พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 23
บทที่ 23 คงพอให้คุณได้ตายสักร้อยครั้ง
รพีพงษ์ และ อารียา ไปถึงร้านอาหารที่ธายุกร จองไว้ด้วยกัน พอเดินเข้าไปก็เจอเข้ากับ ธายุกร ที่นั่งอยู่ตรงนั้นพอดี
ทั่วร้านอาหารมีเพียง ธายุกร นั่งอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น อารียา จึงคิดว่าเขาคงจะจองร้านอาหารเอาไว้ทั้งหมดแล้ว เป็นแน่ ถึงอย่างไร ธายุกร ก็เป็นคนร่ำรวยคนหนึ่งเรื่องแค่นี้ มีหรือที่จะทำไม่ได้
พอคิดได้ดังนี้เธอก็รู้สึกว่า ธายุกร ยังดูมีความจริงใจอยู่
บ้าง
ทั้งสองคนเดินไปพร้อมกันจนถึง ธายุกร พอ ธายุกร เห็น
ว่า รพีพงษ์ กำลังเดินตามมาด้วย เขาก็ลุกขึ้นยิ้มทันที ” อ้าว of ขยะไร้ประโยชน์อย่าง รพีพงษ์ ก็มาด้วยเหรอ แต่ว่าวันนี้ฉัน จะเลี้ยงข้าว อารียา นะ คงจะไม่มีข้าวให้แกกินหรอก ”
ฉันคิดไว้อยู่แล้วล่ะ ก็เลยซื้อ แป้งทอดใส่ไข่ ระหว่างทา งมาแล้ว ” รพีพงษ์ ตอบกลับไป
ธายุกรอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา โดยคิดว่ารพีพงษ์ นี่มันไร้ค่าจริง ๆ เดาถูกว่าคงไม่มีอาหารสำหรับตัว เองก็เลยซื้อ แป้งทอดใส่ไข่ มากิน
เขาเกร็งว่าถ้าพูดเรื่องนี้ออกไปคงได้กลายเป็นเรื่องตลก ไปทั่วเมืองริเวอร์ เป็นแน่
อารียา ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนแรกเธอนึกว่า ธายุกรกำลัง เตรียมตัวจะมาขอโทษเธอ และท่าทางของเขาที่มีต่อ รพีพงษ์ อาจจะดีขึ้นบ้าง แต่เธอไม่ได้คิดว่าเขายังจะดูไม่เห็นหัวกัน เหมือนเดิมเช่นนี้
เธอนั่งลงตรงข้ามกับ ธายุกร แล้วจึงพูดกับ รพีพงษ์ ว่า คุณเองก็นั่งลงเถอะ จึงรีบขัดขึ้นมาทันที่ว่า ” ขอโทษทีนะ เมื่อสักครู่นี้ ”
ธายุกร
ฉันก็บอกไปแล้วว่าฉันเชิญเธอมาทานอาหารกับฉัน และมัน ก็ไม่มีส่วนของเขา แม้แต่ที่นั่งก็ให้เขานั่งไม่ได้ ”
พอพูดจบเขาก็กวักมือเรียกพนักงานที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลให้ เข้ามาแล้วบอกว่า ” ย้ายเก้าอี้ตรงนี้ออกไปให้หมด ”
พนักงานสองคนรีบเดินเข้ามาและย้ายเก้าอี้ออกไปทันที
จู่ ๆ อารียาก็โมโหขึ้นมากะทันหัน เธอรู้สึกว่าที่ ธายุกรให้ เธอมาหาเขาในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เพื่อเป็นการขอโทษ แล้ว แต่เหมือนกับกำลังหาเรื่องเดือดร้อนให้เธอมากกว่า
ธายุกร คุณไม่คิดว่านี่มันเกินไปหน่อยเหรอ ? ” อารียา ถามขึ้น
เกินไป ? กับไอ้ขยะนี่น่ะเหรอ ฉันไม่ไล่มันออกไปตรง ๆ ก็ดีแค่ไหนแล้ว อีกอย่างเธอก็รู้จักชื่อเสียงของมันในเมืองริ เวอร์ ดีนี่ ที่มันมีวันนี้ก็เพราะตัวมันไม่ได้เรื่องเองทั้งนั้น จะ ไปโทษใครที่ไหนได้ ” ธายุกร พูดขึ้นมาอย่างไม่แยแส
ถึงแม้ อารียา จะโมโหมากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่มีวิธีจะกู้ หน้าให้ รพีพงษ์ คืนได้
