พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 250 กล้าหาญ
บทที่ 250 กล้าหาญ
หลังจากที่รชนิชลและจิรโชติทั้งสองคนลากตัวอันนาออก มาที่โซนเครื่องเล่นเกม ก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก “รพีพงษ์ก็โง่จริงๆเลย ยังจะหัวดื้อหัวรั้นรอให้ประดิพุทธิ์
มาถึง เขาไม่กลัวตายเลย”จิรโชติกล่าวขึ้นมา
“เขาอยู่รอที่นั่นมันก็มีเป็นเรื่องดีสำหรับเราด้วยเช่นกัน ถึง ยังไงคนพวกนั้นก็เจาะจงเข้ามาหาเขาอยู่แล้ว รอประดิพุทธิ์ มาถึง จัดการเขาเลยทันทีก็ดีแล้ว แล้วก็คงไม่หาเรื่องเดือด ร้อนมาให้พวกเรา ถ้าหากว่าเขาหนีมาพร้อมกับพวกเรา ถึง เวลาประดิพุทธิ์คงจะมาหาเขาอย่างแน่นอน ถ้าเกิดคนของ ประดิพุทธิ์ต้องการหาเขาเจอ แล้วมาหาพวกเราจะทำยังไง ดี”จิรโชติกล่าว
สีหน้าของอันนาเต็มไปด้วยความกังวลมองไปที่ด้านใน โซนเครื่องเล่นเกม แล้วพูด: “หรือว่าเราจะแจ้งตำรวจ ให้รพี พงษ์อยู่ที่นี่คนเดียว มันอันตรายเกินไป ถ้าแจ้งตำรวจพวกเขา ก็จะไม่กล้าทำอะไรรพีพงษ์”
“เธอนี่มันเด็กโง่จริงๆ รู้มั้ยว่าตำแหน่งของประดิพุทธิ์อยู่ ในอำเภอโซชิง ต่อให้แจ้งตำรวจ สุดท้ายคนที่จะซวยก็เป็นรพี พงษ์ ไม่แน่เราก็อาจโดนไปด้วย เธอไม่ต้องไปสนใจแล้วว่า มันจะเป็นหรือตาย มันเป็นคนเลือกเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา”จิร โชติกล่าว
“พวกเราก็มัวแต่ยืนเฉยๆอยู่ที่นี่เลย เดี่ยวประดิพุทธิ์พาคน มาด้วย เจอพวกเรา ไม่แน่อาจจะซวยไปด้วย พวกเราไปนั่งที่ ร้านกาแฟตรงข้ามดีกว่า”
จิรโชติพูดขึ้น จากนั้นก็พารชนิชลและอันนาเดินไปร้าน กาแฟตรงข้ามถนน
ทั้งสามคนจงใจหาที่ตำแหน่งนั่งที่ใกล้กับหน้าต่าง ก็เพื่อ
จะสังเกตดูสถานการณ์ในโซนเครื่องเล่นเกม หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรถตู้สีดำหลายคันก็มาจอดที่ด้าน หน้าประตูโซนเครื่องเกม ประดิพุทธิ์เดินลงมาจากรถ ด้าน หลังตามมาด้วยกลุ่มลูกน้องใส่ชุดสูทสีดำ
จิรโชติและรชนิชลมองเห็นตอนที่ประดิพุทธิ์กำลังลงมา พอดี ในใจก็รู้สึกกระวนกระวาย คิดไม่ถึงว่าประดิพุทธิ์จะ ทำให้มันกลายเป็นศึกครั้งใหญ่ขนาดนี้ คนพวกนั้นที่สวมใส่ ชุดสูทสีดำดูไปแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะยั่วยุง่ายๆ ต่อให้รพีพงษ์จะ สามารถต่อสู้ได้เก่งแค่ไหน ก็คงสามารถต่อสู้กับผู้คนที่ แข็งแกร่งมากมายได้ขนาดนี้ ครั้งนี้ก็กลัวว่ารพีพงษ์จะโชค ร้ายจริงๆเข้าซะแล้ว
“รพีพงษ์ก็ไม่กลัวตายจริงๆ คนที่ประดิพุทธิ์พามานั้น น่า จะเป็นลูกน้องที่เก่งกาจมากฝีมือ คนเพิ่มขึ้นมาหมายขนาดนี้ ต่อให้รพีพงษ์จะมีความฝีมือมากมาย ก็คงจะรับมือได้ไม่ไหว ตอนนี้อยากจะหนีก็หนีไม่พ้น”จิรโซติกล่าว
