พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 74
บทที่ 74 ให้เขาทั้งสองคนหย่ากัน
ศศินัดดามองอารียาอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นครั้ง แรกที่อารียาแสดงท่าทีกับรพีพงษ์ต่อหน้าของเธอ
หลังจากที่อารียาพูดจบ เธอก็พารพีพงษ์กลับห้อง
ศศินัดดาโกรธจนกระทืบเท้า กัดฟันกรอดแล้วพูดออก มาว่า “ไอ้นี่มันควรตาย รอฉันก่อนเถอะแก ไม่ช้าก็เร็วฉัน จะหาโอกาสไล่แกออกจากบ้าน!”
ภายในห้อง
“รพีพงษ์ นายจะช่วยให้ฉันเจรจาโครงการนี้ให้สำเร็จ จริงเหรอ” อารียาเอ่ยถาม
รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณคิดว่าผมดูเหมือนคนที่คิด จะทำร้ายคุณไหม”
“ไม่เหมือนสักหน่อย แต่ว่าโครงการนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปไม่ยอมมาร่วมมือกับบริษัทเล็กๆ แบบเราแน่นอน ถ้ามันไม่ได้จริงๆ ฉันจะไปหาเจตนิพัทธ์ เขาเป็นคนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป” อารียาก้มหน้าพูด
รพีพงษ์อึ้งไป เขาลืมไปเลยว่าเจตนิพัทธ์เป็นคนของ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป เหมือนกับว่าเขาจะดูแลสำนักงาน สาขาบริษัทซันบับเบิล
“เจตนิพัทธ์คิดไม่ดีกับคุณ ผมไม่ยอมให้เขาใช้เรื่องนี้ มาเอาเปรียบคุณหรอก คุณวางใจเถอะ โครงการนี้ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปไม่ให้คนอื่นทำหรอก” รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดขึ้น
อารียาเม้มปากไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอรู้ว่ารพีพงษ์ไม่ชอบเจตนิพัทธ์ เธอก็ไม่ชอบเหมือน กัน แต่ว่าเรื่องครั้งนี้มันสำคัญมาก แม้ว่ารพีพงษ์จะรู้จัก คนในบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป แต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปหรอก
เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เธอควรจะไปหาเจตนิพัทธ์
ในเมื่อรพีพงษ์ไม่อยากให้เธอไปหาเจตนิพัทธ์ งั้นก็ไม่ ต้องบอกเรื่องนี้กับเขา
วันต่อมา ภายในร้านกาแฟร้านหนึ่งของเมืองริเวอร์ อารียานั่งอย่างระแวดระวังอยู่ตรงข้ามกับเจตนิพัทธ์ สีหน้าของเธอดูลำบากใจ ดูเหมือนว่ามีเรื่องอะไรกลุ้มใจ
“อารี คุณมาหาถูกคนแล้วจริงๆ คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ คือผมเอง ถ้าจะเอาโครงการนี้ให้ตระกูลฉัตรมงคล ขอ เพียงแค่เอ่ยปากเท่านั้น” เจตนิพัทธ์พูดอย่างพออก พอใจ
อารียารีบเบิกตาโต คิดไม่ถึงว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้
จะเป็นเจตนิพัทธ์
เธอคิดในใจว่ายังดีที่เธอมาหาเจตนิพัทธ์ก่อน ไม่งั้นถึง แม้รพีพงษ์จะรู้จักคนในบริษัทนั่น ดูจากความสัมพันธ์ ของเขากับเจตนิพัทธ์แล้ว เจตนิพัทธ์คงจะไม่ยอมช่วย เขาแน่
“งั้นคุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม สำหรับตระกูลเราแล้ว โครงการนี้สำคัญมากและมันก็สำคัญสำหรับฉันด้วย” อารียาพูดอ้อนวอน
เจตนิพัทธ์หัวเราะแล้วพูดว่า “อารี จากความสัมพันธ์ ระหว่างเรา การที่ผมช่วยคุณก็เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่ แล้ว”
อารียาได้ยินที่เขาพูดก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
