พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่610 ทำเป็นว่าไม่รู้จักกัน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่610 ทำเป็นว่าไม่รู้จักกัน
ในลิฟต์ อารียามองไปที่รพีพงษ์อย่างทำอะไรไม่ถูก และพูดว่า: “ความเสียใจที่สุดของการเดินทางครั้งนี้ ก็คือโชคร้ายที่มาอยู่เรือสำราญลำเดียวกันกับพวกเขาสองคน คิดไม่ออกจริงๆว่าทำไมพวกเขาถึงแสดงความรู้สึกที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองมาดูแคลนพวกเรา”
“ที่สำคัญทั้งๆที่เราซื้อตั๋วเรือชั้นบนสุด พวกเขามักจะหาเหตุผลทุกอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเรามีชีวิตที่ไม่ดี”
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “เดิมทีตระกูลฉัตรมงคลในเมืองยองก็ดูถูกตระกูลฉัตรมงคลในเมืองริเวอร์ของพวกเธออยู่แล้ว ภายใต้จิตสำนึกของพวกเขา ก็รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าพวกเธอ ตอนนี้จู่ๆให้พวกเขายอมรับเธอมีชีวิตที่ดีกว่าพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาก็ยอมรับไม่ได้ ดังนั้นก็ทำได้เพียงหาเหตุผลต่างๆเพื่อสร้างสมดุลในใจให้กับตัวเอง”
“พวกเขาก็ไม่ควรมาสร้างปัญหาให้พวกเราตลอด มันน่ารำคาญจริงๆ”อารียาหงุดหงิดเล็กน้อย
“ตามที่กล่าว แมลงในหน้าร้อน(เปรียบเทียบได้กับผู้ที่เห็นโลกได้ไม่นาน) ตอนนี้ระดับของพวกเรา พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ ดังนั้นก็อย่าไปใส่ใจพวกเขาเลย ถือสาคนโง่ สุดท้ายตัวเองก็กลายเป็นคนโง่”รพีพงษ์ลูบหัวอารียา พูดด้วยรอยยิ้ม
อารียาพยักหน้า และไม่คิดเรื่องของประวีร์และนีรทั้งสองคน
เมื่อออกมาจากลิฟต์ รพีพงษ์และอารียาเห็นประตูที่บรรยากาศหรูหราหนึ่งบาน ที่นี่มีเพียงประตูบานเดียว เพื่อนน้ำพุร้อนคนนั้นของอารียาก็น่าจะอยู่ในด้าน
ก่อนที่จะเข้าไป อารียาหันหน้าไปมองรพีพงษ์ พูดอย่างจริงจัง: “บอกไว้ก่อนเลย นายห้ามคิดอะไรเกินเลยกับหล่อน หล่อนสวยมากจริงๆ สวยจนถึงขั้นที่ผู้ชายจะชอบได้ คนอื่นชอบหล่อนได้ แต่นายไม่ได้ จำไว้หรือยัง”
รพีพงษ์อดหัวเราะไม่ได้ คาดไม่ถึงอารียาจะจริงจังกับเรื่องนี้ขนาดนี้ กำชับย้ำกับเขาหลายครั้งแล้ว
“รู้แล้วรู้แล้วน่า เธอไม่เชื่อใจฉันเลยเหรอ ใจของฉันใหญ่แค่นี้ มีเธอคนเดียวไม่มีที่ว่างแล้ว มีคนอื่นไม่ได้แล้ว”รพีพงษ์
กำชับรพีพงษ์เสร็จ อารียาก็เดินไปที่ประตูห้องวีไอพี เคาะประตูแล้ว จากนั้นเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
ในเวลานี้มีโต๊ะขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ในห้องวีไอพี บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่วิจิตรบรรจง ท่ามกลางแสงไฟในห้องวีไอพี ดูน่าอร่อย
ในเวลานี้มีคนคนหนึ่งที่ผิวเนียนนุ่มนั่งอยู่หน้าโต๊ะ รูปลักษณ์ที่สวยงามนิ่มนวล หญิงสาวที่มีสง่าราศี
เมื่อรพีพงษ์เห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะ นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เป็นเพราะเขารู้จักหญิงสาวคนนี้ อยู่ที่เทือกเขากิสนา ฝนสุดาที่ถูกเขาข่มขู่จั๊กจี้เท้า
เขาจำได้ว่าในเวลานั้นฝนสุดยังคิดเกินเลยกับเขา ภาพที่มีต่อหญิงที่ไม่ยึดติดในเรื่องเล็กๆน้อยๆคนนี้ก็ค่อนข้างลึก
ยังไงเขาก็คาดไม่ถึง เพื่อนน้ำพุร้อนที่ภรรยาของตัวเองรู้จักมาหลายวัน จะเป็นเธอ
ในเวลานี้ฝนสุดากำลังจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างเจ้าเล่ห์ ราวกับว่ารู้ว่ารพีพงษ์จะปรากฏตัวที่นี่ และดวงตากลมโตใสนั้นยังกะพริบๆ
รพีพงษ์เดาได้ทันทีว่า ฝนสุดาตั้งแต่แรกเริ่ม ก็รู้ว่าอารียาเป็นภรรยาของตัวเอง และที่อารียารู้จักฝนสุดา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
หล่อนเป็นเพราะตัวเองถึงได้มาเกาะพระจันทร์เหรอ?
จุดประสงค์ของหล่อนคืออะไร?
