พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 533 มันไม่เกี่ยวกับคุณ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 533 มันไม่เกี่ยวกับคุณ
บทที่ 533 มันไม่เกี่ยวกับคุณ
บั๊มที่จ้องมองเยาวเรศด้วยสายตาเย้ยหยัน ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง ใบหน้าของเขาเริ่มมีความสงสัย จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง จากนั้นเขาก็รีบหันกลับไปมองข้างหลังเขา
“ พี่ … พี่ใหญ่ ทำไมท่านจึงมาอยู่ที่นี่?”
เมื่อมองไปที่โสธรที่เต็มไปด้วยความโกรธ บั๊มก็รู้สึกประหม่า เขาคิดไม่ถึงว่าโสธรจะปรากฏตัวในเวลานี้ อีกอย่าง ได้ยินคำพูดที่เขาเพิ่งตะโกน ดูเหมือนว่าจะมาเพื่อเด็กสาวสองคนนี้
โสธรเป็นคนยังไง คนอื่นไม่รู้ แต่บั๊มรู้ดีที่สุด ในเซี่ยงไฮ้ ไม่มีใครหนีความโกรธของ โสธรไปได้
เห็นท่าทางตอนนี้ของพี่ใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก
เมื่อนึกถึงตอนที่เยาวเรศบอกว่าเธอได้หาเพื่อนมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ในใจบั๊มรู้สึกกังวล เพื่อนที่เยาวเรศพูดถึงนั้นจะเป็นพี่ใหญ่ของเขา
โสธรเดินไปข้างหน้าบั๊มโดยไม่พูดอะไร ตบหน้าเขาทันทีและด่า”มึงกล้าดีมากนักใช่มั้ย?ใครให้มึงไปโกงพวกเธอ?
บั๊มรีบปิดหน้าของตนเอง กลัวเหมือนไก่ตัวน้อย ต่อหน้าโสธร เขาไม่กล้าสร้างปัญหาใดๆ
“ พี่ใหญ่ ผม … ”
“อย่ามาเรียกกูว่าพี่ใหญ่ กูไม่ใช่พี่ใหญ่ของมึง มึงกล้าที่จะหาเรื่องเพื่อนของคุณรพี กูเป็นพี่ใหญ่ของมึงไม่ไหวหรอก มึงไปเป็นพี่ใหญ่ของตัวเองเถอะ!” โสธรพูดและตบหน้าของบั๊มอีกครั้ง
แม้ว่าบั๊มจะไม่รู้ว่าคุณรพีคนนี้เป็นใคร แต่เมื่อได้เห็นท่าทางที่โกรธเกรี้ยวของโสธร เขาก็รู้ว่าคุณรพีคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน มิฉะนั้นโสธรจะไม่โกรธขนาดนี้
เขาไม่รู้วิธีคลี่คลายความโกรธของโสธรได้ยังไง ดังนั้นเขาจึงคุกเข่าลงตรงไปที่โสธรอย่างเร่งรีบ
เมื่อเยาวเรศกับนิษฐาเห็นฉากนี้ ดวงตาของพวกเธอก็เบิกกว้างทันที คิดไม่ถึงว่าบั๊มจะกลัวคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้
ผู้คนรอบข้างก็สังเกตเห็นสถานการณ์ที่นี่ หยุดทุกการกระทำของตัวเองทีละคนและมองมาที่นี่
เสียงเพลงและแสงไฟในบาร์ก็หยุดลงภายใต้การดูแลของพนักงาน ณ ตอนนั้น บั๊มกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งบาร์
“แม่ง นั่นบั๊มไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงคุกเข่าลง”
“ คุณไม่เห็นเหรอว่าใครยืนอยู่ตรงข้ามเขา ผู้นำแก๊งมาเฟียของเซี่ยงไฮ้ นั่นคือโสธรเลยนะ อยู่ต่อหน้าเขา บั๊มเป็นได้แค่อะไร คุกเข่าต่อเขาก็เป็นเรื่องปกตินิ?”
