พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่696 ต่อสู้กับอนันยช
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่696 ต่อสู้กับอนันยช
ทที่696 ต่อสู้กับอนันยช
หลังจากที่อนันยชจ้องดุไปที่รพีพงษ์อยู่หลายวินาที ท่าทีประหลาดใจได้หายไป แล้วเปลี่ยนเป็นเลศนัย
“ความจริงเมื่อกี๊ในหัวของฉันนึกถึงหลายคน แต่คนเดียวที่นึกไม่ถึงคือแก ไม่คิดว่าชีวิตแกจะยืนยาวได้ขนาดนี้ ตกจากหน้าผาสูงขนาดนั้น ยังไม่ตายอีก” อนันยชยิ้มพลางกล่าว
“อาจเพราะพระเจ้ายังไม่อยากให้ฉันตายมั้ง เพราะฉันยังไม่ได้ล้างบาปตระกูลนิธิวรสกุล แล้วจะตายอย่างง่ายดายได้ไงกัน” รพีพงษ์กล่าว
อนันยชบึนปาก แล้วกล่าว “ความจริงที่แกไม่ตาย ก็ควรจะรักษาชีวิตไว้ให้ดี แกสามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ถ้าอยู่ในประเทศ เพียงแค่ฉันไม่รู้ว่าแกยังมีชีวิตอยู่ แกก็สามารถได้อย่างสงบแล้ว แต่แกกลับเลือกทางโง่เง่า”
“แกคิดว่า ตอนนี้แกยืนอยู่บนเวทีเดียวกับฉัน แล้วยังมีทางมีชีวิตอยู่รอดไปได้อีกหรอ?”
“บางทีคำพูดนี้อาจพูดกลับกันก้ได้นะ” รพีพงษ์กล่าว
อนันยชหัวเราะ แล้วกล่าว “ทำไม แกคิดว่าแกจะมีโอกาสฆ่าฉันบนเวทีนี้หรือไง?”
“ไม่ใช่มีโอกาส แต่ต้องตาย” รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“แกคิดว่าตอนนี้แกเป็นเน่ยจิ้ง แล้วจะชนะฉันได้? รพีพงษ์ จะบอกให้นะ ยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ก็มีหลายระดับ อาจารย์ของฉันเป็นระดับปรมาจารย์ แกคิดว่าด้วยฝีมือแกในตอนนี้ จะชนะฉันได้หรอ?” อนันยชถาม
“ลองดูเดี๋ยวก็รู้” รพีพงษ์กล่าว
อนันยชดูแคลน ไม่พล่ามกับรพีพงษ์ต่อ แล้วกล่าว “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะให้แกเข้าใจ ในสายตาฉัน แกมันก็แค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น!”
พูดจบ อารมณ์ของเขาก็ระเบิดขึ้น ไม่ให้เวลารพีพงษ์ได้เตรียมตัวใดๆ แล้วพุ่งไปหารพีพงษ์ทันที ด้วยหมัดหนัก ไปที่หน้าของรพีพงษ์
รพีพงษ์ปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างรวดเร็ว หลังจากที่หลบหมัดของอนันยชแล้วนั้น ก็ผลักอกเขาออก
ทั้งสองต่อสู้กันหลายสิบท่า ด้วยความเร็วสูง ทำเอาผู้ชมด้านล่างตกตะลึงไปตามๆกัน
ครั้งที่แล้วที่เกาะพระจันทร์ ตอนที่อนันยชลงมือกับรพีพงษ์ ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มี แต่ควบคุมไว้ในระดับฝีมือของรพีพงษ์ ให้รพีพงษ์คิดว่าตัวเองสามารถชนะได้
ครั้งนี้รพีพงษ์ก็ใช้วิธีของอนันยช เขาควบคุมพลังของตัวเองไว้ในระดับเน่ยจิ้งชั้นต้น เล่นกับอนันยชก่อน แล้วค่อยลงมือ
หลังจากที่อนันยชและรพีพงษ์ต่อสู้กันอย่างเมามันส์แล้วนั้น ก็ขมวดคิ้ว เขาคิดว่ารพีพงษ์เพิ่งเป็นระดับเน่ยจิ้งเท่านั้น แล้วยังมาหาเขาที่นี่เพื่อล้างแค้นอีก กลับไม่คาดคิดว่าเด็กนี่ระเบิดพลังเน่ยจิ้งชั้นต้นออกมา แล้วจะเหนือความคาดหมายของเขา
ผลบุญที่อยู่ด้านล่างเวทีเห็นทั้งสองกำลังประลองกันอยู่บนเวที ก็ตะลึง เขาคาดสายตาจากรพีพงษ์ไปไม่ได้เลย
“นี่……เด็กนี้ เป็นเน่ยจิ้งชั้นต้นเหมือนกันหรอ? เป็นไปได้ไง! ยอดฝีมือเน่ยจิ้งชั้นต้น แต่พวกเรากลับไม่มีบันทึกไว้ หรือมันเป็นระดับนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้นงั้นหรอ จนเราไม่ทันได้บันทึกไว้?”
