พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 254 รพีพงษ์ตายแล้ว?
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 254 รพีพงษ์ตายแล้ว?
จักรพันธ์มองไปยังอารียาที่นอนอยู่บนเตียง รู้สึกตื่นเต้น เขาไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะมีข้อตกลง แบบนี้กับอารียาด้วย
จักรพันธ์ไม่ต้องคิดหาวิธีการใดๆที่จะทำให้อารี ยาเชื่อฟังอีกต่อไป
รพีพงษ์ แกนี่คิดไว้รอบคอบจริงๆ ยังให้ภรรยา ของแกรอฉันโดยเฉพาะอีก ไม่รู้ว่าแกอยู่ที่พญายม นั่นแล้วรู้เรื่องนี้เข้า จะโกรธแค้นมากมายขนาดไหน กันนะ!
จักรพันธ์หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในใจ ใบหน้า สะท้อนความลามกออกมา เขาใช้ลิ้นเลียไปที่อารียา แล้วกล่าว “คุณวางใจได้ ผมทำลูกชายอ้วนตุ้ยนัยให้ คุณ เพียงแค่คุณชอบ มีสักแปดคนหรือสิบคนก็ยัง ได้”
เมื่อพูดจบ จักรพันธ์กีพุ่งไปที่ร่างของอารียา แล้วรีบถอดเสื้อผ้าบนเรือนร่างของอารียาออกอย่าง เร็วอารียาขมวดคิ้ว ในขณะที่จักรพันธ์กำลังเข้าไป ใกล้เธอนั้น เธอรับรู้ได้ว่าคนที่อยู่บนร่างกายของเธอ
นั้นแตกต่างจากรพีพงษ์เป็นอย่างมาก
หรือหลังจากที่รพีพงษ์เกียวโตแล้วพบเจอกับ อะไรเข้า จึงทำให้ความต้องการทางเพศของเขา เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?
อารียาเพ่งดูคนที่อยู่ตรงหน้าตัวเองอย่าง ละเอียดถี่ถ้วน “รพีพงษ์” จากนั้น เธอก็รีบผลัก จักรพันธ์ที่อยู่บนตัวเธอออกไป แล้วรีบลุกขึ้นจาก
เตียง ใส่ชุดของตัวเอง
จักรพันธ์มองอารียาอย่างสงสัย แล้วถาม “ทำไม หรอ บอกว่าอยากได้เด็กอ้วนไม่ใช่หรอ ทำไมคุณ ผลักผมออกล่ะ? คุณไม่เชื่อในฝีมือผมหรอ? คุณ วางใจได้ ผมรับรองว่าจะทำให้คุณสบายตัวอย่าง แน่นอน
สายตาอารียาดูรังเกียจขึ้นมาทันที จากนั้นก็ยิ้ม ไปที่จักรพันธ์แล้วกล่าว “ฉันเพิ่มนึกขึ้นได้ว่าลืมซื้อ บางอย่าง ไม่งั้นคุณไปเป็นเพื่อนฉันซื้อของหน่อยล่ะ กัน”
“ของอะไร?” จักรพันธ์ถามอย่างสงสัย
“ไอ้หยา แน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งที่มีประโยชน์บ พวกเราล่ะซิ คุณรีบไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย รอให้ซื้อ เสร็จคุณก็จะรู้แล้วว่ามันคืออะไร” อารียากล่าวอย่าง เขินอาย
จักรพันธ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย อารียาคงไม่ไปซื้ออุปกรณ์เสริมหรอกมั้ง ไม่คาดคิดว่าภรรยาของรพี พงษ์นี้จะชอบความท้าทายแบบนี้ ครั้งนี้มาไม่เสีย เปล่าจริงๆ
เขายืนขึ้นทันที แล้วกล่าว “ไปเถอะ ผมไปกับ คุณ คุณนี่มันแซ่บนะ ดูไม่ออกจริงๆ ว่าชอบแบบนี้”
อารียาไม่พูดอะไรต่อ รีบเดินออกไปข้างนอก เมื่อถึงที่กั้นประตูของวิลล่าด้านนอกแล้ว เธอก็หยุด ลง แล้วมองไปที่จักรพันธ์ แล้วกล่าว “คุณเดินนำหน้า ล่ะกัน เค้าเขิล”
จักรพันธ์ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เดินนำหน้าอารียา ไป อารียาเห็นจักรพันธ์เดินออกจากประตูที่กั้นไว้ แล้วนั้น ก็รีบปิดประตูทันที ให้จักรพันธ์อยู่ด้านนอก
จักรพันธ์มึนงง หมุนตัวกลับไปมองที่ประตูเหล็ก กั้นนั้นแล้วถามต่ออารียาว่า “ภรรยา คุณปิดประตู ทำไม พวกเราจะออกไปซื้อของไม่ใช่หรอ?”
