พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 231 ชนะนายไม่ใช่ปัญหา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 231 ชนะนายไม่ใช่ปัญหา
บทที่ 231 ชนะนายไม่ใช่ปัญหา
ญาดาเดินมาอยู่ตรงหน้าญาธิป แล้วทักทายเขา ญาธิป พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ยิ้มแล้วพูดว่า : “ญาดา เธอนี่ยิ่งอยู่ก็ ยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะ”
“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะท่านอาจารย์ญาธิป” ญาดากล่า วอย่างถ่อมตน
“ญาดา ไม่รู้ว่าเธอจะยอมเป็นแฟนของลูกศิษย์อาจารย์หรือ เปล่า เขาก็ถือได้ว่าหน้าตาดี น่าจะเหมาะสมเพียงพอสำหรับ เธอแล้วนะ” ญาธิปกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“เพียงแค่เขาเอาชนะฉันได้ เป็นแฟนเขาก็ไม่ใช่ปัญหา”ญา
ดากล่าว
นวัสสัยเงยหน้าขึ้นทันที และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ถ้าอย่าง นั้นนวันนี้ฉันก็จะสละโสดแล้วสินะ” มีเสียงหัวเราะจากผู้คนรอบข้าง ใบหน้าของญาดาก็ยังนิ่ง
สงบ แล้วพูด: “ฉันยอมรับแค่คนที่มีความสามารถเท่านั้น มี
ความสามารถถึงจะทำให้ฉันยอมรับได้ อย่าเพิ่งดีใจไปก่อน
เลย วันนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะก็ยังไม่แน่”
ผู้ๆ
นวัสสัยกระตุกยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าความสามารถในการ เล่นหมากรุกของญาดานั้นก็ไม่เลว แต่ฝีมือระดับเขาแล้ว อยากจะเอาชนะญาดาคงไม่ยากอะไร
“นั่นไม่ใช่รพีพงษ์เหรอ ทำไมเขาถึงมาได้ล่ะ!”ในขณะ เดียวกัน ก็มีคนตะโกนขึ้นมา
ทุกคนก็หันหัวไป แล้วมองหาตัวรพีพงษ์ ในไม่ช้า สายตา ของทุกคนก็ไปตกอยู่ที่รพีพงษ์
“เขาไม่ใช่ว่าถูกขับไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์แล้วเหรอ ทำไมถึงกลับมาอีกแล้วล่ะ?”
“เศษสวะอย่างเขาที่ถูกไล่ออกจากตระกูลไปยังมีหน้ากลับ มาอีกเหรอ ฉันได้ยินมาว่าคุณหนูตระกูลลัดดาวัลย์ตอนยัง เด็กๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับรพีพงษ์ ไม่ใช่ว่าเขาได้ยิน มาว่าวันนี้ท่านอาจารย์ญาธิปจะมาพูดถึงเรื่องแต่งงานกับคุณ หนูตระกูลลัดดาวัลย์ ดังนั้นเลยกลับมาเพื่อที่จะแย่ง แต่งงาน”
“เลิกพูดมากสักที เขาก็เป็นเพียงลูกชายที่ถูกทอดทิ้ง ยัง มีหน้าอะไรที่จะกลับที่มาแย่งแต่งงาน นอกจากนี้ ในยุค ปัจจุบันการแต่งงานระหว่างญาติสนิทก็เป็นสิ่งต้องห้าม แม้ว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะเป็นตระกูลใหญ่ แต่ก็คงจะไม่ทำ เรื่องเช่นนี้”
“พูดเช่นนี้ แต่ใครจะสามารถที่จะห้ามความรู้สึกที่ปลูกฝัง กันมาได้ล่ะ ที่สำคัญพวกเขาก็ไม่ได้ถือว่าใกล้ชิดกันขนาด นั้น คุณหนูตระกูลลัดดาวัลย์เป็นลูกของน้องชายภรรยาคุณ ท่านของตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ใช่เหรอ”
…
