พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 28
บทที่ 28 ให้เขาขึ้นมานอนบนเตียง
รพีพงษ์ อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อมองไปยัง ศศินัดดา ที่ทำท่าราวกับว่ากำลังจะเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ขึ้น
แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็แค่โทรทัศน์เครื่องเดียวเท่านั้น ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้ดูอยู่แล้ว อีกอย่างถ้าเขาอยากจะเอา ของจากร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าย้ายมาไว้ที่นี่หมดเลยก็ยังได้
ในตอนนั้นเอง อารียา ก็เดินเข้ามา ศศินัดดา จึงรีบตรง เข้าไปต้อนรับเธอพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว
” ลูกสาวจ๊ะ ลูกดีกับพวกเรามากเลย ลูกซื้อโทรทัศน์รา คาตั้งแพงขนาดนี้ให้พ่อกับแม่ พ่อกับแม่มีความสุขมาก ๆ เละจ้ะ ” ศศินัดดา พูดขึ้น
” ใช่ ๆ ลูกสาวของเรานี่มีอนาคตกว้างไกลจริง ๆ พวกเรา ในฐานะพ่อแม่รู้สึกยินดีมาก ๆ เลยล่ะ ” ศักดา พูดต่อ
อารียา งงไปหมด โทรทัศน์เครื่องนี้เธอไม่ได้เป็นคนซื้อ ด้วยซ้ำ
” แม่คะ..” อารียากำลังจะอธิบาย
” ลูกจะ แม่รู้นะว่าลูกหวังดี แม่ก็จะไม่เกรงใจความหวังดี %3D ของลูกหรอกจ้ะ นับเป็นโชคดีจริง ๆ ที่มีลูกสาวอย่างหนู ไม่ เหมือนกับขยะไร้ค่าอย่าง รพีพงษ์ ที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยจะทำประโยชน์อะไรให้ครอบครัวเราเลย ”
ศศินัดดา ไม่หยุดให้ อารียา ได้พูดบ้างเธอพูดต่อขึ้นมา ทันทีว่า ” ลูกซื้อโทรทัศน์แพงขนาดนี้ให้เรา หลังจากนี้ห้าม ให้ รพีพงษ์ แตะนะลูก ถ้าอยู่ ๆ มันทำพังขึ้นมา แม่คงปวด ใจไม่น้อย ”
” แม่คะแต่โทรทัศน์เครื่องนี้….. “อารียา เริ่มร้อนรนขึ้น มา โทรทัศน์เครื่องนี้ รพีพงษ์ เป็นคนซื้อ ถ้าไม่ให้เขาแตะ ต้องเลย มันจะไม่เป็นการรังแกกันเกินไปหน่อยรึไง
” พอแล้ว แคลร์ ความหวังดีของลูกแม่เข้าใจดี ไม่ต้องพูด แล้ว เดี๋ยวแม่กับพ่อขอดูโทรทัศน์ก่อน ลูกกลับห้องไปพัก ผ่อนเถอะ ” ศศินัดดา ไม่เปิดโอกาสให้ อารียา พูดเลยแม้ แต่นิดเดียว
หลังจากนั้นเธอก็ยังหันหน้าไปจ้อง รพีพงษ์ ก่อนจะพิ่ม พำขึ้นว่า ” แกนี่มันก็ขยะจริง ๆ ลูกสาวฉันดีเลิศขนาดนี้ ทำไมต้องมาแต่งงานกับขยะแบบแกด้วยนะ ”
อารียา มองไปที่ รพีพงษ์ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำขอ
โทษ
รพีพงษ์ ยิ้มให้เธอเบา ๆ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ติดใจ
อะไร ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” กลับห้องกันเถอะ ” พอถึงห้อง อารียา เม้มริมฝีปากของเธอแน่น พลางมองไปที่ รพีพงษ์ ด้วยใบหน้ารู้สึกผิด ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” ขอโทษ ด้วยนะ แม่ฉันก็เป็นแบบนี้ตลอด โทรทัศน์เครื่องนั้นคุณเป็น คนซื้อมาแท้ ๆ ”
“ไม่เป็นไรหรอก ใครซื้อมาก็เหมือนกันนั่นล่ะ เรื่องเล็ก น้อยแบบนี้อย่าเก็บมาใส่ใจเลย ” รพีพงษ์ ตอบ
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปปูที่นอนลงบนพื้น
” ขอบคุณนะ” ครั้งนี้ อารียา เอ่ยขอบคุณ รพีพงษ์ จาก ใจจริง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รพีพงษ์ ช่วยเหลือเธอมามา กมายเหลือเกิน อีกทั้งพวกเขาก็ทำงานกันอย่างหนักโดยที่ ไม่มีความไม่พอใจใด ๆ เกิดขึ้นด้วย
เธอเห็นท่าทางของ รพีพงษ์ ที่แสดงออกมาได้ไม่เลวจึงคิด ในใจว่า หรือว่า….จะให้เขาขึ้นมานอนบนเตียงดีนะ ?
พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจเธอก็เต้นเร็วขึ้น แถมหน้าของเธอก็ แดงกำขึ้นมาทันที
ถ้าเขาขึ้นมานอนบนเตียง เขาจะลงไม้ลงมืออะไรกับฉันมั้ย
พอถึงตอนนั้นถ้าเขาทนไม่ไหวจริง ๆ แล้วจับฉัน…
อย่างนั้นรอต่อไปอีกหน่อยดีกว่า ถ้าวันไหนที่เขาทนไม่ ไหวจริง ๆ ก็คงปีนขึ้นเตียงมาเองแหละ
แต่งงานกันก็นานแล้ว ถ้าหากว่าเขาต้องการจริง ๆ ก็ไม่
นะใช่ว่าจะให้ไม่ได้…
หลังจากที่คิดเรื่อยเปื่อยไปสักพัก อารียา ก็ล้มตัวลงบน เตียง ไม่ทันไรก็พล่อยหลับไป
เช้าวันต่อมา รพีพงษ์ พา อารียา ไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉัตร
มงคล เพื่อบอก นภทีป์ เรื่องของ ธายุกร ขณะที่ทั้งสองคนเดินมาถึงด้านหน้าของเขตชุมชน รพีพงษ์
ก็เดินไปที่ร้านขาย แป้งทอดใส่ไข่ อีกครั้ง
” เถ้าแก่ เอา แป้งทอดใส่ไข่ สองอัน ” รพีพงษ์ บอกกับ
คนขาย
ชายวัยคนยิ้มพร้อมกับพยักหน้า หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือ
” เรื่องเมื่อวานนี้ขอบคุณ คุณมาก ๆ เลยนะ ” รพีพงษ์
ทำ
พูดขึ้น
” ไม่เป็นไรหรอก พวกคุณสามีภรรยาดูรักกันมาก ผมก็ไม่ อยากให้มันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ” ชายวัยกลางคนตอบกลับ
พร้อมรอยยิ้ม
คุณมองออกว่ามีคนจับตาดูพวกผมอยู่ แสดงว่าคุณ คงไม่ใช่คนธรรมดาใช่มั้ยล่ะ ” รพีพงษ์ เอ่ยปากถาม
ก่อนหน้านี้ที่เจอกันครั้งแรกเขาก็รู้สึกแล้วว่าผู้ชายคนนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ และหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวานขึ้นมันยิ่งทำให้เขามั่นใจในความคิดของเขามากกว่าเดิมอีก
” ไม่ธรรมดาอะไรกันล่ะ ผมก็แค่คนขาย แป้งทอดใส่ไข่ แค่นั้นเอง ” ชายวัยกลางคนตอบกลับ
พอเห็นว่าชายวัยกลางคนนั้นไม่อยากตอบ รพีพงษ์ ก็ไม่
ได้ซักไซร้ต่อ
หลังจากที่รับ แป้งทอดใส่ไข่ มาแล้ว เขาก็บอกลาชายวัย กลางคน พร้อมกับหันหลังกลับไปหา อารียา
แล้วทั้งสองคนก็ตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลฉัตรมงคล
ภายในคฤหาสน์ตระกูลฉัตรมงคล ธายุกร และ ชรินทร์
ทิพย์มาถึงที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว
นภทีป์ นั้นยังไม่ลงมาจากชั้นบน ทั้งสองคนก็กำลังกระซิ
บกันอยู่เบา ๆ ว่า
พี่ พี่แน่ใจจริง ๆ ใช่มั้ยว่าเมื่อวานนี้ อารียา โดนอิน ทัช…ไปแล้วน่ะ ” ชรินทร์ทิพย์เอ่ยปากถามขึ้น
” เรื่องนี้นี่ไม่ต้องสงสัยเลย ถึงแม้ว่าเมื่อวานจะมีข้อผิด พลาดนิดหน่อย ตรงที่ถูกไอ้โง่ รพีพงษ์ นั่นมันดูออกว่ามียา ในเหล้า แต่หลังจากนั้นอินทัช ก็โผล่ออกมาด้วยตัวเองเลย แล้วมีเหรอที่ขยะอย่าง รพีพงษ์นะจะสู้กับอินทัช ไหว ”
” แล้วเรื่องหลังจากนั้นล่ะ พี่ได้เห็นกับตาตัวเองรึเปล่า ? ” ชรินทร์ทิพย์ยังถามต่อ
” เปล่า หลังจาก มาถึง ฉันก็กลับเลย แต่เธอไม่ต้องสงสัย %3D ในการทำงานของ อินทัช หรอก อีกอย่างถ้ามันไม่สำเร็จละก็ เขาคงโทรมาบอกฉันแล้ว แต่นี่อะไรเมื่อวานทั้งวันไม่โทร มาสักสาย ไม่แน่ว่าจนถึงตอนนี้ก็อาจจะทำอะไรอยู่กับ อารี ยา อยู่ก็ได้นะ ” ตอบกลับ