” ไม่เป็นไรหรอก ผมยืนเอาก็ได้ ” รพีพงษ์ พูดขึ้น 11
ธายุกร เบะปากเล็กน้อย คิดในใจว่าขยะยังไงก็คือขยะอยู่ ดี ถูกกระทำขนาดนี้ขัดสักคำก็ยังไม่กล้าพูดเลย
หลังจากที่พนักงานสองคนนั้นย้ายเก้าอี้ออกไปแล้ว ก็แอบ เหลือบมองไปทางด้านนั้นเล็กน้อยหนึ่งในนั้นพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ว่า ” ผู้ชายคนนั้นน่าสงสารจริง ๆ เลยเนอะ ขนาดที่จะนั่งยังไม่มีเลย”
นี่นายไม่รู้เหรอ ผู้ชายคนนั้นคือ รพีพงษ์ เขาได้ชื่อว่าเป็น ขยะแห่งเมืองริเวอร์ เชียวนะ เขาน่ะแต่งงานเข้าบ้านผู้หญิง สถานะในบ้านนี่แทบจะไม่มีที่ยืนเลย ถือว่าเป็นผู้ชายที่เกาะผู้ หญิงกินคนหนึ่งเลยล่ะ แค่พาเขาออกมาด้วยก็คงถือว่าให้ เกียรติเขาเกินพอแล้วละมั้ง
11 ใช่เหรอ ? นั่นคือ รพีพงษ์ เหรอ อย่างนั้นแบบนี้ก็ไม่มี อะไรให้น่าเห็นใจแล้วล่ะ ไม่ว่ายังไงก็ตามต่อให้ฉันต้อง ตกต่ำขนาดไหน ฉันก็ไม่คิดที่จะไปเกาะผู้หญิงกินเด็ดขาด
ธายุกร ไม่ได้สนใจ รพีพงษ์ ต่อ เขากลับยกเหล้ามารินให้ อารียา แทน ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า ” พี่สาว เรามาคุยเรื่องวัน นี้ของเราดีกว่า ”
เรื่องงานนิทรรศการวัตถุโบราณน่ะฉันคิดมาสักพักแล้ว และก็เข้าใจแล้วว่าเดิมที่พวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากวุ่นวายมากกว่า
เดิมดังนั้นวันนี้ฉันก็เลยตั้งใจจะมาขอโทษคุณเป็นพิเศษ ”
เรามาดื่มเหล้าแก้วนี้ให้หมด แล้วจากนั้นก็จงลืมความ บาดหมางทั้งหมดที่เคยมีมา นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผม จะไม่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้คุณอีกแล้ว ”
ธายุกร พูดขึ้นขณะที่ถือแก้วเหล้าอยู่ หลังจากนั้นก็แสดง ท่าทางเป็นการเชิญชวน
แม้ว่า อารียา จะไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เล็ก น้อย แต่เธอก็คิดว่ายังไงวันนี้เธอก็มาที่นี่เพื่อมาคืนดีกับ ธา ยุกร เธอจะต้องไม่ทำให้ความสัมพันธ์นี้มันแย่ลงไปกว่าเดิม บ ะ อีก คิดได้ดังนั้นเธอจึงหยิบแก้วเหล้าที่ ธายุกรรินให้ขึ้นมา
ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็ฉันก็ขอชนแก้วเลยแล้วกันนะ ” อารียา กำลังจะดื่มเหล้าทั้งหมดที่มีอยู่ในแก้วแล้ว
ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ ก็ยืนมือเข้ามาลดแก้วในมือ อารียา
ลง
อารียา มองไปที่ รพีพงษ์ อย่างสงสัยก่อนจะถามขึ้นว่า ” มีอะไรเหรอ ? ”
%3D เขาใส่ของบางอย่างลงไปในเหล้าแก้วนี้ ” รพีพงษ์ ขึ้นมา พูด
อารียา หน้าถอดสี เธอรีบวางแก้วเหล้าลงทันที
สายตาของ ธายุกร กำลังจ้องไปที่แก้วเหล้าชนิดพิเศษ ของ อารียา แผนการของเขานั้นกำลังเข้าใกล้ความสำเร็จ เต็มที่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ รพีพงษ์ จะเข้ามาขัดขาเขาได้