ทุกคนพูดคุยกันมากมาย การปรากฏตัวของรพีพงษ์ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับที่วันนี้ญาธิปมาพูดถึงเรื่องการ แต่งงาน
ญาธิปและนวัสสัยทั้งสองได้ยินการพูดคุยของทุกคน สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมา เป้าหมายที่สำคัญของพวกเขาวัน นี้ คืออยากจะเคลียร์เรื่องแต่งงานกับญาดาให้เรียบร้อย ตอนนี้ทุกคนพูดว่าที่รพีพงษ์มาคือเพื่อก่อกวน พวกเขาก็ต้อง รู้สึกไม่พอใจเป็นธรรมดา
ญาธิปหันไปมองรพีพงษ์ แล้วพูดยังเย็นชา: “ก็แค่ลูกชายที่ ตระกูลทอดทิ้งเอง มีสิทธิ์อะไรมาแย่งกับลูกศิษย์ของฉัน” นวัสสัยเหลือบมองไปที่รพีพงษ์ แววตาแสดงถึงความเป็น
ศัตรู
เขากลอกตาไปมา แล้วหันไปมองญาดา แล้วพูด: “ญาดา เธอน่าจะรู้ดี วันนี้ที่อาจารย์ฉันพาฉันมาแข่งกับเธอ จุด ประสงค์หลัก ก็คือมาพูดเรื่องแต่งงานกับเธอ แยกเรื่องการ แข่งแพ้ชนะไว้ก่อน อย่างน้อยก็ควรสะสางเรื่องส่วนตัวของ ตัวเธอเองให้เสร็จก่อน อีกหน่อยฉันก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่า แย่งเธอมาจากมือของไอ้เศษสวะนี้”
สีหน้าของญาดาก็เปลี่ยนไป แล้วก็พูดอย่างเย็นชา: “นาย พูดจาเหลวไหลอะไร ฉันและรพีพงษ์ไม่ได้มีความสัมพันธ์ อะไรกัน”
“เธอกับเขามีความสัมพันธ์อะไรกันฉันไม่รู้ ฉันรู้เพียงแค่ว่า ทุกคนเขาพูดกันแบบนี้ “นวัสสัยกล่าว
เสียงของผู้คนรอบข้างก็ดังขึ้น
สีหน้าของญาดาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที เธอหันไปมอง รพีพงษ์อย่างไม่พอใจ คิดในใจหากวันนี้รพีพงษ์ไม่ปรากฏตัว ทุกคนก็ไม่พูดจากันแบบนี้
ไอ้หมอนี่ หรือว่าจะมาก่อกวนตัวเองจริงๆ? “รพีพงษ์ นายออกไปเถอะ ที่นี่ไม่ยินดีต้อนรับนาย”ญาดา
กล่าว
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “ขอโทษด้วยนะ เพียงแต่วันนี้ฉันได้ยิน มาว่าที่นี่มาการแข่งขันหมากล้อม พอดีว่าฉันก็สนใจอยาก เรียนรู้เรื่องหมากล้อมอยู่เช่นกัน ดังนั้นจึงมาที่นี่ ไม่รู้ว่าพวก เขาต้องการแข่งขันกับเธอเพื่อต้องการขอแต่งงานด้วย”
“ฉันขอรับได้ว่า ฉันเพียงแค่มาดูการแข่งขัน ไม่ก่อกวน
อย่างแน่นอน”
นวัสสัยก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที แล้วพูดว่า: “คิดไม่ ถึงว่านายจะสนใจหมากล้อมด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้ฝีมือของนาย อยู่ระดับไหนแล้ว?”
“หึ น่าจะชนะนายได้ไม่ใช่ปัญหา “รพีพงษ์ตอบไปอย่าง
ตรงๆ
ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ออกไป ทุกคนให้ห้องก็เกิดโกลาหลขึ้น ทุกคนคิดว่าเป็นการท้าทายของรพีพงษ์
แน่นอนว่า ดูจากมุมมองของรพีพงษ์แล้ว เขาพูดแบบนี้ก็ไม่ แปลกอะไร ที่สำคัญนี้่ยังถือว่าเขาถ่อมตัวด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้น เขาก็บอกว่าชนะญาธิปได้ไม่ใช่ปัญหา
หลังจากที่นวัสสัยได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ สีหน้าก็เย็นชา ขึ้นมาทันที แล้วพูดอย่างเย็นชา : “แกหมายความว่าไง? นี่แก จะแย่งญาดากับฉันจริงเหรอ?”
