พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1079 เทพเจ้า
“พี่รพีพงษ์ แม่ของฉันพูดถูก บริวุตคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ การต่อสู้แข็งแกร่งที่เรียบง่าย เมื่ออยู่ต่อหน้าไร้ประโยชน์มาก ดังนั้นพวกเรารีบออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุดเถอะ”เวทิดาก็พูดรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่จริงจังเช่นกัน
รพีพงษ์มองไปที่เธอแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “อย่าตื่นตระหนกไป ต่อให้เขาจะเป็นวิชาเวทย์ ไม่ความจำเป็นที่ต้องกลัว”
“พวกคุณบอกฉันก่อนว่า วิชาเวทย์ของบริวุตคนนั้น เป็นแบบนี้หรือเปล่า”
หลังจากพูดจบ รพีพงษ์หมุนเวียนพลังวิเศษเสน อยู่ในมือของตัวเอง ก็เปลี่ยนแปลงเป็นแส้ออกมาหนึ่งเส้นอย่างมหัศจรรย์
หลังจากที่เวทิดาสองแม่ลูกเห็นฉากนี้ เบิกตากว้างทันที มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความไม่เชื่อ และเวทิดาก็ร้องเสียงดังออกมาทันที
“นี่…..นี่…..นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร พี่รพีพงษ์ หรือว่า พี่ก็เป็นวิชาเวทย์ เหรอ?”เวทิดามองไปที่รพีพงษ์แล้วพูดตะกุกตะกัก เห็นได้ชัดว่าตกใจกับกลยุทธ์นี้ของรพีพงษ์
รพีพงษ์ยิ้มให้เธอเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “นี่ไม่ใช่วิชาเวทย์เพียงแค่วิธีใช้พลังอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง ก็ไม่ต้องแปลกใจมากเกินไป”
เวทิดาสองแม่ลูกจ้องมองรพีพงษ์เป็นเวลานาน และสิ่งแรกที่ทำหลังจากที่ตอบสนอง ก็คือจะคุกเข่าให้กับรพีพงษ์
“พระเจ้า ชายหนุ่ม คุณก็คือพระเจ้า ขอร้องคุณได้โปรดช่วยดาของบ้านพวกเราด้วย”
เมื่อรพีพงษ์เห็นเช่นนี้ รีบห้ามเวทิดาสองแม่ลูกไว้ เอ่ยปากพูดว่า: “คุณน้า ผมไม่ใช่พระเจ้า เพียงแค่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาเล็กน้อยเท่านั้นเอง น้าอย่าได้เคารพผมขนาดนี้ ผมรับไว้ไม่ได้ ”
การศึกษาในท้องถิ่นในพื้นที่ภูเขาไม่ได้เป็นที่นิยม ดังนั้นการได้เห็นปรากฏการณ์ที่อธิบายไม่ได้นี้ ก็จะจินตนาการถึงผีและเทพเจ้าโดยสัญชาตญาณ
“เมื่อกี้นี้คุณใช้วิชาเวทย์ ออกมาแล้ว ไม่ใช่เทพเจ้าแล้วคืออะไร?”แม่ของเวทิดามองไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เกรงกลัว ยังไงก็คาดไม่ถึง ลูกสาวของตัวเองจะเทพเจ้ากลับมา
“คุณน้า เรื่องนี้ผม ไม่สามารถอธิบายให้น้าเข้าใจได้อย่างชัดเจน น้าเพียงแค่ต้องรู้ว่าผมเป็นคนธรรมดาที่แข็งแกร่งเท่านั้นเอง ไม่ใช่เทพเจ้า”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็คือเทพเจ้ากลับชาติมาเกิดเหรอ?”แม่ของเวทิดาถามต่อ
ทันใดนั้นรพีพงษ์ก็พูดไม่ออก ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีว่า: “คุณน้า น้าเล่าเรื่องเกี่ยวกับบริวุตก่อนเถอะ เล่าที่มาของให้ผมอย่างละเอียด ”
