พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1212 รายชื่อเศรษฐีอันดับหนึ่ง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1212 รายชื่อเศรษฐีอันดับหนึ่ง
“คุณหนูของคุณ?”
รพีพงษ์ค่อนข้างสงสัย แม้จะบอกว่าครั้งที่แล้วมาที่เมืองนี้แล้ว แต่ ตนก็ไม่ได้เจอคนรู้จักที่นี่เลยนะ?
รพีพงษ์คิดในใจ แต่ไม่นานก็ปฏิเสธทันที
ก่อนหน้านี้ไปสำนักเทพยาเซียน ตนไม่ได้บอกพ่อ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครรับรู้
“คุณหนูของคุณคือใคร ทำไมเธอเห็นผมไปแล้วผมจะต้องไปด้วย”
น้ำเสียงรพีพงษ์เย็นชา เขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องแคร์ใครทั้งนั้น
ชายชุดดำสีหน้าอับอาย “คุณชายรพี คุณหนูของเราบอกว่า ถ้าคุณไม่ไปละก็ เธอจะเกลียดคุณตลอดชีวิต”
“หา?”
ตอนนี้แม้แต่รพีพงษ์ก็เริ่มงงๆแล้ว
“คุณชายรพี ผมรู้ว่าฝีมือคุณแข็งแกร่ง พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ ขอร้องนะครับ อย่าทำให้เราลำบากใจเลย” ชายชุดดำกล่าว
รพีพงษ์ยักไหล่ เห็นอีกฝ่ายแบบนี้ จึงไม่คิดจะทำร้าย
“ก็ได้ ผมจะไปกับคุณ”
เขตถนนที่สาม โรงแรมไม้คู่
“คุณหนูของคุณอยู่ที่นี่?” รพีพงษ์ถาม
เดิมทีตนก็วางแผนจะมาที่โรงแรมนี้เช่นกัน ตอนนี้ดีเลย ดูๆแล้วยังมีคนที่รู้จักรอเขาอยู่ที่นี่
“คุณรพี กรุณามากับผมครับ”
พลางพูด ชายชุดดำพารพีพงษ์เดินเข้าไป
เพิ่งจะเข้ามาในล็อบบี้ รพีพงษ์ก็ได้ยินเสียงหนึ่งในนั้นเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งกำลังทะเลาะกับรปภ.คนหนึ่งที่ล็อบบี้
“คุณรพีเชิญนั่งบนโซฟา อีกสักครู่ผมจะพาคุณไปพบกับคุณหนู”
ชายชุดดำกล่าว
“ตามสบาย” รพีพงษ์กล่าวอย่างสบายๆ
ชายชุดดำรีบมาข้างๆชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่นั่น
“ต้น เกิดอะไรขึ้น”
ชายชุดดำพูดกับรปภ.คนนั้น
“ผู้จัดการเซจึนะ สองคนนี้จะเข้าพักโรงแรมของเราให้ได้ แต่ตอนนี้เป็นสภาวะฉุกเฉิน เจ้านายสั่งไว้ ว่าทุกวันเปิดได้มากสุดยี่สิบห้อง วันนี้โควตาเต็มแล้ว” รปภ.กล่าวอย่างน้อยใจ
เซจึนะพยักหน้า “โอเค หน้าของคุณไปโดนอะไรมา?”
