พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1029 ลองเดาดูว่ากูมาที่นี่ทำไม
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1029 ลองเดาดูว่ากูมาที่นี่ทำไม
บทที่1029 ลองเดาดูว่ากูมาที่นี่ทำไม
ชัยพัทธ์ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ คิดถึงตอนนั้นที่ตัวเองถูกรพีพงษ์ตบต่อหน้าประชาชน ความโกรธแค้นในใจก็ลุกเป็นไฟขึ้นมา
“แม่งมึง มึงกล้าพูดเรื่องวันนั้นกับกูอีกหรอวะ กูว่ามึงรนหาที่ตายแล้วล่ะ!” ชัยพัทธ์ตะคอกด่าใส่รพีพงษ์
“เหอะเหอะ ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้ กูจะไม่เกรงใจที่จะสั่งสอนมึง” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว “และมึงน่าจะยังจำคำพูดในวันนั้นที่กูพูดกับมึงได้นะ? ถ้ามึงยังสร้างปัญหาให้กูอีก ไม่ใช่ว่าตบแล้วจะจบง่ายๆ!”
ชัยพัทธ์ดูแคลน แล้วกล่าว “มึงขี้โม้ให้น้อยๆหน่อย กูจะบอกให้นะ ไฟลกรุ๊ปของกูเพิ่งจะได้บุคคลสำคัญมาลงทุน ไม่นาน ไฟลกรุ๊ปของพวกกูจะเป็นกิจการระดับโลก มึงคิดว่าคนทำความสะอาดอย่างมึง คิดจะไฝว้กับกู?”
รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าว “มึงเดาดูว่าวันนี้กูมาที่นี่ทำไม?”
“กูไม่สนว่ามึงจะมาที่นี่ทำไม” ชัยพัทธ์ด่า เหมือนเขาจะนึกอะไรออกบางอย่าง แล้วถามอย่างตกใจว่า “มึงคงไม่ใช่ได้ข่าวมาจากไหนสักที่ แล้วจะมาวุ่นวายพวกกูหรอนะ?”
รพีพงษ์บึนปาก แล้วกล่าว “มึงนี่จินตนาการล้ำเลิศจริงๆ”
สายตาที่ชัยพัทธ์มองรพีพงษ์เหมือนกับว่ามองสิ่งอันตรายที่ต้องกำจัดอย่างไรอย่างนั้น มื้ออาหารในวันนี้สำคัญสำหรับไฟลกรุ๊ปเป็นอย่างมาก ถ้าถูกรพีพงษ์ทำพัง ก็จบเห่ทั้งหมด
เขามองรพีพงษ์อย่างเยือกเย็น แล้วกล่าว “เพื่อกำจัดตัวอันตรายอย่างมึง ดูๆแล้ววันนี้กูต้องจัดการกับมึงหน่อยแล้วล่ะ!”
รพีพงษ์จ้องไปยังการ์ดที่รูปร่างกำยำ แล้วกล่าว “แค่พวกมึงไม่กี่คนเนี่ยนะ?”
ชัยพัทธ์ดูแคลน แล้วกล่าว “กูว่ามึงอย่ามั่นใจให้มากนัก พวกมัน กูหามาจากสนามมวยใต้ดิน พวกมันผ่านการต่อสู้มาแล้วเป็นร้อยๆนัด เป็นระดับราชามวยใต้ดินทั้งนั้น กูจ่ายเงินมหาศาลเชิญพวกมันมา มึงคิดว่าขยะที่พลังมากนิดหน่อยอย่างมึง จะสู้กับพวกมันที่รุมมึงได้งั้นหรอ?”
พูดจบ เขาหันไปมองข้างหลัง แล้วถาม “ทุกคน พวกแกใครจะจัดการกับมัน?”
การ์ดพวกนั้นยิ้มอย่างไม่พอใจ ผู้ชายหนึ่งในนั้นที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกล่าว “ผมเอง ขยะแบบนี้ ไม่กี่ท่าก็น่าจะเอาอยู่ล่ะ”
จากนั้นคนนั้นก็เดินมา อยู่ด้านหน้ารพีพงษ์
รพีพงษ์จ้องไปที่คนนั้น แล้วกล่าว “พวกมึงเข้ามาพร้อมๆกันนี่แหละ ประหยัดเวลาดี”
คนนั้นได้ยินรพีพงษ์พูด ก็ไม่พอใจ แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ไม่คิดว่ามึงก็กล้าเหมือนกันนะ คุยโวโอ้อวด กูว่าอย่างมึง แม้แต่หมัดเดียวของกูก็ไม่น่าจะต้านทานได้ มึงคิดดีกว่าว่าเดี๋ยวจะร้องขอชีวิตกับกูยังไง!”
พูดจบ คนนั้นก็ตั้งหมัด ต่อยไปที่รพีพงษ์
รพีพงษ์ส่ายหัวตอนที่หมัดของคนนั้นจะต่อยมาที่ตัวเอง ก็ได้ถีบเข้าไป
“เสียงดังปัง!”
