พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่130
บทที่130 คุณไม่เห็นว่าเปลี่ยนแก้วแล้วหรอ?
เสียงร้องโหยหวนของธายุกรดังก้องอยู่ในผับ กุมุทต่อย ไม่ชนะรพีพงษ์ แต่จัดการกับธายุกรยังไม่ได้สะสาง
“คุณชายกุมุท ผมผิดไปแล้ว คุณต่อยเบาๆหน่อย” ธายุ กรโอดครวญไม่หยุด
ในใจเขาได้เกลียดรพีพงษ์เข้ากระดูกดำ หากไม่ใช่ เพราะไอ้สวะนี่ตบกุมุทหนึ่งฉาด เขาก็ไม่ถึงขั้นโดนต่อย
เพียงแต่ทำไมไอ้สวะนี่ถึงได้ฝีมือดีจังนะ แม้แต่คุณชาย ตระกูลกุลสวัสดิ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา?
สักพัก กุมุทจึงหยุดต่อย ธายุกรโดนต่อยจนเป็นหัวหมู แล้ว
เขาหันหัวไปมองรพีพงษ์ ในสายตาแสดงออกถึงความ โหดร้าย เขามองว่า เมื่อก็ต้องเป็นเพราะตนเองไม่ระวังตัว ให้ดี รพีพงษ์จึงจับจุดอ่อนได้
มิเช่นนั้นตามความสามารถของเขา ทำไมจะสู้ไอ้สวะคน
เดียวนั่นไม่ได้
แต่กำลังของไอ้นี่ไม่น้อยจริงๆ ไม่คาดคิดว่าแค่ทำงาน บ้านจะสามารถฝึกจนมีพลังมากได้ขนาดนี้
เขามองไปยังที่ปิ่นพงศ์ตรงนั้น ปิ่นพงศ์กำลังเตรียม พร้อมที่จะขึ้นสังเวียน ถ้าเมื่อกี้ธายุกรต่อยกุมุทต่ออีกสอง หมัด ปิ่นพงศ์เกรงว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการกับรพีพงษ์แล้ว
เธอมองรพีพงษ์อย่างยิ้มดูแคลน แล้วกล่าวว่า “รพีพงษ์ จึงคิดว่าตนเองเจ่งแล้ว?”
รพีพงษ์มองไปยังกุมุทอย่างสงบ แล้วกล่าวว่า “ขอโทษ นะ การที่กูต่อยมึง ไม่ได้ทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองเจ๋ง”
กุมทโมโหอย่างรุนแรง เมื่อกี้เขายังคิดจะพูดว่าตนเองเจ่ง
ขนาดนี้ รพีพงษ์ตบเข้าไปหนึ่งฉาด ในใจต้องรู้สึกว่าตนเอง
เจ๋งแน่ๆ
ดังนั้นจึงอยากยืมช่วงที่รพีพงษ์กำลังมีความสุขอยู่นั้น กระตุ้นเขาสักหน่อย
ไม่คาดคิดว่าไอ้หมอนี่จะมองว่าการที่ชนะตนเองนั้นไม่ ได้ทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จเลย นี่ทำให้ในใจของ
กุมุท
เกิดบรรดาโทสะขึ้นอีก
แต่ทว่าตอนนี้เขาก็ไม่สนอะไรมากแล้ว พูดอย่างสงบว่า: “กุมุทอยู่เมืองริเวอร์มียศมีตำแหน่ง ไม่ได้มาจากการ ทะเลาะเบาะแว้ง
จึงเย่อหยิ่งขนาดนี้ สู้กันกับการ์ดของกูสักตั้งมั้ย ถ้าถึงเอาชนะเขาได้ กูจะยอมรับว่ามึงอะเจ๋ง”
รพีพงษ์มองหน้าปิ่นพงศ์ กลับไม่มีความสนใจเท่าไหร่นัก แล้วกล่าวว่า ” ขอโทษนะ ไม่สนใจอะ”
พูดจบ เขาก็เดินกลับมา ยืนอยู่หลังของอารียา กุมุทเห็นรพีพงษ์ไม่กล้ารับคำท้า ถือว่าเมื่อกี้รพีพงษ์แค่โชคดีเท่านั้น จึงได้ชนะเขา มิฉะนั้นทำไมเขาถึงไม่กล้าสู้ กับปิ่นพงศ์?
