CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่ 793 รุมสังหาร

  1. Home
  2. พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
  3. บทที่ 793 รุมสังหาร
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 793 รุมสังหาร

ทั้งโรงยิมเงียบงันลงไปในพริบตา ทุกคนต่างช๊อคอย่างหนักกับภาพเหตุการณ์ที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ ดังนั้นปฏิกิริยาแรกของพวกเขาจึงไม่ใช่การร้องอุทาน แต่เป็นตะลึงงัน

“ฉันเพิ่งเห็นเทคนิคพิเศษใช่หรือเปล่า?”

“นายก็เห็นเหรอ? ฉันยังนึกว่าเป็นภาพลวงตาของตัวเองอยู่เลย พระเจ้าช่วย ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์ฉายภาพโฮโลแกรมรอบๆเวทีงั้นเหรอ? ถึงแม้ว่าภาพลวงตาเมื่อกี้นี้จะเบลอไปสักหน่อย แต่ฉันแน่ใจว่ามันปรากฏออกมา”

“มันจะเป็นการฉายภาพโฮโลแกรมได้ยังไง ถึงแม้ว่ามีก็น่ากลัวว่าจะถูกสั่นคลอนจากผลพวงของการต่อสู้

“พละกำลังของรพีพงษ์น่ากลัวมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ? เขาไม่แม้แต่จะแตะต้องร่างของทั้งสี่คนที่อยู่ตรงข้ามเลยก็ยังตีพวกเขาจนปลิวตกเวทีไปได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว”

“ฉันไม่ได้โม้นะ เห็นรพีพงษ์ในการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว นายบอกฉันว่าบนโลกนี้มีเทพเจ้าอยู่จริงๆฉันก็เชื่อ”

…….

“รุ่นพี่ ดินแดนที่อยู่เหนือแดนปรมาจารย์ที่อาจารย์บอกไว้ สามารถเอาเทคนิคพิเศษมาเองได้เหรอ?” ดำเกิงที่ตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อยถามเวทัส

เวลานี้สายตาของเวทัสก็อยู่ในความงงงวย เขาคิดไม่ออกเลยว่าทำไมการโจมตีของรพีพงษ์เมื่อสักครู่ถึงมีผลปรากฏออกมาแบบนี้

“เรื่องนี้ บางทีก็ต้องรอให้รพีพงษ์ไปถึงดินแดนนั้นแล้วพวกเราถึงจะรู้” เวทัสกล่าว

“ศิษย์พี่รพีพงษ์ สามารถบรรลุถึงดินแดนนั้นได้งั้นเหรอ?” ดำเกิงถาม

“ได้แน่นอน” ทันใดนั้นสายตาของเวทัศก็เปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมา

บนเวที รพีพงษ์เองก็จ้องไปที่ฝ่ามือของตนเองด้วยความตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าภายใต้สภาวะที่ใช้กลวิธีลึกลับจะออกมาเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้

ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงมากที่สุดคือ ฝ่ามือของเขาเมื่อกี้นี้กลับเกิดเป็นเงาสะท้อนที่คลุมเครือปรากฏออกมา แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าการโจมตีของตนเองจะมีผลเช่นนี้

เป็นไปได้ไหมว่าความแข็งแกร่งของเขาบรรลุไปถึงดินแดนนั้นแล้วจึงสามารถสร้างผลลัพธ์เช่นนี้ออกมา?

นี่มันเกินขอบเขตของการรับรู้จริงๆ ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงค่อนข้างยากที่จะยอมรับได้

ไม่ทันที่จะคิดต่อไปถึงผลของกระทบของการโจมตีก่อนหน้านี้ของตนเอง ในชั่วพริบตานั้นเอง รพีพงษ์รู้สึกได้ถึงพลังที่ระเบิดออกในร่างกายของตนเองในตอนนั้นได้ลดลงอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำและแทนที่ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าที่ยากจะทนรับได้

ตั้งแต่เล็กจนโตรพีพงษ์ไม่เคยรู้สึกร่างกายเหนื่อยล้าเหมือนเช่นตอนนี้มาก่อน ความรู้สึกนี้ได้จู่โจมใจของเขาจนทำให้เขาทิ้งตัวนั่งลงไปบนพื้นโดยตรง

สภาพของรพีพงษ์ในเวลานี้ ทั้งตัวไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ที่ยังฝืนนั่งลงลงพื้นได้ก็ถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว ถึงแม้จะเป็นเด็กเข้ามาในเวลานี้ก็น่ากลัวว่าจะฆ่าเขาได้

พวกบดีศวรทั้งสี่คนที่ตกลงไปจากเวทีในเวลานี้มีสองคนที่ไม่ไหวติงอยู่บนพื้น ชเยศยังคงฝืนรักษาสติไว้ได้บ้าง แขนทั้งสองข้างของเขากระตุกไม่หยุด ดูเหมือนว่าถึงจะมีชีวิตรอดแต่ก็กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์

