พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่1403 ความเอื้อเฟื้อของสำนักเทพยาเซียน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่1403 ความเอื้อเฟื้อของสำนักเทพยาเซียน
ต่อมาเขาก็ส่งยิ้มให้จิรภัทรอย่างรู้สึกผิด: “เจ้าจิรภัทรครับ เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อน แต่ผมคิดว่าคราวนี้พวกเขาจะต้องส่งกองกำลังหลักมาอย่างแน่นอน เพราะขนาดจิรกิตติ์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าทวีปกิตติ์แห่งทวีปโอชวินและพี่น้องคนอื่นๆ ของพวกเขายังมาเลย ถ้าหากนี่ไม่ใช่กองกำลังหลักแล้วอะไรคือกองกำลังหลักล่ะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว จิรภัทรก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น พูดถึงคนที่ชื่อจิรกิตติ์ อาจารย์ของเขาเคยเล่าให้ฟังว่าเขาคือคนที่สามารถต่อสู้กับเทพสงครามชูร่าโดยไม่ตาย
“รพีพงษ์ ความแข็งแกร่งของคุณ…”
รพีพงษ์ยิ้มอย่างแผ่วเบา: “สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของฉันหรอก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นช่างพิเศษจริงๆ”
รพีพงษ์เล่าเหตุการณ์การต่อสู้ในวันนั้นให้ผู้คนที่มาจากระยะไกลเหล่าฟังอย่างราบเรียบ แต่พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าการต่อสู้ในวันนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่ยากมากแน่ๆ อันที่จริงแล้วความล่อแหลมอันตรายในนั้นไม่สามารถบรรยายได้อย่างชัดเจนในคำพูดเพียงไม่กี่คำหรอก!
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์และรู้ว่ารพีพงษ์ได้ทำสิ่งที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินแล้ว ยิ่งทำให้นักฝึกวิชารุ่นเยาว์ของสมาคมสยบเซียนรู้สึกชื่นชมในตัวของรพีพงษ์
หากเมื่อก่อนช่องว่างระหว่างพวกเขาถือว่าไม่มากเกินไปนัก ถ้าอย่างนั้นตอนนี้นฤชัยและคนอื่นๆ ก็คงไม่สามารถมองเห็นไฟท้ายของรพีพงษ์ได้แล้ว
“ถ้าอย่างนั้น เจตนาที่คุณให้เรามาในครั้งนี้คืออะไร?” นิศมาก้าวไปข้างหน้าและถาม
รพีพงษ์มองไปที่หญิงสาวที่สวยงามคนนี้และภายใต้การสังเกตอย่างละเอียดอ่อนเขาสามารถรับรู้ได้อย่างแม่นยำว่า หลายวันที่ผ่านมานี้ ความแข็งแกร่งสของมาชิกในสมาคมสยบเซียนเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดว่าน่าจะเป็นเพราะยาที่เขาทิ้งไว้ที่สำนักเทพยาเซียนในวันนั่นและกลิ่นอายที่อุดมสมบูรณ์ของสำนักเทพยาเซียนแน่ๆ
รพีพงษ์ยืนขึ้นและพูดกับทุกคนว่า: “เจตนาที่เรียกพวกคุณมาในครั้งนี้ก็คือฉันหวังว่าพวกคุณจะเข้าโจมตีชาวทวีปโอชวินกับฉัน!”
“เข้าโจมตีชาวทวีปโอชวินงั้นหรือ?”
คนที่เดินทางมาจากระยะทางที่ยาวไกลอย่างจิรภัทร จิลลา นฤชัยและนิศมา ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ารพีพงษ์จะพูดแบบนี้!
“พี่รพี คุณ… คุณพูดจริงหรือครับ?” ชุติเดชพูดด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอน!” รพีพงษ์พูดด้วยเสียงต่ำ: “ฉันไม่เคยจริงจังขนาดนี้มาก่อนเลย เพื่อที่จะกำจัดทวีปโอชวิน นักฝึกวิชาทุกคนในกลุ่มสิงโตยอมที่จะละทิ้งความเจริญรุ่งเรืองของเมือง และเต็มใจมาอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุน เพื่อภารกิจของตัวเอง!”
