พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่545 จะสอนให้ว่าควรพูดจายังไง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่545 จะสอนให้ว่าควรพูดจายังไง
บทที่545 จะสอนให้ว่าควรพูดจายังไง
รพีพงษ์จ้องไปที่ขนมปัง แล้วถามอย่างเยือกเย็นว่า “คุณหนูของแกให้แกมาหรอ?”
ขนมปังรู้สึกไม่ดี ที่พาคนมาหารพีพงษ์ในวันนี้ ก็เป็นเพราะเธอโมโห แล้วยังหาโอกาสที่จะรังแกคนได้ตามใจชอบแบบนี้ได้ยาก แน่นอนว่าเธอไม่อยากปล่อยมันไป
หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์เช่าห้องอยู่ร่วมกับคนอื่นแล้วนั้น เธอยิ่งไม่เห็นรพีพงษ์อยู่ในสายตา ใช้อำนาจของตระกูลพงศ์ธนธดา สั่งสอนรพีพงษ์อย่างรุนแรงสักตั้ง
เธอยังไม่รู้เรื่องที่รพีพงษ์บริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยฟูตันจำนวนพันล้าน
“แกไม่ต้องมาสนใจว่าใช่คุณหนูของฉันมาหรือไม่ คุณนายใหญ่สั่งให้ฉันจัดการเรื่องนี้ แกคิดว่าถ้าแกมีปัญหากับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาของฉันแล้ว จะจบง่ายๆงั้นหรอ?” ขนมปังกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
“หรอ? งั้นแกจะตัดการกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ?” รพีพงษ์ถาม
ขนมปังได้ยินคำพูดนี้ของรพีพงษ์ ก็นึกอะไรออก แล้วกล่าว “คุณนายใหญ่ของฉันไม่อยากเห็นแกในเมืองเซี่ยงไฮ้นี่อีก เมื่อก่อนที่แกทำให้คุณหนูไม่พอใจ ความจริงต้องตาย ตอนนี้ฉันใจกว้าง ไม่ต้องการชีวิตของแก แต่แกต้องคำนับให้ฉันสิบครั้ง แล้วพูดขอบคุณครับเจ๊สิบครั้ง จากนั่นก็ไสหัวไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้ซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องแกอีก”
รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของขนมปัง ก็บึนปากในทันที ไม่คาดคิดว่าสาวใช้ข้างกายอารียาจะร้ายกาจได้ขนาดนี้ แล้วมองออกอย่างชัดเจนว่านี่เป็นสิ่งที่เธออยากทำเองทั้งนั้นจึงได้พูดออกมา
นิษฐาที่อยู่ในคอนโดเห็นเหตุการณ์ด้านนอก ก็มีความสุขที่ได้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ เธอกำลังโมโหอยู่พอดี อยากเห็นรพีพงษ์พ่ายแพ้
สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนที่มาหาเรื่องรพีพงษ์ เป็นคนของตระกูลพงศ์ธนธดาพอดี นิษฐามองว่า แม้รพีพงษ์มีเงินร้อยล้าน และไม่มีทางเป็นศัตรูของตระกูลพงศ์ธนธดาได้แน่นอน วันนี้เขาต้องถูกคนของตระกูลพงศ์ธนธดาที่มาสั่งสอนอย่างเจ็บแสบแน่นอน
เธอนั่งรอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่บนโซฟา กำลังรอให้รพีพงษ์คุกเข่าอ้อนวอนขอคนเหล่านี้ของตนะกูลพงศ์ธนธดา เธอถึงขึ้นหยิบมือถือขึ้นมา เปิดวิดีโอ อยากจะอัดคลิปตอนที่รพีพงษ์คุกเข่าไว้ ถึงเวลานั้นไม่แน่เธออาจสามารถเอาคลิปนี้ไว้แบล็คเมล์รพีพงษ์ก็ได้
“เร็วๆ ฉันไม่ได้มีเวลามากนักนะ ถ้าแกคุกเข้าไม่ได้ คนที่อยู่หลังฉันสามารถช่วยแกได้” ขนมปังเห็นรพีพงษ์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จึงพูดอย่างรำคาญออกไป
“งั้นแกก็ให้พวกมันลองดู” รพีพงษ์กล่าว
ขนมปังไม่คิดว่ารพีพงษ์จะกล้าขนาดนี้ ไม่หังคำพูดของเธอ ยิ่งโมโหมากเข้าไปอีก
เธอกัดฟันมองไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “แกรนหาเรื่องเองนะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ!”
