พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่674 ศศินัดดาผู้โชคร้าย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่674 ศศินัดดาผู้โชคร้าย
บทที่674 ศศินัดดาผู้โชคร้าย
ในห้องรับรองหนึ่งของร้านอาหาร
ชลาคมและคนที่เหลือของตระกูลนฤวัตปกรณ์ตระกูลวรโชติธีรธรรมล้วนนั่งอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่นี่ ศศินัดดายืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน ด้วยจิตใจที่กระวนกระวาย
“ลูกพี่ทั้งหลาย พวกคุณจะทำอะไรกันแน่ ฉันอายุก็ปูนนี้แล้ว ถ้าจะทำอนาจาร ก็ไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเงินๆทองๆด้วยแล้ว เมื่อกี๊เด็กนั่นก็เห็นอยู่แล้ว ฉันมีทั้งเนื้อทั้งตัวแค่ห้าหยวน แล้วยังถูกพนักงานคนนั้นเอาไปแล้วด้วย ฉันก็แค่คนจนๆ ให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่งั้นคุณปล่อยฉันไปดีไหม” ศศินัดดาพูดกับคนกลุ่มนั้น
ทุกคนล้วนยิ้มดูแคลน ดูออกว่าไม่ได้อยากจะปล่อยศศินัดดาไปอยู่แล้ว
“พวกแก……พวกแกคงไม่ใช่พวกค้ามนุษย์หรอกนะ!” ศศินัดดาตาโตขึ้นมา คิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้เธอได้ยินข่าวฆ่ามนุษย์ตัดอวัยวะทิ้งแล้วขาย
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหงื่อของเธอก็ไหลออกมา เริ่มรู้สึกเสียใจไม่น่าทำเพื่ออาหารมื้อเดียวแล้วตกลงมาที่ห้องรับรองกับคนที่ไม่รู้จักเลย
ชลาคมยิ้มดูแคลน แล้วมองไปที่ศศินัดดาอย่างอำมหิต ถ้าคนทั่วไปเห็น ก็จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
เขาจ้องศศินัดดา แล้วถามอย่างเยือกเย็นว่า “คุณมั่นใจว่าคุณเป็นแม่ยายของรพีพงษ์”
ดวงตาของศศินัดดาเป็นประกาย แล้วกล่าว “ใช่ ฉันคือแม่ยายของรพีพงษ์ ถ้าไม่เชื่อพวกคุณพาฉันไปที่ตระกูลลัดดาวัลย์แล้วถามดู แล้วถ้าพวกเธอพาฉันไป ไม่ว่าอยากได้อะไรจากรพีพงษ์ เขาก็จะให้พวกคุณทั้งหมด”
ในตอนนี้ เธอทำได้เพียงใช้ชื่อของรพีพงษ์ ตอนนี้เธอหวังแค่ให้คนเหล่านี้กลัวรพีพงษ์บ้าง มิเช่นนั้น ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะต้องเจอกับเรื่องร้ายๆอะไรบ้าง
ชลาคมไม่ได้ถามศศินัดดาต่อ แล้วหันไปถามคนที่อยู่ข้างๆที่กำลังหยิบมือถืออยู่ “หาเจอหรือยัง ว่าแม่ยายของรพีพงษ์ ใช่คนนี้หรือเปล่า?”
