พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่636 ฉันจะรับมันไว้เอง
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่636 ฉันจะรับมันไว้เอง
บทที่636 ฉันจะรับมันไว้เอง
เมืองเกียวโต คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์
รพีพงษ์เข้าไปในห้อง อารียาเอามือถือของตัวเองวางลง ด้วยใบหน้าซูบผอม เต็มไปด้วยรอยน้ำตา แต่ตอนนี้ใบหน้าของอารียาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด
เพราะเมื่อกี๊เธอได้รับสายของรพีพงษ์ คนที่ทุกคนเห็นว่าได้เสียชีวิตไปแล้ว สามีของเธอ วันนี้ยังคงมีชีวิตอยู่บนโลก
หรือพูดอีกอย่างคือ ตั้งแต่เริ่มแรก อารียาก็เชื่อว่า รพีพงษ์ไม่มีทางเสียชีวิตง่ายๆแน่นอน
แม้ทุกคนมีท่าทีโศกเศร้าต่อเรื่องนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ตระกูลลัดดาวัลย์เต็มไปด้วยความหม่นหมอง แม้แต่อารียาเองบางครั้งก็คิดว่า ตัวเองกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า
เพื่อลืมความรู้สึกนี้ อารียาจึงเลือกที่จะทำให้ตัวเองยุ่งเข้าไว้ เพียงแค่เธอเชื่อมั่น ว่ารพีพงษ์ยังไม่ตาย เวลาที่เหลือก็ต้องยุ่งเข้าไว้ แบบนี้เธอก็จะไม่เจ็บปวดขนาดนั้นแล้ว
ด้วยเหตุผลที่เธอจึงออกจากเมืองริเวอร์แล้วมาเมืองเกียวโต เพื่อรับงานส่วนใหญ่จากตระกูลลัดดาวัลย์
วันที่สองที่อารียามาถึง ข่าวลือที่ว่ารพีพงษ์ตายไปแล้วนั้นได้ถูกลือกันจนทั่วเมืองเกียวโต ความจริงเรื่องนี้มีเพียงอารียาและคนที่ส่งอารียากลับมาเท่านั้นที่รู้ คนที่กระจายข่าว ไม่ต้องพูดถึง ก็คือคนที่ลงมือต่อรพีพงษ์กระจายข่าวเพื่อทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์ล้ม
ตอนนั้นที่ตระกูลลัดดาวัลย์ได้รับข่าว ก็รู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย ท่านคทาก็โทรหารพีพงษ์กันให้วุ่น แต่ทว่าก็โทรไม่ติดเลยสักครั้ง
นี่ยิ่งทำให้คนเชื่อว่าข่าวนี้เป็นความจริง และภายในตระกูลลัดดาวัลย์ก็มัปัญหาเกิดขึ้น มีคนจำนวนไม่น้อยคิดจะออกจากตระกูลลัดดาวัลย์
ไม่ว่าตอนไหน ที่ไม่มีผู้นำ ล้วนเป็นจุดจบของตระกูล แค่ท่านคทาคนเดียว ก็ไม่สามารถควบคุมคนที่หวาดหวั่นจากการจากไปของรพีพงษ์ได้แล้ว บางคนถึงขั้นจะขอแบ่งทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์เพื่อปกป้องตัวเอง
ดีที่อารียามาทัน กดความหวาดหวั่นภายในของตระกูลลัดดาวัลย์ไว้ได้
ถ้าแค่กำลังของอารียาคนเดียว กดความผวาของตระกูลลัดดาวัลย์ไว้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน คนที่มาเมืองเกียวโตพร้อมกับเธอ คือธฤตญาณ เธียรวิชญ์ ไตรทศและเหล่าสหายต่างๆของรพีพงษ์
จารุณีได้ใช้ความสามารถของธีรศานติ์แห่งหอการค้าสมอ. และที่สำคัญ นนทภูให้ดัมพ์รงค์และอีกสามลำดับของเทพสงคราม มาที่เมืองเกียวโต
มีพลังของดัมพ์รงค์และอีกสามลำดับเทพสงครามอยู่ บอกกับความช่วยเหลือของธฤตญาณและเธียรวิชญ์ วันแรกที่อารียามาถึงเกียวโต ได้ใช้อุบาย กดปัญหาต่างๆของตระกูลลัดดาวัลย์ไว้ได้
แล้วพวกคนเหล่านั้นที่จะแบ่งทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานนี้ ก็ตายด้วยน้ำมือของดัมพ์รงค์
หลังจากที่คนของตระกูลลัดดาวัลย์ได้เห็นดัมพ์รงค์สามคนฆ่าคนด้วยตัวเองแล้วนั้น ก็เริ่มเงียบลง ไม่มีใครกล้าพูดข่มขู่ความปลอดภัยใดๆของตระกูลลัดดาวัลย์อีกเลย