หมัดของคนนั้นไม่โดนตัวรพีพงษ์ จากนั้นก็ลอยออกไป ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง
เขายังคิดว่าจะยืนขึ้นจากพื้น แต่หลังจากที่ลองยืนดูสองครั้ง พบว่าตัวเองไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
ชัยพัทธ์และพวกการ์ดที่เหลือก็อ้าปากค้างมองเหตุการณ์นี้ ไม่คิดว่ารพีพงษ์แค่ท่าเดียวก็จะทำให้คนที่มีฉายาสยบโลกถูกถีบจนลอยไป
“เป็น……เป็นไปได้ไง มันแค่ถีบก็ทำให้การ์ดที่กูซื้อตัวมาลอยไปได้ ไอ้นี่มันเก่งขนาดไหนกันนะ?” ชัยพัทธ์พึมพำกับตัวเอง
หลังจากที่รู้สึกตัว เขาก็รีบถอยไปหลายก้าว จากนั้นก็ตะโกนใส่การ์ดพวกนั้นว่า “พวกมึงรุม! เอามันให้อยู่ กูไม่เชื่อว่าถ้าพวกมึงรุมแล้วมันยังจะยโสโอหังได้อีก!”
หลังจากที่การ์ดพวกนั้นได้รับคำสั่งแล้ว ก็ล้อมรพีพงษ์ไว้ จากนั้นก็ใช้ท่าที่ตัวเองถนัด ต่อยไปที่รพีพงษ์
เสียดายที่รพีพงษ์เป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพชั้นยอดที่ฝึกฝนวิชาอายุวัฒนะมาจึงไม่กลัวใคร ก็แค่คนที่ออกมาจากค่ายมวย ในสายตาของรพีพงษ์ ก็เป็นแค่เด็กที่ชกต่อยเป็นก็เท่านั้น
หลังจากที่เขาลงมือ ผ่านไปหลายท่า จะทำเอาเหล่าการ์ดพวกนั้นล้มลงกับพื้นโดยตรง โดยไม่อืดอาดใดๆ
ชัยพัทธ์มองเหตุการณ์นี้อย่างไม่เชื่อ ยังไงก็ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดนี้ เขาใช้เงินมหาศาลซื้อตัวการ์ดมา คิดไม่ถึงว่าไม่กี่อึดใจก็ถูกรพีพงษ์จัดการแล้ว
ไม่แปลกที่คนนี้กล้าปรากฏตัวตามลำพังต่อหน้าเขา ที่แท้เขาก็ไม่ได้มองตัวเองอยู่ในสายตาเลย!
เขาถอยหลังไป มองรพีพงษ์ด้วยสายตาหวาดผวา
ขณะนี้รพีพงษ์มองไปที่ชัยพัทธ์ ด้วยรอยยิ้มที่กวนตีน
ชัยพัทธ์เห็นท่าไม่ดี ก็รีบหันหลังหนี
แต่เขายังไม่ทันวิ่งไปกี่ก้าว ก็รู้สึกว่ามีมือกำลังจับชุดของตนอยู่ ลากเข้ากลับไป
“ลูก……ลูกพี่ ผมผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะ ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว!” ชัยพัทธ์กุมขมับตัวเองไว้ ร้องขอรพีพงษ์
รพีพงษ์ดูแคลน แล้วกล่าว “มึงคิดว่ากูจะเชื่อคำพูดมึงมั้ย?”
พูดจบ เขาก็เอามือของชัยพัทธ์ออก จากนั้นก็ตบไปที่หน้าของเขาหนึ่งฉาดแรงๆ
ชัยพัทธ์ร้องโอดครวญ ด้วยความเสียใจอย่างสุดๆ
พนักงานของโรงแรมโอเรนจีเห็นเหตุการณ์ ก็ไม่กล้าเข้าไป เมื่อกี้ฝีมือที่รพีพงษ์ปล่อยออกมามันชั่งน่ากลัวเสียเหลือเกิน ต่อให้พวกเขาเข้าไป ก็ขวางรพีพงษ์ไม่อยู่
รพีพงษ์ต่อยชัยพัทธ์อย่างไม่เกรงใจ สักพัก เขาก็หน้าบวมเป่ง เหมือนหัวหมูอย่างไรอย่างนั้น
“กูจะบอกให้นะ ไฟลกรุ๊ปของกูยิ่งอยู่ยิ่งยิ่งใหญ่ ต่อให้กูไม่ชนะมึง แต่ยังไงกูก็มีวิธีกำจัดมึงอย่างนับไม่ถ้วนอยู่ดี ฝากไว้ก่อน กูจะล้างบางตระกูลมึง!” ชัยพัทธ์คิดในใจว่าในเมื่อเรื่องราวเป็นแบบนี้แล้ว อ้อนวอนรพีพงษ์ก็ไม่มีประโยชน์ สู้พูดให้มันเจ็บๆไปเลยดีกว่า
รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา แล้วปล่อยเขา
ชัยพัทธ์เห็นรพีพงษ์ปล่อยมือ ไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบหนีไป ขึ้นข้างบน
ตอนนี้มื้ออาหารของพ่อและบุคคลสำคัญท่านนั้นสำคัญกว่า รอให้เสร็จจากทานข้าวก่อน เขาค่อยคิดว่าจะต่อกรกับรพีพงษ์อย่างไร
ที่รพีพงษ์ไม่ได้รั้งชัยพัทธ์ไว้ เพราะอยากรู้ว่าเดี๋ยวตอนทานข้าว เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ถ้าชัยพัทธ์รู้ว่าคนที่ซื้อหุ้นของไฟลกรุ๊ปคือรพีพงษ์ล่ะก็ จะต้องวิเศษอย่างมากๆแน่เลย!