พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่551 เพื่อนรักชาย
บทที่551 เพื่อนรักชาย
หน้าประตูอาคารลานคอน
ขณะนี้ฟ้ามืดลง รถเต็มท้องถนน แต่ในอาคารลานคอนมีไม่กี่จุดที่สว่าง คนจำนวนมากได้กลับบ้านไปแล้ว เหลือเพียงคนที่ทำงานล่วงเวลาเท่านั้น
รพีพงษ์ยืนอยู่หน้าประตูอาคารลานคอน กำลังมองไปที่ประตูที่ล็อคอยู่ แล้วคิดอะไรเพลินๆ
ความจริงเขาจะไม่บอกวิไลพร แล้วมานอนตรงไหนก็ได้ในบริษัท แบบนี้ก็ตัดปัญหาไปได้บ้าง
แต่หลังจากที่มาถึงแล้วนั้น รพีพงษ์เพิ่งจะนึกออก ว่าตัวเองไม่มีกุญแจของบริษัทวิไลพร
ก่อนหน้านี้รพีพงษ์ได้ขอกุญแจบริษัทจากวิไลพร วิไลพรก็ได้ตกลงจะให้หนึ่งดอก แต่ต่อมาก็เงียบหายไป ตอนนี้คิดๆ วิไลพรน่าจะตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้
รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเซ็ง แล้วหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออกไปยังวิไลพร
“ผมอยู่ที่ประตูบริษัทคุณ ไม่มีกุญแจ คุณให้คนเอามาให้ผมหน่อยสิ” รพีพงษ์กล่าว
เสียงปลายทางดังอื้อ และเป็นเสียงคนกำลังพูดคุยกัน เสียงวิไลพรดังขึ้นมาว่า “ฉันอยู่ในงานเลี้ยง ปลีกตัวออกไปไม่ได้ คุณมาหาฉันล่ะกัน ไม่งั้นฉันออกไปไม่ได้ ที่R&B ktv ห้องรับรองพิเศษที่หรูหราสุดห้องนั้น” วิไลพรพูดจบ ไม่ให้โอกาสรพีพงษืได้กล่าวใดๆ ก็วางสายไปทันที
รพีพงษืได้ยินเสียงตู๊ดตู๊ดตู๊ด ก็ถอนหายใจออกมา
“ช่วงนี้ถอนหายใจบ่อย อย่างกับคนแก่ก็มิปราณ” ยิ้มแล้วพูดกับตัวเอง เขาหันหลังแล้วเดินไปที่ถนน เรียกรถ ไปR&B ktv
ไม่นาน รถแท็กซี่จอดที่หน้าของR&B ktv หลังจากที่รพีพงษ์ลงไปแล้วนั้น ก็เดินเข้าไป หลังจากที่ถามพนักงานว่าห้องรับรองพิเศษที่หรูหราที่สุดอยู่ไหนแล้ว ก็เดินไป
เขากำลังคิดเอากุญแจจากวิไลพร แล้วกลับไปที่อาคารลานคอน ดังนั้นจึงโทรหาวิไลพรว่าเขาถึงแล้ว ให้เธอเอากุญแจออกมาให้
วิไลพรบอกว่าเธอเมาแล้ว คนที่ดื่มกับเธอล้วนเป็นนักดื่มวัยรุ่นทั้งนั้น เธอกลัวว่าเดี๋ยวตัวเองจะโดนลวนลาม ให้รพีพงษ์เข้าไปในห้องรับรองนั้นให้ได้ มิเช่นนั้นเธอจะไม่ให้กุญแจแก่รพีพงษ์
รพีพงษ์ทำได้เพียงเปิดประตูออก แล้วเดินเข้าไป
ในห้องรับรองเต็มไปด้วยแสงไฟเจิดจรัส เสียงดังกระหึ่ม คนที่นั่งด้านในมีทั้งหญิงและชาย ที่ประสบความสำเร็จ
นัยต์ตาของวิไลพรประกายที่สุด เมื่อรพีพงษ์เข้าไปก็เห็นว่าเธอนั่งอยู่ตรงกลางของโซฟา ผู้ชายรอบๆเธอล้วนมองไปที่เธอแล้วยิ้ม
เมื่อรพีพงษ์เข้าไป คนที่อยู่ในห้องก็จ้องไปที่รพีพงษ์ เห็นได้ชัดเจนว่าทุกคนไม่รู้จักเขา แล้วเกิดความสังสัยขึ้นมา