อีกอย่าง รพีพงษ์ ยังรู้อีกว่ามีบางอย่างอยู่ในแก้วเหล้า ด้วยซึ่งมันก็ทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก
แกกำลังพูดเรื่องอะไรของแก ฉันเพิ่งจะซื้อเหล้าขวดนี้ มาเองฉันจะใส่อะไรลงไปได้ยังไง แกมาที่นี่เพื่อมาสร้าง ปัญหาสินะ ฉันคิดว่าแกคงไม่ต้องการให้ฉันคืนดีกับ อารียา ละสิ! ”
ะ ใบหน้าของ ธายุกร เต็มไปด้วยความร้อนรน หลังจากนั้น เขาก็ยื่นแก้วเหล้าให้ อารียา ใหม่อีกครั้ง
II คุณอย่าไปฟังที่ไอ้โง่นี่พูดเลย แค่พวกเราดื่มเหล้าแก้วนี้จนหมด ความบาดหมางของเราที่ผ่านมาจะ ถือว่าหมดไป ”
รพีพงษ์ ยิ่งเห็นท่าทางร้อนรนของ ธายุกร เขาก็ยิ่งมั่นใจ ว่าในแก้วนี้ต้องใส่ของบางอย่างเอาไว้เป็นแน่ หลังจากนั้น บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเย็นชาขึ้น
เขาเอาเหล้าแก้วนั้นขึ้นไปถือก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ชาว่า ” ในเมื่อในเหล้าแก้วนี้ไม่ได้ใส่อะไรลงไป อย่างนั้นก็ เอาแก้วของคุณมาแลกกันสิ ”
ธายุกร เป็นกังวลขึ้นมาทันที เพราะแก้วที่เขาใส่เหล้าให้ อารียา ไปนั้นผสมยาขนาดรุนแรงอยู่ ถ้าต้องเปลี่ยนแก้วจริง ๆ ละก็ คืนนี้ร่างกายของเขาคงจะรับไม่ไหวแน่ ๆ
สมองแกมีปัญหารึไง ? รีบออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้ เลยนะ ถ้ารู้ว่าแกจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะให้คนมาลากคอแก ออกไปตั้งแต่แรก ” ธายุกร พูดขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่ รพีพงษ์
พอ อารียา เห็นท่าทางของ ธายุกร เป็นเช่นนั้น ในใจเธอ ก็เริ่มเกิดระแวงขึ้นมาบ้าง ทำให้เธอไม่กล้าที่จะดื่มเหล้าแก้ วนั้นเข้าไปอีก
11 ธายุกร คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ ? ” อารียา จ้อง ไปที่ ธายุกร แล้วเอ่ยถามขึ้น
ก็อยากจะคืนดีกับคุณไง ” ธายุกร ตอบ
เหอะ แต่ที่ฉันเห็นมันก็เหมือนหมาตัวเดิมที่ยังกินขี้กอง เดิมนั่นแหละ รพีพงษ์ เราไปกันเถอะ !”
อารียา ลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินออกไปพร้อมกับ รพีพงษ์ ” ถ้าหากวันนี้คุณไม่ดื่มเหล้าแก้วนี้ ก็อย่าคิดนะว่าจะออก ไปจากที่นี่ได้ง่าย ๆ ”
ขณะนั้นเองเสียงหยอกล้อเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ตามด้วยกลุ่ม คนจำนวนมากที่บุกเข้ามาในร้านอาหาร และตรงเข้ามาล้อม รพีพงษ์ และ อารียา ไว้
เมื่อ ธายุกร เห็นเช่นนั้น เขาก็ขยิบตาให้อินทัชเป็นนัยว่า เขาจะออกไปจากร้านอาหารแห่งนี้ เพราะถึงอย่างไร อารียา ก็เป็นหนึ่งในตระกูลฉัตรมงคล สถานการณ์แบบนี้ดูจะไม่ ค่อยเหมาะสมสักเท่าไร อีกอย่างเขาก็เชื่อในฝีมือของอินทัช เขาเชื่อว่าร่างกายอันบริสุทธิ์ของ อารียาจะหายไปในวันพรุ่ง นี้แน่
อารียา ตกใจเป็นอย่างมาก เธอไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกา รณ์แบบนี้ขึ้น เธอจึงเคลื่อนตัวเข้าหา รพีพงษ์ อย่างไม่รู้ตัว