“แต่ว่า คุณก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณ ตั้งแต่ มหาวิทยาลัยผมก็มีใจให้คุณมาตลอด ต่อให้ตอนนี้คุณ แต่งงานแล้ว ผมก็ไม่ยอมแพ้”
“อีกอย่างรพีพงษ์ก็แค่สวะ เขาไม่คู่ควรกับคุณแม้แต่ น้อย การที่คุณอยู่กับเขามันไม่เป็นธรรมกับคุณจริงๆ เงื่อนไขของผมคุณก็รู้ดี อีกทั้งโครงการครั้งนี้มันมีมูลค่า ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ผมสามารถหาเงินให้คุณ ใช้ได้ทั้งชีวิตจากโครงการนี้”
“ขอแค่คุณยอมหย่ากับรพีพงษ์แล้วแต่งงานกับผม ผม รับรองว่าจะเอาโครงการนี้ให้ตระกูลฉัตรมงคล คุณว่า ไง”
เดิมที่เธอคิดว่าเจตนิพัทธ์ยอมช่วยเธอเพราะเห็นแก่ ความเป็นเพื่อน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเจตนิพัทธ์จะให้เธอ หย่ากับรพีพงษ์
สำหรับเรื่องนี้ อารียาคิดว่ามันคงไม่ต้องพูดอะไรอีก แล้ว ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่หย่ากับรพีพงษ์
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ฉันจะหาวิธี จัดการกับโครงการนี้เอง”
อารียาลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านกาแฟ
“อารี คุณจะไม่คิดสักหน่อยเหรอ ไอ้สวะนั่นมันมีดี 16 อะไร คุณแต่งงานกับผม ต่อไปคุณจะได้เสวยสุขอย่าง ไม่มีที่สิ้นสุด” เจตนิพัทธ์เห็นอารียามีความแน่วแน่เช่น นั้น เขาก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที
อารียาไม่หันกลับมาอีก เธอเดินตรงออกจากร้าน
กาแฟ
เจตนิพัทธ์ก่นด่าอยู่ในใจ ไอ้สวะรพีพงษ์มันใช้วิธีอะไร กันแน่ ถึงทำให้อารียาไม่ยอมเปลี่ยนใจจากมัน
เจตนิพัทธ์ยกกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด เขาคิดว่า อารียาเป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ ขณะที่เขากำลังหงุดหงิดอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีผู้หญิงหน้าตา
สวยมานั่งตรงข้ามแล้วยิ้มให้เขา
ที่แท้ก็คือชรินทร์ทิพย์ที่แอบตามอารียามานั่นเอง!
11.นานนาน
เจตนิพัทธ์รีบจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองแล้วพูดอย่าง สุภาพออกไปว่า “ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงท่านนี้มีเรื่อง อะไรหรือเปล่าครับ”
“คุณเป็นเพื่อนของอารียาเหรอ” ชรินทร์ทิพย์เอ่ยถาม
“ใช่ครับ คุณเป็นใคร” เจตนิพัทธ์เอ่ยปากถามเช่นกัน
“ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ” ชรินทร์ทิพย์ตอบ
“ถ้าคุณจะมาช่วยเธอพูดเรื่องโครงการของบริษัท คุณ ก็กลับไปเถอะ” เจตนิพัทธ์เอ่ยขึ้น
ชรินทร์ทิพย์หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้จิตใจ ดีขนาดที่จะมาช่วยเธอคุยเรื่องนั้นหรอก ฉันแทบจะไม่ อยากให้เธอได้โครงการนี้”
เจตนิพัทธ์อึ้งไป เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ชรินทร์ทิพย์ ต้องการจะสื่อ
“งั้นคุณมาทำไม” เจตนิพัทธ์เอ่ยถาม
“เมื่อครู่ฉันได้ยินสิ่งที่พวกคุณคุยกันหมดแล้ว ฉันมีวิธี ที่จะทำให้อารียาตกเป็นของคุณ” ชรินทร์ทิพย์พูดขึ้น
เธอไม่อยากให้อารียาทำโครงการนี้สำเร็จ แต่ตอนนี้ดู เหมือนว่าเธอจะเจอวิธีที่ดีกว่าที่จะจัดการกับอารียา อีก อย่างถ้าเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจตนิพัทธ์ ไม่แน่เธอ อาจจะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ไม่น้อย