วิไลพรยืนขึ้นจากโซฟา ยิ้มให้รพีพงษ์ แล้วกล่าว “จะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ท่านนี้คือชายของ……”
วิไลพรอ้าปากจะบอกว่ารพีพงษ์คือแฟนฉัน ก่อนหน้าที่เธอจะพูดสามคำนั้นออกมา รพีพงษ์ชักตาไปที่เธอ วิไลพรเข้าใจ เลยรีบแก้ไขคำพูด
“……เพื่อนสนิท”
ตอนที่ชายเหล่านั้นที่นั่งอยู่บนโซฟาได้ยินวิไลพรพูดคำแรก สีหน้าดูไม่ดี แต่รอให้วิไลพรพูดจบ ก็ยิ้มออกกัน
รพีพงษ์มองไปที่วิไลพรอย่างเบื่อหน่าย ไม่คาดคิดว่าตนจะกลายเป็นเพื่อนรักของวิไลพรไปเสียแล้ว
วิไลพรจับแขนรพีพงษ์ ลากรพีพงษ์นั่งลงบนโซฟา รพีพงษ์ทักทายคนในห้องอย่างสุภาพ วันนี้โดนวิไลพรหลอกให้มาแล้ว อยากกลับไปคงยาก ดังนั้นจึงทำได้เพียงรองานเลี้ยงของวิไลพรจบ
เขาถูกคนเข้าใจผิดอยู่พอดี รู้สึกหดหู่ สู้ดื่มเหล้า แก้เซ็งอยู่ที่นี่ดีกว่า
“เพื่อนรักคนนี้ของฉันค่อนข้างขี้อาย ไม่ค่อยชอบพูด ดังนั้นหวังว่าทุกคนจะเข้าใจ เขามาที่นี่เพราะกลัวฉันเมาแล้วกลับไม่ไหว ดังนั้นจึงมาเพื่อรับฉันโดยเฉพาะ ฉันชนแก้วแทนเขาก่อนล่ะกัน หมดแก้วนี้แล้ว ก็ขอให้ทุกคนตามสบาย” วิไลพรพูดกับทุกคน จากนั้นก็หยิบแก้วที่อยู่ตรงหน้า กลึบเดียวหมด
รพีพงษ์เห็นวิไลพรพูดคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน ก็รู้สึกนับถือความสามารถในการเข้าสังคมของเธอ ดูๆแล้วที่วิไลพรถูกเลือกให้เป็นผู้ดูแลของเมืองเซี่ยงไฮ้นั้น มันมีเหตุผลพอ
รพีพงษ์นั่งข้างๆวิไลพร ดูวิไลพรปาร์ตี้กับคนในห้องรับรอง ในการสนทนาของพวกเขา รพีพงษ์ฟังออก ว่าคนเหล่านี้เป็นลูกค้าของลานคอน วันนี้พวกเขาคุยงานสำเร็จ จึงมาดื่มฉลอง
ผู้ชายวัยกลางคนเหล่านั้นชนแก้วกับวิไลพรไม่หยุด วิไลพรก็ชกแก้วไม่หยุด เมื่อดื่มหมดก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น ทำให้รพีพงษ์นับถือระดับแอลกอฮอล์ของวิไลพร
อาจเพราะวิไลพรแสดงออกมาว่าใกล้ชิดกับรพีพงษ์ ทำให้ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆวิไลพรไม่พอใจ จึงได้หยิบแก้วเหล้า ชนกับรพีพงษ์
“น้องชาย คุณอย่าเอาแต่นั่งสิ ดื่มกับพวกเราสักหน่อย คุณเป็นเพื่อนรักของวิไลพรได้ ก็น่าจะเป็นคนเก่งเหมือนกันล่ะสิ ผมผู้บริหารบริษัทความงามFFR พสธร ในเมื่อมีวาสนาได้พบกัน ก็สร้างความสัมพันธ์กันเอาไว้”
รพีพงษ์หยิบแก้วเหล้าขึ้นมา แล้วยกให้กับคนนั้น จากนั้นก็ดื่มเหล้าลงไป
พสธรให้รพีพงษ์ดื่มเหล้า ก็ไม่ลังเล หลังจากที่ดื่มเหล้าในแก้วตัวเองหมดแล้ว ก็เหมือนกับกำลังสืบตัวตนของรพีพงษ์อย่างไรอย่างนั้น แล้วถาม “มิทราบว่าตอนนี้น้องชายทำอะไรอยู่? เปิดบริษัทหรือว่าลงทุน?”
