พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1220 กฎของเรา
“ตะ……ตลาดนักสวนดอกไม้ จางเหล่ย” พรตกล่าว
รพีพงษ์พยักหน้า เพียงแค่หาตัวการเจอ ก็ง่ายแล้ว
สิ่งที่ตัวเองอยากรู้โดยทั่วไปก็กระจ่างแล้ว รพีพงษ์จึงได้ผ่อนแรงที่ขาลง
“คุณชายรพี ผมพูดสิ่งที่ผมรู้ทั้งหมดแล้ว ผมรับรอง ว่าต่อไปจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก คุณปล่อยผมไปเถอะนะ” พรตกล่าว
“ใช่ คุณชายรพี อาจารย์ของผมแก่แล้วหน้ามืดตามัว เจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ต่อไปผมจะช่วยคุณดูเอง คุณปล่อยพวกเราไปเถอะนะ” ตนัสพูดข้างๆ
“ปล่อยพวกแกไป?”
รพีพงษ์ดูแคลน หลังจากที่มองสายตาอ้อนวอนของพวกเขา แล้วค่อยๆเดินออกจากห้องไป
“ในห้องกลับมาสงบอีกครั้ง”
พรตลูกศิษย์อาจารย์ที่คุกเข่าอยู่กับพื้นมองไปรอบๆ อย่างงงงวย
“อาจารย์ เขา……ไปแล้ว?”
“ใช่มั้ง ไม่งั้นแกออกไปดูหน่อยมั้ย?”
“ผมไม่ออกไป” ตนัสรีบปฏิเสธ เขากลัวรพีพงษ์จะย้อนกลับมาอีกครั้ง
เวลาผ่านไป ในตอนที่พวกเขากำลังจะโล่งใจนั้น จู่ๆ เปลวไฟสีฟ้าอ่อนหล่นลงมาจากบนฟ้า
“”อาจารย์ ไฟไหม้แล้ว……“
“ไอ้เหี้ยรพีพงษ์ มันจะฆ่าพวกเรา……”
พรตตะโกนออกมา “รพีพงษ์ วันนี้แกฆ่าฉัน ทำผิดต่อสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ! พวกเขาจะต้องล้างแค้นให้ฉัน!”
ในค่ำคืนที่มืดมิด ไฟหล่นลงมาจากฟ้า เสียงกระเบื้องและกำแพงอิฐร่วงลงมา ทำให้พรตตะคอกออกมาอย่างสิ้นหวังหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด
รพีพงษ์ใช้พลังปราณจุดเป็นไฟ เผาไหม้ทั้งห้องได้อย่างรวดเร็ว
กาดำแบบนี้ รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยไว้แน่นอน
เพียงแค่ ผู้หญิงที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของพรต ทำให้เขาครุ่นคิด
ทุกอย่างกลับมาสงบ
ไฟมอดไหม้ทุกอย่าง ห้องไหม้จนเป็นขี้เถ้า และพรตศิษย์อาจารย์ทั้งคู่เผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน
หลังจากที่รพีพงษ์จากไปได้ครึ่งชั่วโมง ร่างที่เลื่อนลอยมาตรงหน้าของห้องที่ถูกเผาไหม้
“สวะจริงๆ เรื่องเล็กๆยังจัดการไม่ได้”
หญิงสาวกล่าวเสียงเบา ด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าของหญิงสาวสวยมาก เธอไม่สนใจ กับซากปรักหักพังที่อยู่ตรงหน้าแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน เธอเดินเข้าไปในเถ้าถ่าน พลางเดินพลางพูดว่า “รพีพงษ์นี่ น่าสนใจจริงๆ ดูแล้ว ฉันต้องลงมือเองแล้วละ”
ในขณะที่เธอกำลังจะกลับไปนั้น จู่ๆ เธอก็เห็นใต้กระเบื้องที่ถูกเผา ราวกับมีของสิ่งหนึ่งอยู่
“นี่มัน?”