พูดจบ ขนมปังถอยหลังไปสองก้าว แล้วตะโกนไปที่ชายเหล่านั้น “จัดการมันซะ จากนั้นให้มันมาคุกเข่าคำนับต่อ หน้าฉัน!”
ชายเหล่านั้นไม่ลังเล หลังจากได้รับคำสั่งแล้ว ก็ก้าวไปข้างหน้า จะลงมือต่อรพีพงษ์
นิษฐาเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนไปที่รพีพงษ์ “รพีพงษ์ จนตอนนี้แล้ว แกยังไม่รู้จักผิดขอบชั่วดีอีกหรอ แกคิดว่าคนของตระกูลพงศ์ธนธดาสามารถยั่วโมโหได้ง่ายๆหรอ ฉันอยากให้แกฟังเค้าพูดนะ ถึงเวลานั้นมันจะไม่ใช่แค่เสียใจอย่างเดียวแล้วล่ะสิ”
แน่นอนว่ารพีพงษ์ไม่มีทางฟังคำพูดของนิษฐา เขาจ้องไปที่ผู้ชายเหล่านั้น เห็นมีคนเริ่มปล่อยหมัดมาที่เขาแล้ว ก็ยกขาขึ้น แล้วถีบไปที่คนนั้น
ถึงแม้คนนี้จะเป็นอันธพาลที่ตระกูลพงศ์ธนธดาฝึกฝนมา แต่สำหรับรพีพงษ์แล้ว ก็แค่ลูกแมวเท่านั้น จัดการง่ายดาย
ขนมปังเห็นรพีพงษ์กล้าต่อกลอนกับอันธพาลของตระกูลพงศ์ธนธดา ก็ยิ้มดูแคลนออกมา คิดในใจว่าเดี๋ยวอีกสักพักไอ้นี่ก็จะได้ลิ้มลองความเก่งกาจของตระกูลพงศ์ธนธดาแล้ว
แต่ทว่า หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ถีบอันธพาลคนหนึ่งของตระกูลพงศ์ธนธดาไปติดกับกำแพงแล้วนั้น ขนมปังก็งงงวยขึ้นทันที
ท่วงท่าการต่อสู้ของรพีพงษ์เปรียบเสมือนสายน้ำไหลตามธรรมชาติ ความเร็วในการออกท่วงท่า พลังที่มหาศาล ท่วงท่าที่ชำนาญ ใช้ท่วงท่าติดต่อกันจัดการชายเหล่านั้น เมื่อปล่อยหมัดออกมา ชายเหล่านั้นก็ล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นแล้ว
นิษฐามองรพีพงษ์อย่างอ้างปากค้าง เธอรู้ว่ารพีพงษ์ชกต่อยเป็น แต่เธอไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะกล้าต่อยคนของตระกูลพงศ์ธนธดาได้ ความขัดแย้งในครั้งนี้ระหว่างรพีพงษ์และตระกูลพงศ์ธนธดา เกรงว่าจะจบลงแล้วจริงๆ
“แก……แกกล้าลงมือกับคนของตระกูลพงศ์ธนธดา แกไม่อยากมีชีวิตอีกแล้วใช่ไหม? แกรีบคุกเข้าขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ มิเช่นนั้นฉันคนของตระกูลพงศ์ธนธดาจะไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!” ขนมปังรีบมองไปที่รพีพงษ์อย่างซีเรียส
“ทำไม อนุญาตให้แค่คนของตระกูลพงศ์ธนธดาลงมือกับฉัน แต่ไม่อนุญาตให้ลงมือกับคนของตระกูลพงศ์ธนธดา พวกแกเอาแต่ใจตัวเองไปเปล่า!” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น
“ตระกูลพงศ์ธนธดาของฉันมีอำนาจและความสามารถในเมืองเซี่ยงไฮ้ ลงมือกับแกแล้วไง แกก็เป็นแค่ไอ้ขอทานในสายตาของฉัน แกมีสิทธิ์อะไรต่อกลอน!” ขนมปังตะคอกรพีพงษ์
