พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1061 ความจริงฉันมีภรรยาแล้ว
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1061 ความจริงฉันมีภรรยาแล้ว
บทที่1061 ความจริงฉันมีภรรยาแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของวฤนท์ธม ในใจรพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเขาจะวางแผนให้ตัวเองและกลุ่มศิษย์พี่ศิษย์น้องไปด้วยกันเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ไม่รู้ว่าถึงเวลาตัวเองไปแล้ว จะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง
เนื่องจากตามการคาดเดาของรพีพงษ์ ความแข็งแกร่งของวฤนท์ธมบรรลุถึงแดนเทพแล้ว ต่อให้ถึงเวลาประสบกับปัญหา ด้วยความแข็งแกร่งของเขา คงจะสามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย
แต่กลับเป็นกลุ่มลูกศิษย์ที่ตามไป อาจจะกลายเป็นภาระ
แต่ในเมื่อวฤนท์ธมพูดคำขอนี้ออกมา ถ้าอย่างนั้นรพีพงษ์ก็จะไม่มีความลังเลใดๆ เนื่องจากเขาสามารถมีวันนี้ได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะอาจารย์
ความรู้สำนึกในพระคุณของอาจารย์ และคำสอนต่างๆในปีนั้น ชาตินี้รพีพงษ์จะไม่มีวันลืม ตอนนี้อาจารย์ต้องการเขา ถ้าอย่างนั้นเขาจะบุกไปข้างหน้าสุดอย่างห้าวหาญ
“อาจารย์สบายใจได้ ถึงเวลาผมจะไม่มีการบอกปัดใดๆทั้งนั้น”รพีพงษ์เอ่ยปากพูดกับวฤนท์ธม
วฤนท์ธมพยักหน้าด้วยความโล่งอก เห็นได้ชัดว่าพอใจกับศิษย์คนนี้ของตัวเองเป็นอย่างมาก
“ไม่ทราบว่าอาจารย์จะไปสถานที่ที่ชัชพิสิฐทิ้งไว้เมื่อไหร่เหรอ?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
“นายเพิ่งมาถึงบนเกาะ ศิษย์พี่ศิษย์น้องยังไม่รู้ทั้งหมด เรื่องนี้ก็ไม่ได้รีบร้อน รอให้นายปรับตัวได้ก่อนค่อยว่ากัน”วฤนท์ธมเอ่ยปากพูด
รพีพงษ์พยักหน้า และไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร
จากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอื่นที่ไม่สำคัญ ต่อจากนั้นรพีพงษ์ก็เดินออกจากห้องของวฤนท์ธม
เขาเห็นนฤชัยรออยู่นอกบ้านของอาจารย์ในเวลานี้ จึงพูดอย่างสุภาพว่า: “ศิษย์พี่นฤชัย”
นฤชัยยิ้มให้รพีพงษ์เล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ตอนนี้นายเป็นศิษย์พี่ใหญ่แล้ว ก็อย่าได้เรียกฉันว่าศิษย์พี่อีกต่อไป”
“อันที่จริงฉันอยากขอโทษนายสำหรับเรื่องราวก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้ฉันหวาดระแวงมากเกินไป รวมทั้งท่าทีที่ศิษย์น้องนิศมามีต่อนาย ทำให้ฉันเกิดความอิจฉานาย”
“แต่การต่อสู้ในวันนี้ทำให้ฉันตื่นรู้ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ฉันก็เข้าใจความตั้งใจของอาจารย์เช่นกัน รวมทั้งท่าทีที่ศิษย์น้องนิศมาแสดงต่อฉัน ดังนั้นความผิดหวังในใจของฉัน ตอนนี้ก็ได้หายไปหมดแล้ว”
“ความสามารถและความแข็งแกร่งของนายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ของอาจารย์จริงๆ สิ่งนี้ไม่ต้องสงสัยเลย ฉันนับถือเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ แต่ว่าจากนี้ไปฉันจะพยายามต่อไป พยายามบรรลุถึงระดับของนายให้โดยเร็วที่สุด”
“สำหรับศิษย์น้องนิศมา ฉันก็คิดมาชัดเจนแล้ว แตงโมที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน จากนี้ไปฉันก็จะไม่แย่งเธอกับนายอีกต่อไป เชื่อว่าเธออยู่กับนาย ถึงจะอยู่อย่างมีความสุขมากกว่า”
หลังจากฟังคำพูดที่จริงใจของนฤชัยจนจบ รพีพงษ์ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างกะทันหัน รีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า: “ศิษย์พี่ ความจริงฉันไม่ได้สนใจอะไรศิษย์พี่นิศมาทั้งนั้น ที่สำคัญฉันมีภรรยาแล้ว ลูกก็อายุใกล้จะหนึ่งปีแล้ว จากนี้ไปพี่ควรตามจีบก็ยังต้องตามจีบต่อไป อย่าได้เพราะฉันก็ยอมพ่ายแพ้”
เมื่อนฤชัยได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ นิ่งอึ้งไปทันที พึมพำว่า: “นายแต่งงานแล้วเหรอ? ลูกอายุจะหนึ่งปีแล้วเหรอ?”