เวทิดาสองแม่ลูกถึงจะละความสนใจจากรพีพงษ์ และเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบริวุตให้รพีพงษ์
ที่แท้บริวุตไม่ใช่คนในท้องถิ่น เมื่อปีที่แล้วเขาได้มาที่หมู่บ้านใกล้เคียงกับพื้นที่เทือกเขาฉินหลิง และได้ใช้กำลังเข้ายึดครองบ้านของคนที่ร่ำรวยที่สุดในท้องถิ่นคนหนึ่งโดยตรง
หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมนักเลงอันธพาลทั้งหมดในหมู่บ้านใกล้เคียงไว้ด้วยกัน และให้พวกเขาจัดการเรื่องราวต่างๆแทนตัวเอง
สิ่งที่เรียกว่าจัดการเรื่องราวต่างๆ ก็คือรังแกชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียง ฉกชิงของ ขโมยเงิน และขืนใจหญิงสาวที่บริสุทธิ์
ในตอนเริ่มแรก หลังจากที่คนในหมู่บ้านหลายแห่งบริเวณรอบๆได้เห็นพฤติกรรมของบริวุต ยังคิดที่จะต่อต้าน ทุกคนได้รวมตัวกันเป็นกลุ่ม และต้องการกำจัดคนที่ทำร้ายคนทั้งเป็นที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน
เนื่องจากตั้งแต่ที่เขามาถึงที่นี่ ผู้คนในหมู่บ้านใกล้เคียงหลายแห่งก็ไม่เคยมีชีวิตที่เงียบสงบ
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ แรงงานที่แข็งแกร่งในหลายหมู่บ้านร่วมมือกันไปกำจัดบริวุต แต่ผลปรากฏว่าถูกเขาคนเดียวทุบตีจนนอนคว่ำ
ทุกคนไม่คาดคิดว่าบริวุตจะมีพลังมากขนาดนี้ ดังนั้นในที่สุดก็ทำได้เพียงเลือกที่จะอดทน และหวังเพียงว่าคนของบริวุตจะไม่สร้างความเดือดร้อนและไม่มาหาบ้านของตัวเอง
มีชาวบ้านหลายคนเพื่อที่จะหลบหลีกบริวุต ถึงกับย้ายออกจากที่นี่
แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิต ที่สำคัญชีวิตก็ที่ยากลำบากมาก ไม่มีกำลังมากพอที่จะย้ายออกไป ดังนั้นทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเดือดร้อนที่บริวุตนำมาให้
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีชาวต่างถิ่นคนหนึ่ง ว่ากันว่าเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ ได้ยินเรื่องราวของบริวุต จึงไปท้าทายบริวุตเพียงลำพัง ต้องการกำจัดอันตรายให้กับชาวบ้าน
ในเวลานั้นชาวบ้านหลายคนวิ่งไปมุงดูหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิดคือ บริวุตก็เสกแส้ออกมาหนึ่งเส้นโดยตรง และคนที่เรียกว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ก็ถูกแส้ฟาดจนตาย
ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านทุกคนก็ถือว่าบริวุตเป็นเทพเจ้า เพราะเขาสามารถใช้วิชาเวทย์ และยังสามารถเสกแส้ออกมาจากอากาศได้ ที่สำคัญแส้ก็สามารถฟาดคนตายได้
เพียงแต่เทพเจ้าบริวุตนี้ อยู่ในสายของทุกคนคือตัวซวย เขาไม่ได้นำความโชคดีมาสู่ชาวบ้าน และรู้เห็นเป็นใจรังแกชาวบ้านกับลูกน้องของตัวเองเท่านั้น
แต่ตั้งแต่หลังจากที่รู้ว่าบริวุตเป็นวิชาเวทย์ชาวบ้านทุกคนก็เกิดความรู้สึกเกรงกลัวต่อบริวุต ไม่มีใครกล้ามาเรื่องกับลูกน้องของเขา ถูกรังแกก็ทำได้เพียงยอมรับชะตากรรม
