พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 240 ลูกพี่ล้มได้ยังไง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 240 ลูกพี่ล้มได้ยังไง
บทที่ 240 ลูกพี่ล้มได้ยังไง
ในห้องกล้องวงจรปิดอาคารTY
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคนจ้องไปที่ลาน จอดรถใต้ดินในหน้าจอ รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ดู เหมือนว่าจะเริ่มต้นลงมือกับกรฤทธ์แล้ว
ใบหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคน
แสยะยิ้ม เห็นได้ชัดว่าการที่รพีพงษ์ทำเช่นนี้ก็คือเป็นการ
ทำเรื่องที่โง่ที่สุด
“พวกแกดูไอ้เด็กที่หนีออกมาจากคุก มันกำลังจะท้าทาย ลูกพี่ของเรา แกว่ามันจะคิดไม่ได้ขนาดไหน พี่ใหญ่ของเรา เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของประธาน นั่นคือสิ่งที่มันสามารถ ท้าทายมั่วๆเหรอ”
“คิดไปเองมากกว่า หลายปีมานี้เราเจอมาเยอะแล้วคน แบบนี้ สุดท้ายก็ถูกลูกพี่เราจัดการ ค่อยดูเถอะ ใช้เวลาไม่ กี่นาที สองคนนั้นก็คุกเข่าลงมาร้องขอความเมตตาแน่”
“แค่หลับฉันก็รู้ผลตอบจบได้ พวกแกสองก็ไม่ต้องดูแล้ว เรามาเล่นไพ่กันเถอะ เดาว่ารอบเดี่ยวก็จบแล้ว สองคนนั้น ก็ล้มลงกับพื้นแล้ว”
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักความปลอดภัยทั้งสามคนก็เริ่ม เล่นไพ่ และไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่ากรฤทธ์จะจัดการกับ รพีพงษ์และประดิพุทธิ์ทั้งสองคนไม่ได้
ลานจอดรถ
กรฤทธ์เห็นว่ารพีพงษ์จะสู้กับเขาคนเดียว ก็ตะโกนขึ้นมา ทันที แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรไร้สาระมาก สาวเท้ารีบพุ่งตรง ไปที่รพีพงษ์
“ไอ้พวกคนที่อวดเก่งต่อหน้าฉัน ตอนนี้ก็คงไปรายงาน ตัวกับยมบาลแล้ว!”
ความไวของกรฤทธ์เร็วมาก พริบตาเดียวก็ไปอยู่ตรง หน้ารพีพงษ์ และคว้าคอของรพีพงษ์ด้วยมือเดียว
รพีพงษ์หรี่ตา แล้วพุ่งกำปั้นขึ้นมา และขัดขวางมือขอ งกรฤทธ์ไว้ จากนั้นก็เตะไปที่ท้องเขาหนึ่งที่
สีหน้าของกรฤทธ์ก็เปลี่ยนไป คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะ ตอบโต้ได้ไวเช่นนี้ เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองจะสามารถจัดการ รพีพงษ์ด้วยการเคลื่อนไหวกระบวนท่าแค่ครั้งเดียว ตอนนี้ ถึงค่อยรู้ว่าตัวเองคิดมากไปเอง
“คิดไม่ถึงว่าแกยังมีความสามารถขนาดนี้ ดูเหมือนว่าฉัน จะประเมินแกต่ำไป”กรฤทธ์กล่าว
รพีพงษ์ปล่อยเสียงเย็นเยือกออกมา ออกแรงที่เท้าของ เขา แต่สุดท้ายเพราะเป็นเรี่ยวแรงของร่างกายจึงออกแรง ได้เพียงครึ่งเดียว แต่ก็เตะออกไป
อย่างไรก็ตามรพีพงษ์ไม่หยุดแม้แต่น้อยการเคลื่อนไหว
หนึ่งกระบวนท่าก็เตะออกไป และกระบวนท่าต่อไปการ
เคลื่อนไหวก็พุ่งไปที่ใบหน้าของกรฤทธ์
กรฤทธ์ขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงเมื่อตัวเองอยู่ในมือของรพีพงษ์ก็ถูกปราบปราม แม้แต่เวลาหายใจก็ไม่มี