อารียาสีหน้าเปลี่ยนทันที มองไปที่จักรพันธ์ อย่างเยือกเย็น แล้วถาม “ใครเป็นเมียแก แกเป็นใคร กันแน่ ทำไมแกเหมือนกับรพีพงษ์ขนาดนี้ ทำไมแก ต้องปลอมเป็นเขา?”
“ผมไงรพีพงษ์ ยังปลอมได้ยังไงกัน? ภรรยา คุณบ้าไปแล้วหรอ?” จักรพันธ์ยังคงแสดงละครต่อ
ไป
อารียากล่าว “ฉันใช้ชีวิตกับรพีพงษ์มาหลายปี
นิสัยและอารมณ์ของเขาฉันรู้อย่างถ่องแท้ รพีพงษ์ ไม่มีทางทำแบบนี้กับฉัน แล้วเขาก็ไม่เคยพูดคำพูด เหล่านั้นที่แกพูดออกมา แกคิดว่าฉันจะไปซื้อของ จริงๆหรอ ฉันก็แค่หาโอกาสขังแกไว้ด้านนอก เท่านั้น”
ตั้งแต่ได้เจอกับจักรพันธ์ในแวบแรก อารียาก็รับ รู้ได้ว่า “รพีพงษ์” นี้แปลกๆไป เพียงแต่ตอนนั้นเธอ คิดแค่ว่ารพีพงษ์ต้องไปเผชิญกับอะไรเข้าตอนอยู่ที่ เกียวโต ดังนั้นนิสัยเลยเปลี่ยนไปบ้าง
แต่ไม่นาน เธอก็ได้รู้ว่า”รพีพงษ์ “นี้เทียบกันแล้ว คือคนล่ะคน นิสัยของคนๆหนึ่งถึงแม้จะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปจนสุดโต่งได้ขนาดนี้
ตอนที่จักรพันธ์อยู่บนตัวเธอนั้น เธอได้สังเกต อย่างใกล้ๆ”รพีพงษ์”คนนี้ จึงได้มั่นใจอย่างทันที ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่รพีพงษ์อย่างแน่นอน เพียงแค่รูป ร่างลักษณะคล้ายคลึงกันเท่านั้น
เมื่อก่อนตอนที่รพีพงษ์นอนนั้น อารียาได้แอบ สังเกต เธอจำได้อย่างแน่ชัด ว่าบนคอของรพีพงษ์มี ไผ่สามจุดเรียงกันอยู่ ถึงแม้ไผ่ทั้งสามจะไม่ค่อย ชัดเจน แต่อารียาจำได้อย่างแม่นยำ ตอนนั้นเธอยัง รู้สึกแปลกใจ เพราะเธอไม่เคยเห็นบนเรือนร่างของใครที่มีไฝเรียงกันแบบนี้
แต่บนร่างของจักรพันธ์ไม่มีไฝสามจุดนี้แต่อย่าง ใด ลูกกระเดือกขอนขาก็ใหญ่ไม่เท่าของรพีพงษ์ ดัง นั้นอารียาจึงมั่นใจในทันที ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่รพี พงษ์แต่อย่างใด
เธอกลัวว่าถ้ากระโตกกระตากในตอนนั้น ผู้ชาย คนนี้จะต้องทำอะไรที่ไม่ดีแน่ๆ ก็เลยคิดวิธีการนี้ออก ให้เขาออกไปอยู่นอกประตูก่อนค่อยว่ากัน
