พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่668 บูชาต่างชาติ
บทที่668 บูชาต่างชาติ
ฑวัตอละเดซี่ทั้งคู่หันไปมองรพีพงษ์ เห็นการแต่งกายของรพีพงษ์ บวกกับในมือถือผ้ากันเปื้อน ก็ชัดเจนว่าคนด้านหน้านี่แหละคือรพีพงษ์
แต่ฑวัตไม่ได้พูดออกมาโดยตรง แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วกล่าว “ผมเอง ทำไมหรอ ดูจากลักษณะของคุณ น่าจะเป็นเด็กหลังร้านล้างจานสินะ มีปัญหาให้ผู้จัดการมา คุณมาหาผมไม่เหมาะสม”
เดซี่ปิดจมูกตัวเอง แล้วกล่าวอย่างรังเกียจว่า “เหม็นชะมัด ผู้ชายในประเทศชั่งน่ารังเกียจจริงๆ คุณรีบไปเถอะ ฉันจะรับไม่ไหวแล้ว”
รพีพงษ์ไม่โมโห ยิ้มกับฑวัต แล้วกล่าว “ผมคือรพีพงษ์ สามีของอารียา”
ฑวัตทำท่าทางตื่นตกใจ แล้วกล่าวต่อรพีพงษ์ว่า “คุณคือรพีพงษ์หรอ ขอโทษนะ ถ้าคุณไม่บอกผมคิดว่าเป็นพนักงานล้างจานหลังร้านเสียอีก”
รพีพงษ์รู้สึกได้ถึงความจอมปลอมของเขา คิดในใจว่าเพื่อนคนนี้ของอารียามาร้าย แต่เขาเพิ่งมีลูกสาว ยังมีความสุขอยู่ จึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา
“ผมเพิ่งทำอาหารที่บ้านเสร็จ อารีให้ผมมาต้อนรับคุณ ผมทำตัวสบายๆจนชิน หวังว่าพวกคุณจะไม่แคร์” รพีพงษ์กล่าว
“ทำตัวสบายจนเคยชิน ผมว่าตอนคุณอยู่บ้านนอกจากล้างจานทำอาหาร ก็ไม่มีอะไรทำแล้ว บอกว่ามีเกียรติสง่าผ่าเผย ชั่งหน้าไม่อายจริงๆ” เดซี่พึมพำ
ฑวัตยิ้ม แล้วกล่าว “นี่คือแฟนของผม ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศจนเคยชิน พูดตรงๆ คุณอย่าเก็บไปใส่ใจ”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วไม่ได้พูดอะไร
“พวกเราเพิ่งสั่งอาหาร ยังไม่ได้ทาน เป็นไรเช่นไหมถ้าคุณจะนั่งรออยู่ตรงนี้?” ฑวัตถาม
“ไม่เป็นไร พวกคุณกินไปก่อน ผมได้จัดโรงแรมให้พวกคุณแล้ว”
รพีพงษ์กล่าว “ผมไปลากเก้าอี้ทางมาจากนู้นแป๊ปนะ”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่พนักงาน
ฑวัตกล่าวอย่างเหยียดหยามทันใดว่า “กระจอกจริงๆ ที่แบบนี้ไม่ให้เพิ่มเก้าอี้หรอกนะ นอกจากเขาจะกินข้าวที่นี่ ดูๆแล้วข่าวลือที่ว่าแฟนของอารียาคือไอ้สวะ นั่นเป็นความจริง”
“คนแบบมัน ชาตินี้ก็ไม่มีทางมากินข้าวที่นี่ได้หรอก อย่าไปสนใจ ดูว่ามันจะเสียหน้ายังไง” เดซี่มองรพีพงษ์ แล้วกล่าว
รพีพงษ์เดินไปตรงหน้าของพนักงาน แล้วกล่าว “ช่วยเอาเก้าอี้มาให้ผมหน่อย วางโต๊ะนั้น”
“คุณผู้ชาย……ที่นี่……คุณ……คุณคือคุณรพี!” พนักงานคนนั้นตาโตทันทีที่เห็น