อีกด้านหนึ่งประดิพุทธิ์เห็นรพีพงษ์ลงมือ ในใจก็เป็น กังวลขึ้นมา ตอนนั้นอยากออกไปปล่อยหมัดแทนรพีพงษ์ แต่ตอนนี้ก็เขาพบว่า ระหว่างการต่อของรพีพงษ์และกร ฤทธ์ เขาไม่สามารถเข้าถึงได้เลย
แม้ว่าความแข็งแกร่งของประดิพุทธิ์ไม่อ่อนแอเลย แต่อยู่ ในแง่ของความเร็ว กับรพีพงษ์พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับ เดียวกันเลย ถ้าประดิพุทธิ์โจมตีเข้าไปเช่นนี้ ไม่แน่อาจ เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับรพีพงษ์
ดังนั้นสุดเขาจึงยับยั้งไว้ ไม่ได้พุ่งออกไป แล้วยืนดูพวก เขาสู่กันอยู่อีกด้านหนึ่ง ตอนนี้เรี่ยวแรงของรพีพงษ์ไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัยใช้
เล่ห์เหลี่ยมจากกระบวนท่าเข้าช่วย แม้ว่ากรฤทธ์จะเป็นคู่
ต่อสู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยม แต่รพีพงษ์อาศัยใช้ความได้เปรียบ
กระบวนท่า ก็ปราบปรามกรฤทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์
เพียงแต่ว่ารพีพงษ์ยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน เรี่ยวแรง ส่วนใหญ่ของร่างกายก็สูญเสียเพราะถูกโยษิตาวางยาด้วย ดังนั้นต่อสู้กับคน ก็ไม่สามารถใช้เวลานานได้
ไม่อย่างนั้นเรี่ยวแรงของรพีพงษ์หมดไป ต่อให้มีกระบวน ท่าที่เก่งกาจแค่ไหน กรฤทธ์ก็สามารถจัดการเขาได้ ภายในกระบวนท่าเดียว
ดังนั้นหลังจากการเคลื่อนไหวกระบวนท่าไปหลายสิบ ท่า กรฤทธ์ก็ชกไปที่รพีพงษ์ แต่รพีพงษ์ก็ไม่สนใจ แต่หรี่ตาลง กัดฟัน และชกไปหนึ่งหมัด เข้าที่หน้าอกกรฤทธ์
กรฤทธ์คิดว่ารพีพงษ์แกล้งทำเป็นจู่โจม ที่สุดถ้าหากรพี พงษ์จะโจมตีต่อเนื่อง หมัดของเขาก็คงไม่โดนบนตัวรพี พงษ์ เขาคิดว่ารพีพงษ์คงไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าตอนนี้รพีพงษ์อยู่ในจุดสิ้นสุด ของการต่อสู้แล้ว หากไม่สามารถจัดการเขาได้ในเวลาอัน สั้นๆ ถึงตอนนั้นทั้งรพีพงษ์และกรฤทธ์ก็จบเห่แน่
ดังนั้นรพีพงษ์จึงสามารถเลือกวิธีแบบนี้ในการทำร้าย
ศัตรูเป็นพันคน และทำร้ายตัวเองไปแปดร้อยคนเช่นกัน
โดยการจัดการกรฤทธ์ได้ก่อน พวกเขาถึงจะสามารถหนี
ไปได้
ในไม่ช้า กรฤทธิ์ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ รพีพงษ์ไม่ แม้แต่จะหยุดมือเลย สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก น่าเสียดาย เวลานี่ถอยกลับไปก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
หมัดของรพีพงษ์ก็ชกไปโดนหน้าอกของกรฤทธ์ และ พลังอันทรงยิ่งใหญ่ก็ระเบิดออก ก็ได้ยินเพียงเสียงกรฤทธ์ กรนออกมา ตามด้วยเสียงกระดูกหักดังขึ้นมา
กระบวนท่าการเคลื่อนไหวของรพีพงษ์คือใช้วิธีการ ระเบิด แม้ว่ามันจะดูเหมือนหมัดธรรมดา แต่เมื่อตอนที่เขา ชกไปที่บนตัวของกรฤทธ์ ความแข็งแกร่งของร่างกาย ะ ทั้งหมดของรพีพงษ์ก็ระเบิดออกมาด้วยหมัด ผลกระทบนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายธรรมดาจะสามารถทนได้
หมัดของกรฤทธ์ก็กระแทกไปบนตัวของรพีพงษ์ รพีพงษ์ก็อาเจียนเป็นเลือดออกมา ในขณะที่ร่างของกรฤทธ์พุ่ง