จากความช่วยเหลือของท่านคทาที่มีต่ออารียา จึงได้สานต่องานเล็กแล้วงานใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ได้อย่างรวดเร็ว และด้วยประสบการณ์ที่เคยดูแลบริษัทตระกูลฉัตรมงคลในตอนนั้น จึงทำให้อารียาจัดการเรื่องของตระกูลลัดดาวัลย์อย่างราบรื่น
เรื่องต่างๆไม่มีความแตกต่างกันมาก จะมีก็แค่สิ่งที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ที่มหาศาลเท่านั้นเอง
อารียาพูดกับคนของตระกูลลัดดาวัลย์ว่ารพีพงษ์ยังไม่ตาย เขาก็กลับมาในเร็ววันนี้ ให้ทุกคนวางใจได้
คนของตระกูลลัดดาวัลย์ได้เห็นความสามารถของอารียาแล้ว ก็สงบนิ่งลง
แต่ที่อารียาพาดัมพย์รงค์และคนอื่นมากดเรื่องภายในของตระกูลลัดดาวัลย์ไว้นั้น แต่ข่าวลือภายนอกของตระกูลลัดดาวัลย์นั้น ไม่มีทางควบคุมได้
คนทั้งเมืองเกียวโตล้วนรับรู้ว่ารพีพงษ์ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตระกูลที่มีความสามารถเหล่านั้นที่เคยมีประติสัมพันธ์กับตระกูลลัดดาวัลย์ ก็เริ่มถมึงทึง และบางพวกที่ต่างคนต่างอยู่กับตระกูลลัดดาวัลย์ก็เริ่มลุกฮือขึ้นมา เพราะตระกูลลัดดาวัลย์ใหญ่ขนาดนี้ ใครก็ก็อยากได้
ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีตระกูลที่มีความสามารถจำนวนไม่น้อยเริ่มหยั่งเชิงตระกูลลัดดาวัลย์
และหอการค้าสมน.ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลลัดดาวัลย์ก็เริ่มไม่ค่อยสู้ดี นนทภูที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลลัดดาวัลย์ได้เสนอตัวสนับสนุน แต่หอการค้าสมน.ไม่มี
เพื่อไม่ให้ตระกูลนิธิวรสกุลลงมือต่อตระกูลลัดดาวัลย์ นนทภูได้เอากำลังส่วนใหญ่ของเทือกเขากิสนาต่อกลอนกับด้านบนของตระกูลนิธิวรสกุล และแยกออกจากกำลังนั้น ก็แค่พอสำหรับปกป้องตระกูลลัดดาวัลย์เท่านั้น
แต่ดีที่รพีพงษ์ส่งสารมาเสียที ทำให้อารียามั่นใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่รพีพงษ์ไม่เป็นไร ไม่ว่าตอนนี้ตระกูลลัดดาวัลย์จะเจออุปสรรคมากมายเพียงไร สำหรับอารียาแล้วก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่
แน่นอนว่าตอนนี้เธอไม่สามารถบอกข่าวที่ว่ารพีพงษ์ยังมีชีวิตอยู่ให้กับคนอื่นรู้ได้ ถ้าตระกูลนิธิวรสกุลรู้ว่ารพีพงษ์ยังมีชีวิตอยู่ เกรงว่าอนันยชจะมาเมืองเกียวโต ถึงเวลานั้นตระกูลลัดดาวัลย์จะต้องจบสิ้นแล้วจริงๆ
ในช่วงที่ความสามารถของรพีพงษ์ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกลอนกับอันันยชได้นั้น เรื่องนี้ จะมีเพียงอารียาเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นช่วงนี้ตระกูลลัดดาวัลย์จึงทำได้เพียงนิ่งเงียบเข้าไว้
รพีพงษ์เล่าช่วงเวลาที่ผ่านมาว่าตนพบเจอกับอะไรบ้างให้อารียาฟัง แล้วได้บอกถึงแผนการต่อไปให้เธอฟัง อารียาได้ยินถึงภยันตราย ก็รู้สึกเหนื่อยแทนรพีพงษ์ และขอบใจฝนสุดาด้วย
เธอไม่โทษรพีพงษ์ที่กลับมาในตอนนี้ไม่ได้ เพราะเพียงแค่รพีพงษ์มีกำลังเพียงพอ จึงจะสามารถทำลายสิ่งที่พวกเขาเจออยู่ได้
เช็ดน้ำตา แล้วอารียาก็ยืนขึ้นจากโต๊ะ บิดขี้เกียจ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“รพีพงษ์ คุณเพิ่มพลังไปเลย ก่อนที่คุณจะกลับมา ภาระของตระกูลลัดดาวัลย์ ฉันจะรับมันไว้เอง!”