กุญแจของประตูเหล็กกั้นนี้มีเพียงครอบครัวอารี ยาเท่านั้นที่มี ถ้าคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่รพีพงษ์ล่ะก็ แน่นอนว่าต้องไม่มีกุญแจของประตูนี้เป็นแน่
เมื่อก่อนอารียาคิดว่าทุกครั้งที่ต้องเปิดประตูนี้ เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ ปกติจึงไม่ปิด เพราะยังไงความ ปลอดภัยของที่นี่ก็ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อจักรพันธ์ กลับมาจึงสามารถเข้าไปได้อย่างสบาย
ตอนนี้ประตูนี้กลับเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาความ ปลอดภัยให้กับครอบครัวของอารียาแล้ว
เมื่อจักรพันธ์ได้ยินอารียาพูดแล้วนั้น ก็รู้สึก โมโหขึ้นมาทันที เขาไม่คาดคิดว่าอารียาจะดูออกได้ เร็วขนาดนี้ว่าเขาแสดงละคร เขายังคิดว่าตนเอง แสดงได้สมบทบาทอยู่เลย
“แม่ง ไม่คาดคิดว่าแกจะฉลาดเหมือนกันนะ ถูก แกจับติดเสียแล้ว แต่แกคิดว่าการที่แกทำแบบนี้จะ หยุดฉันได้หรอ? ฉันจะบอกให้นะ ที่ฉันมาเมืองริเวอร์ ก็เพื่อจะเอาเธอ รีบเปิ้ดประตูซะ ไม่งั้น ฉันจะให้แกได้ ลิ้มลองความร้ายกาจของฉัน!” จักรพันธ์พูดอย่าง กัดฟัน
“แกเป็นใครกันแน่ รพีพงษ์ล่ะ? ทำไมแกถึงได้ เหมือนรพีพงษ์ขนาดนี้” อารียาขมวดคิ้วพลางถาม
จักรพันธ์หัวเราะ แล้วกล่าว “ไอ้สวะรพีพงษ์นั่น ตายไปแล้ว แกไม่ต้องคิดถึงเขาอีกต่อไปแล้ว อนาคตฉันคือทายาทผู้สืบทอดของตระกูลลัดดา วัลย์ รพีพงษ์เป็นพี่ชายร่วมมารดาต่างบิดากับฉัน ถ้า แกเชื่อฟังฉัน รับใช้ฉันดีๆ ฉันสามารถให้แกอยู่อย่าง สุขสบายได้ มิเช่นนั้น แกน่าจะรู้ถึงความโกรธของ ทายาทตระกูลลัดดาวัลย์นะว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
สีหน้าอารียาเปลี่ยนไป แล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้ รพีพงษ์ยังไม่ตาย!”