คนนั้นจ้องที่มือถืออยู่สักพัก จากนั้นก็ยืนขึ้น แล้วกล่าว “หาเจอแล้ว แม่ยายของรพีพงษ์ชื่อศศินัดดา บนเว็บมีรูป คล้ายกับหญิงคนนี้จริงๆ”
ชลาคมรับมือถือของคนนั้นมา แล้วดู จากนั้นก็เทียบกับศศินัดดา พบว่าเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ
“ดูๆแล้วน่าจะเป็นความจริง ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์มันก็รุนแรงเหมือนกันนะ ปล่อยให้แม่ยายใช้ชีวิตแบบนี้ ที่แท้ไอ้นี่มันก็ไม่ได้เรื่อง” ชลาคมกล่าว
ศศินัดดาเห็นทุกคนเช็คตัวตนของเธอ ก็รีบอธิบายว่า “ความจริงรพีพงษ์ดีกับฉันมาก แต่ฉันเองที่ใช้เงินไม่เป็น ใช้มันจนหมด รพีพงษ์ดีกับฉันมาก ถ้าเขารู้ว่าตอนนี้ฉันเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้อยู่ ต้องเอาเงินมาให้ฉันแน่นอน”
เธอพูดแบบนี้ เพื่อทำให้คนเหล่านั้นรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและรพีพงษ์ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ง่ายต่อการยืมชื่อรพีพงษ์จัดการปัญหาที่เกียวโตนี้
“คุณแน่ใจ?” ชลาคมถามต่อ
ศศินัดดารีบพยักหน้า รู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีความหวังขึ้น หลังจากที่คนเหล่านี้ได้ยืนยันตัวตนแม่ยายของรพีพงษ์แล้วนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เธอต้องลำบากใจอีก
แต่ทว่าในขณะเดียวกันนี้เอง ชลาคมยกมือขึ้น แล้วตบไปที่หน้าของศศินัดดา
“เย็ดแม่ กูจะตบคนที่เกี่ยวข้องกับรพีพงษ์ ในเมื่อมึงคือแม่ยายของรพีพงษ์ นั่นก็ยิ่งปล่อยแกไปไม่ได้เข้าไปใหญ่!”
ศศินัดดามึนงง เธอมองว่า หลังจากที่คนเหล่านี้รู้ตัวตนของเธอแล้ว ต้องรีบขอโทษถึงจะถูก ทำไมถึงลงไม้ลงมือกันได้ล่ะ?
“ทำ……ทำไม? พวกแกไม่กลัวทำผิดต่อรพีพงษ์หรือไง? ศศินัดดาถาม
“ทำผิดต่อมัน? ก็เพราะมัน กูถึงได้หมดสิ้นทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตกูก็ไม่อยากได้แล้ว แล้วยังกลัวทำผิดต่อรพีพงษ์อีกงั้นหรอ? ตอนนี้กูไม่ชอบทุกคนที่เกี่ยวข้องกับรพีพงษ์ วันนี้ถือว่าแกโชคร้าย พวกเราทั้งหลาย จะระบายอารมณ์กับแกล่ะกัน!” ชลาคมตะคอกอย่างตื่นตัว
ทุกคนในห้องรับรองได้ถูกชลาคมฉุดอารมณ์ขึ้นมา ต่างคนต่างโมโหเกรี้ยวกราด
“พูดถูก ถ้าไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ ตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมของกูจะถึงจุดนี้ได้ไงกัน พวกกูเอาชนะรพีพงษ์ไม่ได้ แล้วยังตีแม่ยายของรพีพงษ์ไม่ได้อีกหรอ? สหาย รุม ระบายอารมณ์กับไอ้หญิงแก่นี่ซะ!”