“ผมไม่ให้พวกเขาเข้า ชายคนนั้นจึงตบหน้าผม” รปภ.รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
“โอเค คุณไม่มีธุระอะไรที่นี่แล้ว คุณทำดีมาก ไปพักที่ห้องพักผ่อนก่อนนะ”
หลังจากที่รปภ.จากไปแล้ว เซจึนะมาด้านหน้าของทั้งสองคน
“ท่านทั้งสอง ไม่ทราบว่ารปภ.ของที่นี่บอกพวกคุณชัดเจนหรือยัง ถ้าไม่ชัดเจน ผมจะพูดอีกครั้ง โควตาเข้าพักของวันนี้เต็มแล้ว เชิญท่านทั้งสองกลับครับ” เซจึนะมาที่ด้านหน้าของทั้งคู่แล้วกล่าว
“แม่ง มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร ถึงได้กล้าพูดกับกูแบบนี้อะ!” ผู้ชายตะคอกเสียงดังออกมา ด้วยความยโสโอหัง
“ไม่ทราบครับ ” เซจึนะพูดความจริง
“กูคือธมล เป็นคนที่เมืองพวกมึงเชิญมาสำรวจการลงทุน จะไปรู้ได้ไงว่ามาครั้งนี้จะเจอกับเรื่องบ้าๆแบบนี้ โชคร้ายแม่งจริงๆ”
ผู้ชายพูดพลาง ถุยน้ำลายลงพื้น
“ในเมื่อคุณผู้ชายรู้สึกโชคร้าย ก็ออกไปได้แล้วครับ” เซจึนะพูดไหลไปตามอีกฝ่าย
“แกเป็นใคร กล้าพูดกับบอสธมลแบบนี้!” หญิงที่อยู่ข้างๆแทรกเข้ามา
“จะบอกให้นะ เจ้านายของเรามาที่นี่เพื่อลงทุน โครงการมูลค่ากว่าพันล้าน แกถ่วงเวลาไหวเหรอ?”
หลังจากที่เซจึนะได้ยินแล้ว ก็ไม่สนใจใดๆ “คุณผู้ชาย เชิญคุณทั้งสองออกไปครับ วันนี้โควตาของเราเต็มแล้ว”
“แม่ง มึงนี่แม่งหัวรั้นจริงๆเลยวะ” ธมลตะคอก “ในเมื่อโควตาเต็มแล้ว กูจะบอกวิธีให้ ไล่แขกออกไปหนึ่งห้อง ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ!”
“บอสธมลฉลาดจริงๆ วิธีนี้ดีมากเลย”
หญิงคนนั้นพูด พลางชำเลืองมองไปที่เซจึนะ “ได้ยินหรือยัง ยังไม่รีบไปไล่คนออกจากที่นี่อีก ให้เราทั้งสองไปพักผ่อนในห้องได้แล้ว”
“ขอโทษท่านทั้งสอง แขกที่เข้าพักในโรงแรมของเราทุกคน พวกเราจะปฏิบัติเหมือนกัน ให้ผมไล่แขกไป ทำไม่ได้จริงๆ” เซจึนะกล่าว
“มึงแม่งบ้าป่ะวะ!”
ธมลได้ยินแล้วเกรี้ยวกราด ด่าพลางเดินเข้าไปด้านใน “มึงไม่ไล่กูไล่เอง!”
“คุณผู้ชาย ไม่ได้ครับ” เซจึนะรีบขวางหน้าธมลไว้แล้วกล่าว
“แม่ง กล้าขวางทางกู รนหาที่ตาย!”
เขาพูดพลาง ยกมือขึ้น จะตบไปที่หน้าของเซจึนะ
จู่ๆ มีมือหนึ่งยื่นมาในอากาศ จับข้อมือของธมลไว้
รพีพงษ์ที่เดิมทีนั่งอยู่บนโซฟา ขณะนี้ได้ปรากฏกายอยู่ตรงนี้แล้ว
“มึงเป็นใคร ปล่อยมือ!” ธมลขมวดคิ้วพลางกล่าว
“อย่างกับหมา คู่ควรจะรู้ชื่อของฉัน?” รพีพงษ์พูดอย่างไม่พอใจ ยกขาขั้นมา ยันอีกฝ่ายลงไปกับพื้น
“ฆ่าคนแล้ว!”
หญิงที่อยู่ข้างๆ ร้องออกมาเสียงแหลม เสียงนั้นดังทะลุแก้วหู ถ้าไม่ไปร้องเพลงเสียดายแย่
“บอสธมล บอสธมลไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ”
ผู้หญิงรีบมาด้านหน้าของธมล พยุงธมลขึ้นจากพื้น
“แม่ง เจ็บชิบหาย”
ธมลเจ็บจนทวารทั้งห้าบิดเบี้ยวเข้าหากัน ตอนที่เขาล้มไปส่วนท้อง รอยเท้า ผิวหนังเปลี่ยนเป็นฟกช้ำอย่างชัดเจน
“ไอ้หนู มึงมาจากไหน มึงรู้หรือเปล่าว่ากูเป็นใคร?” ธมลโอบเอวของสาวคนนั้น แล้วพยุงตัวยืนขึ้นมา
“ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร”
รพีพงษ์ไม่เหลียวมองเขาแม้แต่น้อย เพียงแค่หันไปมองเซจึนะ “ต้องการให้ผมช่วยไล่สองคนนี้ออกไปมั้ย?”
