พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 539 ในที่สุดก็พบคุณ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 539 ในที่สุดก็พบคุณ
บทที่ 539 ในที่สุดก็พบคุณ
นิษฐาถูกรพีพงษ์ผลักจนเกือบล้มลงกับพื้น
เธอมองไปที่รพีพงษ์ที่วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่อับอาย เธอรู้สึกคับข้องใจไม่รู้จบไปชั่วขณะ
แม้ว่าจะไม่อยากให้อภัย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องผลักตัวเองออกไปเช่นนี้ไหม?
อีกอย่างยังวิ่งเร็วขนาดนี้ หรือว่าเขารําคาญตนเองขนาดนี้เลยเหรอ?
หึ บรรยายเก่งแล้วยังไง ยังไงก็เป็นแค่คนที่ใจแคบ คิดไม่ถึงว่าจะเจเคิดเจ้าแค้นเช่นนี้ ตอนแรกอยากขอโทษเขาด้วยความจริงใจ ตอนนี้เหรอขอโทษเขาก็บ้าละ
เดิมทีนิษฐารู้สึกน้อยใจ แต่กลับกลายเป็นความโกรธในภายหลังและใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง
……
ที่ทางเดิน หลังจากรพีพงษ์รีบวิ่งออกไป เขาก็รีบมองไปยังทิศทางที่อารียาเพิ่งเดินผ่านร่างที่คุ้นเคยจากด้านหลังของเธอทำให้ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย
ที่แท้อารียาอยู่ที่นี่จริงๆด้วย อีกอย่างไม่ได้เกิดอุบัติเหตุใดๆ เส้นประสาทของรพีพงษ์ที่ตึงเครียดมานานก็ผ่อนคลายลง
เขาหยุดอยู่กับที่เป็นเวลาหลายวินาที จากนั้นหายใจเข้าลึกๆและตะโกนใส่ร่างตรงหน้า”อารี!”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง รอให้อารียาหยุดเดิน วินาทีที่หันกลับมาสบตาเขา เขาจะรีบไปหาคนที่คิดถึงตลอดทุกวันคืน กอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
อย่างไรก็ตาม ฉากที่เขาเฝ้ารอไม่ได้เกิดขึ้น ร่างที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดชั่วขณะ จากนั้นก็เดินไปทางด้านหน้าต่อไป
ความรู้สึกตื่นเต้นในใจของรพีพงษ์เย็นลงอย่างกะทันหัน เขาคิดไม่ถึงว่าอารียาจะหยุดแค่ชั่วขณะหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของเขา จากนั้นก็เดินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาอยู่ด้วยกันกับอารียามานานขนาดนี้ พวกเขาเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับกันและกันอย่างละเอียดแล้ว รพีพงษ์สามารถสรุปได้ว่าเป็นอารียาจากด้านหลังของเธอเท่านั้น แน่นอนว่าอารียาก็สามารถแยกแยะออกว่าว่าคนๆนั้นคือใครได้เพียงประโยคเดียว
ทุกรายละเอียดของร่างที่เดินอยู่ข้างหน้า พิสูจน์ให้รพีพงษ์เห็นว่า เป็นภรรยาของเขาที่หายไปเป็นเวลานาน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจำผิด รพีพงษ์ไม่เชื่อว่าคนตรงหน้าแค่หน้าตาเหมือนอารียา คนสองคนอาจมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันหรือเหมือนกันทุกประการ แต่ความสง่าและนิสัยที่ได้รับการปลูกฝังมานาน ไม่สามารถเหมือนกันได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม บุคคลที่รพีพงษ์คิดว่าต้องเป็นอารียา หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของเขา ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆเลย ราวกับว่าเขารู้สึกว่าเสียงนั้นไม่ได้เรียกเธอ
นี่เป็นเพราะอะไร?