ตอนแรกผลบุญคิดว่ารพีพงษ์เป็นเพียงมือใหม่ที่เพิ่งเป็นเน่ยจิ้ง ท้าทายอนันยชขนาดนี้ สุดท้ายต้องโดนจัดการอย่างรุนแรงแน่นอน แต่เขาไม่คาดคิด ไชน่าทาวน์ของอเมริกา จะมีพรสวรรค์คนที่สามของเน่ยจิ้งชั้นต้นที่อายุเพียงยี่สิบกว่าปีเท่านั้น!
นึกถึงท่าทีของรพีพงษ์ที่มีต่อตัวเองเมื่อวาน ก็คิดว่า หรือเด็กนี่มันไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เพราะมีฝีมือระดับนี้นั้นเอง
นึกถึงตัวเองสี่สิบปี เพิ่งเป็นเน่ยจิ่งชั้นต้น ผลบุญก็อิจฉาขึ้นมา
เดี๋ยวนี้คนเก่งๆทำง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? หัวหน้าจัดงานให้ฉันทำ ให้ฉันได้พบกับคนเก่งขนาดนี้
เหอะ อย่าดูถูกตัวเองจนเกินไป เมื่อมันจะเป็นคนมีพรสวรรค์ ฝีมือก็แค่เน่ยจิ้งชั้นต้นเท่านั้น ฉันก็ไม่ต่างกับมันมาก ท่าทีของมันที่มีต่อฉันเมื่อวาน ชั่งน่ารังเกียจจริงๆ ถ้าตามอายุ เด็กนี่ก็ไม่ควรทำแบบนี้
บนเวที รพีพงษ์หมัดแลกหมัดกับอนันยช ด้วยพลังของเน่ยจิ้งของทั้งสองทำให้ทั้งคู่ต้องถอยหลังไป
อนันยชจ้องไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “ที่แกกล้าคุยโวโอ้อวดต่อหน้าฉัน ก็เป็นเพราะแกฝีมือระดับเน่ยจิ้งชั้นต้นแล้วนี่เอง ไม่คาดคิดว่าแกจะเป็นระดับนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้ ศักยภาพของแก มากกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นแกก็ยอมแพ้ซะ ให้ฉันฆ่าแก มันจะลดทอนเวลาลงได้เยอะ”
อนันยชดูแคลน แล้วกล่าว “หยุดเข้าข้างตัวเองได้แล้ว แกคิดว่าแกเป็นระดับเน่ยจิ้งชั้นต้น แล้วจะฆ่าฉันได้หรือไง? ไร้สาระ!”
พูดจบ อารมณ์ของอนันยชก็ระเบิดออก พลังมากกว่าเมื่อก่อนเท่าตัว
รพีพงษ์หลับตา ไม่คาดคิดว่าอนันยชจะซ่อนพลังเอาไว้ ฝีมือของเขา ได้ไปถึงเน่ยจิ้งขั้นกลางแล้ว
อนันยชดูแคลนแล้วมองไปที่รพีพงษ์ กล่าว “แกยี่สิบกว่าปีสามารถมีฝีมือระดับเน่ยจิ้งชั้นต้นได้ ถือว่าเป็นหนึ่งในล้านจริงๆ แต่แกคงคิดไม่ถึง ว่าฉันอายุเท่านี้ จะมีฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางสินะ?”
“อาจารย์ของฉัน เป็นปรมาจารย์ ในโลกนี้ จะมีสักกี่คนที่จะเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ได้? แม้วันนี้ฉันจะเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง แต่ยังไงแกเน่ยจิ้งชั้นต้นก็เทียบไม่ได้อยู่ดี”
“รพีพงษ์ ชาตินี้แกไม่มีทางได้ล้างแค้นแล้ว วันนี้ ฉันจะฆ่าแก!”
“หรอ?” รพีพงษ์ย้อนถาม
“ยังมีอะไรอีกหรอ?”
อนันยชหัวเราะ จากนั้นก็พุ่งไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง ความเร็วของเขาเร็วกว่าเมื่อกี๊หนึ่งเท่า
เขาปล่อยหมัดไปที่อกของรพีพงษ์ อยากต่อยรพีพงษ์ให้บาดเจ็บสาหัส
แต่เมื่อตอนที่หมัดกำลังจะไปถึงตัวรพีพงษ์นั้น รพีพงษ์ก็ได้ขยับตัว ที่ไม่ช้าไปกว่าอนันยช
เขายื่นมือไปบังหมัดของอนันยชไว้ จากนั้นก็ถีบออกไป สีหน้าอนันยชถอดสี ลอยไปด้านหลัง ถ้าเมื่อกี๊รพีพงษ์ถีบที่ตัวเขา เกรงว่าจากนี้ไปเขาจะไม่สามารถมีทายาทได้อีกต่อไป
หลังจากที่ยืนตั้งหลักอยู่ที่เดิม อนันยชมองรพีพงษ์ด้วยความคาดไม่ถึง แล้วถาม “เป็นไปได้ไง ความเร็วและพลังของแกเมื่อกี๊ ทำไมเหมือนอยู่ระดับที่แข็งแกร่ง เน่ยจิ้งชั้นต้น ไม่น่าจะมีพลังได้มากขนาดนี้”
รพีพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าว “ไง แกคิดว่ามีแค่แกคนเดียวหรอที่อายุเท่านี้แล้วฝีมือเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง?”