คุณ..คุณคืออินทัช นี่ ! ” อารียา เธอจำชายร่างใหญ่ที่ กำลังเดินเข้ามาหาเธอได้ ก่อนจะอุทานขึ้นมาอย่างประหลา ดใจ
ฉันไม่คิดว่าเธอจะตาดีนะเนี่ย จำฉันได้ด้วย “อินทัช พูดพร้อมกับยิ้มขึ้น
คุณ..คุณเอาคนพวกนั้นเข้ามาขวางพวกฉันไว้ทำไม คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ” อารียา รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที
ทำอะไรล่ะ ? ก็จัดการเธอไง หรือเธอคิดว่าหลังจากที่ลูก น้องฉันโดนหักนิ้วแล้ว เรื่องมันจะผ่านไปง่าย ๆ อย่างนั้นเห รอ “อินทัช หัวเราะเยาะขึ้นมาเบา ๆ
หัวใจของ อารียา กระตุกไปชั่วขณะ ในตอนนี้เองเธอพึ่ง จะเข้าใจ ธายุกร ร่วมมือกับอินทัช เพื่อล่อให้เธอมาติดกับ
” ล้างปากของคุณให้สะอาดบ้างนะ ” รพีพงษ์ เหลือบ มองอินทัช ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จนถึงตอนนี้ อินทัชพึ่งจะหันไปมอง รพีพงษ์เขาเบะ ปากเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า ” คุณคือ รพีพงษ์ใช่ไหม ? ผมได้ยิน ชื่อเสียงของคุณในฐานะขยะไร้ประโยชน์มาก็ไม่น้อย ผม ขอถามคุณหน่อยสิว่าน้องชายนะของคุณถูกตัดกลายเป็นขัน ที่ไปแล้วรึยัง ? แต่งงานกับ อารียามาตั้งนานเคยได้สัมผัส เธอมาก่อนบ้างรึเปล่า ? ”
คนทั้งหมดพากันหัวเราะขึ้นมาอย่างยกใหญ่
พนักงานสองคนที่อยู่ห่างออกไปกำลังแอบดูสถานกา รณ์อยู่เงียบ ๆ เมื่อพวกเขาเห็นว่า รพีพงษ์กล้าที่จะต่อปากต่อ คำกับอินทัชสีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นเหยียดหยามขึ้น มาทันที
ส่ น สมองของ รพีพงษ์ นี่มันไม่มีรอยหยักบ้างรึไง นี่เขาไม่รู้ ถึงสถานะของอินทัช ในเมืองริเวอร์ เหรอ ถึงกล้าบอกให้อิน ทัช ไปล้างปากให้สะอาดบ้าง เป็นคนที่ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ จริง ๆ ”
คนคนนี้ทั้งไร้ค่าทั้งไม่มีสมอง ดูเหมือนว่าวันนี้เขาคงหนี ไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ ผู้หญิงสวย ๆ อย่าง อารียา คงต้อ งมาโดนทำร้ายไปด้วยเพราะความโง่ของเขาทั้งนั้น ”
อารียา มองไปที่อินทัช ด้วยใบหน้าซีดเผือด เธอรู้ว่า สถานะของเขาคือหนึ่งในสามของราชาโลกมืดในเมืองริเว อร์ ถ้าหากถูกเขาจับตาดูอยู่ละก็ ถ้าคิดจะหนีคงเป็นเรื่องยาก
“อินทัช เรื่องคราวก่อนคนของคุณเป็นฝ่ายทำผิดกฎ พวก เขาต้องได้รับโทษนั่นมันก็สมควรแล้ว และถ้าหากว่าวันนี้คุณ กล้าที่จะลงมือกับฉันละก็ตระกูลฉัตรมงคล ไม่ปล่อยคุณไว้ แน่ ” ในตอนนี้อารียา ยังไม่รู้ว่าเธอมีความผิดอะไร เธอจึง ทำได้เพียงเอาชื่อตระกูลฉัตรมงคล ขึ้นมาเพื่อปรามอินทัช ไว้เท่านั้น
” ตระกูลฉัตรมงคล ? แต่ไหนแต่ไรมาฉันก็ไม่เคยเอาตระ กูลฉัตรมงคล มาไว้ในสายตาอยู่แล้วนะ ต่อให้ไอ้แก่ นภทีป์ จะมาที่นี่ด้วยตัวเอง ยังไงวันนี้ฉันก็จะจัดการกับเธอให้ได้ ! “อินทัช พูดขึ้น
