พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่559 เลวทราม
บทที่559 เลวทราม
คฤหาสน์ตระกูลพงศ์ธนธดา
คุณนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ชอบอยู่วิลล่า ดังนั้นจึงเก็บคฤหาสน์เก่าของตระกูลพงศ์ธนธดาไว้ พื้นที่ของคฤหาสน์ไม่ใหญ่ แต่หลังจากที่ผ่านการซ่อมแซมมาหลายครั้ง ด้านในถือว่าหรูหราเช่นกัน
ความจริงชลาธิปก็ชอบรูปแบบคฤหาสน์ของพวกเขา เสียดายที่คุณนายใหญ่ตระกูลพงศ์ธนธดาอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงต้องซื้อวิลล่าอยู่ข้างนอก
เพียงแค่มีโอกาส ชลาธิปก็ไม่อยากเจอแม่ที่แย่งอำนาจที่ควรจะเป็นของเขาแม้แต่ครั้งเดียว
เรื่องมาถึงขนาดนี้ ทำให้ระหว่างที่สองไม่มีเรื่องราวที่จะพูดคุยกันอีกต่อไป นี่คือความเลวร้ายของตระกูลใหญ่
ในขณะนี้ในห้องของคุณนายใหญ่ ชลาธิปกำลังยืนอยู่ด้านหน้าของวีรดาอย่างยินดีปรีดา ด้วยความอ่อนน้อม ชัดเจนว่าไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
ดูๆไปแล้ววีรดาก็สุภาพและสง่า แม้จะเต็มไปด้วยผมขาว แต่ก็ยังคงแต่งตัวเช่นเคย เครื่องประดับอะไรที่ควรใส่ก็ยังคงใส่ ทำให้ดูหรูหรา
“แม่ เรื่องราวก็ประมาณนี้ ความสามารถของคนนั้นก็ไม่เบา ถ้าพวกเราไม่คืนดารินทร์ให้เขาล่ะก็ เขาจะจัดการตระกูลพงศ์ธนธดาของเราซะ ตอนนั้นเกรงว่าเราก็ต้องรับกับความเสียหายค่อนข้างมหาศาล” ชลาธิปกล่าว
สีหน้าของวีรดาไม่พอใจ เมื่อกี๊ตอนที่ฟังชลาธิปเล่านั้น เธอรู้สึกว่ามันชั่งตลกสิ้นดี เมืองเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบัน นอกจากตระกูลธาดาวรวงศ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแย่งชิงอำนาจ ที่เก่งกาจที่สุด รองลงมาก็ตระกูลธาดาวรวงศ์
ตอนนี้ชลาธิปพูดถึงเด็กน้อยเพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน ควบคุมกว่าแปดสิบสามบริษัทที่ร่วมมือกับตระกูลพงศ์ธนธดา วีรดาสงสัยว่าชลาธิปทำเพื่อหลอกเธอจึงได้คิดอุบายนี้ขึ้นมา
“ชลาธิป แกก็เข้าสู่วัยกลางคนสี่สิบกว่าปีแล้ว ยังไม่มีวิจารณญาณอีกหรอ เรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ ใช้สมองคิด ก็น่าจะรู้แล้ว ไม่ใช่พูดอะไรนิดๆหน่อยๆ แกก็รีบมาบอกฉัน ฉันไม่มีอารมณ์ฟังเรื่องไร้สาระของแกหรอกนะ แม้แต่คนนอกพื้นที่เข้ามาแกยังจัดการไม่ได้ แล้วฉันจะวางใจมอบตระกูลพงศ์ธนธดาให้แกได้ไง” วีรดาพูดกับชลาธิป