คนหนึ่งพูดจบ ก็ถีบศศินัดดา
คนที่เหลือก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ก็ต่อยไปที่ศศินัดดาอย่างรุนแรง
ศศินัดดาคนใบ้กินอึ่งโน้ย ขมแต่พูดไม่ออกยังไงเธอก็ไม่คาดคิด ว่าตัวเองจะพบกับศัตรูของรพีพงษ์ ถ้ารู้ว่าเป็นงี้ เธอไม่มีทางเอารพีพงษ์มาเป็นข้ออ้างโดยเด็ดขาด
“รพีพงษ์ไอ้เลว แกมันไอ้ตัวซวย มันไม่เคยให้โชคอะไรกับฉันเลย ควรตายจริงๆ ทำกูโดนเล่นงานอีกแล้ว แค้นนี้ กูจะหาโอกาสล้างแค้นให้ได้!” ศศินัดดาตะโกนออกมาด้วยความอาฆาต
พวกของชลาคมตบไปที่ศศินัดดาอย่างไม่หยุดยั้ง ระบายอารมณ์โกรธแค้นออกมา ด้วยความสามารถของพวกเขาในตอนนี้ ก็ทำได้แค่ระบายอารมณ์กับศศินัดดาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดที่จะขโมยลูกของรพีพงษ์มา แต่ทว่าด้วยฝีมืออ่อนด๋อยของพวกเขาเหล่านี้ คิดที่จะขโทยลูกของรพีพงษ์ออกจากคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ยากเกินกว่าจะบรรยายได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงปล่อยไป
“หยุดก่อน ฉันกับรพีพงษ์ทะเลาะกันไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้แม้แต่ประตูของตระกูลลัดดาวัลย์เขาก็ไม่ให้ฉันเข้าไป ฉันก็เกลียดไอ้นั่นเหมือนพวกแกนั่นแหละ พวกแกหยุดเถอะ ถ้าเป็นงี้ต่อไป ฉันจะถูกพวกแกตีตายได้นะ!” ศศินัดดาขอร้อง
“หยุดหลอกพวกกูได้ล่ะ เมื่อกี๊มึงไม่ได้พูดแบบนี้หนิ วันนี้ ไม่ว่ายังไงมึงก็หนีไปไหนไม่ได้!”
ในห้องโถงด้านนอกของห้องรับรอง ชลาธิปและพวกได้นั่งอยู่บนโต๊ะ
เห็นการตกแต่งของร้านอาหาร ชลาธิปยิ้มพลางกล่าวว่า “บางครั้ง ก็เป็นที่แบบนี้ที่ทำอาหารรสชาติอร่อย”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ในขณะเดียวกันนี้เอง พวกเขาล้วนได้ยินเสียงด่าออกมาจากด้านในห้องรับรองด้าน หนึ่งในนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่ด่ารพีพงษ์ หลังจากที่ชลาธิปได้ยิน ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ในนั้นเกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันได้ยินด้านในเหมือนมีคนกำลังด่ารพีพงษ์?” ชลาธิปกล่าว
“นายใหญ่ ผมจะไปดูเดี๋ยวนี้” ชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนขึ้น คนนี้คือบอดี้การ์ดในครั้งนี้ของชลาธิป ความสามารถเก่งกาจ ยอดฝีมือยังเทียบไม่ได้
คนนั้นเข้าไปในห้องรับรองไม่นาน ก็มีเสียงเจ็บปวดดังออกมา จากนั้นก็พาศศินัดดาเดินออกมา
“นายใหญ่ ผู้คนในห้องกำลังตีหญิงคนนี้อยู่ ผมได้ถามหนึ่งในนั้น พวกมันเป็นกากเดนของศัตรูตระกูลลัดดาวัลย์เมื่อก่อน และคนนี้ คือแม่ยายของรพีพงษ์” คนนั้นตอบ
สีหน้าชลาธิปถอดสี แม่ยายของรพีพงษ์ ก็เป็นแม่เลี้ยงของอารียานะสิ ทำไมถึงโดนตีขนาดนี้?
แม้เขาไม่รู้จักแม่เลี้ยงของอารียา แต่ด้วยความที่เลี้ยงอารียามาจนเติบใหญ่ เขาก็ไม่มีทางเอาเปรียบแม่เลี้ยงของอารียาได้
“คุณคือแม่ยายของรพีพงษ์จริงๆหรอ?” ชลาธิปถามอย่างจริงจัง
ศศินัดดาที่ถูกตีจนหวาดกลัว ได้ยินคนถามคำถามนี้อีก ก็ตกใจจนพูดมั่ว จากนั้นก็รีบกล่าวว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ พวกมันจำผิดคน ฉันจะเป็นแม่ยายของรพีพงษ์ได้ไงกัน ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่รู้จักรพีพงษ์เลยแม้แต่น้อย ฉันก็แค่อ้างตัว เพื่อหลอกกินข้าวเท่านั้นเอง”