ทุกคนเห็นรพีพงษ์ปฏิเสธ ก็คิดไปตามกันว่าเขากลัวแล้ว ยังไงรูปร่างของปิ่นพงศ์ก็โชว์ให้เห็นอยู่ตรงนั้น
โดยปกติคนที่จะสู้ชนะเขาได้นั้นมีแค่ไม่กี่คน
กุมุทเยาะเย้ยออกมา แล้วกล่าวว่า: “เศษสวะยังไงก็คือ เศษสวะ กูไม่เหมือนถึง วันๆทำแต่งานบ้าน ฝึกจนแรงเยอะ
จึงชนะกูก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่สุดท้ายถึงก็ไม่กล้าสู้กับ การ์ดของกู ยังจะกล้าพูดดูภายนอกก็ดูดีอยู่นะ กว่ามถึงไม่ เพียงแค่ไร้ประโยชน์ ยังชอบอวดเก่งด้วย!”
เวลานี้ธายุกรได้ยืนขึ้นมาจากพื้น ตะโกนว่า “ถูกต้อง รพี พงษ์ไอ้เศษสวะนี่ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรหรอก ยังชอบอวด เก่งอีก
ตอนอยู่บ้านผมก็อวดเก่งหลายครั้งแล้ว
รพีพงษ์ไม่สนใจคำพูดของพวกเขา ยืนอย่างสงบอยู่ด้าน หลังของอารียา
กุมุทเห็นรพีพงษ์ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ด่าลับหลังหนึ่งครั้ง แล้วกลับไปนั่งที่ตรงนั้น
อารียาเห็นรพีพงษ์ไม่สู้กับปิ่นพงศ์ ก็สบายใจขึ้นมา เธอ หันหัวมาดูรพีพงษ์ รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้ว กล่าวว่า “ ผมเชื่อฟังคุณ
ไม่ผลีผลาม”
อารียาก็หัวเราะออกมา รู้สึกอบอุ่นในใจ
กุมุทดื่มเหล้ากับทุกคนต่อ แต่ก็ไม่หยุดหาโอกาสเทเหล้า ให้อารียา
ไม่นาน ใบหน้าของอารียาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่ำ เห็น แล้วเร้าอารมณ์
กุมุทเห็นอารียาอย่างนี้ ในใจยิ่งอยากได้เธอมาครอบครัว ผู้หญิงสวยใครบ้างไม่ชอบ แล้วตอนนั้นที่กุมุทโดนต่อย
ในใจก็อยากแก้แค้นรพีพงษ์
มีอะไรกับภรรยาของรพีพงษ์ เป็นวิธีแก้แค้นที่กุมุทรู้สึก สบายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
กุมุทมองหัวเราะพลางมองดูอารียา จากนั้นก็คุยกับ ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างหน้ากี่ประโยค ผู้ชายคนนั้นก็ลุก เดินจากไป
ตอนเดินไป ผู้ชายคนนั้นยังมองไปที่อารียานั้น กับแววตา ที่เต็มไปด้วยความหัวเราะเยาะเย้ย
ผ่านไปไม่นาน ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งใกล้กับอารียาก็ลุกขึ้น
ทันที แล้วกล่าวว่า “ผู้ชายพวกนี้รู้เพียงแค่ต้องดื่มเหล้า
ไม่มีความหมายอะไรเลย
ฉันรู้ว่าผับแห่งนี้มีที่ไว้เฉพาะสำหรับผู้หญิงเล่นด้วยกัน สู้ พวกเราไปตรงนั้นดีกว่ามั้ย?”
ผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ล้วนรีบแสดงออกตอบรับ แล้วยืนขึ้น มาจากที่นั่ง อยากออกไปจากจุดนี้
ผู้หญิงที่พูดเมื่อสักครู่นี้มองดูอารียา แล้วกล่าวว่า “เธอก็ ไปกับพวกเราเถอะ”
พูดจบ เธอก็ไม่ได้สนใจว่าอารียาจะตกลงหรือไม่ แล้ว ลากอารียาไปยังผับเดินต่อไป
อารียาดื่มจนมีมึนมึน ไม่มีอาการขัดขืน
รพีพงษ์เห็นพฤติกรรม ก็ตามไปทันที ในเวลานี้ผู้ หญิง2-3คนชักตามองไปที่เขา แล้วกล่าวว่า “คุณจะทำ อะไร ที่ๆผู้หญิงเล่นกัน
หรือคุณอยากไปด้วย? น่าเกลียดจริงๆ”
ตอนนี้รพีพงษ์ ไม่มีคำที่จะพูด ในใจเป็นกังวลว่าอารียาจะ
เกิดปัญหาขึ้น ตอนนี้ผู้ชายที่ออกไปเมื่อสักครู่กลับมาตรงนี้ ในมือกำลัง
ถือเหล้าขวดหนึ่ง
เขาเห็นพวกผู้หญิงออกไปแล้ว กอดไหล่ของรพีพงษ์ไว้ ให้เขานั่งลงที่ที่นั่ง แล้วกล่าวว่า “พวก พวกผู้หญิงไปเล่น กันหมดแล้ว
คุณก็มานั่งดื่มกับผมสักแก้ว
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว คิดเสมอว่าคนพวกนี้จิตใจไม่ดีแน่นอน
ผู้ชายคนนั้นเทเหล้าให้รพีพงษ์หนึ่งแก้ว แล้วกล่าวว่า “เรื่องของคุณกับคุณชายกุมุทเมื่อสักครู่นี้ เป็นแค่ความขัด แย้งกันเล็กน้อย ทุกคนก็เป็นผู้ชาย
เรื่องแบบนี้ไม่เอาไปเก็บไว้ในใจแน่นอน สู้คุณดื่มกับคุณชายกุมุทสักแก้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าจบแล้ว ว่าไง?”