รพีพงษ์ลุกจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปในพระวิหาร: “หลายร้อยปีที่ผ่านมา นักฝึกวิชาของเราแค่ป้องกันไม่ให้ชาวทวีปโอชวินเขามาโจมตีเรา เราไม่เคยเป็นฝ่ายโจมตีก่อนเลย แต่ตอนนี้ ฉันมีวิธีในการเข้าถึงทวีปโอชวินแล้ว ดังนั้นคราวนี้ฉันจึงรวบรวมนักฝึกวิชาที่มีความสามารถและทรงพลังที่สุดในโลกให้มารวมตัวกันที่นี่ เพื่อที่จะโจมตีชาวทวีปโอชวินและกำจัดอันตรายที่ซ่อนอยู่อย่างทวีปโอชวินให้หมดจดไปเลย!”
ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ และทุกคนก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
พวกเขารอวันนี้มานานแล้ว หากไม่มีรพีพงษ์ พวกเขาอาจต้องรออยู่ในกลุ่มสิงโตเป็นเวลาหลายสิบปี หรือไม่ก็หลายร้อยปีก็เป็นได้ และจะมีเพียงเทือกเขาคุนหลุนซึ่งมีอายุหลายพันปีและดวงดาวบนท้องฟ้าเหนือยอดเขาที่อยู่เป็นเพื่อนพวกเขา!
ตอนนี้ความฝันของพวกเขากำลังจะเป็นจริงแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะต่อสู้กับชาวทวีปโอชวินให้ตายกันไปข้างหนึ่งและกวาดล้างอีกฝ่ายจนหมดสิ้น
และสิ่งเหล่านี้เป็นไปได้ก็เพราะรพีพงษ์เข้าร่วมกลุ่มสิงโต!
รพีพงษ์มองไปที่คนเหล่านี้ กลุ่มสิงโตกับสมาคมสยบเซียนและสำนักเทพยาเซียน ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกและพวกเขายังเป็นผู้ยอดเยี่ยมของวงการฝึกวิชาด้วย!
จิรภัทรและนฤชัยก้าวไปข้างหน้าและพูดกับรพีพงษ์ว่า: “ตกลง! เรายินดีที่จะมอบแรงกำลังของเราให้กับโลกนี้ หากมีสิ่งใดที่เราต้องทำโปรดพูดมาตามตรงเลยครับ!”
รพีพงษ์พยักหน้า: “ขอบคุณทุกคนมาก ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องความวิเศษของทวีปโอชวินมากนัก อย่างไรก็ตาม ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ปรมาจารย์ทุกคนที่อยู่ในระดับแดนเทพจะมียาเม็ดระดับเทพเซียนคนละเม็ดและมียาชั้นเลิศนับไม่ถ้วน ฉันคิดว่าต้องมีตำรับยาหรือสิ่งอื่นๆ ที่โลกของเราไม่มีถูกซ่อนไว้ในทวีปโอชวินแน่ๆ”
จิรภัทรและคนอื่นๆ ในสำนักเทพยาเซียนตื่นเต้นมาก สำหรับนักกลั่นยาเหล่านี้แล้ว ตำรับยาของยาชั้นเลิศและยาเม็ดระดับเทพเซียนนั้น มีความดึงดูดขั้นเทพเลยแหละ!
“ทวีปโอชวินนั้นวิเศษมากจริงๆ และมันน่าเจ็บใจนัก เมื่อถึกถึงพลังทิพย์ที่นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาแย่งชิงไปจากเรา”
จิลลากล่าวอย่างโกรธเคือง
“ใช่! คราวนี้จะเอาของที่เราสูญเสียไปกลับคืนมาให้ได้!” รพีพงษ์กล่าวอย่างมั่นใจ
หลังจากที่นักฝึกวิชาเหล่านี้ได้ยินเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ตื่นเต้นพอๆ กัน หากโลกใบนี้เต็มไปด้วยพลังทิพย์ดั่งเช่นเคยได้จะดีต่อการฝึกตนของพวกเขาอย่างมาก!