ถ้าหากจำไม่ผิด ตอนนั้นรพีพงษ์บีบบังคับให้ฝนสุดาเล่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับนนทภู จากนั้นก็ยังเอาโทรศัพท์ของเธอที่เก็บรูปถ่ายที่ลับๆล่อๆที่ถ่ายเองมา ตามที่กล่าวผู้หญิงคนนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเพราะเรื่องแค่นี้ ก็มาที่ถึงเกาะพระจันทร์เพื่อแก้แค้นเขา
ทันใดนั้น รพีพงษ์ก็เต็มไปด้วยความสงสัย โดยไม่เข้าใจว่าฝนสุดาต้องการทำอะไร
เมื่ออารียาเห็นรพีพงษ์เข้ามาแล้ว ก็จ้องแต่ฝนสุดา ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไร ในใจก็โกรธขึ้นทันที ในความคิดของเธอ รพีพงษ์หลงเสน่ห์ความสวยของฝนสุดา
เธอยื่นมือออกมาทันที หยิกไปที่แขนของรพีพงษ์อย่างรุนแรง จากนั้นดึงรพีพงษ์ไปนั่งตรงข้ามฝนสุดา
“สุดา ฉันจะแนะนำให้เธอนะ คนนี้คือสามีของฉัน รพีพงษ์”อารียากล่าว
รพีพงษ์ที่ถูกอารียาหยิกเกือบจะร้องออกมา ความคิดก็ถูกดึงกลับมา ในขณะเดียวกันก็แอบถอนหายใจในใจ ผู้หญิงขี้หึงนี่มันน่ากลัวจริงๆ ตัวเองแค่เหม่อไปชั่วครู่ ก็ถูกปฏิบัติ“จริงจัง”เช่นนี้
“ว้าว อารี สามีของเธอเป็นคนมีความสามารถจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอแต่งงานกับเขา ฉันมองเห็นความสง่าราศีที่ผู้ชายอื่นไม่มีจากดวงตาของเขาได้ ฉันคิดว่าเธอต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
ฝนสุดาทำเหมือนกับว่าไม่รู้จักรพีพงษ์ พูดได้อย่างธรรมชาติมาก
“ที่ไหนล่ะ เขาก็เป็นคนโง่ เธอดูเขาสิซื่อบื้อ แม้แต่ทักทายก็ไม่รู้จัก”อารียาตอบด้วยรอยยิ้ม ในน้ำเสียงยังมีการประณามรพีพงษ์
รพีพงษ์รู้สึกอายเล็กน้อย เขาไม่ได้ทักทาย เป็นเพราะเขารู้จักหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นท่าทางของฝนสุด ดูเหมือนว่าไม่ต้องการให้อารียารู้ความจริงว่าพวกเขารู้จักกัน
ที่สำคัญรพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฝนสุดอย่างไร เกิดอธิบายไม่ชัดเจน อารียาคิดมากขึ้น มันจะยิ่งเป็นปัญหา
ดังนั้นก็ทำเป็นว่าไม่รู้จักกันก่อน รอมีโอกาสค่อยถามฝนสุด ทำไมหล่อนถึงมาที่นี่
“สะ…..สวัสดี”รพีพงษ์กล่าวกับฝนสุดาหนึ่งประโยค
ฝนสุดาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพให้รพีพงษ์ จากนั้นก็พูดคุยกับอารียาขึ้นมา โดยที่ไม่สนใจเขาเลย
อารียาก็รู้สึกโกรธเพราะการแสดงออกเมื่อกี้ของรพีพงษ์ จึงพูดคุยกับฝนสุดาตลอด หญิงสาวทั้งสองก็ไม่สนใจเขา จนทำให้เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้เพียงตั้งหน้าตั้งตาทานอาหาร
ในระหว่างการสนทนาระหว่างสองสาว รพีพงษ์พบว่าอารียาชอบเพื่อนน้ำพุร้อนอย่างฝนสุดามาก ทั้งหมดเกือบจะเพิ่มขึ้นเป็นในระดับเพื่อนรักได้
และสิ่งที่ฝนสุดาแสดงออกมานั้น ก็เหมือนกับคนรอบรู้ คุณหนูที่นิสัยดีอ่อนโยน ถ้าไม่รู้ว่าคุณหนูฝนสุดาคนนี้เป็นคนเอาแต่ใจ ตอนนั้นเห็นว่าเขาต่อสู้เก่ง ก็นำตัวเขาไปที่ห้องของตัวเอง ตอนนี้เกรงว่ารพีพงษ์ก็คงถูกฝนสุดาหลอกไปด้วย
ยิ่งเขานึกไม่ออกว่าฝนสุดมาที่เกาะพระจันทร์ทำไม เดาว่ามันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่สายตาของฝนสุดาบอกเขาว่า หล่อนรู้ว่าตัวเองเป็นสามีอารียา
ผ่านมาไม่นาน เป็นเพราะทานของดื่มน้ำอยู่ตลอด รพีพงษ์อยากไปเข้าห้องน้ำ จึงพูดกับสองสาว แล้วลุกขึ้นออกจากห้องวีไอพี
ฝนสุดาพูดคุยกับอารียาอีกสองประโยค จากนั้นเอ่ยปากว่า: “อารี ฉันก็จะไปเข้าห้องน้ำด้วย เธอทานอาหารไปก่อน เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็ออกไปจากห้องวีไอพี
รพีพงษ์เข้าห้องน้ำเสร็จ เดินออกจากด้านใน หลังจากล้างมือแล้ว กำลังจะหันกลับไป ฝนสุดาที่รูปร่างดีจ้องมองมาที่เขาอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณชายรพีพงษ์ของฉัน ไม่รู้นายคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?”