“โห โสธรถึงกับออกมาจัดการด้วยตนเอง เกิดเรื่องใหญ่อะไรกันนะ จึงสามารถทำให้บอสใหญ่คนนี้ออกมา มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่ บั๊มซวยแน่”
“ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเด็กผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน สามารถทำให้โสธรจริงจังกับเรื่องนี้แบบนี้ ได้คาดว่าคงจะมีภูมิหลังที่น่ากลัวมาก”
……
เยาวเรศกับนิษฐาฟังคนรอบข้างซุบซิบ ได้รู้ว่าคนที่มาตบหน้าบั๊มคือใคร ตำแหน่งของโสธรทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของหญิงสาวทั้งสองนั้นน่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
“โส……โสธรออกมาจัดการด้วยตนเอง จิมมี่ ทำไมจู่ๆคนใหญ่โตเช่นนี้ถึงออกมาช่วยเรา”
เยาวเรศก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเช่นกัน เธอแค่บอกเรื่องของตัวเองให้รพีพงษ์ฟังเท่านั้น รพีพงษ์ก็สัญญาว่าจะช่วยเธอจัดการเรื่องนี้ ดังนั้น โสธรปรากฏตัวที่นี่ เยาวเรศคิดได้แค่ว่ามันต้องมีความเกี่ยวข้องกับรพีพงษ์แน่นอน
“เป็นไปได้หรือไม่ ว่ารพีพงษ์เป็นคนหามา เขาบอกว่าเขาจะช่วยเราจัดการเรื่องนี้” เยาวเรศกล่าว
“เป็นไปได้อย่างไร โสธรเป็นผู้นำมาเฟียในเซี่ยงไฮ้ รพีพงษ์มีปัญญาอะไร ที่จะสามารถหาคนเช่นนี้มาได้” นิษฐาปฏิเสธการคาดเดาของเยาวเรศทันที
แต่ทันทีที่เธอพูดจบ รพีพงษ์ก็เดินไปที่ด้านข้างของโสธร โสธรรีบหันกลับมาและโค้งคำนับเพื่อขอโทษรพีพงษ์”คุณรพี ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ อีกอย่างมันยังอยู่ในที่ของผมอีก ผมจะลงโทษไอ่คนที่ไม่รู้เรื่องอย่างหนัก รวมถึงชดใช้ความเสียหายให้เพื่อนของคุณด้วย ”
รพีพงษ์พยักหน้าให้โสธร จากนั้นมองไปที่เยาวเรศยิ้มให้เธอและส่งสัญญาณว่าไม่ต้องกังวล
เยาวเรศกับนิษฐาตกตะลึงในทันที ผู้นำแก๊งมาเฟียในเซี่ยงไฮ้แท้ๆ กลับทำตัวประจบสอพลอต่อหน้ารพีพงษ์ ดูเหมือนลูกน้องที่เชื่อฟัง ให้ความเคารพมากจนไม่สามารถมากกว่านี้
“จริงเหรอ … เป็นเพราะรพีพงษ์จริงๆเหรอ?” นิษฐามองไปที่รพีพงษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆโสธรด้วยความไม่น่าเชื่อ เพียงรู้สึกว่าโลกทัศน์ของเธอกำลังจะพังทลาย
ในสายตาของเธอ รพีพงษ์เป็นเพียงไอ้หนุ่มหน้าขอาวที่เกาะผู้หญิงกิน มีชีวิตอยู่โดยอาศัยผู้หญิง คนแบบนี้ เป็นคนที่ขี้ขลาดที่สุดในความคิดของเธอ อีกอย่างก็เป็นคนที่เธอดูหมิ่นที่สุดด้วย
และเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรพีพงษ์กับเธอ เธอจึงดูถูกรพีพงษ์มาโดยตลอด แต่ตอนนี้ผู้นำของเซี่ยงไฮ้ให้ความเคารพต่อรพีพงษ์ ซึ่งเกินจินตนาการของเธอมาก
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆเหรอ?