รพีพงษ์พยักหน้าอย่างจริงจัง
ทันใดนั้นนฤชัยไม่รู้จะทำอย่างไรขึ้นมา
ต้องรู้ว่าปีนี้เขาอายุสามสิบปีแล้ว ตามจีบนิศมามาโดยตลอด แต่กลับไม่เคยสำเร็จ จนถึงทุกวันนี้ยังคงเป็นคนโสด
และศิษย์น้องที่อายุน้อยกว่าตัวเอง ไม่เพียงแค่แต่งงานแล้ว แม้แต่ลูกก็มีแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เขาค่อนข้างอับอายในฐานะศิษย์
ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย นฤชัยกระแอมเบาๆ เอ่ยปากพูดว่า: “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าใจนายผิดไปจริงๆด้วย”
“คืนนี้ฉันตั้งใจว่าจะดื่มกับศิษย์พี่ศิษย์น้องเป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลานายต้องมา พวกเราก็ถือได้ว่าไม่ต่อสู้กันก็ไม่รู้จักกัน คืนนี้ฉันจะดื่มกับนายอย่างเต็มที่ครั้งหนึ่ง”
“แน่นอน”รพีพงษ์ตอบ
ในคืนนี้ นฤชัยเรียกศิษย์พี่ชายศิษย์น้องและศิษย์พี่สาวศิษย์น้องสาวรวมตัวอยู่ด้วยกัน ให้ทุกคนเอาเหล้าดีๆของตัวเองออกมา เตรียมดื่มกันอย่างเต็มที่ครั้งหนึ่ง
ทุกคนจุดกองไฟ จากนั้นเอาสัตว์ป่าที่ยิงได้เมื่อตอนกลางบนเกาะมา และเอาอาหารทะเลที่ได้มาจากทะเลออกมา ดื่มเหล้าไปกินเนื้อไป
เพราะการแสดงออกเมื่อตอนกลางวัน รพีพงษ์ได้เปลี่ยนมุมมองของทุกคนทั้งหมด ทุกคนก็อยากเข้าใกล้เขา และชวนเขาดื่มเหล้าไม่หยุด
นิศมาและบาวันทั้งสองคนก็จะไปดื่มกับรพีพงษ์เป็นครั้งเป็นคราวบ้าง โดยเฉพาะบาวัน ทั้งๆที่ดื่มไม่ได้ แต่กลับแกล้งทำท่าทางที่ดื่มเหล้าเก่ง ปรากฏว่าแค่เพียงแก้วเล็กๆแก้วเดียว คนทั้งคนก็มึนเมาแล้ว
เพื่อหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนจากนี้ไป รพีพงษ์เอาเรื่องที่ตัวเองแต่งงาน และเรื่องราวที่มีลูกสาวหนึ่งคนบอกให้ทุกคน
หลังจากที่นิศมาและบาวันได้ยิน ทั้งคู่ก็แสดงท่าทีประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะแต่งงานแล้ว ที่สำคัญมีลูกสาวแล้วด้วย
บนใบของบาวันเสียใจ รวมทั้งดื่มเหล้าด้วย วิพากษ์วิจารณ์ว่ารพีพงษ์หลอกลวงความรู้สึกของเธอต่อหน้าทุกคนอย่างรุนแรง ในเมื่อมีภรรยาแล้ว ทำไมยังทำให้ตัวเองเกิดคิดแบบนั้น
รพีพงษ์หมดคำพูด บอกว่าตัวเองไม่เคยหลอกลวงความรู้สึกของเธอมาก่อน เป็นตัวเธอที่คิดไปด้านนั้นเอง
แน่นอนว่า รพีพงษ์ก็เข้าใจนิสัยแบบนี้ของบาวันเพียงแค่พูดก็แล้วๆกันไป และไม่มีทางเอาจริงเอาจัง