สีหน้าของญาดาเต็มไปด้วยความกังวล เธอรู้สึกว่าวันนี้รพี พงษ์มาเพื่อก่อกวนเธอโดยเฉพาะ
“รพีพงษ์ นี่นายยังเรียกว่าเรียนรู้หมากล้อมเหรอ ตอนเด็กๆ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดังนั้นรู้สึกว่านายเก่ง แต่ตอนนี้ฉันก็โต แล้ว ไม่ได้หลอกง่ายเหมือนตอนเด็กๆแล้ว นายอย่ามา ก่อกวนฉันได้มั้ย?”ญาดาตะโกนใส่หน้ารพีพงษ์
เดิมที่เธอต้องการใช้โอกาสในวันนี้ เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอ ญาดานั้นเก่งขนาดไหน สำหรับการแต่งงาน เธอไม่สนใจเลย ท้ายที่สุดนวัสสัยก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง หน้าตาก็ถือว่าดูดี และ ได้รับรางวัลเกียรติยศหมากล้อม เธอก็พอใจมาก
แต่วันนี้การแข่งขันยังไม่เริ่ม ก็ถูกรพีพงษ์ทำลาย ใน อนาคตบางทีคนอื่นอาจพูดถึงเธอ และว่าให้เธอและเศษสวะ อย่างรพีพงษ์เกี่ยวข้องกัน เรื่องนี้เธอทนไม่ได้
“เอาความสามารถหมากรุกระดับเด็กๆมาแข่งกับฉันเหรอ? นายก็กล้านะ ถ้าอย่างนั้น นายจะแข่งกับฉันสักเกมมั้ย เพื่อที่ นายจะได้สบายใจ”นวัสสัยกล่าว
“นายอย่าไปใส่ใจเขาเลย วันนี้คือฉันแข่งกับนาย ฝีมือ ระดับเขายังไงก็สู้กับนายไม่ได้ นายคงไม่ความสนใจกับคน ไม่มีความสามารถหรอกนะ อย่าเสียเวลาดีกว่า เรามาเริ่มกัน เลยดีกว่า”ญาดากล่าว
นวัสสัยเห็นว่าญาดาพูดเช่นนี้ ก็ยิ้มแล้วพูด: “ที่เธอพูดก็ถูก ฉันไม่จำเป็นต้องไปเสียอารมณ์กับคนเศษสวะ เขาก็เป็นแค่ เศษสวะคนหนึ่งที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์เอง ถ้า ฉันไปใส่ใจเขา มันก็จะดูเป็นคนใจแคบเกินไป”
เมื่อพูดจบ นวัสสัยก็นั่งที่หน้าโต๊ะที่เตรียมไว้ บนโต๊ะมี กระดานหมากรุก ซึ่งใช้สำหรับเกมแข่งขันระหว่างเขาและ
ญาดา
ญาดาจ้องมองไปที่รพีพงษ์แล้วกัดริมฝีปาก คิดในใจตัว เองหลังจากการแข่งขันจบลง ค่อยไปคุยกับรพีพงษ์ให้รู้เรื่อง ตอนนี้เธอไม่ใช่คนที่รพีพงษ์สามารถแตะต้องได้แล้ว
รพีพงษ์ก็ไม่ได้สนใจ เขาก็มาเพื่อดูการแข่งขันจริงๆ สิ่งที่ ผู้คนรอบข้างพูดกัน เขาก็ไม่เคยสนใจ
การแข่งขันเริ่มขึ้น ญาดาก็เข้าสู่สถานการณ์การแข่งอย่าง รวดเร็ว รพีพงษ์ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเธอ เพียงแค่เริ่ม แข่งเกมใหม่ ใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นสงบลง ในสายตาเหลือ เพียงแค่หมากรุก
นวัสสัยคิดว่าเขามีทักษะการเล่นหมากรุกที่ยอดเยี่ยม ดัง นั้นเขาเริ่มแรกญาดาจึงไม่อยู่ในสายตาของเขา เขารู้สึกว่า ฝีมือระดับตัวเอง ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เขาก็ไม่มีทางแพ้ให้กับ ญาดาได้
แต่เมื่อหลังจากเริ่มไปแล้วครึ่งชั่วโมง นวัสสัยก็ขมวดคิ้ว เขาพบว่าตัวเองว่าเขาค่อยๆสูญเสียการควบคุมสถานการณ์ บนกระดานหมากรุก
แต่ในเวลานี้ญาดายังคงเดินหมากอย่างมั่นคงต่อเนื่อง โดย
ไม่รู้สึกตื่นตระหนก
นวัสสัยตื่นตระหนกอย่างกะทันหัน ถ้าวันนี้เขาแพ้ให้กับญา ดาจริงๆ เขาจะไม่มีหน้าที่จะไปพูดเรื่องแต่งงานกับญาดา ยัง จะถูกคนหัวเราะเยาะอีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงจริงจังขึ้นมาทันที น่าเสียดายในเกมนี้ตอนนี้ ญาดาปูทางไว้เรียบร้อย ที่เหลือคือ ค่อยรอทีละเล็กทีละน้อย เพื่อเอาชนะนวัสสัย
