็กน้อย คุณนี่กล้ามากเลยทีเดียวนะ?”
รพีพงษ์มองดูรอบด้าน แต่ว่าไม่เห็นอะไรเลย
ได้ยินเสียงที่ดุเดือดนี้ หรือว่าเป็นเจ้าของภูเขาหิมะซีหลิงงั้นเหรอ?
ในน้ำเสียงนี้มีการเยาะเย้ยและดูถูก รพีพงษ์ก็ทราบดี เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของตัวเองกับพวกเขาแล้ว เล็กน้อยเท่าฝุ่นผงจริงๆ แต่ตัวเองไม่มีทางก้มหัวให้แน่นอน
“คุณเป็นเจ้าของที่แห่งนี้เหรอ ฉันมาที่นี่ก็เหมือนกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟก็จริง แต่ว่าฉันจำใจต้องมาที่นี่ ฉันต้องการของล้ำค่าของที่แห่งนี้เพื่อช่วยชีวิตลูกสาวของฉัน”
ระหว่างที่รพีพงษ์พูดจาก็ยังคงสังเกตสถานการณ์โดยรอบอยู่เสมอ เสียงนั่นพูดกล่าว : “ทุกคนที่มาที่แห่งนี้ล้วนมีเป้าหมายของตัวเอง รวมถึงตัวคุณด้วย เพียงแค่สุดท้ายแล้วพวกเขาไม่เพียงแต่เอาของล้ำค่าไปไม่ได้เท่านั้น กลับว่าต้องมาตายที่นี่ด้วย”
รพีพงษ์ตัดสินใจที่จะมาเอง งั้นก็ได้เตรียมใจที่จะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อไว้แล้ว
“ถ้าหากเอาสิ่งของที่ต้องการมาได้ ต่อให้ต้องตายตรงนี้ก็ไม่เป็นไร”
รพีพงษ์พูดจาด้วยเหตุผลที่ถูกต้องและเต็มไปด้วยสัจธรรม พร้อมทั้งก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ปีศาจหิมะพบว่าคำพูดของตัวเองใช้การไม่ได้ ค่อนข้างโกรธ
หิมะก้อนหนึ่งพุ่งกระแทกไปยังรพีพงษ์อย่างรุนแรง รพีพงษ์หลบหลีก ปีศาจหิมะพูดกล่าวต่อว่า : “ถ้าหากตอนนี้คุณรู้จักเข้าใจสถานการณ์ หรือรู้สึกเสียใจภายหลังแล้ว ฉันปล่อยให้คุณกลับไปได้ แต่หากคุณยืนหยัดต่อไป เสียใจภายหลังก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”
“พ่อช่วยลูกสาว เดิมทีก็ไม่มีทางเลือกอะไรมากมาย ถ้าหากวันนี้ไม่ได้สิ่งของมา ต่อให้ตายที่นี่ฉันก็ยอมแล้ว” รพีพงษ์พูดกับท้องฟ้า ไม่สามารถสัมผัสได้เลยว่าปีศาจหิมะอยู่แห่งหนไหน
“พูดจามีคุณธรรมชั้นสูง” น้ำเสียงที่เยือกเย็นของปีศาจหิมะดังขึ้นมา คนเขาก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของรพีพงษ์แล้ว
ผู้หญิงที่มีหน้าตาชวนให้คนตกตะลึง สวมใส่ผ้าคลุมหิมะสีขาว มองไปยังรพีพงษ์ด้วยแววตาที่ดูถูก
การปรากฏตัวของรพีพงษ์ในวันนี้ถูกลิขิตไว้อย่างผิดพลาด เห็นหญิงสาว รพีพงษ์ค่อนข้างตกใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเมื่อกี้เธอพูดจาเลวทรามเหล่านั้น รพีพงษ์ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเลวทรามได้ถึงขนาดนั้น
สายตาของรพีพงษ์จ้องมองไปยังปีศาจหิมะ ทันใดนั้นปีศาจหิมะก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ พูดกล่าว : “คนที่มาสถานที่แห่งนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ถูกความงดงามของฉันชวนให้หลงใหลจนไม่ยอมที่จะจากไปเลย คุณยินยอมที่จะอยู่ที่นี่ต่อเป็นเพื่อนฉันไหม?”
ปีศาจหิมะมาถึงข้างกายของรพีพงษ์แล้ว หลงเสน่ห์รพีพงษ์
ถึงอย่างไรรพีพงษ์ก็เป็นผู้ชาย จะไม่คิดได้ที่ไหนกัน รู้ว่านี่เป็นกับดัก นึกถึงอารียาขึ้นมา ในสมองของเขาก็ได้สติขึ้นมาอย่างมากเลย
“อยู่ต่อเพื่อเป็นเพื่อนสาวน้อยที่ตายไปแล้ว ฉันไม่ยินยอมแน่นอน”
รพีพงษ์พูดตามความจริง ปีศาจหิมะระเบิดความโกรธที่เก็บมานาน ตัวเองเป็นหญิงสาวที่สวยขนาดนี้ อยู่ตรงหน้าของเขา ยั่วยวนหลอกล่อเขาไม่ได้เลย?
นี่เป็นการทำให้ปีศาจหิมะอัปยศอดสูเลย ปีศาจหิมะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน
เธอมองไปยังรพีพงษ์อย่างเยือกเย็น เกิดความสนใจต่อรพีพงษ์แล้ว พูดกล่าว : “คุณว่าคุณมาทำอะไรนะ ต้องการสิ่งมีค่าอะไรนะ?สิ่งของล้ำค่าในภูเขาแห่งนี้มีมากมาย”
รพีพงษ์รู้สึกตึงเครียดเล็กน้อยอย่างไม่มีเหตุผล พูดกล่าว : “ฉันมาเอาต้นคงจิต ฉันต้องช่วยเหลือลูกสาว”
แววตาของปีศาจหิมะมองไปยังบนภูเขาที่อยู่ไม่ไกล ขมวดคิ้วแน่น พูดถาม : “งั้นคุณก็น่าจะรู้ประโยชน์ของต้นคงจิตนั่น แต่ว่าคุณอย่ามองว่าฉันพูดคุยกับคุณอยู่ตรงนี้นะ สิ่งของบนภูเขาแห่งนี้ แม้แต่ฉันก็เอามาไม่ได้ มีสัตว์ประหลาดหิมะเฝ้าอยู่ คุณแน่ใจเหรอว่าคุณจะทำได้?”
“ไหนๆก็มาแล้ว ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้? ” รพีพงษ์มองไปยังสัตว์ประหลาดหิมะอย่างมีมารยาท ไม่อยากที่จะล่วงเกินเธอ
ในคำพูดของปีศาจหิมะตนนี้ รพีพงษ์ฟังออกว่าที่ต้นคงจิตนั่นยังมีสัตว์ประหลาดหิมะตัวอื่นๆอีก เมื่อเขานึกถึงต้นคงจิต และมองไปยังปีศาจหิมะที่อยู่ตรงหน้า น่าจะไม่มีใครที่เข้าใจสถานการณ์ของภูเขาหิมะซีหลิงไปได้ดีกว่าเธอแล้ว พูดถามปีศาจหิมะ : “ตอนนี้อายุการเจริญเติบโตของต้นคงจิตนั่น?