“ไม่ทำอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ถือว่า……ว่างงาน” รพีพงษ์กล่าว
พสธรได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ก็เหยียดหยามขึ้นมา เมื่อกี๊เขาเห็นรพีพงษ์ใส่ชุดธรรมดา ตอนนี้ได้ยินว่ารพีพงษ์ว่างงานอีก เขาจึงไม่สงสัยใดๆอีกต่อไป
“เหอะเหอะ น้องชายตลกไปเปล่า ถ้าคุณว่างงาน แล้วจะเป็นเพื่อนรักของวิไลพรได้อย่างไรกัน” พสธรหัวเราะ รู้สึกว่าถึงแม้รพีพงษ์จะเป็นเพื่อนรักของวิไลพร แต่ก็ไม่มีความสามารถ ดังนั้นจึงไม่เป็นอันตรายใดๆ เลยไม่ใส่ใจเขาอีกต่อไป
รพีพงษ์ยิ้ม และไม่พูดอะไรต่อ
ทุกคนพูดคุยกันต่อ ไม่นาน ก็เปลี่ยนไปคุยสาวงามของเมืองเซี่ยงไฮ้เหล่านั้น
วิไลพรในฐานะสาวสังคมที่ขึ้นชื่อของเมืองเซี่ยงไฮ้ ก็ติดลำดับเช่นเดียวกัน
พูดไปพูดมา พสธรก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกล่าว “ความงามของวิไลพร ไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าพูดถึงหญิงที่ไร้เดียงสาอ่อนโยนล่ะก็ ฉันเพิ่งเจอมาคนหนึ่ง คุณหนูที่เพิ่งปรากฏตัวของตระกูลพงศ์ธนธดา เรื่องความงาม ไม่ต้องพูดถึงอันดับหนึ่งเลยล่ะ”
ทุกคนพูดตามๆกัน เริ่มพูดถึงคุณหนูคนนั้น เป็นคนสวยที่เจอได้ยาก
อาจเพราะดื่มเหล้า พสธรเลยพูดอย่างไร้ความคิด แล้วยังพูดลามกอีก ว่า “ผู้หญิงในชาตินี้ที่ฉันเคยเอา จำนวนไม่น้อย แบบคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดานั่น ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน เอาจริงๆผมคิดมาตั้งนานแล้ว ว่าอยากได้คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ขึ้นเตียงสักครั้ง”
เมื่อเขาพูดจบ ผู้ชายในห้องรับรองก็หัวเราะชอบใจ และผู้หญิงเหล่านั้น ก็หัวเราะเช่นกัน ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่ เมื่อดื่มเหล้า การที่จะพูดเรื่องแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้สังเกต รพีพงษ์ในขณะนี้ เริ่มหน้าชา เริ่มแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดออกมา
วิไลพรรู้ว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดานั้นเป็นคนที่รพีพงษืกำลังตามหา และรู้ดีถึงความสำคัญของเธอที่มีต่อรพีพงษ์ จึงได้พูดกับพสธรว่า “ประธานพสธร ผู้หยิงเยอะขนาดนี้ อย่าพูดแบบนี้เลย”
พสธรหัวเราะ แล้วกล่าว “แล้วไง โตๆกันแล้วทั้งนั้น พูดก็เข้าใจ เอาจริงๆ คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดานั่น ชั่ง……”
เขายังพูดไม่จบ ก็มีมือหนึ่งเข้ามา ตบลงไปที่หน้าของเขา