ตรงออกไปด้านหลัง ล้มลงกับพื้นอย่างแรง และก็สลบไป
ทันที เมื่อประดิพุทธิ์เห็นสิ่งนี้ จึงรีบไปพยุงรพีพงษ์ แล้วถาม:
“พี่รพี พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“มันก็ขยับไม่ได้แล้ว เรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ ช้ากว่านี้ เดียวก็ออกไปไม่ได้แล้ว”รพีพงษ์กล่าว
เมื่อคำพูดจบ รพีพงษ์ก็สลบไปเพราะความเหนื่อยล้าทาง
กาย เมื่อประดิพุทธิ์เห็นเช่นนี้ ก็รีบแบกรพีพงษ์ไว้ที่หลัง
และวิ่งออกจากที่จอดรถไป
“พี่รพี ไม่พูดไม่ได้ พี่นี่สุดยอดจริงๆ คิดไม่ถึงว่ากรฤทธ์ จะสลบด้วยน้ำมือของพี่ ดูไปแล้วระหว่างฉันกับพี่ ก็ยังมี ช่องโหวที่ห่างไกลกันมาก”ประดิพุทธิ์วิ่งไปแล้วก็กล่าวด้วย รอยยิ้ม
ถ้าเขารู้ว่ารพีพงษ์สามารถใช้พลังได้เพียงครึ่งเดียว เอา ชนะกรฤทธ์ได้ คงจะตกใจจนคางตกไปอยู่บนพื้น
ในห้องกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้ง สามคนเพิ่งจะเล่นไพ่เสร็จ
“ไอ้เด็กสองคนนั้นคงจะถูกลูกพี่ทุบตีเรียบร้อยไปแล้ว เดี๋ยวก็มีงานให้ทำแล้ว ยังต้องไปยกทั้งสองคนกลับเข้าไป ในคุก ลำบากจริงๆ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเดินไปที่หน้าจอก ล้องวงจรปิดอย่างไม่ใส่ใจอะไร
เขาหยิบแก้วขึ้นมา ว่าจะดื่มน้ำ ในขณะที่ดวงตาทั้งสอง ข้างมองไปที่หน้าจอกล้องวงจรปิดของโรงจอดรถใต้ดิน
เมื่อเขาเห็นภาพบนจอของโรงจอดรถ รพีพงษ์และประดิ พุทธิ์ได้หายตัวไป ในขณะที่กรฤทธ์ล้มลงกับพื้น พร้อมกับ กองเลือดข้างๆ แก้วในมือของก็ตกลงไปที่พื้นพร้อมกัน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสองคนเมื่อได้ยินเสียง แก้วแตก ต่างตกใจ ทั้งคู่ก็หันหน้าไปมองชายคนนั้น
“เชี่ยยย แกแมร่งระวังหน่อยได้มั้ย ทำไมเหรอ ลูกพี่ ลงมือโหดไปเหรอ แกถึงได้ตกใจขนาดนี้?”
“เขามาอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงสองเดือน ก็ยังไม่รู้จักวิธีการของ ลูกพี่เรา จะตกใจก็เป็นเรื่องธรรมดา”อีกคนหนึ่งพูดด้วย รอยยิ้ม
ทั้งสองคนเดินไปหน้าหน้าจอกล้องวงจรปิด อยากดูว่า เกิดอะไรขึ้นที่โรงจอดรถ
เมื่อทั้งสองคนยืนอยู่หน้ากล้องวงจรปิด และเห็นภาพ หน้าจอกล้องวงจรปิด ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงสีหน้า แปลกเช่นเดียวกับชายคนนั้น
“นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้ ลูกพี่ทำไมถึงล้มลงอยู่กับพื้นได้ แล้วสองคนนั้นล่ะ?”ชายคนหนึ่งถามขึ้นมา
“แกถามฉันแบบนี้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง พวกแกบอกว่าลูกพี่ สามารถจัดการพวกเขาสองคนได้ไม่ใช่เหรอ และสามารถ จัดการได้ในไม่กี่นาที ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นลูกพี่ถูก จัดการล่ะ?”
“พวกแกสองคนก็อย่ามัวแต่มาเถียงกันที่นี่ แมร่งยังไม่รีบ ไปดูลูกพี่ที่โรงจอดรถว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่เห็นว่าลูกพี่ อาเจียนเลือดเยอะขนาดนั้นเหรอ ถ้าเขาเป็นอะไรไป พวก เราสอนคนจบเห่แน่!”