พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1038 คอนเสิร์ตเริ่มต้น
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1038 คอนเสิร์ตเริ่มต้น
บทที่1038 คอนเสิร์ตเริ่มต้น
หัวหน้ารปภ.รีบพาดิษยาและจุฑาธชทั้งสองไปด้านนอก โดยไม่ลังเล
เพราะเรื่องเมื่อกี้ หัวหน้ารปภ.ได้เกลียดแค้นทั้งสองคน แล้วเขาจะเกรงใจพวกดิษยาทำไม
ดิษยาและจุฑาธชเห็นคนพวกนี้ไม่ตลก จะไล่พวกเขาออกไปจริงๆ ก็งงงวย
“พวกแกจะทำอะไร? พวกเราซื้อตั๋วเข้ามานะ พวกแกไล่พวกเราได้ไงกัน?” จุฑาธชตะคอก
“ซื้อตั๋วเข้ามาวันนี้ก็ต้องออกไป พวกเราไม่ต้อนรับพวกคุณ!” หัวหน้ารปภ.เริ่มตะโกน
คนรอบข้างเห็นเหตุการณ์นี้ก็ค่อนข้างตกใจ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนถูกไล่ออก
“เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้?” ทำไมต้องไล่พวกเขาไป?
“น่าจะทำผิดต่อฝ่ายผู้จัด เค้าโมโห ดังนั้นจึงไม่ให้พวกเขาดูคอนเสิร์ตแล้ว”
“เชด ไอ้สองคนนี้ก็โง่เนอะ แม้แต่ฝ่ายผู้จัดก็ยังกล้าทำผิด พวกมันก็คิดสักหน่อยว่าเค้าจัดงานคอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนี้ได้ จะต้องไม่ธรรมดา พวกมันทำผิดต่อฝ่ายผู้จัดก็เหมือนรนหาที่ตายอะ”
“ช่างเค้าสิ ยังไงก็ไม่ใช่พวกเราที่โดนไล่ออก ดูเรื่องครึกครื้นสักหน่อยก็ไม่เลว”
……
จุฑาธชและดิษยาทั้งสองต่อต้าน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะต่อต้านยังไง ก็ต้านทานรปภ.ที่กำยำหลายคนที่จะเอาพวกเขาออกไปไม่ไหว ไม่นาน ทั้งสองก็ถูกไล่ออกจากยิมเนเซียม
หัวหน้ารปภ.จ้องไปที่ทั้งสอง จากนั้นก็กล่าวดูแคลน “พวกคุณรีบไสหัวไปจะดีกว่า ถ้าผมยังเห็นพวกคุณที่นี่ อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน!”
“พวกแกไล่พวกเราได้ไม่เป็นไร แต่พวกเราซื้อตั๋วมานะ พวกแกคืนเงินค่าตั๋วมาให้พวกเราเดี๋ยวนี้!” จุฑาธชตะโกนใส่
หัวหน้ารปภ.หัวเราะ กล่าว “หัวหน้าของพวกเราบอกแล้ว ว่าพวกคุณทำผิดต่อคนที่ไม่ควรจะทำผิดด้วย เค้าไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกคุณก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ค่าตั๋วก็ถือเป็นจ่ายค่าเทอมก็แล้วกัน”
พูดจบ เขาก็พาเหล่ารปภ.ออกไปจากที่นี่
จุฑาธชและดิษยาทั้งสองโมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาทั้งสองก็ไม่สามารถที่จะทำตรงกันข้ามกับฝ่ายผู้จัดได้
“ฝากไว้ก่อนเถอะ กูจะไปฟ้องสมาคมผู้บริโภค!” จุฑาธชตะคอก
หัวหน้ารปภ.ไม่สนใจพวกเขาแต่อย่างใด
แม้ว่าพวกเขาจะไปฟ้องสมาคมผู้บริโภค แล้วฝ่ายผู้จัดจะต้องเสียค่าปรับ แต่เงินแค่นั้นกับการที่ให้ดิษยาจุฑาธชเสียเปรียบ ไม่อยู่ในสายตาของชโนดมเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเขามาถึงจุดนี้ได้ คอนเนคชั่นมากมายเกินกว่าจะเทียบได้ ไม่มีทางกลัวการร้องเรียนของคนสองคนแน่นอน
“น่าโมโหจริงๆ มีสิทธิ์อะไรที่ทำกันรุนแรงขนาดนี้ ไล่พวกเราออกมา วันนี้ฉันมาดูไอดอลของฉันโดยเฉพาะเลยนะ สุดท้ายตอนนี้ไม่ใช่แค่ไม่ได้เห็นไอดอล ยังเสียเงินฟรีๆอีก!” ดิษยาเสียใจ คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะต้องเสียเปรียบขนาดนี้
“แม่ง ใครจะคิดได้ว่าเพื่อนของโศภิตานั่นจะมีเบื้องหลังเป็นคนใหญ่คนโตขนาดนี้ แม้แต่คนของฝ่ายจัดงานก็ช่วยพวกมัน ดูๆแล้วครั้งนี้โชคร้ายชะมัด” จุฑาธชกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