“คือเขารนหาที่ตายด้วยตัวเขาเอง เรื่องนี้จะโทษใครไม่ ได้ ไอ้หมอนั้นมันทุบตีทัศน์พลไปสักขนาดนั้น ประดิพุทธิ์ก็ คงจะช่วยทัศน์พลแก้แค้นแน่นอน ก็หวังว่าไอ้หมอนี้จะมีชีวิต อยู่ได้นานกว่านี้ สามารถรอดชีวิตจากเงื้อมมือของประดิพุทธิ์ ได้”รชนิชลพึมพำ
เมื่ออันนาได้ยินคำพูดของพวกเขาสองคน สีหน้าก็ ซีดเซียวขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อคิดไปถึงว่ารพีพงษ์ถูกคนของ ประดิพุทธิ์ทุบตีจนตาย หล่อนก็ไม่สามารถนิ่งสงบได้
“ไม่ได้นะ ฉันต้องไปช่วยรพีพงษ์” อันนายืนขึ้นมาทันที รชนิชลจับมือของเธอไว้ แล้วดึงกลับไปนั่งลงที่เดิม
“เธอจะไปช่วยยังไง? เธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคน หนึ่ง ไปแล้วก็เท่ากับรนหาที่ตาย เธอนั่งรออยู่ตรงที่นี่เฉยๆดี กว่า ไหนเธอบอกว่าเขาเก่งมากไงล่ะ ถ้าเกิดว่าเขาเก่งจริง อย่างนั้นก็สามารถหนีรอดพ้นจากเงื้อมมือประดิพุทธิ์ได้ เธอก็ ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก”รชนิชลกล่าว
หล่อนก็ไม่ได้รู้สึกว่ารพีพงษ์จะสามารถหนีรอดพ้นจาก เงื้อมมือของประดิพุทธิ์ได้ ที่พูดแบบนี้ ก็เพื่อปลอบใจอันนา เท่านั้นเอง
ในโซนเครื่องเล่นเกม ห้องสำนักงาน
รพีพงษ์นั่งลงที่บนเก้าอี้หนึ่งตัว รอให้ประดิพุทธิ์มาถึง เมื่อ ก็สู้กับทัศน์พลและกลุ่มคนมากมาย ทำให้เขาลมหายใจแรง ขึ้น ดังนั้นนั่งลงเพื่อพักสักครู่
ยาที่วีธราวางให้รพีพงษ์ทำให้เขาปวดหัว ไม่สามารถฟื้นฟู ความแข็งแกร่งคืนกลับมาได้ ทุกๆครั้งที่อยากจะสั่งสอนพวก นักเลง หายใจลำบากตลอด ถ้าอยู่ในตอนที่สภาพของเขา ปกติสมบูรณ์สูงสุด จัดการทัศน์พลและคนพวกนี้ คงจะไม่ อยู่ในสภาพแบบนี้
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูขึ้นมา โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดตอนที่จักรพันธ์ไปที่เมืองริเวอร์เพื่อ หาเรื่องเดือดร้อนให้กับอารียา เขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ ที่แย่
ทัศน์พลนั่งอยู่บนพื้น โดยมีกริชปักอยู่ที่บนขาของเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะดึงมันออกมา ตอนนี้ประดิพุทธิ์ยังมาไม่ถึงเขาก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาล ทำได้เพียงแค่กัดฟันและอดทน
“พี่ทัด พี่อดทนไว้ก่อนนะ รอเดี่ยวพี่พุดมา พวกเราก็จะส่ง พี่ไปโรงพยาบาลทันที ถึงเวลานั้นพี่พุดก็จะช่วยแทงไอ้หมอนี้ กลับไปหนึ่งที่”จิรโชติกล่าว
“เชี่ยเอ้ย ถ้าพี่พุดมาถึง ฉันจะเป็นคนแทงไอ้หมอนี้ด้วยตัว เอง ใครให้มันมาอวดเก่งกับฉัน ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว ฉันไม่ เคยต้องรับโทษแบบนี้มาก่อนเลย”ทัศน์พลจ้องมองไปที่รพี พงษ์อย่างเคียดแค้นแล้วพูด
