พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 537 ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 537 ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ
บทที่ 537 ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ
“รพีพงษ์! คุณกำลังทำอะไร ลงมาเร็วๆ เดี๋ยวศาสตราจารย์เขาก็จะมาแล้ว อย่ามาประชดประชันที่นี่เพียงเพราะความโกรธชั่วขณะ!” นิษฐามองไปที่รพีพงษ์ที่กำลังยืนอยู่บนเวที ปฏิกิริยาแรกคือคิดว่าไอ้หมอนี้มาหาเรื่อง
ทุกคนในห้องเรียนจดจ่อไปที่รพีพงษ์ เพราะเสียงตะโกนของนิษฐาพวกเขาต่างก็จ้องมองเขาอย่างสงสัย โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“นักศึกษาคนนี้ ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ?” รพีพงษ์เหลือบมองนิษฐาและพูด
คำพูดของเขาทำให้นักศึกษาทั้งห้องเดือดดาล พวกเขาทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ ซึ่งมีอายุไม่มากนักด้วยใบหน้าที่น่าทึ่ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญจากมหาวิทยาลัย
มีเพียงไผทสันต์และอาจารย์คนอื่นๆยังนิ่งหน่อย เพราะพวกเขาทั้งหมดได้พบกับรพีพงษ์ ก่อนหน้าแล้ว รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นศาสตราจารย์ที่ผู้อำนวยการเชิญมาจริงๆ
“แม่เจ้า นี่คือศาสตราจารย์รับเชิญจากผู้อำนวยการเหรอ นี่อายุน้อยเกินไปแล้วมั้ง แน่ใจใช่ไหมว่าเขาไม่ได้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำเรื่องตลก ”
“ หรือว่าเป็นเรื่องจริงใช้เงินซื้อเข้ามาหาชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยของเรา แต่ศาสตราจารย์คนนี้ได้รับเชิญจากผู้อำนวยการเป็นการส่วนตัวไม่ใช่เหรอ ผู้อำนวยการของเรามักจะดูถูกเรื่องการโกงไม่ใช่หรอกเหรอ?”
“นี่มัน คนๆนี้น่าจะพึ่งจบได้ไม่นานมั้ง ดูจากอายุของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะอายุน้อยกว่าอาจารย์ไผทสันต์อีก การเลื่อนตำแหน่งของอาจารย์ไผทสันต์นั้นถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว ยังไม่สามารถขึ้นสู่ระดับศาสตราจารย์ได้เลย คนนี้กลับเป็นศาสตราจารย์รับเชิญได้ ซึ่งไร้สาระเกินไป ”
……
“รพีพงษ์คุณอย่าหน้าด้านได้ไหม คุณคิดว่าพวกเราทุกคนเป็นคนโง่หรือ คุณอายุเท่าไหร่กัน คุณจะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญในมหาวิทยาลัยของเราได้อย่างไร!” นิษฐาดูกังวลและคิดว่ารพีพงษ์เล่นใหญ่เกินไปแล้ว
“นักศึกษาท่านนี้ โปรดนั่งลงก่อน เดี๋ยวก็จะเริ่มเรียนแล้ว อย่ารบกวนชั้นเรียนของผม” รพีพงษ์พูดให้นิษฐา
นิษฐารู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก เธอคิดว่ารพีพงษ์แสดงจนติดใจแล้ว วางแผนที่จะฉีกหน้าที่แท้จริงของรพีพงษ์ออกมา ให้เขาอับอายต่อหน้าทุกคน
ในขณะนี้นี่เอง มโนชาเดินเข้ามาในห้องเรียน ขมวดคิ้วใส่นิษฐาและพูดว่า “คุณกำลังยืนทำอะไรอยู่ ดร.รพีให้คุณนั่งลง คุณยังอยากจะหาเรื่องอีกเหรอ?”