“อย่างไรก็ตาม รพีพงษ์ฉันยังคงมีเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดไว้ก่อนล่วงหน้า”
จิรภัทรเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว และหยุดอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์และพูดว่า
“เจ้าจิรภัทรมีปัญหาอะไรก็พูดมาได้ ไม่ต้องเกรงใจ” รพีพงษ์กล่าว
จิรภัทรมองไปที่ทุกคนในกลุ่มสิงโตที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาแหลมคมและพูดว่า: “เจ้านายหลินครับ ฉันคิดว่าก่อนที่เราจะโจมตีทวีปโอชวิน เรามีเรื่องบางอย่างที่จะต้องจัดการก่อน”
“เรื่องอะไรเหรอ?” รพีพงษ์ถาม เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของจิรภัทร
“ง่ายมาก นั่นคือ กำจัดคนของทวีปโอชวินที่มาอยู่ในโลกของเราให้หมดจดเสียก่อน!” จิรภัทรกล่าวอย่างดุเดือด จากนั้นชี้นิ้วไปที่ด้านหลังของขบวน
“คุณนีย์ ข้ารู้จักคุณ ออกมานี่เถอะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจิรภัทร นีย์ก็เดินออกไปอย่างเชื่องช้า
หลังจากที่ทุกคนในสำนักเทพยาเซียนได้เห็นนีย์พวกเขาก็ระแวดระวังขึ้นมาทันที
“อย่าคิดว่าซ่อนตัวอยู่ด้านหลังแล้วฉันจะมองไม่เห็นคุณ บอกมาเดี๋ยวนี้ว่า ทำไมคุณถึงมายืนที่นี่ได้ คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่!” จิรภัทรพูดอย่างโกรธเคือง
“ฉัน…”
“ฉันเป็นคนขอให้เธออยู่เอง!” รพีพงษ์กล่าวโดยตรง
“คุณ?” จิรภัทรรู้สึกอึ้งมาก
“พี่รพี คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผู้หญิงคนนี้เคยทำให้สำนักเทพยาเซียนของเราพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินไปหมด ทำไมคุณยังเก็บเธอไว้ที่นี่ล่ะ?” ชุติเดชถามด้วยความงุนงง
จิลลาก็ขมวดคิ้วเช่นกัน: “พี่รพีคะ ฉันคิดว่าคุณเป็นคนซื่อตรงมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้คุณตัดสินใจผิดไปหรือเปล่า?”
รพีพงษ์มองไปที่ทั้งสาม และนีย์ก็เดินไปยืนตรงหน้าของจิรภัทร
“เจ้าจิรภัทรคะ ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น หากคุณต้องการแก้แค้น ก็มาหาฉันหลังจากที่การโจมตีทวีปโอชวินสิ้นสุดลงได้เลย ฉันจะไม่ตอบโต้อย่างแน่นอน” นีย์กล่าว
“อะไรนะ? คุณเป็นคนของทวีปโอชวินไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมคุณถึงเข้าร่วมการโจมตีทวีปโอชวินในครั้งนี้ด้วยล่ะ?” จิรภัทรถามด้วยความงุนงง: “อีนังหนูคนนี้นี่ มีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่!”
“ทวีปโอชวินอย่างนั่นเหรอ? ฉันปกป้องมันมาโดยตลอด และสามารถทำทุกอย่างเพื่อมันได้ แต่ดูเหมือนว่าทวีปโอชวินไม่เคยยอมรับฉัน แล้วทำไมฉันถึงต้องปกป้องมันอีกล่ะ?” นีย์พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น
“นี้…”
“เจ้าจิรภัทรครับ ” รพีพงษ์พูดในขณะที่ก้าวไปข้างหน้า: “ฉันรับรองได้ว่านีย์ได้พ้นจากทวีปโอชวินแล้ว แต่เรื่องนี้ค่อนข้างซ้อน ฉันจะเล่ารายละเอียดให้คุณฟังภายหลัง”
จิรภัทรมองไปที่รพีพงษ์และนีย์: “ได้! ในเมื่อรพีพงษ์พูดเช่นนี้แล้วฉันก็เชื่ออย่างนั้น แต่คุณนีย์คุณห้ามเล่นลูกไม้เด็ดขาด ฉันจะจ้องมองคุณเสมอ!”