รพีพงษ์มองไปที่เหล้าแก้วนั้น ใบหน้าแสดงออกถึงรอย ยิ้มที่หยอกเย้า
“ว่าไง หรือมึงใจแคบ เพียงเพราะเรื่องเล็กๆแค่นี้ จะไม่จบ ไม่สิ้นกับก?” กุมุทกำลังเพ่งไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าวว่า “จะกล้าได้ ยังไงกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว กูก็ดื่มกับมถึงสักแก้ว”
พูดจบ เขาก็ยกเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่มีใครสังเกตเห็น เหล้าแก้วนี้โดนผู้ชายที่เดินตามเขามานั้นเปลี่ยนแก้วเหล้า ไปแล้ว
กุมุทเห็นรพีพงษ์ถือแก้วเหล้า ใบหน้าแสดงรอยยิ้มออก มา แล้วสบตากันกับผู้ชายคนนั้น
รพีพงษ์ดื่มเหล้าที่อยู่ในแก้วจนหมด กุมุทลุกขึ้น แล้ว กล่าวว่า ” พวกคุณดื่มไปก่อน ผมไปเข้าห้องน้ำ”
รพีพงษ์ก็อยากลุกขึ้น ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นที่อยู่รอบๆได้รั้ง เขาเอาไว้ หัวเราะแล้วกล่าวว่า “คุณดื่มกับคุณชายกุมุท แล้ว ยังไงก็ต้องดื่มกับผมสักแก้วสิ ถ้าคุณไม่ดื่ม ก็ไม่ให้ เกียรติผม”
พีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ผู้ชายคน นั้นรินเหล้าให้เขาหนึ่งแก้ว รพีพงษ์ฉวยโอกาสตอนนี้คนหมู่ มากไม่ทันได้สังเกตเปลี่ยนแก้วเหล้าอีกครั้ง
คนหมู่มากเริ่มดื่มมากไปเล็กน้อย ดังนั้นใครก็ไม่ได้ สังเกตพฤติกรรมของรพีพงษ์
ผู้ชายคนนั้นก็ไม่รู้ว่าด้านหน้าของตนนั้นมีแก้วเหล้าเพิ่ม มาสองใบ
“เมื่อสักครู่ผมได้ยินคุณบอกว่าผมคือไอ้สวะ คุณอยาก ดื่มกับผม ได้ แต่ผมดื่มแก้วเดียว ถือว่าเป็นการขอโทษผม แล้วกัน เป็นไง?” รพีพงษ์หัวเราะแล้วกล่าว
ผู้ชายคิดเพียงว่ารพีพงษ์ดื่มครบสองแก้ว ยาจะออกฤทธิ์ เต็มที่ ก็ไม่ได้คิดมาก แล้วกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา คุณหนึ่ง แก้ว ผมสองแก้ว!”
