พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 577 โจมตีสุดพลัง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่ 577 โจมตีสุดพลัง
บทที่ 577 โจมตีสุดพลัง
ภูดิทมองไปที่สองคนนั้นที่อยู่กลางสนามอย่างใจเย็น ดูมั่นใจในตัวลูกชายของตัวเอง ไม่กังวลว่าฉัตรพลจนแพ้ให้กับรพีพงษ์เลย
“เป็นแค่คนที่ไม่มีความสามารถอะไร ยังกล้าจะมาท้าดวลกับลูกชายฉัน ไม่ดูตัวเองเลยจริงๆ หลายปีมานี้ลูกชายของฉัน ได้เรียนกับคาเมดะอิจิโร่ปรมาจารย์การต่อสู้ที่ประเทศญี่ปุ่น ความเข้าใจของคาเมดะอิจิโร่เกี่ยวกับการต่อสู้ เกินขอบเขตของคนปกติมาก ได้ยินมาว่าเขาชนะในการสู้กับนินจานับพัน ปรมาจารย์ระดับนี้ นักเรียนที่ได้เรียนด้วย จะให้คนกระจอกๆที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาเทียบเทียมได้ยังไงกัน”
“ถ้าหากว่าฉันใช้พลังทั้งหมดที่มี เกรงว่าไอ้หมอนี่จะต้านทานไม่ได้เลย”
“คนในวัยนี้บนโลกปัจจุบัน สามารถทำได้ถึงระดับของลูกฉัน เกรงว่าก็คงจะมีเพียงดัมพ์รงค์คนนั้นที่อยู่เทือกเขากิสนาแล้วล่ะ มีแต่พวกขยะจริงๆที่กล้ามากระทบกระทั่งตระกูลธาดาวรวงศ์ของฉัน”
“ช่างเถอะ วันนี้จะให้ฉัตรพลปราบคนเหล่านี้พอดีเลย รอให้พวกเขาได้รู้ถึงความสุดยอดของตระกูลธาดาวรวงศ์ ต่อไปถ้าจะมาวุ่นวาย ก็ต้องไตร่ตรองดูให้ดีแล้ว”
ชลาธิปจ้องมองไปที่สองคนนั้นที่อยู่กลางสนามอย่างจริงจัง เขาเคยเห็นความแข็งแกร่งทางธุรกิจของรพีพงษ์แล้ว ดังนั้นเกี่ยวกับที่รพีพงษ์จะจัดการตระกูลธาดาวรวงศ์ ก็มีความมั่นใจอย่างมาก
แต่ในด้านของการต่อสู้ โดยเฉพาะต่อสู้กับฉัตรพล ชลาธิปไม่มีทางที่จะวางใจ
แม้ว่าเขาจะรู้พลังที่แข็งแกร่งของรพีพงษ์ สามารถจัดการบอดี้การ์ดของเขาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่ตอนนี้คนที่รพีพงษ์กำลังเผชิญหน้าอยู่ ก็คือฉัตรพลนักต่อสู้ที่บ้าคลั่งของตระกูลธาดาวรวงศ์
เขาได้ยินมาตั้งนานแล้ว หลายปีมานี้ฉัตรพลได้เรียนศิลปะการต่อสู้กับคาเมดะอิจิโร่ปรามาจารย์ศิลปะการต่อสู้ท่านนั้นที่สู้ชนะมาโดยตลอด ณ ประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าฉัตรพลจะเรียนแค่ขั้นพื้นฐานของคาเมดะอิจิโร่ นั่นก็ถือว่าน่ากลัวแล้ว เขาไม่แน่ใจเลยว่ารพีพงษ์จะสามารถรับมือได้ไหวหรือเปล่า
ถ้าหากว่ารพีพงษ์ตายในน้ำมือของฉัตรพลอย่างนี้ งั้นครั้งนี้เขา ก็คงยืนผิดฝั่งแล้วจริงๆ
ลังเลอยู่นาน ชลาธิปเดินไปข้างๆวิไลพร ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลพร้อมเอ่ยถาม : “พวกคุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะให้รพีพงษ์สู้กับฉัตรพลอย่างนี้?พละกำลังของฉัตรพลคนนั้นไม่ธรรมดาเลยนะ ไม่เพียงแค่รพีพงษ์จะสู้ไม่ไหว แผนการทั้งหมดในวันนี้ของพวกคุณ ก็จะล้มเหลวแน่นอน”
วิไลพรหันหน้าไปมองชลาธิปแวบหนึ่ง เอ่ยปากถาม : “ทำไม หรือว่านายไม่เชื่อใจรพีพงษ์งั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ ฉันก็แค่เป็นกังวลนิดหน่อย พวกคุณอาจจะไม่รู้ ฉัตรพลคนนั้นไปเรียนรู้ปรมาจารย์การต่อสู้ที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งหลายปี ปรมาจารย์การต่อสู้คนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นมาก เขาคนเดียวเคยต่อสู้ชนะยอดฝีมือกว่าพันคนเลยนะ……” ชลาธิปรีบเอาสิ่งที่ตัวเองเป็นกังวลพูดออกมาทันที
วิไลพรไม่ได้รอให้เขาพูดจบ ก็เอ่ยปากถาม : “นายรู้จักดัมพ์รงค์ไหม?”