ชรินทร์ทิพย์เหลือบมองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดด้วยท่าทาง ที่โมโห : “รพีพงษ์ นายยังมีกะจิตกะใจที่จะนั่งอยู่ตรงนี้อยู่อีก ดูท่าทางที่สงบและผ่อนคลายของนายแล้ว คงจะไม่รู้ว่าเดี่ยว นายจะเจอกับคนแบบไหน จะบอกนายให้นะ เพียงแค่พี่พุดมา ถึง วันนี้นายจบเห่แน่ๆ”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดว่า: “ฉันไม่มองเห็นอะไรเลย”
“เซอะ พูดเหมือนกับว่านายรู้จักกับพี่พุด พี่ทัดและก้อง เป็นคนข้างกายของพี่พุด ครั้งนี้นายมีเรื่องกับพวกเขาสองทั้ง สอง ถึงยังไง พี่พูดก็ไม่ปล่อยนายไว้แน่”ชรินทร์ทิพย์กล่าว อย่างดูถูก
ในเวลานี้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นอยู่ข้างนอกห้องสำนักงาน และก้องภพก็เหลือบมองไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ แสดงสีหน้าประหลาดใจ
“พี่พุดมาแล้ว แล้วยังพาลูกน้องมาด้วยไม่น้อย ไอ้หมอนี้
วันนี้หนีไม่รอดแน่”ก้องภพกล่าวขึ้น จากนั้นเขาก็ตะโกนออกไปข้างนอก: “พี่พุด พวกเราอยู่ ตรงนี้!”
ประดิพุทธิ์พาลูกน้องตัวเองเดินไปที่ห้องสำนักงาน ตอน นั้นเขาได้รับโทรศัพท์จากก้องภพ ก้องภพบอกว่าเขาและทัศน์ พลถูกชายคนหนึ่งทุบตี ในใจก็ตกใจ ไม่รู้ว่าใครที่มีความกล้า หาญได้ขนาดนี้ ถึงทุบตีคนทั้งสองของเขาในครั้งเดียว
ตอนนี้รพีพงษ์ยังอาศัยอยู่ที่เขา เขาอยากจะโชว์ความ สามารถให้รพีพงษ์เห็น เขาจะทำให้รพีพงษ์เห็นถึงความ สำเร็จหลายปีมานี้ของเขา ทำให้รพีพงษ์รู้ ว่าอยู่ในอำเภอโช ซิง ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขาประดิพุทธิ์
แต่ว่าตอนนี้กลับมีใครบางคนกล้าที่จะทุบตีลูกน้องทั้งสอง คนที่สำคัญของเขา เห็นได้ชัดแบบนี้เท่ากับว่าท้าทายเขา ดัง นั้นหลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์ ก็รีบพาคนที่มีฝีมือเก่งๆของ ตัวเองมา มาถึงที่โซนเครื่องเล่นเกม
วันนี้เขาจำเป็นต้องมาพิสูจน์กับคนที่ท้าทายเขาว่าใครแน่ กว่ากัน ไม่อย่างนั้น รพีพงษ์ก็จะหัวเราะเยาะเขาแน่
หลังจากที่ก้องภพทักทายกับเขาเสร็จ ประดิพุทธิ์ก็รีบพา เข้ามาในห้องสำนักงาน
ก้องภพออกมา ทักทายกับประดิพุทธิ์ ชรินทร์ทิพย์รีบ
ทักทายเรียกพี่พุด “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”ประดิพุทธิ์ถาม
“พี่พุด มีชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หาเรื่องหาพวกเรา ผมให้ทัศน์พลจัดการกับเขา แต่ปรากฏว่าเขากลับจัดการ ทุบตีกับคนของทัศน์พล ทัศน์พลก็ถูกไอ้หมอนี่แทง ตอนนี้ยัง อยู่ที่นี่ ไอ้หมอนี่ไม่เอาพี่ไว้ในสายเลย ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ถึง ได้โทรเรียกพี่มา”ก้องภพอธิบาย
“ให้ตายเถอะ กล้าที่จะไม่เห็นฉันประดิพุทธิ์อยู่ในสายตาเลย ดูไปแล้วไปเอาความกล้าหาญแบบนี้มาจากที่ไหน ให้ฉัน ดูหน่อยสิ เป็นใคร ถึงกล้าท้าทายฉันประดิพุทธิ์”ประดิพุทธิ์ ตะโกนขึ้นมา