ทันใดนั้นความสงสัยก็ปรากฏในใจของรพีพงษ์ เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตามหลักแล้วอารียาควรจะวิ่งมาหาเขาทันทีที่พบเขา อีกอย่างสิ่งที่ทำให้เขางงงวยมากที่สุดก็คืออารียาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้โดยไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอกลับไม่เคยติดต่อกับเขาเลย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขางงมาก
เขารู้ดีว่าอารียาไม่ได้หายตัวไปได้โดยไม่มีเหตุผล ในช่วงที่เธอหายตัวไป จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน จึงทำให้อารียาไม่เคยติดต่อกับเขา
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรนั้น คงต้องให้อารียาอธิบายด้วยตนเองเท่านั้น
ความเป็นไปได้มากมายเกิดขึ้นในหัวของรพีพงษ์ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การที่อารียาไม่สนใจเขา ทำให้รพีพงษ์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เขาไม่ลังเลอีก รีบตามอารียาไปและหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“อารี ทำไมคุณถึงไม่สนใจผม ผมตามหาคุณมานานแล้ว ผมยังคิดว่าคุณประสบอุบัติเหตุ คุณสบายดีก็ดีแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเจออะไรมา บอกผมได้ไหมว่าช่วงนี้คุณประสบอะไรมา? “รพีพงษ์กล่าวด้วยความตื่นตระหนก
ในเวลานี้ ผู้หญิงที่กำลังเดินอยู่กับอารียายืนบังอยู่ตรงหน้า อารียาจ้องมองรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่ระมัดระวังและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณเป็นใครเหรอ คุณต้องการทำอะไร รีบไสหัวออกไปนะ อย่าได้คิดที่จะมาคิดไม่ซื่อกับคุณหนูของเรา!”
ในเวลานี้ รพีพงษ์พึ่งสังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างๆอารียา เมื่อได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ รพีพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “คุณหนูของคุณ?เธอเป็นภรรยาของผม ทำไมถึงกลายเป็นคุณหนูของคุณได้อย่างไร?”
เมื่อหญิงสาวได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ใบหน้าของเธอมีร่องรอยของความรังเกียจ เธอยื่นมือออกไปเพื่อผลักรพีพงษ์และตะโกนว่า “ทำไมคุณถึงไร้ยางอายขนาดนี้ คุณกล้าที่จะไม่เคารพคุณหนูของเราขนาดนี้? ไอ้ขยะไร้ประโยชน์จากไหนเนี่ย บอกว่าคุณหนูเราเป็นภรรยาคุณ คุณคู่ควรเหรอ?”
ทันใดนั้น รพีพงษ์รู้สึกกังวลเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเหลือบมองไปที่อารียาที่อยู่ข้างหลังหญิงสาว พบว่าอารียากำลังมองตัวเขาอย่างเหม่อลอย ในเวลานี้คิ้วของเธอขมวดไว้ ราวกับว่ากำลังพยายามคิดอะไรบางอย่าง
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์รู้สึกปวดใจคือสายตาที่อารียามองเขาเหมือนคนไม่รู้จักกัน แม้ว่ารพีพงษ์จะแน่ใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือภรรยาของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่รพีพงษ์ไม่คาดคิดมาก่อน