แต่เป็นนิศมา หลังจากที่ได้ยินเขาบอกว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว แสดงให้เห็นถึงร่องรอยของการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดเจน
ที่สำคัญเริ่มแรกเธอที่ไม่ดื่มเหล้า ถึงตอนหลังก็เริ่มดื่มกับทุกคนขึ้นมา และยังแสดงท่าทางที่ไม่แยแสออกมา
รพีพงษ์เห็นเธอแบบนี้ รู้ว่าเธอคงจะเกิดความคิดบางอย่างจริงๆ แต่ว่าโชคดีที่พวกเขายังรู้จักกันมาไม่นาน ความคิดแบบนี้ยังหยุดอยู่ที่เริ่มต้น
ดังนั้นในเวลานี้ความคิดแบบนี้ของนิศมาได้ทำลายอยู่ที่จุดเริ่มต้น นี่ถึงได้เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด
ครั้งนี้ทุกคนดื่มเหล้าด้วยกันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์กับทุกคนเข้าใกล้กันมากขึ้น ดื่มจนถึงเวลาที่เต็มที่ ทุกคนก็เริ่มพูดคุยประสบการณ์ของตัวเองที่ปีนั้นตอนที่อาจารย์รับมาเป็นลูกศิษย์
ในใจของรพีพงษ์ก็ทอดถอนหายใจอย่างฉับพลัน คิดถึงปีนั้นที่ตัวเองพบกับอาจารย์ตอนที่ตกอับที่สุด ถ้าหากอาจารย์ไม่ได้ให้ความหวังอันริบหรี่แก่เขา เขามีชีวิตถึงตอนนี้คงจะยากลำบากมาก
ความซาบซึ้งในพระคุณของเขาที่มีต่ออาจารย์นั้นเกินคำบรรยาย ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะรับปากความต้องการของอาจารย์ทั้งหมด แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟ ก็จะไม่ลังเล
ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนาน ในความมืดไม่ไกลออกไป วฤนท์ธมมือไพล่หลังไว้ มองไปที่ลูกศิษย์ของตัวเองอย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แววตาของเขาจับจ้องไปที่บนตัวรพีพงษ์เป็นเวลานาน และในดวงตามีความหมายที่อธิบายไม่ได้อย่างหนึ่ง
ถ้าหากตอนนี้รพีพงษ์ใช้พลังจิตตรวจสอบบริเวณรอบๆ ก็จะพบวฤนท์ธมที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด และมองเห็นหมอกควันสีดำหนึ่งก้อนที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย
หมอกควันสีดำเหล่านี้ทำให้วฤนท์ธมดูมืดมน กับปกติที่เขาใจดีเป็นมิตรเข้าหาง่าย มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
จ้องมองกลุ่มลูกศิษย์เป็นเวลานาน แววตาของวฤนท์ธมเปลี่ยนล้ำลึกและเงียบขึ้นมา มุมปากของเขาก็กระตุกยกขึ้นเบาๆ ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกขนพองสยองเกล้า
เขาไม่ได้หยุดอยู่ต่อไป หันหลังจากที่นี่ไป ไม่มีใครพบว่าเขามาที่นี่