ในวงการอาหารตระกูลลัดดาวัลย์ถือว่าใหญ่ที่สุด ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโดยทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีหุ้นของตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ด้วย ร้านอาหารบลูดรีมนี้ก็ไม่ต่างกัน และชื่อเสียงของรพีพงษ์ไม่มีใครไม่รู้จัก ที่พนักงานคนนี้รู้จักรพีพงษ์ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
รพีพงษ์เพียงแค่พยักหน้าให้เขา ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องเสียงดัง หยิบเก้าอี้มาก็พอ
พนักงานรีบพยักหน้า แล้วไปหยิบเก้าอี้ให้รพีพงษ์
รพีพงษ์เดินกลับไปที่โต๊ะของฑวัตและเดซี่ ทั้งสองคิดว่าพนักงานไม่สนใจเขา ฑวัตจึงพูดว่า “ผมลืมบอกคุณไป ว่าที่นี่……”
เขายังไม่ทันพูดจบ พนักงานก็นำเก้าอี้มาวางไว้ ด้วยความยินดีแล้วกล่าว “คุณรพี เก้าอี้ของคุณ”
รพีพงษ์พยักหน้า นั่งลงข้างๆทั้งคู่
ฑวัตอับอาย เพิ่งพูดออกไปแต่ต้องหุบปากเสียแล้ว
“เมื่อกี๊คุณพูดว่าอะไรนะ?” รพีพงษ์จ้องไปที่ฑวัตแล้วถาม
“ไม่ ไม่มีอะไร” ฑวัตกล่าว
“ผีหลอกแล้วจริงๆ ดวงดีจริงๆนะ เจอพนักงานที่อารมณ์ดีขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่น ไล่เขาออกไปนานแล้ว” เดซี่พึมพำ
ฑวัตอะแห่ม ไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องนี้อีก แต่จ้องไปที่รพีพงษ์แล้วถาม “ตอนนี้พวกคุณลงหลักปักฐานที่เกียวโตแล้ว? ทำงานที่เกียวโตแล้ว?”
“ไม่ถึงขนาดนั้น พอดีที่เกียวโตมีปัญหานิดหน่อย ตรงกับคลอดลูก จึงไม่ได้กลับไป อารีเพิ่งจะคลอดลูก ผมอยากดูแลเธอให้ดี จึงไม่ได้ทำอะไร” รพีพงษ์ตอบ
ฑวัตพยักหน้า เขามองว่า รพีพงษ์ไม่มีความสามารถลงหลักปักฐานที่เกียวโตได้ ราคาบ้านที่นี่แพงจนน่าตกใจ ทะเบียนบ้านก็ทำยาก คนธรรมดาไม่ง่ายที่จะลงหลักปักฐานที่เกียวโต
“ก็ใช่ อยากลงหลักปักฐานที่เกียวโตค่อนข้างลำบาก” ฑวัตกล่าว
“ได้ยินอารีบอกว่า พวกคุณกลับมาจากต่างประเทศ” รพีพงษ์ถาม
พูดถึงเรื่องนี้ เขาทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมา ท่าทีภูมิใจ ราวกับว่าการที่กลับมาจากต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่นน่าโอ้อวดอย่างมาก
“ครั้งนี้ที่วัดกลับมา จะมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เอ็กเซลเลนซ์เน็ตเวิร์คเทคโนโลยี จำกัด เก็บเกี่ยวประสบการณ์ สองปีข้างหน้าค่อนกลับอเมริกา แล้วฉันก็จะแต่งงานกับเขา ให้สัญชาติกับเขา จากนั้นค่อยกลับมา” เดซี่กล่าว
“หรอ? อยู่ในประเทศไม่ดีหรอ ทำไมต้องกลับไปล่ะ?” รพีพงษ์ถาม รพีพงษ์มองว่า ปัจจุบันนี้ประเทศก็พัฒนาไปไม่น้อยกว่าต่างประเทศเลย ในฐานะที่เป็นคนจีน ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศถึงจะถูก
เดซี่บึนปาก ด้วยความไม่พอใจ แล้วกล่าว “คืองี้ หลังจากที่กลับมาแล้ว ฉันรู้สึกหายใจไม่คล่อง อากาศต่างประเทศสดชื่นกว่า แล้วคนที่นั่นก้ดีกว่าคนในประเทศไม่รู้กี่เท่า ถ้าไม่ใช่เพราะให้วัดกลับมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ฉันก็ไม่มีทางกลับมาหรอก”
ได้ยินคำพูดนี้ของเดซี่ รพีพงษ์ก็รู็สึกเหยียดหยาม ไม่คิดว่าคนนี้จะบูชาคนต่างชาติได้ขนาดนี้
“เดซี่พูดไม่ผิด คุณไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่รู้จักโลกภายนอก ในประเทศเทียบกับต่างประเทศไม่ได้ คุณก็ต้องขยัน……ชั่งเถอะ พูดเรื่องนี้กับคุณก็ไม่มีประโยชน์” ฑวัตเหยียดหยามรพีพงษ์
รพีพงษ์หัวเราะเหอะเหอะ เขารู้เรื่องต่างประเทศเป็นอย่างดี เพียงแค่เมื่ออยู่จุดเดียวกับเขาแล้ว เขาก็ต้องคิดว่าประเทศของตัวเองดี เขาก็ไม่เข้าใจว่าพวกที่บูชาต่างชาตินั้นคิดอะไรอยู่
“เอ็กเซลเลนซ์คือกิจการของครอบครัวเดซี่ ผมรู้ว่าคุณหางานทำยาก ถ้าคุณอยากเป็นยามเฝ้าประตูหรือพนักงานทำความสะอาดของเอ็กเซลเลนซ์ บอกผมได้นะ รับรองว่าเงินเดือนไม่น้อย แค่พูดก็ได้แล้ว” ฑวัตกล่าวอย่างสะใจ
รพีพงษ์บึนปาก เขาดูออกว่าสองคนนี้มาเพื่อโอ้อวด ไม่ได้ต้องการการรับรองแต่อย่างใด ในเมื่อครอบครัวก็เปิดบริษัทอยู่ที่เกียวโต แล้วจะหาที่พักที่เกียวโตไม่เจอเลยหรอ
ไตร่ตรองสักครู่ รพีพงษ์คิดว่าต้องไม่ทำให้อารียาอับอาย ดูออกชัดเจนว่าเพื่อนชายของเธอรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ อยากจะโอ้อวดต่อหน้าอารียา เพื่ออยากมีตัวตน เขาในฐานะที่เป็นสามีของอารียาจะทำให้อารียาขายหน้าไม่ได้เป็นอันขาด
เขาจึงเงยหน้า ยิ้มพลางกล่าว “ถ้าผมจำไม่ผิด ช่วงนี้เอ็กเซลเลนซ์กำลังพยายามหาทางร่วมมือกับอินเตอร์เน็ตของประเทศ HXกรุ๊ป ถ้าพวกคุณประสบปัญหาอะไร บอกผมได้ ผมจะช่วยพวกคุณ”
HXกรุ๊ป เป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตที่ตระกูลลัดดาวัลย์สร้างขึ้นมาพอดี ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตยิ่งอยู่ยิ่งพัฒนา ตระกูลลัดดาวัลย์จะไม่มีส่วนร่วมได้ไงกัน
วันนั้นตอนที่ได้พูดคุยกับเธีบรวิชญ์ รพีพงษ์บังเอิญได้ยินเขาพูดเกี่ยวกับเอ็กเซลเลนซ์อยู่บ้าง
ปัจจุบันเธียรวิชญ์เป็นผู้รับผิดชอบหลักในส่วนของกิจการอินเตอร์เน็ตของตระกูลลัดดาวัลย์
ถ้าต่างประเทศดีจริง ทำไมเอ็กเซลเลนซ์ประจบสอพลอHXกรุ๊ปได้ ถ้าจำเป็นจริงๆ รพีพงษ์จะสั่งสอนฑวัตและเดซี่สักครั้ง