เมื่อเห็นท่าทางของเจตนิพัทธ์ที่เต็มไปด้วยความสงสัยเธอจึงอธิบายความสัมพันธ์ของเธอกับอารียาให้เขาฟัง หลังจากที่เขาฟังจบ จึงเข้าใจว่าทำไมชรินทร์ทิพย์ถึงมา หาเขา
“คุณพูดว่ามีวิธีที่จะทำให้ผมได้อารียา วิธีอะไรเหรอ”
เจตนิพัทธ์เอ่ยถาม
“ในตระกูลฉันมีตำแหน่งสูงกว่าอารียามาก ถ้าฉันไป บอกคุณปู่ว่าให้อารียาแต่งกับคุณ คุณจะยอมยก โครงการนี้ให้ตระกูลเรา คุณว่าคุณปู่จะทำยังไง” ชริน ทร์ทิพย์พูด
แววตาของเจตนิพัทธ์เป็นประกาย แต่เขาก็ถามขึ้น ด้วยความสงสัย “แต่ว่าปู่ของคุณจะยอมเปลี่ยนการ แต่งงานตามอำเภอใจเพราะโครงการนี้นะเหรอ”
“คุณวางใจเถอะ คนทั้งเมืองริเวอร์รู้กันหมดว่ารพีพงษ์ เป็นไอ้สวะ ปู่ของฉันก็รำคาญเขา ถ้าให้เทียบกับคุณ เขาคงแทบไม่ต้องคิดอะไรเลยล่ะ ปู่ต้องเลือกคุณ แน่นอน อีกอย่างปู่ยังให้ความสำคัญกับโครงการนี้มาก นิมาก แน่นอนว่าเขาไม่สนใจความรู้สึกของรพีพงษ์หรอก” ชริน ทร์ทิพย์พูดด้วยความไม่พอใจ
เจตนิพัทธ์หัวเราะออกมา ถ้าชรินทร์ทิพย์ยอมช่วยเขา จริงๆ ไม่แน่เรื่องนี้อาจจะสำเร็จก็ได้
“งั้นถ้าเป็นเช่นนี้ คุณก็ช่วยอารียาแล้วไม่ใช่เหรอ” เจต นิพัทธ์ยิ้มแล้วพูดขึ้นมา
แจ้งรายงาน
“ชิ ไม่นับว่าฉันช่วยเธอหรอก ดูท่าเธอแล้วคงไม่อยาก หย่ากับรพีพงษ์ แต่ฉันชอบทำอะไรตรงกันข้ามกับเธอ อีกอย่างหลังจากเรื่องนี้แล้ว พวกเราก็นับว่าเป็น พันธมิตรกันแล้ว ฉันอยากจะได้ประโยชน์อะไรจากคุณ สักหน่อย คงจะไม่ยากหรอกใช่ไหม” ชรินทร์ทิพย์ยิ้ม แล้วพูดขึ้นมา
เจตนิพัทธ์ยื่นมือออกไปลูบมือของชรินทร์ทิพย์ พูด ด้วยท่าทีหยาบคาย “ผลประโยชน์น่ะมีอยู่แล้ว แต่ว่า… ผมว่าคุณก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอารียา เราไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีไหม”
เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษ ที่ชอบอารียาก็เพราะชอบรูปร่าง ภายนอกของเธอ ชรินทร์ทิพย์ก็ถือว่าเป็นคนสวย แน่นอนว่าความคิดของเขาก็เริ่มเอนเอียง
ชรินทร์ทิพย์ดึงมือของตัวเองกลับมา เธอมองเจตนิ พัทธ์ด้วยท่าทีรังเกียจ “เรื่องนี้ก็เอาอย่างนี้ละกัน ฉันช่วย ให้คุณได้ตัวอารียา เมื่อถึงตอนนั้นคุณก็แบ่งผล ประโยชน์ให้ฉันด้วย”
เธอคิดมาโดยตลอดว่าตัวเองจะต้องแต่งงานกับ คนรวย แม้ว่าเจตนิพัทธ์จะเป็นคนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป แต่เธอก็คิดว่าเขาไม่คู่ควรกับเธอ
เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ให้เขาเอาเปรียบเธอ ทั้งสองแค่ ร่วมมือกันเท่านั้น
ชรินทร์ทิพย์พูดจบก็ออกจากร้านกาแฟ เธอจะไม่ให้แต่งรายงาน
เจตนิพัทธ์มีโอกาสเอาเปรียบเธอเด็ดขาด
เจตนิพัทธ์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร แววตาของเขาแปร เปลี่ยนเป็นความนิ่ง “อารียา ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเธอก็ ต้องเป็นผู้หญิงของฉัน เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะให้ไอ้สวะรพี พงษ์เห็นภาพที่เธอนอนอยู่ในอ้อมอกของฉันด้วยตาของ มันเอง!”
