พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1041 ลงโทษ
บทที่1041 ลงโทษ
หมาป่าได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ดูแคลน จากนั้นก็ส่งสายตาให้กับเหล่าลูกน้องพวกนั้น
ลูกน้อยเหล่านั้นยิ้มเจ้าเล่ห์ ตั้งแต่เมื่อกี้ที่รพีพงษ์ลงมือกับผมทอง พวกเขาก็อยากจะจัดการกับรพีพงษ์แล้ว
ผมทองมองไปที่รพีพงษ์อย่างดุดัน แล้วตะคอก “แม่ง พวกกูคนเยอะขนาดนี้ ไม่เชื่อหรอกว่าจะจัดการกับมึงไม่ได้!”
โศภิตาเป็นห่วง มองไปหารพีพงษ์ กล่าว “รพีพงษ์ พวกเรา……”
รพีพงษ์กล่าวอย่างนิ่งๆว่า “ไม่เป็นไร คุณไปยืนด้านหลังนะ ดูอย่างเดียวก็พอแล้ว”
โศภิตาเห็นรพีพงษ์มั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ก็ทำได้เพียงไม่ให้รพีพงษ์ฟุ้งซ่าน แล้วไปยืนอยู่ด้านหลัง
หมาป่าดูแคลนรพีพงษ์ แม้ตอนนั้นรพีพงษ์ครั้งเดียวก็ถีบผมทองลงไปกองทำให้เขาไม่คาดคิด แต่ในสวนนี้มีสหายอยู่สิบกว่าคน เขาไม่เชื่อว่าคนมากขนาดนี้จะทำอะไรรพีพงษ์ไม่ได้
ผมทองพุ่งเข้าไปหารพีพงษ์เป็นคนแรก คิดจะถีบไปที่ร่างรพีพงษ์เช่นกัน แต่ขาเข้าเพิ่งจะยกขึ้นมา เขาของรพีพงษ์ก็ถีบไปที่ท้องของผมทองแล้ว
ผมทองยังไม่ทันได้ระวังตัว ก็ต้องล้มลงกับพื้นอีกแล้ว
คนที่อยู่ข้างหลังเห็นผมทองโดนถีบล้ม ก็รีบพุ่งเข้าใส่รพีพงษ์ จะกดเขาไว้
“แม่ง กดมันไว้ให้ได้ วันนี้ถ้าไม่ได้ถีบมันสองครั้ง ก็อ่านชื่อกูกลับหลังได้เลย!” ผมทองที่ล้มลงกับพื้นอดทนกับความเจ็บตะคอกออกมา
รพีพงษ์เหลือบไปมองเขาอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็ลงมืออย่างรวดเร็ว
รพีพงษ์ที่เป็นแดนดั่งเทพชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็นด้านความเร็วและพลัง ได้อยู่เหนือความคาดหมายของคนทั่วไปแล้ว
ตอนนี้เขาต่อสู้กับคนพวกนี้ ก็แค่เล่นๆเท่านั้น ถ้าเขาจะเอาจริง ตบเดียว ปล่อยพลังวิเศษเสนออกมาทั้งหมดแว็บเดียวก็ตบพวกเขาล้มลงไปนอนได้สบายๆแล้ว
ร่างของรพีพงษ์ปรากฏในหลายๆที่ในช่วงเวลาเดียวกัน หมาป่าที่สังเกตการณ์อยู่ไกลๆรู้สึกว่ารพีพงษ์เหมือนแยกร่างออกมาหลายร่าง แว็บเดียว เหล่าลูกน้องของเขาก็ล้มลงกับพื้นทั้งหมด
หมาป่าตาโตขึ้นมา มองดูเหตุการณ์นี้อย่างคาดไม่ถึง อีกนิดเดียวตาก็เกือบจะถลนออกมาแล้ว
ผมทองที่ล้มลงกับพื้นมองรพีพงษ์ด้วยความหวาดกลัว แล้วพึมพำ “เมื่อกี้มันแยกร่างหรอ? ทำไมกูเห็นมันหลายคนในเวลาเดียวกันวะ?”
ความจริงก็แค่ความเร็วของรพีพงษ์ถึงขีดสุด ในสายตาของคนธรรมดา เหมือนกับเกิดขึ้นในช่วงแว็บเดียวเท่านั้น
โศภิตาก็มองเหตุการณ์นี้อย่างคาดไม่ถึง รู้สึกว่ารพีพงษ์เหมือนเทพสงครามจุติลงมาอย่างไรอย่างนั้น ไม่เหมือนคนธรรมดาเอาเสียเลย
เพราะคนธรรมดาไม่มีทางมีความสามารถเจ๋งๆเหมือนในทีวีได้
หลังจากที่จัดการลูกน้องทั้งกลุ่มของหมาป่าได้แล้ว รพีพงษ์ก็ลูบมือ จากนั้นเดินไปที่หมาป่า
ขณะนี้หมาป่าหวาดหวั่น เขามองไปที่รพีพงษ์อย่างเกรงกลัว แล้วกลืนน้ำลาย
“ส……สหาย พวกเราคุยกันดีๆก็ได้ อย่าเอะอะก็ลงไม้ลงมือ” หมาป่ากล่าว
รพีพงษ์หัวเราะ กล่าว “เมื่อกี้กูพูดกับพวกมึงดีๆแล้วไม่ใช่หรอ? พวกมึงเองต่างหากที่ไม่คุยกันดีๆ ดังนั้นกูจึงใช้กำลังคุยไง”
พูดจบ รพีพงษ์ก็เดินมาถึงตรงหน้าของหมาป่า
จิตใต้สำนึกของหมาป่าอยากหนี แต่ความเร็วเขาในสายตาของรพีพงษ์เหมือนเต่าคลาน เขายังไม่ทันขยับตัว รพีพงษ์ก็จับมือเขาเอาไว้แล้ว
“นี่เป็นการลงโทษที่มึงไม่ฟังกู”
รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ จากนั้นก็หักนิ้วของหมาป่าออกหนึ่งนิ้ว
หมาป่าร้องครางออกมา ในปากเต็มไปด้วยคำร้องขอรพีพงษ์
รพีพงษ์ไม่ฟังใดๆ ได้จับนิ้วของหมาป่าอีกนิ้ว ออกแรง นิ้วของเขาได้หักลงอีกแล้ว
“ผม ผมผิดไปแล้ว สหาย ปล่อยผมไปเถอะนะ” หมาป่าหน้าแดง เหงื่อไหลเต็มหน้าผาก ดูออกว่าเจ็บปวดมาก
รพีพงษ์จับนิ้วที่สามของหมาป่า แล้วถาม “ตอนนี้กูให้มึงเอาหนี้ของเธอทั้งหมด โอนไปให้ไอ้ตปิยะ มึงยังมีปัญหามั้ย?”