นีย์พยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอทำกับสำนักเทพยาเซียนก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจิรภัทรจะเยาะเย้ยและดูถูกตัวเองแค่ไหน เขาก็ไม่ผิด
“รพีพงษ์ มาที่กลุ่มสิงโตในครั้งนี้เราไม่มีของฝากดีเลิศอะไรติดตัวมาเลย เราหวังว่าคุณจะรับยาเหล่านี้ไว้”
ในขณะที่พูด นฤชัยกับลูกน้องสองคนก็ยกหีบขนาดใหญ่เข้ามาจากด้านนอกประตู
ผู้คนในกลุ่มสิงโตทั้งหมดรวมตัวกัน พวกเขาล้วนเป็นนักฝึกวิชาในโลกปัจจุบัน พวกเขาจึงรู้ถึงความมหัศจรรย์และความล้ำค่าของยาเป็นธรรมชาติ
หีบใหญ่ถูกเปิดออก และภายในมีกล่องเล็กๆ ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และในแต่ละกล่องก็จะมียาจำนวนหนึ่งแคปซูลอยู่ในนั้น
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นยามากมายขนาดนี้เลยแหละ?”
“จริงด้วย! ฉันรู้แค่ความมหัศจรรย์ของยา แต่ฉันยังไม่เคยทานมันเลย”
“เชอะ! พวกคุณนี่ไร้ความรู้ซะเหลือเกิน ข้าท่านปู่หนูเคยขโมยยามาสองเม็ด แต่ละเม็ดมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้าน”
เมื่อได้ยินหนูตะกายฟ้าพูดอย่างนั้น ทุกคนก็มองไปที่เขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
จิรภัทรและจิลลาหันไปพูดกับรพีพงษ์ด้วยสายตาเย่อหยิ่ง: “ในหีบนี้มียาทั้งหมด130 เม็ด โดยมียาเม็ดระดับสูงจำนวน100 เม็ด และอีก 30 เม็ดที่เหลือเป็นยาชั้นเลิศ!”
“คุณพระ! ยาชั้นเลิศจำนวน 30 เม็ดเลยเหรอ?”
ตอนนี้แม้แต่ธมกรก็ยังรู้สึกตื่นตะลึงขึ้นมา
รพีพงษ์มองไปที่จิรภัทรด้วยความชื่นชมยินดี ดูเหมือนว่า ในช่วงเวลาที่ยาวนานนี้ ทักษะการทำยาของพวกเขาจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก
“ขอบใจมาก เจ้าจิรภัทร ฉันคิดว่ายาจำนวน 30 เม็ดนี้น่าจะทำให้คุณเสียเวลาไปไม่น้อยเลยใช่ไหม?” รพีพงษ์ถาม
“เหอๆ มีปยุตคอยช่วยฉันอยู่ อีกอย่างในนี่มีหลายเม็ดก็มาจากฝีมือของจิลลาด้วย” จิรภัทรกล่าวอย่างถ่อมตน
รพีพงษ์มองไปที่จิลลาและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ดีมาก ดูเหมือนว่าระดับฝีมือในการผลิตยาของคุณจะพัฒนาขึ้นไม่น้อยเลยนะ”
จิลลารู้สึกตื่นเต้นมาก สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดของกานเดินทางในครั้งนี้คือคำชมของรพีพงษ์
ได้ยินรพีพงษ์ชมตัวเองแบบนี้ จิลลาเหมือนได้ดื่มน้ำผึ้งหวานๆ ความทุกข์ที่เธอได้รับจากการฝึกอบรมที่แสนจะโหดเหี้ยมของปยุตก่อนหน้านี้ เวลานี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีกต่อไปแล้ว
“เทียบกับระดับคุณแล้วฉันยังถือว่าอ่อนมาก” จิลลาพูดเสียงแผ่วเบา และเธอคิดเช่นนั้นจริงๆ