อารียากลับถึงบ้าน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความผิด หวัง หลังจากที่รู้ว่าเจตนิพัทธ์เป็นคนรับผิดชอบ โครงการนี้ เธอยังรู้สึกดีใจ ไม่ว่ายังไงเธอกับเขาก็เป็น เพื่อนกันมานาน พูดอะไรก็คงจะง่ายขึ้น
แต่ทว่าเธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะให้เธอหย่ากับรพีพงษ์ เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถทำได้
ไม่รู้เมื่อไรที่เธอเริ่มที่จะห่างจากรพีพงษ์ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะคิดเรื่องหย่า แต่ตอนนี้เธอจะ ไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด
รพีพงษ์เห็นอารียาดูกลุ้มใจ เขาจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เป็น อะไรไป มีอะไรกลุ่มใจหรือเปล่า”
อารียาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร แค่ทำงาน เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ”
เธอกะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับรพีพงษ์ อีกอย่างถ้าเขารู้ เขาต้องไม่พอใจแน่นอน
“พรุ่งนี้ผมจะไปคุยเรื่องโครงการที่สำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิล คุณจะไปกับผมไหม” รพีพงษ์เอ่ยถาม
อารียาเม้มปาก เดิมที่เธออยากจะบอกเขาว่าคนที่รับ ผิดชอบโครงการนี้คือเจตนิพัทธ์ และเจตนิพัทธ์ก็ไม่ ยอมให้โครงการนี้กับตระกูลเราแน่นอน
แต่คำพูดมันติดอยู่ที่ปาก เธอเริ่มลังเลขึ้นมา เธอคิดใน ใจว่าตอนนี้ไม่ควรจะบอกรพีพงษ์ก่อน ถ้าเขาอยากให้ เพื่อนเขาช่วยก็ลองให้เขาไปลองดูก่อน
“ฉันไม่ไปแล้ว พรุ่งนี้ฉันต้องทำงาน ถ้าเพื่อนของนาย ช่วยได้จริงๆ งั้นก็ลองดูเถอะ” อารียาพูด
รพีพงษ์ไม่ได้คิดมากอะไร เมื่อเห็นว่าอารียาพูดเช่นนี้ เขาก็พยักหน้าให้เธอ
ในเวลาเดียวกันภายในคฤหาสน์ตระกูลฉัตรมงคล ชรินทร์ทิพย์นั่งอยู่ข้างนภทีป์ เธอพูดบิดเบือนเรื่อง ระหว่างอารียากับเจตนิพัทธ์
หลังจากที่นภทีปได้ฟัง แววตาของเขาก็เป็นประกาย และยิ้มอย่างมีเลศนัย
“แกบอกว่า ผู้จัดการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป ต้องการให้อารียาหย่ากับรพีพงษ์ ถึงจะยอมยกโครงการ นี้ให้ตระกูลเรางั้นเหรอ” นภทีป์เอ่ยถาม
ชรินทร์ทิพย์รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ วันนี้ เขาพูดออกมาจากปากตัวเอง คุณปู่ ไอ้สวะรพีพงษ์นั่น ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับตระกูลเราแม้แต่นิดเดียว ให้อารียาเลิกกับมันแล้วไปแต่งกับผู้จัดการนั่นยังดีเสียกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะ คะ”
นภทีป์มีสีหน้าแห่งความคาดหวัง จากนั้นก็ยิ้มออกมา
แล้วพูดขึ้นมาว่า “แกพูดถูก ไอ้สวะรพีพงษ์ มันไม่เหมาะ
กับผู้หญิงของตระกูลฉัตรมงคลสักนิด ฉันอยากไล่มัน ออกจากตระกูลตั้งนานแล้ว” “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ทำให้มันหย่ากับอารียา ตระกูล ของเราจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะมันอีก!”