หญิงสาวก้มตัวลง ไปหยิบของขึ้นมา
ที่แท้ นี่คือยาพิษที่พรตให้ตนัส ยาเม็ดจิ่วจ่วน
“ไม่คาดคิด ว่าในโลกนี้จะมีคนทำยาแบบนี้ออกมาได้ด้วย แม้แต่ยายังไหม้ไม่ได้”
หญิงสาวกล่าว แล้วเอายาในที่อก
“ในเมื่อยานี้เตรียมไว้เพื่อรพีพงษ์ งั้นก็เก็บมันเอาไว้แล้วกัน”
เธอพูดพลาง หันหลังกลับเตรียมจะจากไป
จู่ๆ มีลมพัดมา ผมสีเทาของหญิงสาวถูกลมพัดสยาย
เธอเคร่งเครียด หันมองกลับไป เห็นเพียงตรงหน้า มีชายวัยรุ่นสมาร์ทคนหนึ่งกำลังมองมาที่ตัวเอง
“คุณ?” หญิงสาวถาม
หลังจากที่ผู้ชายเห็นผู้หญิงแล้ว ก็คุกเข่า ขอร้อง “องค์หญิงน้อย ได้โปรดไปกับผม!”
“เหอะ คุณหลงหน้ามืดตามัวไปแล้วเหรอ ฉันบอกแล้วไง ถ้ายังจัดการธุระไม่เสร็จ ฉันจะไม่มีทางไป” หญิงสาวกล่าว
“แต่……ผู้อาวุโสได้ตกลงปลงใจเรื่องงานแต่งของเราทั้งสองแล้ว” ผู้ชายกล่าว ท่าทาสง่างาม แต่มีความร้ายกาจอยู่มาก
“รู้แล้ว”
หญิงสาวตอบ “แต่ เพียงแค่ครั้งนี้ฉันทำสำเร็จ หาสิ่งที่เหล่าผู้อาวุโสหาไม่เจอ ฉันก็จะใช้เหตุผลนี้ ยกเลิกงานแต่ง!”
“องค์หญิงน้อย คุณ……” เมื่อผู้ชายได้ยิน ก็ร้อนรนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันรู้ จิรพนธ์ ที่คุณพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าใกล้ฉัน ก็แค่ให้ความสำคัญกับตัวตนของฉันก้เท่านั้น แต่ฉัน ไม่คิดอะไรกับคุณ คุณไปเสียเถอะ รอให้ฉันทำธุระให้เสร็จ จะไปบอกกับผู้อาวุโสเอง” ผู้หญิงกล่าวอย่างเยือกเย็น
“องค์หญิงน้อย……”
“ทำไม ไม่ฟังฉันเหรอ?” สาวน้อยถามอย่างเลือดเย็น
“มิบังอาจ!”
ผู้ชายรีบกล่าว “เพียงแต่ ครั้งนี้ที่ผมมาเพื่อพาคุณกลับไป ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่ว่าองค์หญิงน้อยอยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่น ไม่ห่างไปไหน”
“คุณ……”
หญิงสาวเกรี้ยวกราด แล้วมองไปรอบๆทันที
“ได้ เพียงแค่คุณช่วยฉันทำสำเร็จ แล้วฉันจะไปกับคุณ”
“เชิญองค์หญิงน้อยรับสั่ง จิรพนธ์จะทำอย่างเต็มที่” ผู้ชายกล่าว
หญิงสาวยิ้ม เดินมาที่ข้างหน้าของจิรพนธ์ เอายาเม็ดจิ่วจ่วนก่อนหน้านี้ออกมา
“นี่……” จิรพนธ์มองไปที่ยา อย่างไม่เข้าใจ
“ยาพิษเม็ดนี้ เป็นมนุษย์บนโลกทำขึ้นมา” หญิงสาวกล่าว
“เหอะ ขยะ องค์หญิงน้อยได้โปรดทิ้งมันไปด้วยเถอะ จะได้ไม่แปดเปื้อนมือของคุณหนู” จิรพนธ์พูดพลาง แสดงสีหน้าเหยียดหยาม
“ไม่”
หญิงสาวครุ่นคิด “ยาเม็ดนี้เตรียมไว้เพื่อรพีพงษ์ ฉันอยากให้คุณ เอาไปให้รพีพงษ์กินด้วยตัวของคุณเอง”
“รพีพงษ์อีกแล้วเหรอ?”