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา เงินพวกนั้นตปิยะเป็นคนยืม ต้องให้มันคืนอยู่แล้ว” หมาป่ารีบตอบ
“งั้นต่อไปมึงจะยังหาเรื่องหญิงสาวคนนี้อีกมั้ย?” รพีพงษ์ถามต่อ
“ไม่แล้ว ไม่แล้ว ถ้าต่อไปผมยังหาเรื่องเธออีก ให้เมียของผมนอกจากเป็นร้อยๆครั้งเลย!” หมาป่ากล่าว
ได้ยินหมาป่าพูดแบบนี้ รพีพงษ์จึงได้ผ่อนแรงลง
เมื่อกี้ตอนที่รพีพงษ์จับนิ้วเขาไว้นั้น เขากลัวจนตัวสั่น
ตปิยะที่ล้มลงกับพื้นอยู่ตลอดเวลาคิดว่าคนของหมาป่าได้จัดการรพีพงษ์ไปแล้ว แบบนี้เขายังได้พึ่งบารมีไปด้วย แต่เขาไม่คิดเลย ว่ารพีพงษ์จะจัดการกับคนของหมาป่าได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
แล้วยังหักนิ้วของหมาป่าได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
เห็นลักษณะของหมาป่าในตอนนี้ เรื่องกู้ยืมของโศภิตา ก็น่าจะตกไปอยู่ที่เขาแล้วล่ะ
และหมาป่าเป็นคนยังไงเขารู้ดี ถ้าถูกหมาป่าเพ่งเล็ง ครึ่งชีวิตที่เหลือของเขาก็จบเห่แล้ว!
“ตอนนี้เดี๋ยวนี้ เอาเอกสารกู้ยืมพวกนั้นโอนกรรมสิทธิ์เดี๋ยวนี้ กูต้องมั่นใจว่าการกู้ยืมเงินเหล่านั้น ในด้านกฎหมาย โศภิตาไม่ต้องคืนเงินอีกแม้แต่แดงเดียว เข้าใจมั้ย?” รพีพงษ์จ้องหมาป่าแล้วกล่าว
“เข้าใจเข้าใจ ผมจะทำเดี๋ยวนี้!” หมาป่ารีบกล่าว
จากนั้นเขาก็รีบเอกสารกู้ยืมเหล่านั้นของโศภิตามา จากนั้นก็ทำลายสัญญากู้ยืม ต่อหน้ารพีพงษ์ แล้วทำสัญญาฉบับใหม่ขึ้นมา ให้ตปิยะเซ็นชื่อ ประทับลายนิ้วมือ
“ทำเสร็จแล้ว ต่อไปโศภิตาจะไม่มีหนี้สินอะไรอีก เงินพวกนี้ ตปิยะเป็นผู้คืนเองทั้งหมด และผมสัญญา ว่าจะไม่หาเรื่องโศภิตาอีกต่อไป” หมาป่ากล่าว
รพีพงษ์พยักหน้า มองไปยังโศภิตาที่อยู่ข้างๆ กล่าว “พวกเราไปกันเถอะ”
โศภิตาพยักหน้า แล้วเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับรพีพงษ์
ตปิยะที่หน้าดำคร่ำเครียดอยากจะออกจากที่นี่ไปพร้อมๆกับพวกเขา แต่ขณะนี้หมาป่าได้ลากเขาเอาไว้ แล้วด่า “แม่ง ตอนนี้มึงเป็นหนี้พวกกูอยู่แปดแสนกว่านะ จากไปแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง?”
รพีพงษ์ทำให้เขาเกิดปมในใจอย่างมาก ตอนนี้เขาต้องระบายออกมา ตปิยะเป็นกระสอบทรายชั้นดีเลยทีเดียว
รพีพงษ์และโศภิตาไม่สนใจชีวิตของตปิยะอยู่แล้ว ถ้าเขาถูกตีตาย ไม่แน่โศภิตาอาจจะดีใจขึ้นมาหน่อยก็ได้
โศภิตาและรพีพงษ์กลับมาที่ห้องเช่า พร้อมๆกัน เธอเหมือนฝันไปอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่
หนี้สินที่ติดตัวเธอมานานหลายปี วันนี้ได้จบสิ้นแล้ว
ทั้งสองมาถึงหน้าประตู เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหน้า โศภิตาก็มองเข้าไปข้างในรถ พบว่าคนที่นั่งอยู่ คือดิษยาและจุฑาธชทั้งสอง!