“อารี คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณถึงมองผมด้วยสายตาแบบนี้?ผมคือรพีพงษ์ไง คุณไม่รู้จักผมแล้วเหรอ?” รพีพงษ์จ้องไปที่อารียาอย่างไม่ละสายตาและถาม
“ ทำไมคุณหน้าด้านขนาดนี้ อย่าใช้สรรพนามที่น่ารังเกียจเช่นนี้เรียกคุณหนูของเราคุณหนูของเราไม่รู้จักคุณ คุณรีบไสหัวไป ไม่งั้นอย่าโทษฉันว่าฉันหยาบคายนะ” หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าของ อารียาตะโกนใส่รพีพงษ์อีกครั้ง
ถึงตอนนี้ อารียาพึ่งดึงสติกลับมา เธอยื่นมือออกไปดึงเสื้อผ้าของหญิงสาวแล้วพูดเบาๆว่า “ขนมปังอย่าพูดแบบนั้นกับคนอื่น เขาอาจจะแค่จำผิดคน”
วินาทีที่อารียาเห็นรพีพงษ์มีความเจ็บปวดส่งมาจากหัว เธอรู้สึกว่าเธอเคยเห็นผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ดูเหมือนจะมีความทรงจำบางอย่างอยู่ในหัว ผู้ชายที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันกำลังจะหลุดออกมาจากความทรงจำ
แต่เธอยืนอยู่กับที่และครุ่นคิดอย่างหนักเป็นเวลานาน แต่ไม่มีความทรงจำใดๆออกมาในความคิดของเธอ แต่เธอมีความรู้สึกคุ้นเคยกับผู้ชายตรงหน้าเธอ ส่วนที่เหลือก็ว่างเปล่า
หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา ก็มีสถานการณ์เช่นนี้ปรากฏหลายครั้ง หลังจากเห็นอะไรบางอย่าง สมองของเธอก็จะตอบสนองเช่นนี้ ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดสำหรับเธอ
เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมา อารียาคิดว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธออาจจะคล้ายกับคนที่เธอเคยรู้จักในอดีต ดังนั้นจึงเกิดสถานการณ์นี้ขึ้น เธอจำไม่ได้จริงๆว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา ตระกูลพงศ์ธนธดาหลายคนได้ปลูกฝังเธอหลายอย่าง “ความทรงจำเกี่ยวกับอดีตของเธอ” ในความรู้ความเข้าใจของเธอ เธอไม่เคยแต่งงานกับใครมาก่อนเธอจึงคิดว่ารพีพงษ์จำคนผิดแน่นอน
ขนมปังได้ยินคำพูดของอารียาและโต้กลับทันที “คุณหนู คุณอ่อนโยนเกินไปแล้ว คนแบบนี้เราเจอมาไม่น้อยนิ เขาจำคนผิดที่ไหนล่ะ เห็นได้ชัดว่าเขาอยากเอาเปรียบคุณหนู”
ขนมปังคนนี้เป็นสาวใช้ของอารียา แม้ว่าอารียาจะเป็นคุณหนู แต่เธอก็มักจะทำตัวเข้มแข็งกว่าคุณหนูมาก การตัดสินใจหลายอย่าง ขนมปังก็ตัดสินใจเองโดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านของอารียา
“อารี คุณ … คุณไม่รู้จักผมจริงๆหรือ?” รพีพงษ์มองไปที่สายตาของอารียาที่เต็มไปด้วยความไม่คุ้นเคย เสียงของเขาก็สั่น
“อารี อะไรของคุณ นี่คือคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดา อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังแกล้งโง่ รีบไสหัวไปไม่งั้นฉันจะโทรหาคนของตระกูลพงศ์ธนธดาถึงตอนนั้นคุณซวยแน่!” ขนมปังตะโกนใส่หลินรพีพงษ์อีกครั้งอย่างโหดเหี้ยม
เมื่อได้ยินคำพูดของขนมปัง ร่างกายของรพีพงษ์ก็แข็งทื่อขึ้นทันที มองไปที่อารียาอย่างไม่น่าเชื่อ ในใจขึ้นๆลงๆ
คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ดารินทร์ !
เป็นไปได้ยังไง! ทำไมอารียาถึงกลายเป็น คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา?