พูดกับตัวเองจบ อารียาก็เดินออกจากห้องไป
ขณะเดียวกันนี้ศักดาและชนิสรากำลังพูดคุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้อารียากินข้าว เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์ แล้วยังต้องคิดมาก ถ้าสารอาหารไม่เพียงพอ จะกระทบกับร่างกายได้
การมาเมืองเกียวโตในครั้งนี้ พวกเขาทั้งคู่ก็โดนพามาด้วย ศศินัดดาไม่มีสิทธิ์มา และตอนนี้ ศักดาไม่อยากเห็นศศินัดดาแม้แต่วินาทีเดียว
ประตูห้องถูกเปิดออก อารียาเดินออกมาจากข้างใน ด้วยอารมณ์ดี
เธอเห็นศักดาและชนิสราทั้งสอง ก็รีบยิ้มออกมาแล้วกล่าว “พ่อ หนูหิวแล้ว ทำอะไรให้หนูกินหน่อย หุงข้าวเยอะๆ ตอนนี้หนูมีสองคน ถ้ากินน้อย เด็กน้อยที่อยู่ในท้องอาจไม่พอใจได้”
“วันนั้นหนูเห็นดอกไม้ในสวนเริ่มบานแล้ว หนูไปรดน้ำก่อนนะ พ่อทำกับข้าวไปก่อน ทำเสร็จแล้วเรียกหนูนะ”
พูดจบ อารียาเดินไปที่สวนอย่างมีความสุข
ชนิสราและศักดาทั้งสองชะงัก ช่วงที่ผ่านมาอารียาล้วนโศกเศร้า นี่เป็นครั้งแรกที่ยิ้มออก
“วันนี้ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วหรอ?” ศักดากล่าว
“อาจเพราะคิดได้แล้วมั้ง เพราะตอนนี้เธอไม่ได้มีแค่คนเดียว ในท้องยังมีอีกคน ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ต้องรับผิดชอบต่อเด็กในท้อง เฮ้อ เสียดายรพีพงษ์ คนดี” ชนิสราถอนหายใจ
“พอล่ะ พูดไปก็เท่านั้น ถ้าอารียาได้ยินเข้า ก็จะหุบยิ้มลงอีก รีบไปทำอาหารเถอะ ทำอาหารที่มีสารอาหารมากๆ” ศักดากล่าว
ชนิสราพยักหน้า แล้วเดินไปที่ห้องครัว
……
เมืองปากซำ
หลังจากที่โทรเสร็จ รพีพงษ์ก็ผ่อนคลายลง หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปัจจุบันของเมืองเกียวโตแล้วนั้น รพีพงษ์ก็ไม่ซีเรียสแล้วแต่อย่างใด
ตั้งแต่รู้ข่าวของรพีพงษ์ตระกูลลัดดาวัลย์ก็วุ่นวาย แต่ดีที่มีดัมพ์รงค์อยู่ และได้รับการสนับสนุนจากนนทภู อย่างน้อยในช่วงนี้ ตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะไม่เกิดปัญหาใดๆขึ้น
เพียงแค่อนันยชไม่ไปมาเมืองเกียวโตด้วยตัวเอง มีดัมพ์รงค์ทั้งสามคุ้มกันอยู่ จึงไม่ต้องเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของอารียา
รพีพงษ์ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆจากปากของอารียาแล้ว หลังจากที่อนันยชได้จัดการเขาแล้วนั้น ก็ได้ออกไปจากเมืองเกียวโต กลับไปอเมริกา
“จากนี้ ต้องรีบรักษาบาดแผลให้หาย จากนั้นก็ไปหาอาจารย์ ทำความเข้าใจถึงความสามารถที่แท้จริงของอนันยช ว่าทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนั้น”
“ไม่เจอกันหลายปี ก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ผู้เฒ่าท่านนั้นจะสั่งสอนตนหรือเปล่า เพราะตอนนั้นเป็นความดื้อรั้นของฉันเองที่จะไป ถ้าตอนนั้นฟังคำพูดของอาจารย์ผู้เฒ่าล่ะก็ ตอนที่เผชิญหน้ากับอนันยช ก็ไม่น่าจะไม่มีแรงแบบนั้น”
หลังจากพึมพำกับตัวเอง รพีพงษ์ก็ยืนขึ้น แล้วสะบัดตูด เดินไปที่บ้านของดาณิมา