พูดจบ เขาก็ยกเหล้าสองแก้วขึ้นมาดื่มจนหมด แล้วยัง
เขย่าแก้วเปล่าแล้วเขย่าอีกให้รพีพงษ์ดู
รพีพงษ์เห็นเขาดื่ม ก็ได้ดื่มเหล้าของตนเอง
คนที่นั่งอยู่ล้วนไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้กับกุมุทได้ปรึกษากัน เรียบร้อยแล้ว เห็นเขาดื่มเหล้าสองแก้วแสดงออกถึงการ ขอโทษ ก็ไม่พอใจ
“ทำไมคุณยังขอโทษไอ้สวะนี่ ถึงแม้มันจะมีกำลังเยอะ แต่ก็ยังเป็นไอ้สวะอยู่ดี มีสิทธิ์อะไรให้คุณขอโทษ” มีคน พูดหนึ่งคน
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะขึ้นมาทันใด เขายืนขึ้น แล้วกล่าวว่า “แม่ง ใครบอกว่ากูจะขอโทษเขา
กูก็แค่ทำเพื่อให้มันดื่มเหล้าครบสองแก้วก็แค่นั้น ดื่มครบ สองแก้ว พวกเราก็จะได้เห็นมันแสดงแล้ว!”
คนหมู่มากชะงักไป ไม่เข้าใจความหมายของผู้ชายคนนี้
ผู้ชายคนนั้นดูไปที่รพีพงษ์ ยิ้มอย่างดูแคลนแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อย ถึงกับพวกเราอยู่กันคนละโลก กูบอกว่ามึงคือไอ้ สวะ ถึงก็คือแม่งไอ้สวะตัวนึง!”
“ถึงยังอยากให้กูขอโทษถึง? ฝันไปเถอะ! บอกถึงตรงๆ เหล้าสองแก้วที่ถึงดื่มไปเมื่อกี้ กูได้ใส่ยาลงไปแล้ว อีกไม่กี่ นาทีฤทธิ์ยาก็จะทำงาน
ถึงเวลานั้นถึงจะทำเรื่องงามหน้าต่อหน้าพวกกู กูจะอัด คลิปให้ถึงดู ดูว่าอนาคตถึงจะอยู่เมืองริเวอร์นี้ยังไง!” ผู้ชาย เหิมเกริม
ประหนึ่งว่าเรื่องนี้ทำให้เขามีความสุขมากอย่างไรอย่าง
นน
คนหมู่มากที่อยู่ข้างหน้าโต๊ะก็เข้าใจแล้วว่านี่เกิดอะไรขึ้น
รพีพงษ์มองดูผู้ชายคนนั้นด้วยใบหน้าที่สงบ แล้วหัวเราะ พลางกล่าวว่า “หรอ?”
ผู้ชายเห็นรพีพงษ์สงบแบบนี้ รู้สึกแปลกใจ แล้วถามว่า “ทำไมถึงนิ่งเฉยแบบนี้ หรือว่ามึงไม่กลัว?”
รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา ยืนมือชี้ไปที่แก้วบนโต๊ะ แล้วกล่าว ว่า “ถึงไม่เห็นหรอว่าตอนกูดื่มเหล้าเมื่อกี้ เป็นของมึงหรอ?
สีหน้าของผู้ชายดูตกใจ รีบมองไปที่โต๊ะ สีหน้าเปลี่ยนไป
มาก
ตอนนี้ยาได้ออกฤทธิ์ภายในร่างกายเขาแล้ว ใบหน้าของ เขาเปลี่ยนเป็นสีแดงไม่ปกติ เร่าร้อน
เขาเหมือนกำลังฝันหวานอยู่อย่างไรอย่างนั้น แล้วยืนขึ้น บนโต๊ะ
ยื่นมือออกถอดเสื้อตนเอง
“ที่รักทุกๆท่าน ตอนนี้ให้ผมได้แสดงโชว์ให้พวกคุณดู พวกคุณอยากดูรูปลักษณ์อันสง่างามที่ยืนตระหง่านของ ผมไหม….”