“คุณรพี ขอบคุณที่ออกโรงครับ” เซจึนะกล่าว
ด้วยตำแหน่งการทำงานของเซจึนะทำให้ไม่สามารถลงมือกับคนได้ตามอำเภอใจ มิเช่นนั้น ด้วยกำลังของวัยเขา จะกดธมลนั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
จากนั้น เซจึนะมองไปที่ธมล “คุณผู้ชาย เชิญพวกคุณออกไปจากที่นี่ครับ”
“แม่ง ถีบกู แล้วยังจะไล่กูอีก ฝันไปเถอะ!”
ธมลมองไปที่รพีพงษ์อย่างดุดัน แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรรพีพงษ์
“ยังไม่ไปอีก? ฉันเต็มใจจะถีบแกอีกครั้งนะ” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น
“ได้ พนักงานของโรงแรมนี้ทำลายร่างกายแขก ดูจะเปิดโปงพวกมึง!” ธมลกล่าว
“ใช่ เปิดโปงพวกมัน!” หญิงสาวพูดเสริมข้างๆ
เซจึนะมองอีกฝ่าย แล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ทั้งสองท่านเข้าใจผิดแล้วครับ คุณรพีไม่ใช่พนักงานของโรงแรมเรา กลับกัน เขาเป็นแขกคนสำคัญที่สุดของเราในวันนี้!”
“แขกสำคัญที่สุด?”
ธมลพูดย้ำอีกครั้ง พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วกล่าว “มึงโกหกกู! เมื่อกี๊มึงพูดว่า โควตาเข้าพักวันนี้เต็มแล้วไม่ใช่เหรอ แต่กูเห็นกับตา ว่ามันมาหลังจากที่กูเข้ามาที่โรงแรมนี้แล้วเสียอีก!”
“ใช่ ทำไมมันเข้าพักได้ แต่พวกเราพักไม่ได้!” เลขาสาวก็ตะคอกออกมา
“คุณรพีกับพวกคุณไม่เหมือนกัน เขาเป็นคนที่คุณหนูของเราเชิญมา” เซจึนะตอบไปตรงๆ
“คุณหนูห่าเหวอะไร เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกมึงสองมาตรฐาน!”
ธมลพูดพลาง จากนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความเหยียดหยาม “โรงแรมนี้เปิดห้องพักได้ยี่สิบห้องต่อวันไม่ใช่เหรอ? กูจะดู ถ้าพวกมึงเปิดห้องให้มันเพิ่มโดยเฉพาะ กูจะแฉให้หมด ว่าคนของโรงแรมไม้คู่พูดจาสุ่มสี่สุ่มห้า รังแกคนอื่นเกินไป!”
“ใช่ บอสธมล คุณพูดถูกค่ะ พวกเราจะรอที่นี่” เลขาสาวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินแล้วนั้น ก็ไม่สบอารมณ์ หันไปมองเซจึนะ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน มากสุดก็แค่นอนบนรถไม่เป็นไร จะได้ไม่ลำบากพวกคุณ”
“ไม่ได้ครับ คุณรพี ถ้าตอนนี้คุณออกไปละก็ คุณหนูจะต้องไม่ปล่อยผมไว้แน่” เซจึนะรีบกล่าว
จากนั้น เขามองไปที่ธมลทั้งสองคนกล่าว “พวกคุณวางใจได้ โรงแรมไม้คู่ของเราเป็นอันดับหนึ่งเรื่องความน่าเชื่อถือ พูดว่าใช่ยี่สิบห้องต่อวัน ก็คือยี่สิบห้อง ไม่มีทางเปิดเกินมาแม้แต่ห้องเดียวแน่นอน”
“งั้นก็จะรอดูว่าพวกมึงจะทำยังไง ถ้าวันนี้มึงไม่ให้คำตอบกู กูก็จะไม่ไป!” ธมลกล่าวอย่างเหยียดหยาม
เซจึนะมาตรงหน้าของธมล แล้วกล่าวเบาๆว่า “คุณรพี คืนนี้เข้าพักที่ห้องของคุณหนูของเรา!”