จิรพนธ์ไม่สบอารมณ์ เขาคือผู้ชายที่ต่อสู้กับรพีพงษ์ บนหลังคาคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาในวันนั้น
“ไอ้นี่ จะฆ่ามันทำไมต้องใช้ยาพิษ ใช้ดาบฟันไปก็พินาศแล้ว” จิรพนธ์กล่าวอย่างเหยียดหยาม แต่ลืมไปแล้วว่าวันนี้ เขาถูกกระบี่สยบมารทำให้บาดเจ็บ
“ฉันจะให้คุณวางยา คุณทำได้มั้ย?” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น
“ได้ ผมทำ!”
จิรพนธ์รับยาเม็ดจิ่วจ่วนมา ไม่พูดอะไรมาก หันหลังแล้วจากไป
เมื่อเห็นจิรพนธ์เดินไปแล้ว หญิงสาวก็ยิ้มออกมา
“การวางยาฆ่ารพีพงษ์ นั้นค่อนข้างยาก ดีละ แบบนี้ก็ยืดเวลาไปได้อีกหลายวัน รีบไปทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จเร็วๆดีกว่า”
ผู้หญิงพูดพลาง ก็หันหลังกลับจากไป
……
โรงแรมไม้คู่
ตอนที่รพีพงษ์กลับมาที่นี่ ได้มืดค่ำแล้ว
“มีห้องว่างมากมาย เปิดสักห้องนอนสักคืนก็แล้วกัน”
รพีพงษ์พูดกับเซจึนะที่เข้ากะนอกเวลา
“ขอโทษครับคุณรพี ทุกวันจะเปิดแค่ยี่สิบห้องเท่านั้น ห้องที่เหลือล็อคเอาไว้ อีกอย่าง คุณหนูให้คุณพักที่ห้องของเธอ” เซจึนะตอบ
“ไม่ไม่ แบบนี้ได้ไง ชายหญิงสองต่อสองในห้องเดียวกัน กระทบต่อภาพพจน์ของฝนสุดา” รพีพษ์กล่าว “คุณช่วยผมเปิดห้องเถอะนะ”
“คุณรพี บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจจริงๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น แม้เป็นหญิงชายอยู่กันสองต่อสองในห้องเดียวกันเป็นเรื่องที่ปกติมาก” เซจึนะกล่าว
“สภาพประเทศต่างกัน ผมรู้ ที่ประเทศญี่ปุ่นของพวกคุณ ยังมีชายหญิงลงอ่างออนเซ็นด้วยกันอีกด้วย แต่นี่คือประเทศจีน ต้องทำตามกฏของเรา” รพีพงษ์ตอบกลับ
“คุณรพีพูดมีเหตุผลมาก” เซจึนะพยักหน้า “ภายภาคหน้าถ้ามีโอกาส ถ้าคุณรพีไปประเทศญี่ปุ่นแล้วอยากลองอ่างออนเซ็น ผมจัดให้ได้ครับ”
“ไม่ ไม่ เพียงแค่คุณเปิดห้องให้ผมก็พอแล้ว ห้องไหนก็ได้ได้ทั้งหมด” รพีพงษ์กล่าว
“ไม่ได้!”
“ยังไม่ได้อีกเหรอ?”
รพีพงษ์แปลกใจ กับคนประเทศญี่ปุ่นที่ต่อปากต่อคำคนนี้ จนมีความรู้สึกอยากต่อยเขาขึ้นมา
“กุญแจอยู่ที่คุณหนู ถ้าคุณรพีต้องการ ถามคุณหนูได้นะครับ”
เซจึนะพูดพลาง กลับไปที่ห้องทำงานนอกเวลา
รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ช่างมัน ไปถามฝนสุดาเรื่องกุญแจดีกว่า จะคุยสิ่งที่ได้รับจากคืนนี้กับเธออยู่พอดี
รพีพงษ์ขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นบนสุด เดินตามทางเดินของโรงแรม หยุดที่ตรงหน้าห้องเพลสซิเดนท์สูทของฝนสุดา
กำลังเตรียมจะเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงขี้เกียจของฝนสุดาดังขึ้นมาจากข้างใน
“เข้ามาได้เลย ไม่ได้ล็อคประตู”