พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1034 ประสบการณ์เจ็บปวดของโศภิตา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1034 ประสบการณ์เจ็บปวดของโศภิตา
บทที่1034 ประสบการณ์เจ็บปวดของโศภิตา
หลังจากที่วางสายแล้ว รพีพงษ์มองไปที่อารียา กล่าว “เรียบร้อย พวกเราพาเธอเข้าไปกันเถอะ”
อารียาคว้าแขนของโศภิตาอีกครั้ง ยิ้มพลางกล่าว “ไปเถอะภิตา ตอนนี้พวกเราไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันได้แล้ว”
โศภิตามึนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมสามีของอารียาแค่ยกหู เธอก็สามารถเข้าไปดูคอนเสิร์ตด้วยได้แล้ว?
อารียาไม่ได้อธิบายให้เธอฟัง ลากเธอแล้วเดินเข้าไป
รพีพงษ์หาทางเข้าเฉพาะของซูเปอร์วีไอพีได้แล้ว อุ้มหนูลินแล้วพาทั้งสองคนเข้าไป
โศภิตาสงสัย คิดในใจถึงแม้พาเธอเข้าไปในคอนเสิร์ตได้จริงๆ ก็น่าจะต้องไปเข้าคิวที่ประตูถึงจะถูกสิ แต่ทำไมพวกเขาพาเธอไปยังที่ๆคนน้อยล่ะ?
ไม่นาน ก็มีคนมาถึงช่องพิเศษ ช่องนี้มีคนรออยู่โดยเฉพาะ หลังจากที่เขาเห็นรพีพงษ์มา ก็รีบยืนตรง
เขาเพิ่งจะได้รับข่าว ว่ามีบุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่พาเด็กจะพาเพื่อนมาด้วย ไม่ต้องขวางไว้
เห็นรพีพงษ์กำลังอุ้มเด็ก แว็บเดียวเขาก็รู้แล้วว่าน่าจะเป็นบุคคลสำคัญที่หัวหน้ากล่าวถึงแน่นอน
พวกเขาเดินมาถึงตรงหน้าของคนนั้น รพีพงษ์หยิบบัตรซูเปอร์วีไอพีสองใบ ยื่นให้คนนั้น คนนั้นรีบรับมา บัตรยิ่งทำให้เขามั่นใจในตัวตนของรพีพงษ์
เพราะหัวหน้าได้บอกไว้แล้ว ดังนั้นไม่ว่ารพีพงษ์จะหยิบบัตรออกมากี่ใบ เขาก็จะปล่อยทุกคนที่รพีพงษ์พามาทั้งหมด
“คุณผู้ชาย ขอให้คุณดูคอนเสิร์ตอย่างสนุกนะครับ” คนนั้นที่อยู่ที่ประตูกล่าว แล้วยังโค้งคำนับให้พวกเขาด้วย
โศภิตามองดูเหตุการณ์นี้อย่างไม่คาดคิด ยังไงก็ไม่คาดคิด ว่าพนักงานของคอนเสิร์ต จะเคารพรพีพงษ์ขนาดนี้
แม้หลังจากที่เรียบจบมหาลัยแล้ว เธอไม่ได้กลับเมืองริเวอร์เลย แต่ก็เคยได้ยินเพื่อนบางคนพูด ว่าสามีที่อารียาแต่งงานด้วย เป็นไอ้สวะ แต่ตอนนี้ เบื้องหลังของรพีพงษ์ มีมากกว่าจุฑาธชอย่างมาก
ไม่เพียงแค่สามารถใช้ช่องพิเศษได้ แล้วยังพาใครเข้าไปด้วยก็ได้ ไม่มีใครห้ามเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนเดินเข้าไปในยิมเนเซียม ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ยาวไปถึงจุดวีไอพีที่ใกล้ๆเวที ยิ่งโศภิตาเดินเข้าไปด้านในมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งคิดไม่ถึงมากขึ้นเท่านั้น
สักพัก ทุกคนก็เดินมาถึงด้านหน้าสุดของเวที จุดนี้แยกกับจุดอื่น นอกจากคนที่มีบัตรซูเปอร์วีไอพีแล้ว คนอื่นไม่สามารถเข้ามาได้
และเพราะเหตุนี้ ที่ตรงนี้จะไม่เหมือนกับจุดอื่น ที่คนเบียดเสียดกัน ต่างกันโดยสิ้นเชิง จุดนี้เนื้อที่กว้างขวาง วางโซฟาและโต๊ะ บนโต๊ะวางเครื่องดื่มและผลไม้ไว้ เตรียมไว้ครบถ้วน
โศภิตาช็อกกับสิ่งที่ถูกเตรียมไว้ที่นี่ เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าการดูคอนเสิร์ตจะสามารถได้รับบริการขนาดนี้ด้วย เมื่อก่อนเธอดูผ่านทีวี เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย จะมีพื้นที่กว้างแล้วนั่งได้เพียงแค่ไม่กี่คนได้ไงกัน
อารียาลากโศภิตามานั่งบนโซฟา ถามอย่างเป็นห่วงว่า “ภิตา รีบเล่าเรื่องหลายปีมานี้ของแกให้ฉันฟังเร็ว หลังจากที่จบมหาลัยแล้ว พวกเราก็ไม่เจอกันอีกเลย ไม่รู้ว่าแกมีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงบ้าง”
ขณะนี้โศภิตารู้แล้วว่าอารียาและรพีพงษ์ไม่ใช่คนธรรมดา ได้ยินอารียาถามตน ก็เริ่มควบคุมตัวเองมากขึ้น
เธอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย กล่าว “ความจริงประสบการณ์หลายปีมานี้ของฉันมันเจ็บปวดรวดร้าวมาก”
จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่เธอเจอมาหลังจากที่เธอจบมหาลัยให้ฟัง
หลังจากเรียนจบมหาลัย โศภิตาไม่ได้กลับเมืองริเวอร์ และยังหางานทำต่อที่เมืองเมฆา เงินเดือนไม่เลว มีการเจริญในหน้าที่การงานสูงมาก เดิมทีเธอคิดว่าชีวิตของเธอยิ่งอยู่ยิ่งดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ดวงชะตาก็เล่นตลก สถานการณ์แบบนี้เป็นไปได้ประมาณหนึ่งปี เธอก็เจอเข้ากับความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ตอนนั้นเธอทำงานที่เดียวกับดิษยา เพราะตอนนั้นดิษยาเป็นหัวหน้ากลุ่มของกลุ่มย่อย โศภิตาไม่ชอบการประจบประแจง เพราะเหตุนี้ดิษยาจึงไม่พอใจเธอ แล้วหาเรื่องเธอตลอด
มีอยู่ครั้งหนึ่งโศภิตาทนดิษยาไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงได้บอกเรื่องนี้กับหัวหน้า ด้วยเหตุนี้ดิษยาจึงโดนหักคะแนน
ดิษยาโกรธแค้นโศภิตา จึงได้ล้างแค้นเธอมาตลอด
ดิษยาที่ตอนนั้นเพิ่งจะเรียนจบได้ไม่นานทำงานหามรุ่งหามค่ำที่เมืองเมฆา ก็ต้องหาที่พึ่งเป็นธรรมดา และในขณะเดียวกันนี้เอง เธอได้กับชายที่ตามจีบเธอ
ชายคนนั้นจีบเก่งมาก โศภิตาที่ไม่เคยมีความรักมาก่อนก็หลงคารมเขาเข้าอย่างจัง ไม่นานก็ตกหลุมพราง
เธอเชื่อว่าถ้าชายคนนั้นต่อสู้ไปกับเธอ ขยันไปด้วยกัน ซื้อบ้านที่เป็นของพวกเขา จากนั้นก็แต่งงานมีลูก มีความสุขตลอดไป
แต่ยังไงเธอก็ไม่คาดคิด ทั้งสองอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ชายคนนี้ก็เริ่มหาเหตุผลต่างๆนานาขอเงินจากเธอ อ้างว่าจะสร้างกิจการเป็นของตัวเอง ต้องการทุนทรัพย์จำนวนมาก
ตอนนั้นโศภิตากำลังตกอยู่ในภวังค์ของความรักโง่ๆ มอบเงินเดือนที่ได้จากการทำงาน อย่างไม่ลังเลให้กับชายคนนั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนของโศภิตาเตือน ว่าเจอชายคนนั้นอยู่ที่กาสิโนใต้ดินแห่งหนึ่งในเมืองเมฆา
ที่แท้ชายคนนี้ก็ไม่ได้ทำกิจการอะไรเป็นของตัวเอง เงินทั้งหมดของโศภิตา ถูกเขาเอามาเล่นการพนันทั้งหมด
ไม่ใช่แค่เท่านี้ ชายคนนี้ติดการพนัน หลังจากที่เอาเงินของโศภิตาไปแพ้พนันหมดแล้วนั้น ก็แอบใช้ชื่อของโศภิตาไปกู้ยืมเงินนอกระบบ กู้มาทั้งหมดแปดแสนกว่า ก็แพ้พนันจนหมด
ตอนนั้นเขายังใช้เหตุผลในการเป็นพารท์เนอร์กิจการ ให้โศภิตาเซ็นกู้ยืมมากมาย ทำให้ภิตามีหนี้มหาศาล ถึงขั้นมีคนให้เธอเอาตัวไปแลกกับหนี้
ชั่วข้ามคืน โศภิตาเหมือนตกอยู่ในนรก ตัวเองก็พลอยห่อเหี่ยวไปด้วย
เธอไม่คิดมาก่อน ว่าตนจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ คนนั้นที่บอกว่าจะให้ความสุขกับเธอ จะเป็นผีพนันแบบนี้ ที่เขามาหาเธอ ก็เป็นเพราะต้องการเงินของเธอ แล้วยังทำชีวิตเธอพังอีกด้วย
โศภิตารู้สึกว่าเริ่มไม่ชอบมาพากล เพราะตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง คนทวงหนี้พวกนั้นไม่กล้าบีบเธอให้ขายตัว และไม่กล้าเอาดอกเบี้ยสูง แต่เงินต้นแปดแสนนั้นยังไงเธอก็ต้องคืน
เพราะเรื่องนี้ บริษัทจึงไล่โศภิตาออก และในนามของเธอมีการกู้ยืมหนี้นอกระบบ หลายๆบริษัทจึงไม่รับเธอเข้าทำงาน
เธอในตอนนี้ทำได้เพียงล้างจานในร้านอาหารใช้หนี้เท่านั้น แต่เงินเดือนในร้านอาหารต่อเดือนก็แค่นิดเดียว อยากจะคืนเงินนี้ให้หมด เธอต้องทำตลอดชีวิต
และสิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงที่สุด คนนั้นทั้งหลอกความรู้สึกเธอทั้งหลอกเงิน ทำร้ายเธอจนสิ้นเนื้อประดาตัว จะเป็นคนที่ดิษยาหามาล้างแค้นเธอโดยเฉพาะ!