รพีพงษ์ได้ยินคำพูดนี้ของเธอ ก็หลับตาลง แล้วเดินไปข้างหน้า จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วตบไปที่ขนมปังหนึ่งฉาด
แกมันก็แค่สาวใช้คนหนึ่งของตระกูลพงศ์ธนธดา มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับฉัน?” ความจริงรพีพงษ์ยังให้เกียรติที่เธอเป็นสาวใช้ของอารียา สั่งสอนนิดหน่อยก็พอแล้ว แต่นิสัยทั้งหมดที่ขนมปังแสดงออกมา ทำให้รพีพงษ์รู้สึกต่อต้าน เขาไม่รู้ว่าคนแบบนี้อยู่ข้างๆอารียาแล้ว จะสร้างปัญหาให้อารียาหรือไม่ ดังนั้นจึงสั่งสอนเธอสักหน่อย ให้เธอรู้ถึงปัญหาของตัวเอง
ขนมปังจบหน้าตัวเอง เมื่อกี๊ที่รพีพงษ์ตบไปยังไม่ถือว่าแรงมาก แต่ก็มากพอที่จะทำให้หน้าของขนมปังบวมขึ้นมาได้
“แก……แกกล้าตบฉัน! แกไอ้อัปรีย์ แกเป็นใคร กล้าลงมือกับฉัน ฉันจะเล่นงานแก!” ขนมปังยื่นมือไปจับหน้าของรพีพงษ์
รพีพงษ์จับข้อมือเธอไว้ อีกมือหนึ่งตบไปที่หน้าของเธออีกฉาด
ขนมปังแทบจะแตกสลาย แม้เธอจะเป็นเพียงสาวใช้ของตระกูลพงศ์ธนธดา แต่ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากพวกเจ้านายเหล่านั้น ก็ไม่มีใครเคยด่าเธออีกเลย
ตอนนี้รพีพงษ์ตบเธอไปสองฉาด เธอจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
“แกต้องตาย! ฉันจะทำให้แกตายทั้งเป็น! แกไอ้สัตว์เดรัจฉาน!”
รพีพงษ์ตบไปที่หน้าของขนมปังอีกฉาด ด้วยความไม่เกรงใจ
“วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกแทนคุณหนูของแกว่าควรจะพูดอย่างไร ถ้าแกยังไม่มีมารยาทกับฉันอีก ฉันก็จะตบไปเรื่อยๆ!” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น
เอางี้ ทุกครั้งที่ขนมปังด่า รพีพงษ์ก็จะตบลงไปหนึ่งฉาด ตบติดต่อกันไปสิบฉาด
สุดท้ายหน้าของขนมปังเริ่มไม่มีความรู้สึก จนกระทั่งตอนนี้ เธอถึงรับรู้ ว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าเธอเป็นคนของตระกูลไหน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องโดนตบจนตายแน่ๆ
สุดท้าย ขนมปังก็ทนกับแรงกดดันของรพีพงษ์ไม่ไหว ในขณะที่รพีพงษ์จะตบเธอนั้น ก็พยายามพูดออกมาว่า “ฉัน……ฉันผิดไปแล้ว”
รพีพงษ์หยุดมือที่ง้างไว้ลง
เขาคลายมืออีกมือหนึ่งที่จับข้อมือของขนมปังเอาไว้ แล้วกล่าว “ต่อไปจะพูดอะไรหัดมีมารยาทบ้าง มิเช่นนั้นแกก็จะโดนตบอีก”
ขนมปังจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างช้ำใจ จากนั้นก็รีบหันหลัง วิ่งไปที่ลิฟต์
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะไปฟ้องคุณนายใหญ่ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่!”
รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างเซ็ง รู้ว่าการที่จะดัดนิสัยคนแบบนี้โดยการตบนั้น มันเป็นไปได้ยาก
เขาก้มหน้ามองไปที่ชายเหล่านั้นที่ล้มลงกองอยู่กับพื้น ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก ในขณะที่นิษฐากำลังตะลึงอยู่นั้น ก็ได้เดินไปที่ลิฟต์
ขนมปังเห็นรพีพงษ์เดินมา แต่ลิฟต์ยังไปขึ้นไป ก็ร้อนรน สุดท้ายก็ยอมไม่ขึ้นลิฟต์ วิ่งไปขึ้นบันไดอย่างเร็ว
ต้องรู้ก่อนว่าคอนโดรพีพงษ์พวกเขานี้อยู่ชั้นที่ยี่สิบสาม ขนมปังลงบันไดมา ก็ไม่กลัวตัวเองเหนื่อย
แต่ขนมปังจะคิดยังไง รพีพงษ์ก็ไม่ใส่ใจ เธอจะลงมายังไง ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับรพีพงษ์
ตอนนี้เขาจะไปบริษัทลานคอนกรุ๊ป ไปหาวิไลพรเพื่อปรึกษาว่าจะพาอารียาออกจากตระกูลพงศ์ธนธดาได้อย่างไร
ณ คฤหาสน์ตระกูลพงศ์ธนธดา
ขนมปังแบกหน้าที่บวมเฉ่งอย่างกับขนมปังกลับมาที่นี่ เมื่อเธอกลับมาเรื่องแรกที่ทำ ก็คือไปหาชลาธิปที่ห้องสมุด
ขณะนี้ชลาธิปกำลังดูเอกสารอยู่ในห้องสมุด เห็นขนมปังเดินเข้ามาอย่างร้อนรน ก็ขมวดคิ้วในทันที
แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของขนัมปังแล้วนั้น ก็เกิดสงสัยขึ้นมา แล้วถาม “ขนมปัง หน้าแกไปโดนอะไรมา?”
ขนมปังมาถึงด้านหน้าของชลาธิป ก็นั่งลงกับพื้น แล้วร้องออกมาอย่างน่าสงสาร
“คุณนายใหญ่ ท่านต้องช่วยขนมปังนะ วันนี้ขนมปังทำตามที่คุณนายใหญ่บอก ไปจัดการไอ้โรคจิตที่ระรานคุณหนู ความจริงขนมปังอยากคุยกับเขาอย่างสมานฉันท์ ให้เขารู้ถึงความผิดของตัวเอง แต่ปรากฏว่ามันยังบอกว่าคุณหนูคือภรรยาของมัน แล้วยังพูดเหยียดหยามชื่อเสียงของคุณหนู สุดท้ายเขาก็ได้เหยียดหยามถึงคุณท่านอีกด้วย ขนมปังโมโหมาก ก็ตะคอกมันไป”
“ใครจะรู้ว่าไอ้นั่นจู่ๆมันจะลงไม้ลงมือกับขนมปัง ทำจนขนมปังกลายเป็นแบบนี้ มันชำนาญด้านการต่อสู้ หนูพาคนไปด้วยหลายคนแต่ก็โดนมันจัดการ ตอนนี้หนีกลับมาไม่ได้ คุณนายใหญ่ ท่านต้องช่วยขนมปังด้วยนะ ขนมปังเองโดยตบไม่เท่าไหร่ แต่นี่ทำให้ตระกูลพงศ์ธนธดาเสียชื่อเสียงเลยนะ”
ชลาธิปได้ยินขนมปังกล่าวอย่างน่าสงสาร บวกกับการที่ขนมปังโดนตบจนเป็นรอยมือ จึงโกรธจนยืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเกรี้ยวกราดว่า “ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ยังมีคนยโสโอหัง ที่ไม่สนใจตระกูลพงศ์ธนธดา เรื่องนี้แกไม่ต้องสนใจล่ะ แกไปหาหมอ แล้วไปหาคนดูแลบ้านรับเงินเดือนสองเดือน รักษาบาดแผลไปก่อน”
“ไอ้นั่นที่ระรานคุณหนู เดี๋ยวฉันจัดการมันเอง”
ขนมปังได้ยินคำพูดนี้ของชลาธิป ก็ยิ้มอย่างดูแคลนออกมา คิดว่านายใหญ่ของตระกูลพงศ์ธนธดาลงมือเอง แม้ไอนั่นมันจะเก่งอาจ ก็ต้องวิบัติแน่
แต่เธอยังคงแสดงอาการน่าสงสารออกมา ตกลงกับชลาธิปหนึ่งคำ จากนั้นก็ยืนขึ้น ออกไปจากห้องสมุด
ความจริงเธออยากไปหาคนดูแลบ้านเพื่อรับเงิน แต่ตอนนี้เธอได้เข้าไปดูในห้องของอารียา ดูไปรอบๆ แล้วฉวยโอกาสตอนที่หน้ายังเป็นรอยมือ ร้องไห้ต่อหน้าคุณหนูสักฉาก ไม่แน่อาจได้อะไรดีๆมาก็เป็นได้
เมื่อคิดเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องของอารียา