นิษฐาเห็นมโนชาเข้ามา ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันทีและเธอก็พึมพำ“ รุ่นพี่ เขา … ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบนั่งลง อย่าส่งผลกระทบต่อคาบเรียนของดร.รพี” มโนชาพูดกับนิษฐา
นิษฐารู้สึกเพียงเสียงฟ้าร้องในหูของเธอ เธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอนั่งอยู่ลงบนเก้าอี้โดยไม่รู้ตัวและจ้องไปที่รพีพงษ์ที่อยู่บนเวทีอย่างเหม่อลอย ในหูมีคำสามคำวนซ้ำไปมา “ดร.รพี” ที่มโนชาพูด
มโนชาเห็นว่ายังมีคนมากมายในห้องเรียนสงสัยในตัวตนของรพีพงษ์ เธอจึงกระแอมในลำคอและตะโกนว่า”เรียนนักศึกษาและอาจารย์ทุกท่าน นี่คือแขกที่ได้รับเชิญจากผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยเรา ศาสตราจารย์ รพีพงษ์ คุณรพี คลาสนี้จะสอนโดยคุณรพี ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถแสดงความกระตือรือร้นและทัศนคติที่จริงจังในการมาฟังการสอนของคุณรพี”
หลังจากพูดเสร็จ มโนชาก็รีบนั่งบนที่นั่งว่างในแถวแรก
“เขา … เขากลับเป็นศาสตราจารย์ที่ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยจริงๆ เป็นไปได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าเขาอายุแค่ยี่สิบกว่าเท่านั้น อีกอย่าง … อีกอย่างเขายังได้รับการเลี้ยงดูจากผู้หญิง … หรือว่าฉันเข้าใจเขาผิดจริงๆ ? “นิษฐารู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิด ท่าทีที่พิจารณาผู้อื่นก่อนคิดถึงถูกผิด ทำให้เธอเข้าใจผิดรพีพงษ์หลายอย่างมาก
หลังจากยืนยันว่ารพีพงษ์เป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่ผู้อำนวยการเชิญมา นักศึกษาทุกคนก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พวกเขาคิดไม่ถึงว่าบุคคลที่ดูแก่กว่าพวกเขาเพียงไม่กี่ปีจะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยเชิญมา
ไผทสันต์เห็นปฏิกิริยาของทุกคน สีหน้าเยาะเย้ยบนใบหน้าก็ยิ่งมากขึ้น ดูเหมือนว่าการรับรู้ของทุกคนจะเหมือนกัน คนในวัยนี้ มีคุณสมบัติอะไรในการเป็นศาสตราจารย์รับเชิญ?
เดี๋ยวหากการบรรยายของรพีพงษ์ ไม่มีเนื้อหาที่แท้จริง เขาจะร้องเรียนต่อผู้อำนวยการและขอให้ผู้อำนวยการถอนตำแหน่งศาสตราจารย์ของรพีพงษ์
ไม่นาน เสียงกริ่งในมหาวิทยาลัยก็ดังขึ้น ทุกคนก็เงียบลง รอให้ รพีพงษ์เริ่มการบรรยาย
รพีพงษ์หยุดชั่วคราวแล้วเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้ทุกคนและพูดว่า “สวัสดีทุกคน ผมชื่อรพีพงษ์ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเปิดสอนที่นี่ … ”
เขาแนะนำตัวเองสั้นๆก่อน จากนั้นใช้สิ่งที่เขาคิดในหัว โดยใช้วิธีที่ตลกขบขัน นำเข้าไปสู่เนื้อหาหลักของชั้นเรียนนี้
ในมุมมองของรพีพงษ์ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายหรือการพูดสุนทรพจน์ จุดประสงค์หลักคือการทำให้ผู้ฟังสามารถตั้งใจฟังไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีทักษะมากมายที่อยู่ในนั้น เพียงแค่เชี่ยวชาญทักษะเหล่านี้ คุณก็สามารถทำให้บุคคลในชั้นเรียนจดจ่อกับการฟังในสิ่งที่เขากำลังพูดถึง