” คุณ ! ” ใบหน้าของ อารียา เต็มไปด้วยความร้อนรน
” นิ้วของลูกน้องฉันจะต้องไม่หักไปอย่างเสียเปล่าแน่ เธอทำร้ายคนของฉันแล้วยังจะทำตัวสบายใจอยู่ได้ นี่มันชัก จะข้ามหน้าข้ามตากันเกินไปแล้วล่ะ ”
คุณ..ถ้าคุณปล่อยฉันไปฉันจะชดใช้เงินให้คุณ ขอแค่ คุณอย่าแตะต้องฉัน ฉันจะให้ที่บ้านเอาเงินมาให้ฉันตอนนี้ เลย ” อารียา เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย เธอเริ่มใช้วิธีการ ขอร้องอินทัช แทน
” ชดใช้ด้วยเงินอย่างนั้นเหรอ ? อย่างนั้นวันที่เธอเงาเงิน 50 ล้านมาให้ฉัน แล้วฉันจะไม่มาวุ่นวายกับเธออีก “อินทัช พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
อารียาหมดหวังไปชั่วขณะ เงินห้าสิบล้านแม้แต่ตระกูล ฉัตรมงคล เองก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เงินจำนวนมากขนาดนั้น ในคราวเดียวแล้วนับประสาอะไรกับเธอ
ะ
แต่ถ้าเธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น เธอก็แค่ดื่มเหล้าแก้ วนี้ให้หมดแล้วมานอนกับฉันสักคืน เรื่องนี้ก็ถือว่าจบได้เช่น กัน ”
รพีพงษ์ ก้าวขึ้นมาข้างหน้า หลังจากนั้นก็ดัน อารียา ไปไว้ ข้างหลังเพื่อเป็นการปกป้องเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ชาว่า ” ผมว่าคุณควรกลับไปเกิดใหม่ได้แล้วนะ ทุกคำที่คุณ พูดออกมาเมื่อครู่นี้คงพอให้คุณตายไปสักร้อยครั้งได้แล้ว ”
อินทัช เห็น รพีพงษ์ แทรกขึ้นมาอีกรอบ เขาก็อดรำ คาญไม่ได้ จึงตะคอกกลับไปว่า ” ที่นี่ไม่ไม่ใช่ที่ที่ให้คนไร้ค่า อย่างแกมาพูดจาไร้สาระหรอกนะ ฉันไม่ใช่แค่จะจัดการผู้ หญิงของแกเท่านั้นแต่ฉันจะทำต่อหน้าแกด้วย ขยะไร้ค่า อย่างแกคงชอบสินะที่ให้คนอื่นสวมเขาให้นะ ”
” ไปตายซะ ! ” รพีพงษ์ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เสียเรื่อง แต่ เขาแค่อยากจะสั่งสอนอินทัช สักหน่อย
อารียา เห็นดังนั้นเธอจึงรีบคว้าแขนของเขาเอาไว้ ” รพี
พงษ์ อย่าพึ่งลงไม้ลงมือเลย เขาคืออินทัช นะเราสู้เขาไม่ไหว
หรอก ถ้ามันจำเป็นจริง ๆ ละก็ ฉัน..”
11 ผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด ” รพีพงษ์ พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
” ไอ้บ้าเอ๊ย ยังจะกล้ามาคุยโวตรงนี้อีกเหรอ ? พี่น้องทั้ง รองท้อง หลายจับพวกมันสองคนไว้ ถ้าฉันได้เล่นกับพวกมันจนพอ ใจแล้วพวกนายทุกคนต้องได้ส่วนแบ่งแน่ ๆ ! “อินทัช ตะคอกขึ้นมาอีกครั้ง
ทันใดนั้นกลุ่มคนทั้งหมดก็พากันแตกตื่น รวมตัวกันเข้า ไปจับ รพีพงษ์ และ อารียา อย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าของคนชุดดำจากด้าน นอกร้านอาหารวิ่งเข้ามาในร้านอาหารอย่างรวดเร็ว พร้อม กับตรงเข้าไปป้องกัน รพีพงษ์ และ อารียา ทันที
อินทัช และลูกน้องของเขาก็ถูกล้อมไว้ด้วยเช่นกัน