ต่อมาชาวบ้านบางคนสอบถามจากลูกน้องของบริวุตว่า เหตุผลที่บริวุตมาที่นี่ เป็นเพราะในเทือกเขาฉินหลิงได้รับท่านปรมาจารย์คนนั้น
เขาต้องการมาไหว้บูชาท่านปรมาจารย์คนนั้นเป็นอาจารย์ ดังนั้นจึงมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่นี่ก่อน เพื่อรอให้ท่านปรมาจารย์ลงมาจากภูเขามารับลูกศิษย์
หลังจากที่รพีพงษ์ฟังแม่ของเวทิดาเล่าเรื่องเกี่ยวกับบริวุตจนจบ ในใจก็หัวเราะเยาะ คนบาปที่ชั่วช้ามากขนาดนี้ ก็ยังมาหน้ามาไหว้บูชาท่านปรมาจารย์เป็นอาจารย์ ก็เป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นรพีพงษ์ยังสามารถคาดคะเนได้จากข้อมูลนี้ว่า ความแข็งแกร่งของบริวุตคนนี้ ต่อให้จะบรรลุถึงแดนดั่งเทพ น่าจะเป็นเพียงขั้นตอนของแดนดั่งเทพขั้นต้น ไม่น่าจะแข็งแกร่งเกินไป
เนื่องจากต่อให้ผู้คุมกันคนที่สี่ของชัชพิสิฐยังมีชีวิตอยู่ เพราะปีนั้นได้รับบาดเจ็บจากการหลบหนีออกมาจากช่องทางขนส่ง ตอนนี้ความแข็งแกร่งของก็คือแดนดั่งเทพชั้นยอด ไม่มีทางที่จะเป็นแดนเทพ
และบริวุตคนนี้จะไหว้บูชาอาจารย์ก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นได้แค่ว่าความแข็งแกร่งของเขายังไม่เพียงพอ
“พวกคุณสองคนวางใจเถอะ เรื่องของบริวุตคนนี้ ผมมาจัดการเอง เขาเป็นศิษย์ที่ทำบาปชั่วช้า ก็สมควรที่จะถูกลงโทษตามกฎหมาย พอดีว่าฉันก็มีข้อกล่าวหาในการขจัดคนชั่วอยู่ ดังนั้นจะไม่มีวันปล่อยให้บริวุตยังคงอาละวาดและครอบงำต่อไป”รพีพงษ์เอ่ยปากพูดกับเวทิดาสองแม่ลูก
หลังจากที่ทั้งสองคนเห็นกลยุทธ์ของรพีพงษ์ ก็ได้ถือว่าเขาเป็นเหมือนเทพเจ้าที่มีอยู่ไปตั้งนานแล้ว ดังนั้นความกังวลก่อนหน้านี้ก็ได้หายไป
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณชายหนุ่มมากๆ หมู่บ้านใกล้เคียงหลายแห่งของพวกเราจะใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขหรือไม่ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับชายหนุ่มแล้ว”แม่ของเวทิดาพูดด้วยใบหน้าที่ซาบซึ้ง
รพีพงษ์พยักหน้า ให้พวกเขาไม่ต้องกังวลมากเกินไป ควรทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น เดี๋ยวมีคนมา เขามาจัดการ
แน่นอนว่า หลังจากนั้นไม่นาน คนกลุ่มใหญ่ก็มาถึงที่สวนลานบ้านของเวทิดา ล้อมบ้านของเวทิดา
“ไอ้เด็กเปรต รีบไสหัวออกมาให้ฉันปู่ของแก กล้ามีเรื่องกับคนของพี่บริวุตของพวกเรา ฉันว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว!”
รพีพงษ์เดินออกไปด้านนอก มองเห็นว่าคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด้านนอกล้วนเป็นคนอันธพาลในหมู่บ้าน และไม่มีคนที่มีความแข็งแกร่งบรรลุถึงแดนดั่งเทพ
เขาก็คาดได้ว่าสถานการณ์แบบนี้ เนื่องจากบริวุตคนนั้นคงจะไม่ออกโรงด้วยตัวเองเพียงเพราะชายหนุ่มที่สามารถต่อสู้ได้อย่างแน่นอน
แต่ในเมื่อบริวุตคนนี้ไม่มา ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไปหาด้วยตัวเอง ไปลองดูว่าคนที่เรียกว่าบริวุตสักพักว่า เป็นคนแบบไหนกันแน่!