ไม่มีนักศึกษาที่ไม่เป็น มีเพียงอาจารย์ที่สอนไม่เป็น
ในฐานะผู้ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ รพีพงษ์คุ้นเคยกับทักษะเหล่านี้มานานแล้ว หากเขาไม่มีความสามารถที่จะให้คนอื่นฟังเขา หัวหน้าตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะถูกแทนที่ไปนานแล้ว
ในคาบแรกนี้ของเขา พูดถึงบทสรุปของโบราณวัตถุในประวัติศาสตร์เป็นหลัก ตามลำดับเวลา เขาพูดคร่าวๆเกี่ยวกับบทบาทหลักของโบราณวัตถุในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในระหว่างนั้นเขาจะแทรกความตลกขบขันเข้าไปด้วย ทำให้ทุกคนที่มาเข้าเรียนหัวเราะอย่างขบขัน
เขาได้แทรกความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุอารยธรรมทางประวัติศาสตร์และเนื้อหาต่างๆเข้าไปในการบรรยายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในระหว่างนี้เขายังแนะนำวัตถุอารยธรรมทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในหนังสือเรียนและเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวัตถุทางวัฒนธรรม
ไม่เพียงแต่นักศึกษาถูกดึงดูดโดยสิ่งที่รพีพงษ์พูด แต่อาจารย์หลายคนที่อยู่ในนี้ต่างก็จ้องมองรพีพงษ์ ไม่กล้าที่จะละทิ้งคำพูดใดๆที่รพีพงษ์พูด
แม้ว่าอาจารย์หลายคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ล้วนมาจากคณะประวัติศาสตร์พวกเขาคิดว่าพวกเขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พวกเขามาที่นี่ เพื่อรอดูรพีพงษ์ขายหน้า แต่ตอนนี้ พวกเขาได้ฟังการบรรยายของรพีพงษ์แล้ว ทันใดนั้นก็ตระหนักว่าความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมยังหยุดอยู่แค่ผิวเผินเท่านั้นและโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมและเรื่องราวที่รพีพงษ์กล่าวมานั้น ในพวกเขาไม่มีใครเคยได้ยินเลย ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่รพีพงษ์ได้บรรยาย
ไผทสันต์จ้องมองรพีพงษ์ที่กำลังบรรยายบนเวทีอย่างมั่นใจด้วยความเหม่อลอย ความรู้สึกในใจของเขาเหมือนกับอาจารย์คนอื่นๆ เขาไม่เคยได้ยินการบรรยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนเช่นนี้ ในความรู้สึกของเขา แม้ว่าผู้อำนวยการจะมาบรรยายเอง ก็คงไม่มีทางพูดได้ดีที่เกือบจะสมบูรณ์แบบเหมือนรพีพงษ์
เดิมทีเขาเตรียมคำถามที่ยากไว้มากมาย วางแผนที่จะถามรพีพงษ์กลางชั้นเรียน เพื่อทำให้รพีพงษ์อับอายขายหน้า ในความคิดของเขา คำถามเหล่านี้ มีระดับสูงมาก ถ้ารพีพงษ์เป็นศาสตราจารย์รับเชิญปลอม ก็จะตอบไม่ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังคำบรรยายของรพีพงษ์แล้ว ไปดูคำถามที่เขาเตรียมมา ดูแล้วเหมือนคำถามของนักเรียนประถม
ความรู้สึกนี้ทำให้ไผทสันต์รู้สึกอายจนไม่รู้จะทำยังไง ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ารพีพงษ์ ชายหนุ่มในวัยยี่สิบกว่าปี เป็นศาสตราจารย์รับเชิญนั้นช่างเป็นเรื่องที่ตลกสิ้นดี ได้ล้อเลียนรพีพงษ์หลายต่อหลายครั้ง
ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาเป็นคนที่น่าตลกที่สุดต่างหาก