ดิษยาเห็นจุฑาธชพูดแบบนี้ ก็ตอบกลับทันทีว่า “เพื่อนของโศภิตาจะมีอะไรดี คุณไม่เห็นตอนที่กลุ่มรปภ.ไล่พวกเรา แล้วพวกมันไปคุยกับพวกซูเปอร์วีไอพีพวกนั้นหรอ”
“ฉันเดาว่าเพื่อนของโศภิตานี่ต้องรู้จักใครคนหนึ่งในนั้น โชคดี ใช้บารมีของเค้า ถึงได้มีโอกาสนั่งดูคอนเสิร์ตที่ซูเปอร์วีไอพี”
“ฝ่ายผู้จัดไล่พวกเราออกมา ต้องเห็นแก่เหล่าแขกซูเปอร์วีไอพีพวกนั้นแน่นอน”
จุฑาธชถอนหายใจ กล่าว “ไม่ว่าจะยังไง วันนี้พวกเราก็ดูคอนเสิร์ตไม่ได้แล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ตัวตนเพื่อนทั้งสองของโศภิตาด้วย จะทำอะไรพวกมันก็ยากแล้ว”
“คุณบ้าหรือไง แม้พวกเราจะไม่รู้ว่าเพื่อนทั้งสองของโศภิตานี้เป็นใคร แต่พวกเรารู้เกี่ยวกับโศภิตาทุกอย่าง เพียงแค่พวกเราคุมโศภิตาเอาไว้ให้ได้ จะถามว่าเพื่อนทั้งสองของมันพักที่ไหนก็ไม่ยากแล้ว” ดิษยากล่าวทันที
จุฑาธชตาเป็นประกาย จากนั้นก็กล่าวอย่างกัดฟันด้วยความแค้น “ใช่ โศภิตาก็เป็นแค่คนล้างจาน จะควบคุมมันง่ายจะตาย แม่ง แค้นนี้ ต้องชำระ กูไม่สนว่าพวกมันจะเป็นใคร จะต้องให้พวกมันลิ้มลองความเก่งกาจของกูสักหน่อยแล้ว!”
ดิษยาแสดงท่าทางเคียดแค้นเหมือนจุฑาธช ในสมองคิดไว้หมดแล้วว่าจะล้างแค้นรพีพงษ์และโศภิตายังไง
……
ที่นั่งซูเปอร์วีไอพี
ผู้คนที่มาดูคอนเสิร์ตล้วนเข้าไปคุยกับรพีพงษ์อย่างใจจดใจจ่อ รพีพงษ์แค่ถามคำตอบคำ ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขา
โศภิตามองรพีพงษ์และอารียาทั้งสองอย่างอุทาน เกี่ยวกับความเก่งกาจของพวกเรา
เธอไม่คิด ว่าเพื่อนสนิทที่สุดของเธอตอนมัธยมปลาย จะหาสามีที่เก่งได้ขนาดนี้ ทำเอาเธออิจฉามากมาย
ผ่านไปไม่นาน คอนเสิร์ตเริ่มต้นขึ้น ตามโปรแกรมของผู้จัด ดาราชั้นนำขึ้นเวทีตามๆกันมา เรียกร้องเสียงจากคนดูได้อย่างไม่ขาดสาย
อารียาและโศภิตาตื่นเต้น หลังจากที่เห็นดาราที่พวกเธอชอบแล้ว ก็ยกย่องไปตามๆกัน
รพีพงษ์กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยปริยาย เมื่อคอนเสิร์ตเริ่ม อารียาก็เอาหนูลินให้เขา ให้เขาดูแลหนูลินให้ดีๆ ตัวเองจะตั้งใจดูคอนเสิร์ต
รพีพงษ์ช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเขาไม่ค่อยสนใจคอนเสิร์ตแบบนี้สักเท่าไหร่ ครั้งนี้ที่ออกมาเที่ยว ก็เพื่อทำตามความต้องการของอารียา
คอนเสิร์ตใช้เวลาทั้งหมดสามชั่วโมง บรรยากาศรอบๆงานครึกครื้นอยู่ตลอดเวลา ทุกคนไม่หยุดยกย่อง ส่งเสียงร้อง ปรบมือ มีคนจำนวนไม่น้อยตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้งหมดแล้ว
สุดท้าย หลังจากที่เหล่าดาราได้ร่วมกันร้องเพลงจบ ก็มาถึงช่วงสุดท้ายของงาน
รพีพงษ์ขณะนี้กำลังเคลิ้ม แต่อารียาและโศภิตาทั้งสอง ก็ยังคงตื่นเต้นกับการแสดงอยู่ แม้แต่หนูลินที่ยังไม่รู้เรื่องก็ตื่นเต้นเพราะบรรยากาศในงาน
หลังจากที่คอนเสิร์ตจบแล้ว ทั้งสามก็พาสาวน้อยออกจากยิมเนเซียม เดิมที่ชโนดมอยากจะเลี้ยงข้าวมื้อดึกรพีพงษ์หลังจากจบคอนเสิร์ต แต่เพราะหนูลินจะนอนแล้ว ดังนั้นรพีพงษ์จึงปฏิเสธไป
อารียาถามที่พักปัจจุบันของโศภิตา และเธอรับรอง ว่ารพีพงษ์จะช่วยเธอจัดการปัญหาอย่างแน่นอน
โศภิตาไม่ดัดจริต เธอรู้ว่าการที่จะสลัดฝันร้ายนี้ออกไปนั้น ทำได้เพียงพึ่งอารียาและรพีพงษ์เท่านั้น
หลังจากที่บอกที่อยู่แล้ว รพีพงษ์และอารียาได้พาหนูลินกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม
เช้าวันต่อมา อารียาเล่นกับหนูลินที่โรงแรม รพีพงษ์ออกจากโรงแรมไป ยังที่อยู่ของโศภิตา