เมื่อคิดถึงตอนที่โสธรต้องการแนะนำคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาให้รพีพงษ์ในวันนั้น รพีพงษ์รู้สึกเหลือเชื่อ
ภรรยาของตนเอง กลายเป็นคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาได้อย่างไร? เธอควรเป็นประธานของตระกูลฉัตรมงคลต่างหาก
“ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่นอน เธอเป็นภรรยาของผม อารียา ผมตามหาเธอมานานแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะจำคนผิด อารี คุณกลับไปกับผม ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณในช่วงเวลาที่ผ่านมา “รพีพงษ์มองไปที่อารียาด้วยความตื่นเต้น ยื่นมือออกไปเพื่อคว้าอารียาไว้
เมื่อขนมปังเห็นเช่นนี้ ก็รีบปกป้องอารียาไว้แล้วถอยหลังกลับไปสองสามก้าว ตะโกนบอกคนรอบข้าง “รีบมาดูสิ ไอ้คนไร้ยางอายนี้ กำลังแพร่กระจายข่าวลือที่นี่ บอกว่าคุณหนูของเราเป็นภรรยาของเขา ไม่ลองตักน้ําใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองว่าคู่ควรไหม ได้ยินมาว่าผู้ค้ามนุษย์หลายคนจะใช้กลอุบายนี้ ก่อนที่จะลักพาตัวคนนั้นไป บางทีบุคคลนี้อาจเป็นผู้ค้ามนุษย์ก็ได้ พวกคุณรีบมาจับตัวเขาไว้เร็ว! ”
เมื่อขนมปังตะโกนอย่างนั้น คนรอบๆก็มารวมตัวกันที่นี่ ทันทีที่ทุกคนจ้องไปที่รพีพงษ์และเริ่มวิพากษ์วิจารณ์
“ คนนั้นเป็นคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ใช่หรือ มีคนกล้าบอกว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นภรรยาของเขา นี่มันกล้าเกินไปแล้ว”
“ ปัดโธ่ ทุกวันนี้ คนประเภทไหนก็มีเนาะ มีแม้แต่คนที่ต้องการใช้วิธีนี้เพื่อโกงคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดา แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มองว่าตระกูลพงศ์ธนธดาในเซี่ยงไฮ้นั้นใหญ่แค่ไหน ใครทำแบบนี้จะต้องตายอย่างอนาถในที่สุด”
“ แม่งเอ้ย ไอ้นี่มันไร้ยางอายจริงๆ คำพูดแบบนี้ก็พูดออกมาได้ ถ้าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาแต่งงานจริงๆ ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่นอน อีกอย่างคนใหญ่โตระดับนี้ จะไปแต่งงานกับคนธรรมดาได้ยังไง?
……
ในเวลานี้ ผู้คนที่เพิ่งเข้าร่วมชั้นเรียนก็ออกมาเช่นกัน เมื่อพวกเขาได้ยินคนรอบข้างพูดว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง
พวกเขาคิดไม่ถึงว่า ศาสตราจารย์รับเชิญที่ระดับสูงคนนี้ จะบอกว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นภรรยาของตนเอง ซึ่งนี่ค่อนข้างไม่สอดคล้องกับบุคลิคของรพีพงษ์ในชั้นเรียน
ผู้ที่ไม่รู้จักตัวตนของรพีพงษ์ล้วนคิดว่าเขาประสาท
เยาวเรศก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้างงงวย คิดไม่ออกว่าทำไมรพีพงษ์ถึงทำสิ่งที่ทำลายชื่อเสียงตัวเองเช่นนี้
ส่วนนิษฐา ใบหน้าเต็มไปด้วยการดูถูก ไม่มีความรู้สึกผิดในใจอีกต่อไป
“คุณหนู พวกเรารีบไปกันเถอะ คนนี้ไม่มีเหตุผลจริงๆ เดี๋ยวกลับไปฉันจะบอกเรื่องนี้ให้คุณท่านฟัง ให้คุณท่านมาจัดการเขา” ขนมปังหันศีรษะและพูดกับอารียาก่อนที่จะลากเธอเดินจากไป
“แต่ว่า … ” อารียามีความต่อต้านโดยสัญชาตญาณ เธอรู้สึกว่าคนๆนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เธอเรียกคืนความทรงจำของเธอได้
“โอ๊ย ไม่มีแต่ว่าอะไรทั้งนั้น คุณนหนู รีบไปกันเถอะ” ขนมปังไม่ให้โอกาสอารียา
รพีพงษ์อยากจะหยุดอารียาไว้ และในเวลานี้ผู้คนรอบๆก็รุมล้อมรพีพงษ์ทันทีและขวางรพีพงษ์ไว้
“คิดว่ามหาวิทยาลัยของเราเป็นสถานที่ที่คุณสามารถทำอะไรก็ได้เหรอ!”ผู้ชายหลายคนพูดอย่างโมโห
รพีพงษ์หยุดลง สบตากับอารียาที่หันมามอง มีเพียงความรู้สึกไม่คุ้นเคยและทำอะไรไม่ได้ในสายตาของอีกฝ่าย