ทันใดนั้นรอยยิ้มที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ ชริน ทร์ทิพย์พร้อมกับที่เธอพูดขึ้นว่า ” อารียา นี่มันเป็นผู้หญิง ขายตัวชัด ๆ แต่งงานกับ รพีพงษ์ มาตั้งนานไม่ยอมให้รพี พงษ์ แตะต้อง แต่พอถึงตอนนี้กลับปล่อยให้อินทัช เล่นด้วย ทั้งคืน ฉันละอยากรู้จริง ๆ ว่าตอนนี้เธอจะรู้สึกยังไง”
” ไม่แน่ว่าเธออาจจะติดใจความรู้สึกแบบนี้ก็ได้นะ อาจ จะเต็มใจที่จะเป็นผู้หญิงเลว ๆ ของอินทัช ” ธายุกร พูดขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่น่าสมเพช
หลังจากนั้นไม่นาน นภทีป์ ก็ลงมาจากชันบน ธายุกร และ ชรินทร์ทิพย์ทั้งสองคนก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อจะใส่ร้าย อารียา
ทันที
คุณปู่คะ คุณปู่รู้อะไรมั้ยคะ อารียา ผู้หญิงไร้ยางอาย คนนั้น เพื่อที่จะประจบอินทัช เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้กลับมาบ้าน ค่ะ เธอทำให้ตระกูลเราขายหน้ามาก ๆ เลยค่ะ ” ชรินทร์ทิพย์พูดขึ้น
” อย่ามาพูดจาเหลวไหล อารียา เป็นคนยังไงฉันรู้ดี อย่า มาพยายามใส่ร้ายเธอ ” หลังจากที่ นภทีป์ ได้ยิน ชรินทร์ ทิพย์พูดดังนั้นเขาก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที
คุณปู่ครับ ที่ เจน พูดเป็นความจริงนะครับ เมื่อวานนี้ผม เห็นกับตาว่าเธอกับอินทัช ออกไปทานข้าวด้วยกัน ทั้งสอง คนยังพากันพูดถึงเรื่องอย่างว่าด้วยนะครับ แถม อารียา ก็ทำตัวติดกับอินทัช ไม่เลิกอีก ผมเห็นมากับตาตัวเองเลย ครับ ” ธายุกร โกหกขึ้นมาอย่างหน้าไม่อาย
นภทีป์ ตบโต๊ะอย่างแรงพร้อมกับยืนขึ้น
” อะไรนะ ! เธอกล้าทำเรื่องขายหน้าต่อตระกูลฉัตรมงคล แบบนั้นได้ยังไง น่าโมโหจริง ๆ ! บอกให้เธอเข้ามาเจอฉัน เดี๋ยวนี้ ฉันต้องถามเธอด้วยตัวฉันเองให้ชัด ๆ ถ้าเป็นแบบ นั้นจริง ๆ ละก็ เธอจะไม่มีวันได้เหยียบเข้ามาในบ้านของตระ กูลฉัตรมงคล อีกต่อไป ! ”
คุณปู่คะ หลานเกรงว่าตอนนี้ อารียา อาจจะยังไม่ลุก ออกจากเตียงของอินทัช เลยก็ได้นะคะ ” ชรินทร์ทิพย์พูดขึ้น
มือของ นภทีป์ เริ่มสั่น ” ทำไมเธอถึงไปทำเรื่องแบบนี้กับ อินทัช ได้ล่ะ ? ตระกูลฉัตรมงคล เองก็ไม่เคยร่วมมือกับ บริษัทของคนอย่างอินทัช อยู่แล้ว นี่ อารียา กำลังตบหน้า
คนแก่อย่างฉันอยู่รึไง
คุณปู่ลืมเรื่องการจัดนิทรรศการครั้งที่แล้วไปแล้วเห รอครับ คนที่เราจับได้เป็นคนของอินทัช ไงครับ อารียา คงกลัวว่าอินทัช จะกลับมาแก้แค้น เธอเลยจงใจเข้าไป ประจบสอพลอเขาแน่ ๆ ” ธายุกร พูดขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ทำให้เรื่องครั้งก่อนดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เลยสักนิด
” เหอะ มันน่าโมโหจริง ๆ ! ” นะที่ ป์ พูดขึ้นน้ำเสียงเต็ม ไปด้วยความโกรธ
และในขณะนั้นเอง แม่บ้านประจำตระกูลฉัตรมงคล ก็วิ่ง เข้ามาพร้อมกับพูดว่า ” คุณท่านคะ อารียา และ รพีพงษ์ ทั้ง สองคนมาขอเข้าพบท่านค่ะ บอกว่ามีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ “