พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่203
บทที่203 หยกจักรพรรดิ
เนื่องจากทุกคนรู้สึกว่าหินก้อนหมายเลขสามสิบ หกไม่มีมูลค่าอะไร ดังนั้นหลังจากที่รพีพงษ์ตะโกน ราคาออกไป จึงไม่มีใครที่เสนอราคาตาม
เดิมทีทิวัตถ์อยากยกป้ายราคาขึ้นให้กับรพีพงษ์ แต่เขากลัวว่ารพีพงษ์จะตั้งใจลวงเขา เกิดหลังจากที่ เขายกราคาแล้ว แล้วรพีพงษ์ไม่ยกตาม เขาก็จะสูญ เสียมาก ดังนั้นเลยไม่พูดอะไร
ดังนั้นหลังจากที่รพีพงษ์ให้จิรายุศเสนอราคาหนึ่ง ล้านประมูลหินก้อนนี้ลงมา
ในใจรพีพงษ์ก็รู้สึกดีใจเล็กน้อย ท้ายที่สุดหินก้อน
นี้ถ้าผ่าออกมามีเนื้อน้ำดีขึ้นมา พวกเขาก็ทำเงินได้
มากมาย
หลังจากนั้นไม่นาน การประมูลก้อนหินทั้งหมด ครั้งแรกก็ประมูลออกไปแล้ว การสำรวจหินหยาบครั้ง ที่สองก็เริ่มขึ้น
การผ่าหินจะเกิดขึ้นหลังจากการประมูลหินหยาบ ทั้งหมดเสร็จแล้ว ดังนั้นรพีพงษ์และจิรายุศจึงไปดูหิน อีกสองสามก้อน
หลังจากการประมูลครั้งที่สองจบลง ก็ถึงเวลาผ่า หิน ผู้คนต่างก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ท้ายที่สุดแล้วเวลาที่จะได้เห็นว่าจะเกิดหรือตาย ก็มีแต่ตอนผ่านี่แหละ ทุกคนถึงจะรู้ว่าหินก้อนนี้มีมูลค่า หรือไม่มี ก่อนที่จะผ่า ทุกอย่างก็ยังไม่เป็นที่ประจักษ์
ทุกคนต่างรุมล้อมพื้นที่การผ่าหิน มองไปที่ พนักงานที่ผ่าหินอย่างคาดหวัง
แน่นอนว่า ก็มีคนเลือกที่จะไม่ผ่าหิน แต่กลับเอา หินกลับไป ถึงมือแล้วก็ขายเลยทันทีก็มี บางครั้งไม่ ผ่าอาจขายได้เงินบ้าง แต่ถ้าผ่าออกมา ก็น่าจะผ่า ออกได้ไม่กี่แสน
จิรายุศและทิวัตถ์ต้องการที่จะสร้างชื่อเสียงจาก การประมูล หลังจากที่ผ่าหยกออกมา ก็ง่ายต่อการ ขายออกไป
“เถ้าแก่จิรายุศ คุณมีโอกาสที่จะขัดขว้างไม่ให้ผม มาที่อำเภอหยกเพื่อขอส่วนแบ่งปันจากคุณได้ แต่น่า เสียดายที่ตัวคุณเองปล่อยผ่านไป ผมเองคงก็ต้อง ขอบคุณเถ้าแก่จิรายุศนะ”ทิวัตถ์ยืนอยู่ข้างๆจิรายุศ พูดด้วยรอยยิ้ม
จิรายุศเหลือบไปมองเขา แล้วพูด: “หินก็ยังไม่ได้ ผ่า ผมว่าคุณรอหลังจากผ่าเสร็จแล้วค่อยพูดจาแบบนี้ ดีกว่า” LEGO
“ทำไมละครับ หรือคุณคิดว่าไปเป็นไปได้มั้ยที่หิน หมายเลขหนึ่งของผมจะผ่าเนื้อน้ำดีออกมาไม่ได้ จะ บอกคุณให้ หินก้อนนี้ท่านอาจารย์จารุพิชญ์มั่นใจร้อย เปอร์เซ็นต์ว่าผ่าออกมาเนื้อน้ำดีแน่นอน ถึงเวลาหิน ก้อนนี้ถึงมือผม ผลกำไรสามารถเพิ่มเป็นสองเท่า หินแค่ไม่กี่ก้อนวันนี้ที่คุณซื้อ ก็คงจะเทียบกับผมไม่ได้”ทิวั ตถ์พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยมั่นใจ
“มันก็ไม่แน่”รพีพงษ์ที่อยู่อีกด้านพูดขึ้น
ทิวัตถ์หัวเราะเยาะเย้ยทันที แล้วพูด: “ทำไมถึงไม่ แน่ละ? พวกคุณจะเอาอะไรมาแข่งกับผม หรือจะเอา หินหมายเลขสามสิบหกของพวกคุณมาเหรอ? ถ้าหาก คุณคิดอย่างนั้นจริงๆ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องหัวเราะ เยาะคุณจริงๆ”
รพีพงษ์ยิ้มโดยไม่พูดอะไร แล้วไม่สนใจเขา
จารุพิชญ์และจารุกิตติ์ตี้เห็นรพีพงษ์เป็นเช่นนี้ ก็ รู้สึกว่าเขาตั้งใจตบตาอวดความสามารถ แล้วต้องการ
รักษาหน้าตัวเอง
“อย่ามองว่าตอนนี้เขากำลังสงบจิตสงบใจ แต่ เดี๋ยวพวกเราผ่าหินออกมา เขาก็จะรู้ว่าตัวเองน่าตลก แค่ไหน” จารุกิตติ์ตะคอกอย่างเย็นชา จารุพิชญ์มองไปที่รพีพงษ์อย่างมีชัย แล้วพูด: “รพี
พงษ์ รอบนี้ฉันจะล้างความอัปยศที่แกสร้างไว้ให้ฉัน
กลับไป แกรอดูความพ่ายแพ้ได้เลย”
อันดับหนึ่งก็กลายเป็นหินหมายเลขหนึ่งของทิว ตถ์ไปโดยปริยาย
สีหน้าของทิวัตถ์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น นี่เป็น
จากนั้นไม่นาน พนักงานก็เคลื่อนย้ายหินที่ต้องผ่า ที่ละก้อนที่ละก้อนครั้งแรกที่เขาผ่าหิน ถ้าเกิดหินก้อนนี้สามารถฝาเนื้อ น้ำดีออกมาละก็ เขาก็จะเป็นคนที่มีชื่อเสียง และใน อนาคตเขาก็จะมีพื้นที่ในอำเภอหยก
“เถ้าแก่จิรายุศ ฉันจะทำให้คุณเข้าใจเองว่าอะไร คือก้าวแรกก้าวผิดก้าวต่อๆไปก็ผิด”ทิวัตถ์ก็แสยะยิ้ม แล้วมองไปที่จิรายุศ
จิรายุศเบะปาก แล้วไม่สนใจคำพูดของเขา เขา เชื่อใจรพีพงษ์ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังมา ก่อน
จากนั้นไม่นาน พนักงานก็นำหินหมายเลขหนึ่งใส่ ในเครื่องผ่าหิน แล้วผ่าใบมีดลงบนหิน หินหมายเลข หนึ่งก็ถูกผ่าออกหนึ่งด้าน
ผู้คนก็กลั้นหายใจและตั้งสติใหม่ ทุกคนไม่กล้าส่ง
เสียงแม้แต่นิดเดียว กลัวว่าตัวเองจะส่งผลกระทบต่อ พนักงานที่ผ่าหิน
หลังจากนั้น หินหมายเลขหนึ่งก็ถูกผ่าออกด้าน หนึ่งตรงหน้าให้ผู้คนได้เห็น
เดิมทีทิวัตถ์ตั้งใจส่งเสียงตัวเองเชียร์เพื่อแสดง ความตื่นเต้น แต่เมื่อเขาชิ้นส่วนที่ว่างเปล่าในด้านที่ผ่า ออกมา ความตื่นเต้นของเขาก็หายไปทันที
ด้านหน้าทั้งหมดมีเพียงตำแหน่งขอบ ที่มีสีเขียว เล็กน้อย และส่วนที่เหลือเป็นหินสีน้ำตาลปนเหลือง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าหินที่หวังไว้ว่าจะผ่าออกมามีเนื้อน้ำดี แต่ข้างในกลับ กลายเป็นเช่นนี้
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของจารุพิชญ์และจารุกิตติ์ก็แข็ง ที่อไปในพริบตาเลย ทั้งคู่ก็ไม่อยากจะเชื่อ มองไปที่ หินก้อนนั้น จารุพิชญ์ถึงกับอยากรีบไปตรวจสอบดูว่า ใช่พนักงานหยิบหินมาผิดหรือเปล่า
“เป็นไปได้!”จารุพิชญ์อุทาน “ทำไมหินก้อนนี้ถึง เป็นเช่นนี้ มันน่าจะผ่าเนื้อน้ำดีออกมาถึงจะถูก แต่ ทำไมถึงไม่มีอะไรเลย”
“ท่าน….อาจารย์ท่าน หรือว่าจะดูพลาดไป?”น้ำ เสียงของจารุกิตติ์สั่นสะท้าน เมื่อจิรายุศเห็นฉากนี้ ก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังขึ้นมา
เวลาเดี๋ยวกันก็มองไปที่รพีพงษ์อย่างชื่นชม
“พี่รพี พี่ก็สุดยอดมาก หินก้อนนี้ไม่สามารถผ่า ของดีอะไรออกมาจริงๆด้วย ถ้าเกิดผมไม่เชื่อพี่ ไม่แน่ หินก้อนนี้อาจตกมาอยู่ในมือผมก็ได้ “จิรายุศพูดอย่าง ตื่นเต้น
รพีพงษ์เพียงแค่ยิ้ม และไม่ได้พูดอะไร สำหรับเขา แล้วก็แค่ฝีมือขั้นพื้นฐานเท่านั้นเอง ผู้คนที่ล้อมอยู่รอบๆมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เชื่อ
ในตอนนั้นพวกเขาหยอกล้อที่ไม่รู้วิธี ตอนนี้ดูแล้ว รพี
พงษ์ต่างหากที่เป็นมือชำนาญด้านการพนันหิน
“สุดยอดจริงๆ อย่างนี้ก็สามารถมองออก ดวงตาของเขามองได้ลึกขนาดนี้เลยเหรอ”
“สิ่งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงตาเท่านั้น ยังต้องอาศัย ความรู้และประสบการณ์ ยิ่งสำหรับคนหนุ่มๆอย่างเขา ถือว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความกล้าหาญ ยิ่งหินที่มี
ความหวังขนาดนี้บอกไม่ประมูลก็คือไม่ประมูล เป็น เรื่องที่คนธรรมดาไม่สามารถทำได้จริงๆ” “จุจุ ร้อยแปดล้าน ก็ซื้อหินธรรมดาไปหนึ่งก้อน
คิดแล้วก็เจ็บใจ”
ใบหน้าของทิวัตถ์ซีดลง เมื่อฟังคนพวกนี้แสดง ความคิด อยากเอาหินก้อนนั้นทุบบนหัวตัวเองจริงๆ
เขาหันหน้าไปมองที่จารุพิชญ์ ตอนนี้เขารู้สึกว่าสิ่ง ที่เรียกท่านอาจารย์จารุพิชญ์นั้นไม่น่าเชื่อถือ และครั้ง หน้าเขาไม่หาจารุพิชญ์มาอีกแน่
จารุพิชญ์หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย หินก้อนนั้น พิสูจน์แล้วว่า เขาไม่ได้เก่งกว่ารพีพงษ์
“เถ้าแก่ทิวัตถ์ ร้อยแปดสิบล้าน ลงทุนเสียเปล่าไม่ ได้อะไรคืนมาเลย น่าเจ็บใจจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ยัง ไงมันก็เป็นการพนันหินครั้งแรกของคุณ เสียค่าเล่า เรียนก็ปกตินะ เพียงแต่ว่าค่าเล่าเรียนแพงไปหน่อย” จิ รายยิ้มกริ่ม
ทิวัตถ์เหลือบเขาอย่างเคียดแค้น แล้วพูดว่า: “นีมันก็เป็นเพียงแค่ก้อนแรกเอง ผมประมูลไปหลายก้อน ยังไงก็สามารถผ่าเนื้อน้ำดีออกมา แต่คุณไม่เหมือนกัน คุณเสียเงินหนึ่งล้านประมูลหินหมายเลขสามสิบหก มายังไงก็ตัดเนื้อน้ำดีออกมาไม่ได้”
“ใช่แล้ว รพีพงษ์ อย่าคิดว่านายจะเก่งกว่าอาจารย์ ของฉัน นายยังเสียเงินหนึ่งล้านเพื่อซื้อก้อนหินห่วย แตกเลย นี่ก็พิสูจน์ได้ว่านายไม่เข้าใจเรื่องพนันหิน”จา รุกิตติ้มองไปที่รพีพงษ์อย่างโมโห
เมื่อจารุพิชญ์ได้ยินคำพูดของจารุกิตติ์ ในใจก็ รู้สึกดีขึ้น
“หินหมายเลขสามสิบหกยังไงก็ผ่าของดีออกมา ไม่ได้ รพีพงษ์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ฉันก็ไม่มีความ จำเป็นต้องเกรงใจ”จารุพิชญ์พึมพำกับตัวเอง
ใบหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยรอยยิ้มขำ คิดใน ใจเดี๋ยวถ้าหินหมายเลขสามสิบหกออกมา พวกคุณก็ คงยิ่งหมดหวัง
พนักงานก็ผ่าหินต่อไปจากการผ่าหินบางส่วนที่ ทิวัตถ์ประมูลมาได้ก็ยังมีไม่กี่ก้อนที่มีเนื้อน้ำที่ดีพอ สมควร ซึ่งนั้นก็ช่วยบรรเทาความโศกเศร้าและความ โกรธของเขาได้บ้าง
แต่ก้อนหินทั้งหมดที่รพีพงษ์ให้จิรายุศประมูลลง มานั้นเป็นเนื้อน้ำดีหมด ทั้งสอนฝั่งเทียบกันแล้วก็ถือได้ ว่าเท่ากัน
แน่นอนว่า ถ้านับรวมกับร้อยแปดสิบล้านที่ทิวัตถ์ เสียไป ก็ยังถือว่าจิรายุศทำกำไรได้มากกว่า
หลังจากนั้นไม่นาน หินทั้งหมดที่ทิวัตถ์ประมูลมา ได้ ผ่าออกมาเป็นเนื้อแก้วใส ทำให้ทิวัตถ์ตื่นเต้นมาก เพราะหินก้อนนี้เพียงพอเมื่อเทียบกับหินทั้งหมดจิรา ยุท
ความหดหูของเขาที่เสียเงินไปร้อยแปดล้านก็ถูก ทำลายหายไป และก็มองไปที่จิรายุศอีกครั้งอย่างมีชัย
“กูเสียเงินไปร้อยแปดล้านไปแล้วยังไงละ หินก้อน นี้ก็ทำให้ผมได้กำไรกลับมา คุณเหลือหินหมายเลข สามสิบหกแค่ก้อนเดียว ไม่ว่ายังไง วันนี้คุณก็ไม่ สามารถสู้ผมได้!”ทิวัตถ์ยิ้มแล้วพูด
จิรายุศกัดฟันแน่น หน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
“คุณอย่าเพิ่งดีใจไปหน่อยเลย เดี๋ยวหินก้อนนี้ของผม เปิดออกมามีเนื้อน้ำดีกว่าเนื้อแก้วใส่ซะอีก คนกลุ่มหนึ่งก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่า รู้สึกว่าหินหมายเลขสามสิบหกไม่สามารถเปิดเนื้อน้ำดี
อะไรออกมาได้ อย่าว่าแต่จะมีเนื้อน้ำดีกว่าเนื้อแก้วใส
เลย
“จิรายุศ คุณอย่าฝันละเมอที่นี่ ก้อนหินหมายเลข สามสิบหกของคุณก็เป็นแค่เนื้อน้ำเสีย นอกจากมี ปาฏิหาริย์ คุณก็อย่าไปหวังพึ่งมัน”ทิวัตถ์กล่าวด้วย ความรังเกียจ
เมื่อจารุพิชญ์เห็นว่าออกมาเป็นเนื้อแก้วใส อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก รอบนี้เขาก็ไม่ได้ขายหน้า ดูท่าแล้ว ครั้งนี้รพีพงษ์ก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
“อาจารย์ ก็ยังเป็นท่านที่สุดยอด ผู้ชายอย่างรพี พงษ์ไม่มีสมบัติอะไรมาเทียบท่านได้ เห็นก้อนเนื้อเสีย เป็นสมบัติ น่าขำจะตาย”จารุกิตติ์พูดอย่าเยาะเย้ย
“อย่าพูดแบบนั้น รพีพงษ์ด้านประเมินวัตถุโบราณ ก็สุดยอดเหมือนกัน เพียงแต่เขายังเด็กเกินไป ที่จะ เก่งกว่าฉันในทุกด้าน ครั้งนี้ก็ถือว่าได้รักษาหน้าหน้า ได้”จารุพิชญ์พูดอย่าเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ใบหน้าเต็ม ไปด้วยชัยชนะ
รพีพงษ์ไม่ได้สนใจกับความคิดของผู้คนรอบข้าง แต่กลับให้คนส่งหินหมายเลขสามสิบหกไป
“พี่รพี หินก้อนนี้สามารถผ่านออกมาเป็นเนื้อน้ำดี จริงเหรอ?” จิรายุศถามด้วยความร้อนรน
“ผ่าออกมาเดียวก็รู้”รพีพงษ์ตอบ
พนักงานใส่หินหมายเลขสามสิบหกไปที่ เครื่องจักร ทุกคนก็กลั้นหายใจอีกครั้ง รอบนี้พวกเขา ไม่ได้อยากดูว่าผ่าออกมาจะมีเนื้อน้ำดีแค่ไหน แต่แค่ อยากดูว่าหินก้อนนี้แย่แค่ไหน
เมื่อใบมีดผ่าลงมา เผยให้เห็นพื้นผิวของหิน หมายเลขสามสิบหก และสัมผัสเห็นสีเขียวมรกตเป็นที่ ดึงดูดสายตาของผู้คน เมื่อตอนที่เห็นสีนี้ ทุกคนก็ตกใจ
จารุพิชญ์ก็กระโดดขึ้นมา และร้องอุทาน
“หยกจักรพรรดิ! เป็นไปได้อย่างไร!!”