รพีพงษ์มองไปที่ญาดาที่เล่นหมากรุก ใบหน้าของเต็มไป ด้วยความชื่นชม และพึมพำ: “ทักษะการเล่นหมากรุกของญา ดาไม่เลว สงบมากกว่านวัสสัยอีก ดูเหมือนว่าวันนี้การแข่งขัน ในเกมนี้ ญาดาจะชนะนะ”
เมื่อผู้คนรอบข้างได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็แสดงสีหน้า ออกมาเต็มไปด้วยความดูถูก
“นายจะไปรู้อะไร นวัสสัยเขาเป็นถึงลูกศิษย์ของท่านอา จารย์ญาธิป จะพ่ายแพ้ง่ายๆได้ยังไง นี่เรียกว่าการล่าถอย นายก็แค่คนที่ไม่รู้เรื่องหมากรุก อยากมาพูดจาไร้สาระที่นี่จะ ดีกว่า”คนข้างๆกล่าวขึ้นมา
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน นวัสสัยก็รู้สึกว่าตัวเองอาจจะแพ้แน่ๆ เขามองไปที่ ญาธิปอย่างกังวล ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
สีหน้าญาธิปก็เคร่งเครียด เขาคิดไม่ถึงว่าลูกศิษย์ตัวเอง แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็สู้ไม่ได้
แต่เขายังคงยื่นมือออกไป และสองนิ้วก็ขยับเป็นจังหวะขึ้น
มา
เมื่อนวัสสัยเห็นการเคลื่อนไหวมือของญาธิป ก็ถอนหายใจ ด้วยความโล่งอกทันที หลังจากนั้นเขาก็เหลือบไปที่กระดาน หมากรุก และเล่นหมากรุกต่อไปอย่างมั่นใจ
นี่เป็นวิธีการสื่อสารแบบพิเศษระหว่างเขากับญาธิป ที่
นวัสสัยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันหมากล้อม
ได้ในเวลานั้น ก็ได้รับความช่วยเหลือไม่น้อยจากวิธีการ
สื่อสารเช่นนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ญาดาก็ขมวดคิ้ว แต่เดิมที่เธอรู้สึกว่า กำลังจะชนะ แต่ไม่รู้ว่านวัสสัยทำไม ทันใดนั้นก็เหมือนว่า เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย จู่ๆนั้นเขาก็ดุเดือดขึ้นมา เดิมที น่าจะเป็นตาที่จะชนะ กลับถูกนวัสสัยพลิกเกมมาอย่าง กะทันหัน
รพีพงษ์สังเกตเห็นแววตาของนวัสสัย หลังจากเขามองการ เคลื่อนไหวของมือของญาธิป ใบหน้าของก็แสยะยิ้ม ใช้เวลาไม่นาน ญาดาก็ถูกปิดล้อมตายยังไงเธอก็คิดไม่
ถึงว่า สถานการณ์ที่ควรจะชนะ จะถูกดึงเกมกลับโดยนวัสสัย
ในทันที
ท้ายที่สุด ญาดาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ลุกขึ้นยืน
และพูดว่า: “ฉันแพ้แล้ว” รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนวัสสัย ทุก คนมองไปที่เขาด้วยความชื่นชมและยกย่อง สำหรับทักษะ
การเล่นหมากรุกที่ยอดเยี่ยมของเขา
“ญาดา ตอนนี้เธอก็แพ้ฉันแล้ว ถ้าหากตอนนี้ฉันจะขอ แต่งงานกับเธอ เธอจะตกลงมั้ย?”นวัสสัยกล่าว
ขณะที่ญาดากำลังจะพูด ในตอนนั้นรพีพงษ์เดินก้าวมาข้าง หน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดเสียงดังว่า: “เดี่ยวก่อน”
ทุกคนหันไปมองรพีพงษ์ ไม่รู้ว่ารพีพงษ์ต้องการจะทำ
อะไร
“นายต้องการจะทำอะไรอีก? หรือนายอยากถูกขับไล่ออก ไปเหรอ?”นวัสสัยจ้องมองรพีพงษ์ด้วยความโกรธ
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “เมื่อกี้นายไม่ได้เอาชนะด้วยสติปัญหาของตัวเอง เพราะระดับอย่างนายแล้ว ไม่สู้ทางชนะญาดา ได้”
“นายพูดบ้าอะไรของนาย! ทำไมฉันจะไม่ชนะเธอ ทุกคนก็ เห็นกันอยู่ ฉันจะไม่ชนะด้วยสติปัญญาตัวเองยังไง!”นวัสสัย พูดด้วยความโกรธ
รพีพงษ์หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมา แล้วเปิดวิดีโอ ซึ่งเป็น ตอนที่นวัสสัยจ้องไปที่การเคลื่อนไหวมือของญาธิป มือของ ญาธิปขยับตลอด
“ถ้านายคิดว่านายชนะญาดาด้วยความสามารถ จะอธิบาย เรื่องนี้ได้อย่างไร?”