พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 1616 สิ่งของของตนเองก็ต้องเอากลับไปแน่
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 1616 สิ่งของของตนเองก็ต้องเอากลับไปแน่
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว เขาเคยเจอคนโอหังมาแล้ว แต่ไม่เคยใครอะไรโอหังแบบนี้มาก่อน มีใครต้องการแบบนี้ด้วยหรือนี่?
เห็นอสูรตัวนั้นอ้าแขนทั้งสองข้างออกมา แล้วยืนขึ้น ดูแล้วน่าตลกมาก ทำไปเพื่อให้รพีพงษ์เอากระบี่ไปแทงตัวมันเอง
รพีพงษ์ก็พูดอย่างเอือมระอาว่า “ข้าโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นใครร้องขอแบบเจ้าเลย ในเมื่อเจ้าต้องการ งั้นก็ข้าก็ไม่เกรงใจแล้วนะ”
รพีพงษ์ก็ถือกระบี่แทงเข้าไป อสูรตัวนั้นมั่นใจรพีพงษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเองแน่ กระบี่ในมือของรพีพงษ์ก็เป็นของปลอม คำพูดของรพีพงษ์เมื่อครู่นี้ ก็เพื่อข่มขู่ตนเองเท่านั้น
กระบี่เทพเล่มนั้นมีพลังมาก จะไปอยู่ในมือของรพีพงษ์ได้อย่างไรกัน
ตอนที่รพีพงษ์บุกเข้าไปนั้น กระบี่สยบเซียนก็เหมือนจะปล่อยพลังออกมา แล้วก็ลากตัวของรพีพงษ์ไปด้วย จากนั้นตำแหน่งหัวใจของอสูรก็เกิดเป็นรขึ้นมา
ปากของมันก็กระอักเลือดออกมา แล้วก็มองรพีพงษ์อย่างไม่เชื่อสายตนเอง พร้อมพูดว่า “มันเป็นไปได้อย่างไรกัน หรือว่านี่จะเป็นกระบี่สยบเซียนจริงๆ”
รพีพงษ์เห็นมันมีสีหน้าตกใจ แล้วก็พูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “ข้าก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่เจ้าร้องขอต้องการเอง จะมาโทษว่าข้าโหดเหี้ยมไม่ได้นะ”
รพีพงษ์พูดจบ ก็เอาดึงกระบี่กลับออกมา เลือดสดๆ ก็ไหลร่วงลงมาที่พื้น รพีพงษ์เตีรยมจะเดินออกไป อสูรตัวนั้นก็เรียกไว้ “จอมยุทธ ข้ามีตาแต่ไร้แวว เจ้าอย่าเพิ่งไป ช่วยชีวิตข้าก่อน ข้าบำเพ็ญเพียรจนกว่าจะได้ร่างมนุษย์แล้ว เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้นะ ข้าไม่อยากให้ความพยายามหลายพันปีมานี้ จะถูกทำลายลงในวันนี้”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ในเมื่อไม่อยาก แล้วทำไมไม่ทำตัวเป็นคนดีๆ ทำเรื่องดีๆ ล่ะ?
ตอนนี้ตนเองสามารถช่วยมันได้ แต่ว่าไม่มีอะไรที่ต้องทำฟรีๆ จะช่วยคนก็จะช่วยเปล่าๆ ไม่ได้ มันจะให้อะไรกับตนเองได้ล่ะ?
รพีพงษ์มองอสูรตัวนั้น แล้วถามว่า “ข้าช่วยเจ้าได้ ตอนนี้เจ้าไม่ตายหรอก แต่ข้ารับรองว่าสามารถทำให้เจ้าขยับไปไหนไม่ได้ พอข้าเดินออกไปไกลแล้ว ไม่นานก็จะมีสัตว์นักฆ่าตัวอื่นเข้ามา เจ้าก็ตายแน่ ใช่ไหมล่ะ?”
รพีพงษ์พูดถูกต้อง อสูรตัวนั้นก็พูดว่า “ขอเพียงเจ้าช่วยข้า เจ้าก็จะเป็นเจ้านายของข้า เจ้าบอกอะไรข้าก็จะทำตาม ข้าจะเป็นทาสของเจ้า เป็นสัตว์พาหนะของเจ้า เจ้ายังไม่มีสัตว์พาหนะใช่ไหมล่ะ?”
รพีพงษ์ก็มองอสูรตัวนั้นอีก แล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ถามไปว่า “เจ้าชื่อว่าอะไรล่ะ?”