ในเวลานี้ เยาวเรศได้เปลี่ยนจากความประหลาดใจในตอนแรกเป็นความตื่นเต้น แม้ว่าเธอจะรู้ว่ารพีพงษ์นั้นยอดเยี่ยมมาก เนื่องจากได้ตกลงที่จะจัดการเรื่องนี้แล้ว ก็จะไม่มีปัญหาแน่นอน
แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่ารพีพงษ์จะมีอำนาจมากถึงขนาดที่แม้แต่คนใหญ่คนโตในเซี่ยงไฮ้ก็ยังให้ความเคารพต่อเขา เธอคิดไม่ออกจริงๆว่าตัวตนที่แท้จริงของรพีพงษ์เป็นใครกัน
บางทีผู้หญิงสวยรวยที่ไปรับรพีพงษ์ที่สนามบิน อาจแค่ไปรายงานเรื่องงานให้รพีพงษ์จริงๆก็ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เยาวเรศก็ไม่เชื่อว่ารพีพงษ์เป็นเด็กของผู้หญิงคนนั้น
หลังจากที่โสธรขอโทษรพีพงษ์แล้ว เขาก็จับหูของบั๊มด้วยมือข้างเดียว ดึงเขามาคุกเข่าต่อหน้าเยาวเรศและตะโกนว่า “บอกกูมาให้ชัดเจน เสื้อผ้าของมึงราคาเท่าไหร่ จะให้คนอื่นเขาชดใช้ไหม สำหรับความสูญเสียทางจิตใจที่มึงทำให้พวกเธอจะชดใช้ยังไง! ”
บั๊มรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสของโสธรที่จะให้เขาชดใช้บาปของเขา เพียงแค่เขาขอโทษอย่างจริงใจและให้ค่าตอบแทนแก่หญิงสาวทั้งสอง ให้คุณรพีเห็น เขาก็จะสามารถรอดพ้นจากหายนะนี้ได้
เขามองไปที่เยาวเรศด้วยสีหน้ารู้สึกผิดและพูดว่า “จริงๆแล้ว เสื้อผ้าของผมเป็นแค่เสื้อตลาดนัดที่ขายของราคาไม่ถึงสองร้อยหยวน เป็นเพราะไอ้ตรีโลจน์คนนั้น เขาขอให้ผมแสดงกับเขา บังคับให้คุณยอมรับว่าเป็นแฟนของเขา ผมค่อยใช้โอกาสนี้ทำให้คุณเมา ให้เขามีโอกาสได้คุณมา ทั้งหมดนี้ตรีโลจน์เป็นคนคิดและวางแผนทั้งนั้น ผมไปตอบตกลงเขาโดยไม่ทันคิดจริงๆ ”
เรื่องมันถึงขั้นนี้แล้ว บั๊มไม่กล้าที่จะปกปิดแม้แต่น้อย แม้ว่าตรีโลจน์จะเป็นหลานชายของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถเสี่ยงชีวิตเพื่อปกปิดมันไว้ให้เขาได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหักหลังตรีโลจน์
หลังจากที่เยาวเรศกับนิษฐาได้ยินสิ่งที่บั๊มพูด ในใจก็รู้สึกตกใจมาก คิดไม่ถึงว่านี่คือกลอุบายของตรีโลจน์ เดิมที่เยาวเรศแค่คาดเดา แต่ตอนนี้ บั๊มบอกความจริงออกมาโดยตรง
ร่องรอยของความโกรธของนิษฐาแสดงออกมาบนใบหน้าของเธอ ตอนแรกเธอคิดว่าตรีโลจน์พยายามปกป้องเยาวเรศจริงๆ เธอจึงพูดแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าเขาเป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมด แม้ว่า นิษฐาจะไม่มีเหตุผลในบางครั้ง แต่เธอก็ยังคงมีเส้นตายพื้นฐาน การกระทำของ ตรีโลจน์ ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจอย่างสิ้นเชิง
“คิดไม่ถึงว่าตรีโลจน์จะเป็นคนที่น่ากลัวขนาดนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจผิดเขามาตลอด น่ารังเกียจจริงๆ” นิษฐาพึมพำ
“ตอนนี้ผมตระหนักถึงความผิดพลาดของผมแล้ว ผมขอโทษพวกคุณอย่างจริงใจ ผมหวังว่าพวกคุณจะใจกว้าง ให้อภัยในตัวผม ผมยินดีที่จะให้ 200,000 หยวนเป็นค่าความเสียหายทางจิตใจ โปรดรับมันไว้ด้วย ต่อไปผมจะไม่ทำผิดเรื่องแบบนี้อีก” บั๊มกล่าวต่อ
เยาวเรศได้ยินสิ่งที่บั๊มพูด พูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ต้องแล้ว เพียงแค่คุณตระหนักถึงความผิดพลาดของคุณก็พอแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องให้ 200,000 เรา”