มีเพียงบดีศวรคนเดียวเท่านั้นที่ยังสามารถฝืนลุกขึ้นนั่งได้ ในเวลานี้มุมปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าซีดเผือดและต่างจากคนตายเพียงแค่เพราะยังหายใจเท่านั้น

เขาอดกลั้นต่อความเจ็บปวดบนร่างของตัวเองแล้วหันศีรษะมองดูพวกของชเยศทั้งสามคนที่อยู่ข้างๆเขา มองเห็นชเยศยังคงลืมตาอยู่ เพียงแต่ไม่มีความในการเคลื่อนไหว ในใจรู้สึกอับจนหนทาง

สายตาของเขาตกไปอยู่ที่ร่างของนิรภาพและธนพลสองคนบนพื้น เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย และใบหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ ขณะที่บนตัวเขาไม่รับรู้ถึงลมหายใจของคนที่มีชีวิต สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยฉับพลัน และเป็นเพราะความโกรธแค้นอย่างรุนแรงจึงกระอักเลือดออกมาอีกครั้งทันที

“ท่านนิรภาพ ท่านธนพล!” บดีศวรตะโกนใส่ทั้งสองคน

ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่า ทั้งสองคนนี้เกรงว่าจะไม่มีโอกาสที่จะตอบรับใดๆได้อีกแล้ว

ในใจของบดีศวรเสียใจอย่างมิอาจเทียบ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาทั้งสี่ร่วมมือกันเพื่อจัดการกับรพีพงษ์ แม้ว่าทุกคนจะถึงขั้นกินยาลงไปแล้ว แต่ยังคงไม่สามารถเอาชนะรพีพงษ์ได้ แม้กระทั่งยังมีสองคนตายด้วยน้ำมือของรพีพงษ์

ในตอนนี้ ห้าตระกูลใหญ่ได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แล้ว ทัตเทพที่อยู่ไกลออกไปมองเห็นสถานการณ์ของทางด้านนี้ ใบหน้าก็เกิดความวิตกกังวลด้วยเช่นกัน เขารีบลากร่างกายที่บาดเจ็บเดินเข้ามาหา หลังจากที่มองเห็นนิรภาพและธนพลขาดใจตายไปแล้ว และชเยศได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถขยับได้ รวมทั้งบดีศวรที่ร่างกายโชกเลือดไปทั้งตัว เขาก็ส่งเสียงร้องคร่ำครวญออกมาในทันใด

เขาหันศรีษะมองไปที่รพีพงษ์บนเวทีแล้วกัดฟันตะโกนว่า : “รพีพงษ์ แกมันสมควรตาย หกตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของฉัน มีนายใหญ่สามท่านที่ต้องตายในมือแก แกมันเป็นคนบาป แกไม่มีคุณสมบัติที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้!”

ทุกคนในสนามได้ยินเสียงตะโกนของทัตเทพ ทันใดนั้นก็เข้าใจแล้วว่านิรภาพและธนพล ทั้งสองคนได้ตายไปแล้ว ภายในใจก็เกิดร่องรอยของความหวาดผวาทันที คิดไม่ถึงเลยว่ากระบวนท่าเมื่อกี้นี้ของรพีพงษ์ได้สังหารยอดฝีมือระดับนายใหญ่ไปถึงสองคน

รพีพงษ์ในเวลานี้ไม่มีความคิดที่จะสนใจพวกเขา เขาในตอนนี้แค่อยากจะนอนลงแล้วหลับฝันไปเลย

ดำเกิงได้ยินเสียงตะโกนของทัตเทพ ก็รู้สึกไม่สบายใจทันที เขาตะโกนสุดเสียงว่า : “พวกคุณนี่มันหน้าไม่อาย เห็นได้ชัดว่าพวกคุณสู้คนอื่นไม่ได้เอง ตอนนี้กลับยังมีหน้ามากล่าวโทษรุ่นพี่ของฉัน พวกคุณทั้งสี่ร่วมมือกัน ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการฆ่ารุ่นพี่ของฉัน ผลออกมากลับเป็นฝ่ายถูกฆ่าแล้วก็บอกว่ารุ่นพี่ของฉันผิด ไม่แปลกใจเลยที่อาจารย์ของฉันไม่ชอบตระกูลใหญ่ของพวกคุณ พวกคุณมันเป็นคนหลอกลวงเกินไป!”