จักรพันธ์บึนปาก แล้วกล่าว “อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ครั้งนี้ที่ไอ้สวะรพีพงษ์กลับไป คือไปตายแทนฉัน แก คงไม่คิดว่ามันจะเป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ หรอกนะ นั่นโกหกมันทั้งนั้นแหละ แกลืมมันไปเถอะ มันให้แกไม่ได้ แต่ฉันให้ได้ แกให้ฉันเข้าไป ฉันรับรองว่าอนาคตจะให้แกอยู่อย่างสุขสบาย” อารียา ถอยหลังสองก้าว เธอรับไม่ได้กับคำพูดของ จักรพันธ์ แม้ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลลัดดาวัลย์จะ แย่งชิงอำนาจกันอย่างหนัก เธอก็ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะ เสียชีวิต
“แกโกหกฉันแน่ๆ แกรีบไปจากบ้านของฉันซะ ไม่งั้น ฉันจะแจ้งตำรวจ!” อารียาตะคอกไปที่ จักรพันธ์ จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในวิลล่า เธอรีบโทร หารพีพงษ์ทันทีเพื่อความมั่นใจ
จักรพันธ์เห็นอารียาวิ่งกลับไป ก็ด่าในใจ สองมือ เขย่าประตูรั้วเหล็ก แต่ทว่าด้วยแรงของเขา ไม่ สามารถที่จะทำให้มันออกได้
“เป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นมีอะไรดี ฝากไว้ก่อน จึงยิ่งไม่ยินยอม กูยิ่งอยากได้ถึง ถ้าได้ จึงง่ายๆ กูก็รู้สึกไม่สนุก ต้องแบบนี้สิถึงจะมีรสชาติ”
จักรพันธ์หัวเราะ แล้วไม่ได้ยืนอยู่ที่รั้วเหล็กอีก ต่อไป หันหลังกลับแล้วเดินออกไปนอกหมู่บ้าน
ศศินัดดาและศักดาทั้งคู่นั่งอยู่บนโซฟาในห้อง รับแขก ตอนนั้นที่อารียาและจักรพันธ์ได้ออกไปนั้น พวกเขาก็ไม่ทันไม่ถามว่าจะออกไปทำอะไร
“คุณรู้สึกไหมว่าครั้งนี้ที่รพีพงษ์กลับมา เปลี่ยน ไปไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนเขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึงรสชาดอาหารที่ฉันทำ” ศศินัดดาระบายอารมณ์ออก
มา
“ตอนนี้เค้าคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ สถานะไม่เหมือนเดิม แน่นอนอยู่แล้วว่าท่าทีที่มีต่อ คุณก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย คุณไม่เห็นที่เขาทำกับอารี ยาตามอำเภอใจหรอ กล้าเล้าโลมอารียาต่อหน้าพวก เราแล้ว นี่มันเป็นเวรกรรมทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะตอน แรกคุณเรื่องมากกับเขา ท่าทีของเขาก็ไม่มีทางที่จะ แย่กับเราได้ขนาดนี้หรอก” ศักดากล่าวอย่าง หมดอาลัยตายอยาก
ศศินัดดาชักตาทันที แล้วกล่าว “หรือนี่เป็นความ ผิดฉันหรอ? มันชั่งกลับกันจริงๆ ถึงแม้เขาเป็น ทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วยังไง เขาก็ยังคว เป็นลูกเขยของฉันเหมือนเดิม ป้ะ รอให้เขากลับมา ฉันจะต้องบอกให้เขารู้ถึงสถานะของเขาใน ครอบครัวนี้ ไม่งั้นจะอยู่กันต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”
ตอนนี้อารียารีบวิ่งกลับมาอย่างเร่งรีบ ศศินัดดา เห็นดังนี้ ก็ถาม “อารี ทำไมแกกลับมาแล้วหล่ะ? รพี พงษ์ล่ะ? เรียกเขามา ฉันจะพูดคุยกับเขาหน่อย”
อารียามองไปที่ศศินัดดา แล้วกล่าว “นั่นไม่ใช่ รพีพงษ์ เขาคือสิบแปดมงกุฎสวมรอยเป็นรพีพงษ์ ฉันได้ขังเขาเอาไว้ด่นนอกแล้ว”
ศศินัดดาและศักดาประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่า คนนั้นที่กลับมาจะไม่ใช่รพีพงษ์