ด้านหน้าโต๊ะที่นั่งอยู่ล้วนเป็นผู้ชาย ได้ยินประโยคนี้ของ เขาแล้ว ก็เกือบจะอ้วกออกมาแล้ว
รพีพงษ์เห็นผู้ชายคนนั้นเริ่มแสดงโชว์เปลื้องผ้า ก็ลุกขึ้น
จากที่นั่ง มองไปที่ที่กลุ่มผู้หญิงนั้นเดินเข้าไป
ต่อจากนี้เขายังสามารถอยู่ในเมืองริเวอร์ต่อไปได้ แต่ ผู้ชายคนนี้จะมีหน้าอยู่ต่อไปหรือเปล่า ก็ไม่อาจรู้ได้
รพีพงษ์เดินขึ้นไปถึงทางเดินเส้นหนึ่ง เมื่อกื้อารียาก็เดิน จากตรงนี้ไป
เขาเห็นปลายทางของทางเดิน หน้าห้องคาราโอเกะมี ผู้ชายสองคนยืนอยู่
เขาเดินตรงไปที่ทางเดิน ในตอนนี้เองจู่ๆก็มีพวก อันธพาลโผล่ออกมา ในมือก็กำลังถืออาวุธไว้
ปิ่นพงศ์ออกมายืนอยู่ข้างหลังของพวกอันธพาลเหล่านี้ ยิ้มอย่างดูแคลนให้กับรพีพงษ์
“ไม่คาดคิดว่าถึงจะไม่โดนพวกเขาจัดการ ดูๆแล้ว คุณชายกุมุทประเมินถึงต่ำไป” ปิ่นพงศ์กล่าวออกมา
สีหน้าของรพีพงษ์เริ่มหม่อนหมองลง ในใจเขาเริ่มมั่นใจ ว่าเมื่อกี้พวกผู้หญิงที่พาอารียาไปนั้น เป็นแผนการร้านที่ กุมทวางไว้
แค่คิดว่าอารียาต้องโดนกุมุทลวนลาม แววตาของรพี พงษ์ก็แสดงออกถึงความอาฆาต
อ้หมาเฝ้าประตู ถึงไม่ตายดีแน่!” รพีพงษ์กล่าวอย่าง
รวดเร็ว
สีหน้าทมิฬของปิ่นพงศ์ สั่งการให้พวกอันธพาลเหล่านี้พุ่ง เข้าไปที่รพีพงษ์ทันที
ในห้องคาราโอเกะ
มองไปที่อารียาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอัน ร้ายกาจ อารียานั่งอยู่บนโซฟาด้วยความมึนเมา หลังจากที่ พวกผู้หญิงเมื่อกี้พาเธอมา
ก็พาเธอมาที่นี่
พวกเขาไม่ได้เล่นอะไร แค่เอาอารียาทิ้งไว้ที่นี่คนเดียว
ไม่นาน กุมทก็เดินเข้ามา
“อารียา ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นมันมีดีอะไร เทียบกับผมแล้ว เขาก็แค่ขยะ คุณอยู่กับผม
ผมรับประกันว่าจะให้คุณใช้ชีวิตที่ผู้หญิงทุกคนในเมืองริ เวอร์ต้องอิจฉา”
กุมุทมองไปที่อารียาแล้วเดินเข้าไป ทันใดนั้นอารียาผวาขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “คุณจะทำอะไร?
กุมุทยืนอยู่ด้านหน้าของอารียา แล้วกล่าวว่า “อารียาไอ้ สวะนั่นมันตบผมหนึ่งฉาด ผมต้องเอาประโยชน์ตรงนี้จาก มันบ้าง
ภรรยาคนอื่นผมเพิ่งเคยจะเล่นครั้งแรก
คิดๆแล้วตื่นเต้น”
สีหน้าของอารียาเปลี่ยนไป อยากลุกขึ้นหนีไปเดี๋ยวนั้น แต่เธอเมาแล้ว ร่างกายก็ไม่มีแรง สักครู่ก็ถูกกุมุทผลักกลับ ลงไป
“ผู้หญิงที่ดูกุมุทชอบ ยังไม่มีใครที่หนีไปได้ อารียา ถึง อย่าแยกไม่ออกหน่อยเลยว่าอันไหนดีอันไหนร้าย กูเป็น คุณชายของตระกูลกุลสวัสดิ์
อนาคตต้องรับมรดกทรัพย์สินของตระกูลกุลสวัสดิ์ รพี พงษ์นั่นมีสิทธิ์อะไรมาเทียบกับกู ถึงอยู่กับกู
กูรับประกันว่าถึงจะมีความสุขร่ำรวยเงินทองอย่างไม่สิ้น สุด!”
อารียาไม่หยุดต่อต้าน ปากก็พลางตะโกน “คุณถอยออก ไป ให้ฉันออกไป คุณอย่าแตะต้องตัวฉันนะ!”
ใบหน้าของกุมุทแสดงออกถึงรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ แล้ว กล่าวว่า “แม่ง มึงยิ่งต่อต้าน กูยิ่งตื่นเต้น ให้กูได้มีความสุข เร็วๆซักที่เหอะ”
กุมุทลงมือทันที
ในขณะนี้เอง ประตูของห้องคาราโอเกะก็ถูกเตะออก ร่างกายที่เหมือนภูเขาลูกหนึ่งนั้นของปิ่นพงศ์ก็ลอยเข้ามา ชนกับกำแพงโดยตรง
ผนังกำแพงถูกชนจนแตกร่วงลงมา