ผู้ชมทุกคนที่สนามก็ล้วนแต่ไม่ใช่คนที่สุดโต่งอะไรเลย หลังจากชมการต่อสู้หลายวันที่ผ่านมานี้ พวกเขารับรู้ได้นานแล้วถึงความรู้สึกเป็นศัตรูของห้าตระกูลใหญ่ที่มีต่อรพีพงษ์ นับตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่ประกาศงานประลองบู๊ พวกเขารู้แล้วว่าตระกูลใหญ่ทั้งห้าพุ่งเป้ามาหารพีพงษ์

เดิมทีทุกคนคิดว่าคนที่ฝึกฝนวิชาบู๊ ว่ากันว่าต้องอาศัยพละกำลัง บนเวที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพ่ายแพ้หรือเสียชีวิต ทั้งหมดเป็นปัญหาของความสามารถส่วนตัวจะโทษคนอื่นไม่ได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนที่นายใหญ่ของสี่ตระกูลร่วมมือกันบนเวทีล้วนแต่ไม่ได้รู้สึกไร้ยางอาย ตอนนี้พ่ายแพ้แล้ว กลับกล่าวโทษว่ารพีพงษ์ฆ่าคนของพวกเขา ตรรกะประเภทนี้ มีความสองมาตรฐานอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไอ้พวกห้าตระกูลใหญ่ขี้โม้ สู้คนอื่นไม่ได้ก็คือสู้ไม่ได้ ตอนนี้กลับมาโกรธแค้น หน้าไม่อายจริงๆ”

“คิดไม่ถึงเลยว่านายใหญ่ของตระกูลใหญ่ของวิชาบู๊โบราณที่แสนสง่างาม จะพูดคำนี้ออกมา ทำให้คนถึงกับตกตะลึงไปเลยจริงๆ”

“อนุญาตให้พวกเขาฆ่าคนได้เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้ใครฆ่าพวกเขา หรือว่านี่จะเป็นตรรกะของตระกูลใหญ่ใช่ไหม บรรยากาศในวงการบู๊ล้วนแต่ถูกคนประเภทนี้ทำลาย!”

……

ทัตเทพเห็นว่าทุกคนเริ่มกล่าวโทษเขาขึ้นมาแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี คิดไม่ถึงเลยว่าคนสารเลวเหล่านี้ จะกล้าพูดจาขนาดนี้กับเจ้าบ้านตระกูลตะกั่วทุ่งที่มีเกียรติเช่นเขา เขาคิดแม้กระทั่งจะยืนขึ้นแล้วไปหาเหตุผลกับคนที่พูดถึงเขา

บดีศวรถอนใจอย่างจนปัญญาและเอ่ยปากว่า : “เรื่องนี้มันจบลงแล้ว ชื่อเสียงของตระกูลใหญ่ทั้งห้ารักษาเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว โต้เถียงกับพวกเขาก็มีแต่ทำให้ความประทับใจของพวกเขาที่มีต่อตระกูลใหญ่แย่ลงเรื่อยๆ”

ทัตเทพเข้าใจความหมายของบดีศวรจึงทำได้เพียงกัดฟัน ไฟโกรธภายในใจไม่มีที่ให้ระบาย

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะทำยังไงดีล่ะ? พวกเราสูญสียมากขนาดนี้หรือว่าจะยอมแพ้ไปทั้งอย่างนี้เลยงั้นเหรอ?” ทัพเทพเอ่ยถาม

ทันใดนั้นดวงตาของบดีศวรเปล่งประกายชั่วช้าวาบขึ้นมาแล้วพูดว่า : “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว แล้วฉันเองก็ไม่มีอะไรต้องสนใจอีก ถ้าหากครั้งนี้เราไม่ฆ่ารพีพงษ์ อย่างนั้นแล้วตระกูลภูธน ตระกูลยศบวร ตระกูลเมฆมหัส นายใหญ่ทั้งสามตระกูลก็จะต้องตายโดยเปล่าประโยชน์” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน พยายามใช้พลังเฮือกสุดท้ายทั้งหมดที่มีตระกูลบอกคนของห้าตระกูลใหญ่ที่อยู่ทางนั้นว่า :

“ทุกคนในห้าตระกูลใหญ่จงฟังคำสั่ง ตอนนี้รพีพงษ์ถึงขีดจำกัดแล้ว เขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้ใดๆอีกต่อไป เขาฆ่านายใหญ่สามคนจากหกตระกูลใหญ่ของพวกเรา มันเป็นศัตรูของพวกเราทุกคน ถ้าหากไม่กำจัดเขาในวันนี้ หลังจากนี้จะกลายเป็นหายนะต่อตระกูลใหญ่ของพวกเรา”

“ดังนั้นวันนี้รพีพงษ์จำเป็นต้องตาย! พวกคุณทำการโจมตีเป็นกลุ่ม เขาไม่มีโอกาสรอดอย่างแน่นอน!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 793 รุมสังหาร"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์