“ฉันว่าแล้ว รพีพงษ์ ไม่กล้าที่จะใช้ท่าทีขนาดนี้ กับพวกเรา เสียเวลาตั้งนาน สุดท้ายก็คือพวกสิบ แปดมงกุฎ” ศศินัดดากล่าว
“อารี คนนั้นไม่ใช่รพีพงษ์ แล้วคือใคร ทำไม เหมือนรพีพงษ์เอามากๆเลย?” ศักดาถาม
“เขาบอกว่าเขาคือพี่ชายร่วมมารดาต่างบิดากับ รพีพงษ์ ยังบอกอีกว่าตนเองคือทายาทของตระกูล ลัดดาวัลย์ ครั้งนี้ที่รพีพงษ์กลับไป เพื่อไปตายแทน เขา” อารียาเอาคำพูดของจักรพันธ์มาพูดอีกครั้ง เรื่องนี้ชั่งเป็นเรื่องที่ทำให้คนประหลาดใจเป็นอย่าง มาก อารียาอยากให้ศศินัดดาและศักดาช่วยเธอคิด ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่
หลังจากที่ศศินัดดาและศักดาทั้งสองได้ยินแล้ว นั้น ก็แปลกใจ และแสดงสีหน้าอันตกใจออกมา
“รพีพงษ์ไม่ใช่ทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์หรอ เค้าให้เขากลับไป เพียงเพื่อให้เขาไปตาย พลาดที่ ก่อนหน้านี้ฉันทำดีกับเขา เสียดายเวลาของฉันจริงๆ” ศศินัดดากล่าวอย่างโมโห
อารียาพูดไม่ออก เธอยังคิดอยากให้ศศินัดดา ช่วยเธอคิด ไม่คาดคิดว่าประเด็นหลักของศศินัดดาคือเรื่องนี้
เธอไม่อยากเสียเวลาในเรื่องนี้อีก รีบหยิบมือถือ บนโต๊ะขึ้นมา แล้วโทรหารพีพงษ์
“ขอโทษค่ะไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลาย ทางได้ในขณะนี้ …”
โทรไปหลายครั้งติดต่อกัน ก็ติดต่อไม่ได้ อารียา รู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมา ติดต่อรพีพงษ์ไม่ได้ ตอนนี้ใน สมองของเธอ เต็มไปด้วยความคิดต่างๆนานา
อำเภอนกฟ้า ในคฤหาสน์ของประดิพุทธิ์
ในขณะนี้ รพีพงษ์กำลังอยู่ในห้องที่เงียบสนิท เพื่อรับการรักษาอยู่ หมอที่ประดิพุทธิ์หามานั้นช่วย นพพงษ์ในการฟื้นฟูกำลัง คือบำบัดในน้ำ
รพีพงษ์จะต้องอยู่ในน้ำนานถึงสองวัน ในช่วง สองวันนี้ห้ามถูกรบกวนจากภายนอก ดังนั้นเขาจึง ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองริเวอร์แต่อย่างใด มือถือของเขาก็อยู่ในห้องก่อนหน้านี้
จารุณีกำลังดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก ตอนนี้เธอ แอบได้ยินเสียงเตือนที่ดังมาจากข้างบน ก็ถือถุง ขนมมันฝรั่งแผ่นเดินขึ้นไป
หลังจากที่เธอเห็นรพีพงษ์ในห้องนั้นแล้ว เสียง เตือนก็สิ้นสุดพอดี เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นว่ามีสอบกว่าสายที่ไม่ได้รับ
“ไอ้รพีพงษี คนที่ชื่อแคลร์นี้เป็นใครกัน ทำไมถึง ได้โทรหาแกเยอะขนาดนี้ นี่คงไม่ใช่ที่แกบอกว่าเป็น เมียอะไรนั่นนะ” จารุณีบ่นพึมพำ
เธอยังโมโหที่รพีพงษ์แอบออกไปแล้วไม่พาเธอ ออกไปด้วยอยู่เลย ตอนนี้เห็นมีคนโทรหาเขาเยอะ ขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกโมโหมากยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกันนี้เอง มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง จา รุณีลังเลสักพัก แล้วกดรับสาย
“รพีพงษ์ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม วันนี้มีคนปลอม เป็น ” เสียงเคร่งเครียดของอารียาดังขึ้นมา
จารุณีได้ยินเสียงปลายทางไพเราะ แล้วยังเป็น น้ำเสียงที่เป็นห่วงอีกด้วย ทันใดนั้นก็เกิดหึงหวงขึ้น มาทันที แล้วพูดไปว่า “รพีพงษ์ตายแล้ว ต่อไปแกไม่ ต้องโทรมาอีกนะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็วางสายด้วยความโมโห