ชลาธิรู้สึกอับอาย เขาไม่อยากมาหาวีรดา เพราะวีรดามักจะหาเหตุผลต่างๆนานามาดูแคลนเขา ว่าเขาไม่คู่ควรกับตระกูลพงศ์ธนธดา
“แม่ ผมพูดความจริง……” ชลาธิปรู้สึกไม่สบายใจ อยากจะเน้นถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้
“พอล่ะ คนที่รู้จักลูกสาวนอกสมรสของแกเมื่อก่อนมาหาเรื่อง แกกำจัดไปเลย ไม่จำเป็นต้องร้อนรนขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อว่าตระกูลพงศ์ธนธดาของเราจะสู้คนต่างถิ่นไม่ได้
“เรื่องงานแต่งลูกนอกสมรสของแกกับตระกูลธาดาวรวงศ์ได้กำหนดเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องคุยกันเรื่องนี้อีก และห้ามเกิดความผิดพลาดใดๆ ถ้าแกมีความคิดแตกต่าง ฉันแนะนำให้แกคิดใหม่ ถ้าเรื่องนี้พัง พวกเราก็ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ”
วีรดามองชลาธิปอย่างรำคาญ
“แม่ ผมไม่ได้เปลี่ยนใจอะไรเลย ความสามารถของรพีพงษ์นั้น มันเกินกว่าที่คิดไว้จริงๆ ถ้าไม่ให้ความสำคัญ พวกเราจะเสียหายหนักเลยนะ ชลาธิปเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าจะพูดโน้มน้าววีรดาไม่ได้
“พอแล้ว แม้คนที่แกพูดถึงจะเก่งกาจ แต่ก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อกลอนกับตระกูลธาดาวรวงศ์ได้ ลูกสาวนอกสมรสนั้นของแกเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรากับตระกูลธาดาวรวงศ์ ดังนั้นเธอจำเป็นต้องอยู่ที่ตระกูลธาดาวรวงศ์ เธอเป็นลูกสาวของแก ใครก็อย่าคิดจะแย่งไปได้ ถ้ามันกล้าทำอย่างที่พูดไว้ล่ะก็ ตระกูลธาดาวรวงศ์จะต้องออกหน้า เรื่องนี้แกไม่ต้องเป็นห่วง” วีรดากล่าว
เห็นว่าไม่สามารถพูดโน้มน้าววีรดาได้ ชลาธิปจึงถอนหายใจอย่างเซ็ง เขารู้ว่าคุณนายใหญ่เป็นคนดื้อดึง ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา ในเมื่อเธอคิดว่าแล้วเรื่องนี้ไม่มีผมกระทบที่สาหัส และเธอยังสงสัยว่าชลาธิปมีอุบาย จึงไม่ต้องไปคิดอะไรมากมาย
“ชั่งเถอะ ยังไงอำนาจของตระกูลพงศ์ธนธดาก็ไม่อยู่ในมือของผม ให้คุณนายใหญ่ที่ดื้อดึงคนนี้เสียเปรียบซักหน่อย ถึงเวลานั้นเธอก็จะเสียใจเอง” ชลาธิปบ่นพึมพำ
“เอ้อ คุณชายของตระกูลธาดาวรวงศ์กลับมาจากเมืองนอกแล้ว ฉันวางแผนว่าอีกสองสามวันจะจัดให้ลูกนอกสมรสของแกเจอหน้ากับเขา ต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้ ต้องให้ทุกคนรู้ว่าตระกูลพงศ์ธนธดากำลังจะดองกับตระกูลธาดาวรวงศ์ ดังนั้นการเจอกันครั้งนี้ต้องจัดงานเลี้ยงขึ้นมา เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่แกแล้วกัน จำไว้ อย่าให้เสียหน้า” วีรดากล่าว