“ข้าชื่อว่า กิเลน แต่ไม่รู้ว่าตนเองมีชีวิตนานเท่าไรแล้ว แต่ว่าเจ้าวางใจได้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าข้าดูถูกศัตรู ข้าก็ไม่มีทางถูกจ้าทำร้ายร่างกายได้หรอก” ตอนที่กิเลนพูดนั้น ก็ยังมีความหัวเสียอยู่นิดหน่อย
งั้นก็ต้องโทษว่ารพีพงษ์ยังหนุ่มเกินไป ทำให้มันไม่มีทางติดต่อกับกระบี่สยบเซียนได้
รพีพงษ์ก็หันหน้าหนี แล้วพูดว่า “เจ้าต้องการแบบนี้เองนะ จะมาโทษข้าไม่ได้นะ”
ขณะพูดก็เดินมาข้างๆ อสูร จะฝึกวิชามันก็ไม่ง่าย ยิ่งกว่านั้นยังฝึกมาแล้วหลายพันปี จะช่วยรักษามันไปก็เป็นเรื่องง่ายๆ เท่านั้น มันบอกว่าจะมาเป็นสัตว์พาหนะให้ตนเอง ได้อสูรเทพมาฟรีๆ ตัวหนึ่ง ก็ดีใจเหมือนกัน
รพีพงษ์ขึ้นไปบนตัวมัน แล้วอสูรก็ถามว่า “เจ้าจะช่วยข้าใช่ไหม?”
“ข้าไม่ได้มาช่วยเจ้าหรอก ข้ามาช่วยสัตว์พาหนะของข้า ข้าไม่อยากจะช่วยเจ้าหรอก”
ขณะพูด รพีพงษ์ก็กลั่นยาเม็ดออกมา แล้วเอายาเม็ดระดับเทพเซียนให้กิเลนกินลงไป ยานี้สามารถฟื้นพลังและรักษาแผลได้ ภายในไม่กี่วินาที กิเลนรู้สึกได้ว่าพลังทิพย์ในตัวได้ฟื้นกลับมาแล้ว จากนั้นก็ยิ่งนับถือรพีพงษ์มากขึ้น
ในสายตามัน เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งไม่น่าจะเก่งแบบนี้
รพีพงษ์ลุกขึ้น แล้วพูดกับกิเลนว่า “เจ้าลองลุกขึ้นดู ดูสิว่าผลลัพธ์เป็นไงบ้าง”
กิเลนลุกขึ้น รู้สึกว่าตัวเบาขึ้น แล้วก็ล้มตัวลงไปเป็นปกติ พร้อมพูดว่า “เจ้านาย ต่อไปนี้ข้าก็จะเป็นสัตว์พาหนะของท่าน ท่านขึ้นมาเลยเถอะ”
รพีพงษ์ก็ขึ้นไปโดยไม่ลังเล ถ้าเขาไม่ขึ้นไป เจ้าสัตว์ตัวนี้ก็จะคิดว่าตนเองไม่มีประโยชน์ที่จะใช้งาน ความจริงใจของกิเลน ตนเองปล่อยไปเสียเปล่าไม่ได้
ยิ่งกว่านั้นสัตว์พาหนะของรพีพงษ์ รพีพงษ์จะไม่มีทางเมินเฉยละเลยมันเด็ดขาด
รพีพงษ์นั่งบนหลังของกิเลน หนังนิ่มๆ กิเลนเดินก็นิ่ง รู้สึกสบายมาก
ผลินอยู่อีกฝั่ง ก็รีบเข้ามาหา เห็นว่ากิเลนยังมีชีวิตอยู่ดี ก็ตะโกนเรียกรพีพงษ์
เพราะว่าเห็นแค่กิเลนกำลังเดินเข้ามาหาตนเองทีละก้าว โดยไม่เห็นว่ามีรพีพงษ์อยู่ด้วย ผลินก็เลยนึกว่าถ้ารพีพงษ์ไม่ตาย กิเลนก็คงไม่โผล่ออกมาแบบนี้
เธอตะโกนลั่น “รพีพงษ์ คุณอยู่ที่ไหน คุณถูกฆ่าไปแล้วหรือเปล่า?”