“คุณผู้หญิง โปรดรับมันไว้ มิฉะนั้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผมจะไม่สบายใจ ถ้าคุณไม่รับ ก็แสดงว่าพวกคุณยังไม่ได้ยกโทษให้ผม พี่ใหญ่ของผมก็จะไม่ปล่อยผมไป ขอร้องล่ะ โปรดรับมันไว้ เดี๋ยวผมจะไปเอาเงินมา “บั๊มเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
เมื่อได้ยินสิ่งที่บั๊มพูดเยาวเรศก็ลังเลและเงยหน้าขึ้นมองรพีพงษ์
รพีพงษ์พยักหน้าให้เธอ แสดงความยินยอม
เยาวเรศจึงพูดกับบั๊มว่า “งั้น……งั้นก็โด้”
เมื่อเห็นเยาวเรศตอบตกลง บั๊มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหันไปมองโสธร
โสธรส่งเสียงอย่างเย็นชา มองไปที่รพีพงษ์และกล่าวด้วยความเคารพ “คุณรพี ไม่รู้ว่าคุณพอใจกับคำขอโทษของเขาหรือไม่ ถ้าคุณไม่พอใจ ผมจะจัดการเขาด้วยตนเอง”
“มันเพียงพอแล้ว ให้เขาตระหนักถึงความผิดพลาดของเขาก็พอแล้ว” รพีพงษ์กล่าว
โสธรพยักหน้า เตะไปที่บั๊มและด่าว่า”ยังไม่รีบขอบคุณในความเมตตาใจกว้างของคุณรพี”
บั๊มคุกเข่าลงไปหารพีพงษ์ทันทีและกล่าวด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณคุณรพีสำหรับความเมตตากรุณา ผมจะไม่ทำผิดแบบนี้อีกในภายหลัง”
รพีพงษ์พยักหน้า จากนั้น โสธรก็สั่งให้บั๊มไปเอาเงินมา
บั๊มใส่เงินสดสองแสนในกระเป๋า ยื่นให้เยาวเรศ โสธรเห็นว่าไม่มีอะไร จึงปล่อยเขาไป
เยาวเรศมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ขณะถือกระเป๋าพร้อมเงินสดและพูดว่า “รพีพงษ์ เงินพวกนี้ … ”
“เอาไว้เถอะ นี่คือค่าตอบแทนที่คุณสมควรได้รับ” รพีพงษ์กล่าว
นิษฐาที่อยู่ด้านข้างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มองไปที่รพีพงษ์และพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าคุณจะรู้จักคนใหญ่คนโตอย่างโสธร ฉันประเมินคุณต่ำเกินไปจริงๆ”
“ จิมมี่ ครั้งนี้เราโชคดีจริงๆ ได้เงินจำนวนมากขนาดนี้ มีเงินพวกนี้ เราสามารถซื้อเสื้อผ้าสวยๆได้มากมาย” เธอหันไปหาเยาวเรศและพูดอย่างตื่นเต้น
รพีพงษ์เหลือบมองไปที่เธอและกล่าวว่า “เงินเหล่านี้เป็นค่าชดเชยสำหรับจิมมี่ มันไม่เกี่ยวข้องกับคุณเลย”
ทันใดนั้น ร่างกายของนิษฐาก็แข็งกระด้าง หัวใจของเธอเหมือนโดนน้ำเย็นหนึ่งกะละมังที่เทลงมา ความอับอายอย่างมากก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
เธอหันไปมองรพีพงษ์รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จงใจต่อต้านเธอ
“หึ ฉันไม่ได้บอกว่าจะใช้เงินพวกนี้สักหน่อย อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ของคุณ ก็แค่จัดการเรื่องเล็กๆได้ไม่ใช่เหรอ มีอะไรน่าภูมิใจ?” นิษฐากัดฟันแล้วพูด
เมื่อเยาวเรศเห็นสิ่งนี้ รีบดึงเสื้อผ้าของนิษฐาจากนั้นก็ขอบคุณรพีพงษ์
รพีพงษ์เตือนเยาวเรศให้เธอกลับไปก่อน ผู้หญิงอยู่ในสถานที่เช่นบาร์ไม่ปลอดภัย จากนั้นก็กลับไปที่ห้องส่วนตัวกับโสธร
หลังจากรพีพงษ์จากไป นิษฐาก็ตะโกนด้วยความโกรธ “น่าโมโหจริงๆ จิมมี่ เขาต้องคิดไม่ซื่อกับคุณแน่ๆ ไม่งั้นทำไมเขาถึงปฏิบัติกับคุณดีขนาดนี้แค่คนเดียว คนแบบนี้เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!”
เยาวเรศจ้องไปที่นิษฐา พูดอย่างจริงจังว่า “นิษฐา ฉันคิดว่าคุณควรเปลี่ยนนิสัยของคุณนะ รพีพงษ์มีท่าทีที่ไม่ดีต่อคุณ อาจเป็นเพราะคุณมีท่าทีที่ไม่ดีกับเขา”