ชลาธิปพยักหน้าให้วีรดา แล้วกล่าว “ครับ”
“โอเคล่ะ แกกลับไปก่อน เรื่องที่แกพูดมานั้น แกหาวิธีแก้เองไปก่อน ถ้าจัดการไม่ได้ก็เอาชื่อของตระกูลธาดาวรวงศ์บีบมัน เพียงแค่มันรู้ถึงตำแหน่งของตระกูลธาดาวรวงศ์ จะต้องถอยไปเองแน่นอน” วีรดาโบกมือให้ชลาธิป
ชลาธิปบึนปาก คิดในใจว่าตระกูลธาดาวรวงศ์ไม่อยู่ในสายตาของรพีพงษ์แม้แต่น้อย จะรู้ว่าไม่ดีแล้วจะหลบได้ไงกัน
จนถึงวันนี้เขาก็ทำได้เพียงหาวิธีแก้ไขเองแล้ว
หลังจากที่ชลาธิปออกจากคฤหาสน์ตระกูลพงศ์ธนธดาแล้วนั้น วีรดาก็ยังคงอยู่ในห้อง ไม่นาน ก็มีคนปรากฏตัวในห้อง เป็นสาวใช้คนนั้นของอารียา ขนมปัง
“คุณนายใหญ่ ไม่เจอกันหลายวัน ท่านหน้าตาสดใสขึ้นนะคะ แบบนี้ต่อไป จะต้องยิ่งอยู่ยิ่งวัยรุ่นขึ้นแน่เลย” ขนมปังยิ้มพลางกล่าว
วีรดายิ้ม แล้วกล่าว “ปากหวานเชียวนะแก อืม? หน้าแกไปโดนอะไรมา ทำไมถึงบวมขึ้นมาได้?”
หน้าของขนมปังที่ยิ้มอยู่ก็หุบในทันที แล้วเกรี้ยวกราด “อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ โดนไอ้อาการหนักคนหนึ่งตบมา”
วีรดาตกใจ แล้วโกรธ “มันเป็นใคร กล้าตบคนของตระกูลพงศ์ธนธดา อยากตายใช่ไหม”
“คุณนายใหญ่ ท่านอย่าโมโหดเลยค่ะ เรื่องนี้นายท่านจะจัดการให้หนูค่ะ ท่านอย่าเป็นกังวลใจไปเลย” ขนมปังกล่าว
“ช่วงนี้อยู่กับลูกนอกสมรสนั่นเป็นอย่างไรบ้าง เธอเชื่อฟังไหม” วีรดาถาม
“เชื่อฟัง ผู้หญิงคนนั้นโง่จะตาย น่าจะเป็นเพราะผลพวงจากความจำเสื่อม หลอกง่าย ส่วนใหญ่หนูเป็นคนตัดสินใจให้ เธอคัดค้านไม่ได้” ขนมปังพูดอย่างสะใจ
วีรดาได้ยินดีงนี้ ก็พยักหน้า นี่เป็นสิ่งที่เธออยากได้ เพียงแค่ควบคุมอารียาได้ ทุกอย่างก็จะง่ายไปหมด
“คุณนายใหญ่ วันนี้ที่ท่านเรียกหนูมา มิทราบว่ามีอะไรให้รับใช้หรอคะ?” ขนมปังถาม
“ลูกนอกสมรสนั่นน่าจะตั้งครรภ์มากกว่าสามเดือนแล้ว ชลาธิปยังอยากเก็บเด็กคนนั้นไว้ บ้าจริงๆ เขามองว่าคนของตระกูลธาดาวรวงศ์โง่ ถึงได้คิดวิธีนี้ เด็กคนนี้ เก็บไว้ไม่ได้” วีรดากล่าว
“ความหมายของคุณนายใหญ่คือ? ขนมปังตาโต
วีรดาหยิบถุงกระดาษออกมาจากในเสื้อผ้า ยื่นให้ขนมปัง แล้วกล่าว “ฉันหาคนทำยานี้โดยเฉพาะ แกหาโอกาสให้เธอกิน เด็กในครรภ์ของของเธอก็จะแท้งไป เพียงแค่กำจัดเด็กออกไปได้ ก็จะไม่มีอันตรายใดๆอีก เข้าใจไหม?”
ขนมปังยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกล่าว “รับรองสำเร็จ!”