ตอนนี้ไม่รู้สึกกลัวกิเลนแม้แต่น้อย เพราะในหัวมีแต่รพีพงษ์ พอไม่เห็นตัวของรพีพงษ์ เธอก็ไม่สู้ตายไปเลยเสียยังดีกว่า
พอได้ยินเสียงของผลิน พวกของนันท์ธรก็รีบตามเข้ามา พอเห็นกิเลนตัวใหญ่ยักษ์ ในใจก็รู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว รพีพงษ์จะต้องเกิดเรื่องแน่เลย
รพีพงษ์นอนเอนหลังอยู่บนหลังของกิเลน หลังของมันกว้างมาก ไม่เพียงนั่งได้เท่านั้น นอนยังได้เลย ถ้าหนูลินดีขึ้นแล้ว ก็จะพากิเลนไปยังโลกมนูษย์ด้วย เอาไปเป็นสัตว์เลี้ยงของหนูลิน
ในใจกำลังคิดอย่างเคลิบเคลิ้ม แต่ถูกเสียงของผลินมาขัดจังหวะ แล้วก็รู้ว่าผลินเสียงดังไปจริงๆ
รพีพงษ์รู้ว่าผลินเป็นห่วงตนเอง แต่ก็ไม่ต้องเกินไปแบบนี้ก็ได้ ที่นี้ล่ะดี เรียกเอาพวกของนันท์ธรมาด้วย รพีพงษ์ก็ลุกขึ้นอย่างเอือมระอา
กิเลนโมโหเล็กน้อย หายใจทีหนึ่งก็พัดเอาใบไม้ปลิวไปทั่ว แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ยัยผู้หญิงคนนี้พูดเบาๆ หน่อยได้ไหม เล่นเอาเจ้านายข้าตื่นหมดแล้ว”
ผลินก็ผงะ แล้วก็ได้ยินเสียงของรพีพงษ์ดังเข้ามา ก็ถามนันท์ธรว่า “ผู้อาวุโส นี่คือสัตว์พาหนะของผม คุณว่าเป็นไงบ้าง?”
นันท์ธรก็ตกใจกับคำถามนั้น นึกว่ารพีพงษ์จะเป็นอะไรไปเสียแล้ว ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเล่นสัตว์ตัวนี้จนเชื่องได้ เขาไม่เคยยอมใคร แต่ยอมรพีพงษ์คนเดียว
ทุกคนก็มองรพีพงษ์อย่างอิจฉา กิเลนตัวนี้ดูไปแล้วน่ากลัว แต่พออยู่ต่อหน้าของรพีพงษ์ ก็เหมือนกับสุนัขตัวหนึ่งที่รพีพงษ์เลี้ยงไว้ ยอมฟังคำสั่งแต่โดยดี
ผลินตกใจจนพูดอะไรไม่ออก รพีพงษ์ทำได้อย่างไรกัน? เมื่อครู่ยังเห็นอยู่เลยว่า เจ้าสัตว์ตัวนี้กำลังจะเข้ามาทำร้ายตนเอง แต่ไม่นานก็ได้กลายเป็นสัตว์ของรพีพงษ์ไปเสียอย่างนั้น
ผลินหายใจเข้าอยางลึก แล้วพูดกับรพีพงษ์ว่า “คุณคงไม่เอาเจ้านี่กลับไปที่เมืองแฟรี่ด้วหรอกนะ?”
“ทำไมล่ะ ทำไมจะไม่ได้?” รพีพงษ์รู้สึกว่า ทุกอย่างมันเหมาะสมดี ที่เทวโลกก็เหมือนกันที่โลกมนุษย์ ทุกคนล้วนมีความรู้อะไรมากมาย คงไม่ตกใจกลัวกับแค่อสูรเทพตัวเดียวหรอกมั้ง
ผลินเห็นว่ากิเลนมีรูปร่างน่ากลัว ก็เลยกลัวๆ แล้วพูดว่า “ฉันคิดว่ามันไม่เหมาะ”
ทุกคนต่างก็อิจฉารพีพงษ์ แต่พอได้ยินว่ารพีพงษ์จะเอาเจ้านี่กลับไปด้วย ลองนึกดูถึงแม้จะน่าสนุก แต่ก็มีคนไม่น้อยออกมาว่ารพีพงษ์ กิเลนได้ยินแล้วก็ไม่ค่อยจะสบายใจนัก
รพีพงษ์พูดอย่างไม่สนใจว่า “ของของผม ผมจะต้องเอากลับไปอยู่แล้ว เอาในป่ารกแบบนี้ ไม่แน่วันไหนลืมเจ้านายคนนี้ล่ะจะแย่ ใช่ไหมล่ะ?”
พูดออกมาดังนั้น ก็ไม่มีเคยคัดค้าน รพีพงษ์นั้นเก่งจริง แล้วก็กลับมายังกองทัพที่ล้อมพวกของเดชาเอาไว้ รพีพงษ์นอนเอนหลังบนหลังของกิเลน แล้วถามกิเลนว่า “พวกที่ไปแย่งถ้ำของเจ้า มันมีพลังแค่ไหน พวกมันฟื้นพลังมาได้หรือยัง?”
“พลังก็ไม่เท่าไร ไม่ได้มีคนเก่งอะไร ก็ธรรมดาๆ แต่ว่าข้านั้นขี้กลัว นายท่าน พวกมันแย่งถ้ำของข้าไป ข้าจะไปแก้แค้น นายท่านช่วยข้าได้ไหม?”
กิเลนร้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะถ้ำนั้นอยู่มาหลายปีแล้ว….