ชลาธิปอึ้งไปชั่วขณะ แล้วพยักหน้าทันที ตระกูลพงศ์ธนธดาก็ถือว่าเป็นตระกูลชั้นนำของโลกอยู่ดี เกี่ยวกับเรื่องของเทือกเขากิสนา แน่นอนว่าก็ต้องพอรู้บ้างอยู่แล้ว
“คุณคิดว่าเมื่อเทียบฉัตรพลกับดัมพ์รงค์แล้ว คนไหนที่เจ๋งกว่ากัน?” วิไลพรถามต่อ
ชลาธิปครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยปากถาม : “อันนี้ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี ดัมพ์รงค์ได้รับการขนานนามว่าเป็นอันดับต้นๆของอันดับเทพเจ้าแห่งสงครามในกิสนา พละกำลังคงจะไม่เลวเลย ฉัตรพลเป็นศิษย์ของปรมาจารย์การต่อสู้ อายุของทั้งสองคนก็ไล่เลี่ยกัน เป็นไปได้วา พละกำลังของทั้งสองอาจจะเท่ากัน คุณถามเรื่องนี้ทำไมกัน?”
“พละกำลังของรพีพงษ์สุดยอดกว่าดัมพ์รงค์ ดังนั้นจึงสามารถรับมือกับฉัตรพลได้อย่างแน่นอน นายไม่ต้องเป็นกังวลหรอกนะ” วิไลพรเอ่ยปากพูด
เธอไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ารพีพงษ์คือคุณชายน้อยแห่งกิสนา และเรื่องปีนบันไดสูงสำเร็จ ดังนั้นจึงทำได้เพียงยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆให้กับชลาธิป ให้เขาวางใจ
หลังจากที่ชลาธิปได้ยินคำพูดของวิไลพร ก็เบิกตากลมโตทันที ถามออกไปด้วยความเหลือเชื่อ : “จริงเหรอ?คุณรู้ได้ยังไง?”
วิไลพรจ้องมองไปที่เขาแวบหนึ่ง พร้อมเอ่ยปากพูด : “ทำไมนายนี่เรื่องเยอะจริงๆเลย บอกนายว่ารพีพงษ์รับมือได้ ก็คือรับมือได้ นายหุบปากไปเลยนะ อย่ามารบกวนฉันดูพวกเขาสองคนต่อสู้กัน”
ชลาธิปทำได้แค่ปิดปากด้วยความโกรธแค้น หลังจากที่รู้ว่าวิไลพรไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิด เขาก็ค่อนข้างที่จะกลัววิไลพรบ้างแล้ว
“แต่หวังว่ารพีพงษ์จะสุดยอดมากอย่างที่เธอพูดแล้วกัน” ชลาธิปอธิษฐานอย่างเงียบ ๆ ในใจ
กลางสนาม หลังจากที่ฉัตรพลพุ่งเข้าไปที่รพีพงษ์ ก็ไม่ได้ยั้งมือเลย ใส่หมัดหนักเข้าเลย กระแทกเข้าไปยังหน้าอกของรพีพงษ์แล้ว
รพีพงษ์ไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่ ถอยเท้าไปข้างหลังก้าวหนึ่ง ยื่นมือออกมา ป้องกันกำปั้นของฉัตรพล พละกำลังมหาศาลแพร่เข้ามา รพีพงษ์ใช้กระบวนการท่าของเท้าทันที ถอยลงไปข้างหลังสองก้าว ป้องกันหมัดของฉัตรพล
หลังจากที่เขาสัมผัสถึงพลังหมัดของฉัตรพลแล้ว พละกำลังของคนๆนี้ แข็งแกร่งมาก เกรงว่าจะสามารถเทียบกับดัมพ์รงค์ได้เลย
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร กลับว่าดีอกดีใจขึ้นมา ได้มาเจอคู่ต่อสู้อย่างนี้ สำหรับรพีพงษ์แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งคู่ต่อสู้แข็งแกร่ง ก็ยิ่งสามารถทำให้รพีพงษ์แสดงพละกำลังของตัวเองออกมาได้เต็มที่
การต่อสู้อย่างนี้สำหรับเขา ได้รอคอยมานานแล้ว
เมื่อฉัตรพลเห็นว่ารพีพงษ์สามารถต้านทานหมัดของตัวเองได้ ขมวดคิ้วแน่น หมัดเมื่อตะกี้ของเขา เรียกได้ว่าใช้พลังทั้งหมดของร่างกายที่มีแล้ว เพราะคิดที่จะจัดการรพีพงษ์ไปเลย ให้คนรอบข้างได้เห็นถึงความสุดยอดของเขา แต่กลับคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์สามารถต้านทานไว้ได้โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย
“สามารถต้านทานหมัดของฉันได้ ก็ถือว่ามีคุณสมบัติพอที่ฉันจะจัดการอย่างจริงจังแล้ว ก็ไม่รู้ว่านายจะทนหมัดของฉันได้สักกี่หมัด!” ตะโกนออกไป พร้อมออกหมัดกระแทกเข้าไปยังตัวของรพีพงษ์อีกครั้ง
รพีพงษ์วาร์ปตัวหายไป เตะขาไปที่ฉัตรพล ฉัตรพลก็รีบยื่นมือออกมาป้องกัน พลังขาของรพีพงษ์ทำให้ฉัตรพลขยับขาไปด้านข้างสองก้าว
เพียงเวลาไม่กี่สิบนาทีทั้งสองคน ก็ประลองฝีมือกันหลายกระบวนท่าแล้ว ฉัตรพลที่เดิมทีดูถูกรพีพงษ์เป็นอย่างมากในเวลานี้ก็ขมวดคิ้วแน่นแล้ว
ความสุดยอดของรพีพงษ์ หลังจากที่แม้แต่ต่อสู้กับยอดฝีมืออันดับเทพเจ้าแห่งสงครามทั้งเก้าก็ทำได้ แล้วยังชนะดัมพ์รงค์อีก ตอนนี้คู่ต่อสู้ของเขามีเพียงฉัตรพลคนเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้พลังแค่80%เท่านั้น ก็พอที่จะจัดการกระบวนท่าทั้งหมดของฉัตรพลได้อย่างง่ายดาย
และรพีพงษ์ก็ไม่คิดที่จะจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไรระยะเวลาก็ประมาณครึ่งชั่วโมงที่เขาพูดไว้ ยังอีกนาน
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เงียบสงบลง คนพวกนั้นที่เดิมทีคิดว่าฉัตรพลจะจัดการกับรพีพงษ์ได้เพียงไม่กี่นาทีต่างก็พากันปิดปากแล้ว เห็นได้ชัดว่ารพีพงษ์มีความโดดเด่นมากกว่า
ในเวลานั้นภูดิทก็ขมวดคิ้วแน่น คิดไม่ถึงว่าจู่ๆรพีพงษ์จะยอดเยี่ยมอย่างนี้ ประลองฝีมือกับฉัตรพลเป็นเวลานานก็ไม่มีทางทีที่จะพ่ายแพ้เลย ยากที่จะเห็นจริงๆ
ชลาธิปเดิมทีเป็นเพราะสถานการณ์ในสนาม ทำให้คิ้วที่ขมวดแน่น ก็ค่อยๆคลายลงแล้ว ดูแล้วว่าวิไลพรไม่ได้โกหกเขา พละกำลังของรพีพงษ์ ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉัตรพลเลย
ผ่านไปประมาณยี่สิบกว่านาทีแล้ว ฉัตรพลมีอาการหอบแล้ว แต่เมื่อมองไปยังรพีพงษ์กลับว่ายังคงมีความฮึกเหิมประดุจมังกรและเสือที่ผาดโผนเช่นเดิม
รพีพงษ์มองไปยังฉัตรพลแวบหนึ่ง หัวเราะพร้อมพูด : “ใกล้จะถึงเวลาแล้ว พละกำลังของคุณไม่อ่อนแรงเลย มีคุณสมบัติพอที่ฉันจะโจมตีสุดพลัง หมัดนี้ ฉันจะไม่ยั้งมือเลย ต้านทานได้ก็ถือว่าคุณโชคดี แต่ถ้าต้านทานไม่ได้ ก็ถือว่าสมควรแล้ว รอดูแล้วกัน! ”
ฉัตรพลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ไม่กล้าละเลยต่อหน้าที่แม้แต่นิดเดียวเลย ทั้งใบหน้าจ้องไปที่รพีพงษ์ที่จะพุ่งเข้าใส่อย่างจริงจัง
รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่น เมื่อพุ่งเข้าไปตรงหน้าของฉัตรพล ก็กระแทกหมัดเข้าไปตรงหน้าอกของฉัตรพล ด้วยความรวดเร็ว ทำให้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เห็นไม่ชัดว่ารพีพงษ์ออกหมัดยังไง
ฉัตรพลไม่ทันได้ออกหมัดโต้กลับ ทำได้เพียงแค่ทำมือไขว้ป้องกันที่หน้าอกไว้ กำปั้นของรพีพงษ์กระแทกเข้าไปยังแขนทั้งสองข้างของเขาเลย ตามมาด้วย เสียงฉีกขาดแผ่ซ่านเข้ามา ร่างกายของฉัตรพลลอยออกไปทางด้านหลังเลยทันที กระแทกลงพื้นอย่างแรง พ่นเลือดออกมาจากปากของเขา ใบหน้าแปดเปื้อนไปด้วยสีแดงแล้ว
ทั้งสนามก็เกิดความโกลาหลขึ้น