พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่698 ความตายของอนันยช
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่698 ความตายของอนันยช
บทที่698 ความตายของอนันยช
อนันยชหลับตาจ้องรพีพงษ์ เมื่อกี๊ที่รพีพงษ์ตบมาทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้ายังประลองกันต่อไป เขาก็มีแต่จะแพ้ ตอนนี้เขาเริ่มคิดจะถอยแล้ว
เขาคิดว่าวันนี้ที่มา เพียงแค่ขจัดปัญหา แต่กลับไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
“รพีพงษ์ แกอย่าคิดว่าแกมีกำลังเยอะกว่าฉัน แล้วจะมั่นใจได้ อาจารย์ของฉันเป็นถึงระดับปรมาจารย์ ใต้ปรมาจารย์ เป็นแค่มด ถ้าเขามา ตบทีเดียวก็ตายแล้ว!”
อนันยชตัดสินใจแล้ว ว่าจากวันนี้ จะเชิญอาจารย์มา พรสวรรค์ของรพีพงษ์น่ากลัวเกินไปแล้ว ถ้ายังปล่อยให้เติบโตแบบนี้ต่อไป อนาคตจะต้องน่าหวาดกลัวสะท้านวงการอย่างแน่นอน ดังนั้นต้องรีบกำจัดรพีพงษ์ให้เร็วที่สุด
รพีพงษ์ยิ้ม รู้แล้วว่าอนันยชอยากถอย จึงกล่าว “ฉันบอกแกแล้ว ว่าจะไม่มีทางให้แกมีชีวิตออกไปได้ ตอนนี้อาจารย์แกอยู่ไกล น่าจะช่วยอะไรแกไม่ได้?”
อนันยชได้ยินคำพูดนี้ของรีพงษ์ ก็มองไปรอบๆ หันหลังเพื่อจะลงเวที ด้วยความไม่ลังเล
ตอนนี้ เขากำลังคิดว่า ต้องรักษาชีวิตให้รอด
รพีพงษ์ดูแคลน เดินไป ยื่นมือจับไหล่ของอนันยช ใช้มือลากเขากลับมา
อนันยชต่อต้าน ใช้ท่าพิฆาตรพีพงษ์ แต่เขาเป็นแผลอยู่ ขณะนี้ท่าที่เขาปล่อยออกไปถูกลดพลังลงครึ่งนึง
รพีพงษ์ตั้งรับท่าเหล่านั้นของเขา แล้วกล่าว “อย่าต่อต้านอีกเลย ยังไงวันนี้ฉันก็ไม่มีทางปล่อยแกไปหรอก”
“หยุดฝันแม่งได้ล่ะ อย่างมึง อยากรั้งกูไว้ ยาก!” อนันยชตะคอก
รพีพงษ์ก้มหน้ามองไปที่อนันยช ถีบออกไปอย่างเร็ว ที่ขาอ่อนของเขา
เน่ยจิ้งของรพีพงษ์ทะลุปรุโปร่ง แม้อนันยชใช้เน่ยจิ้งปกป้องตัวเอง ก็ไม่มีทางทนต่อแรงของรพีพงษ์ได้ บนขาอ่อนของเขาเต็มไปด้วยเสียงกระดูกหัก จากนั้น ร่างของอนันยชก็อ่อนลง คุกเข่าลงไป
“รพีพงษ์ แม่งเอ้ย!” อนันยชกัดฟันตะโกนไป
รพีพงษ์ไร้ซึ่งความรู้สึก แล้วกล่าว “ถ้าคิดดีๆ บรรพบุรุษของฉัน ก็คือบรรพบุรุษของแก แกพูดแบบนี้ ไม่กลัวฟ้าผ่าหรอ?”
“กูจะบอกให้นะ อาจารย์กูชินาธิป เป็นปรมาจารย์ใต้พิภพ ถ้าวันนี้มึงฆ่ากู เชาจะต้องล้างแค้นแทนกูแน่นอน ถึงเวลาไม่ใช่แค่มึง ทุกคนที่มีความสัมพันธ์กับมึงก็จะต้องพังพินาศไปด้วย!” อนันยชรู้ว่าตัวเองหมดหนทางหนี จึงเริ่มข่มขู่รพีพงษ์
“แกคิดว่าที่ฉันมาที่นี่ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรือไง? แม้ปรมาจารย์จะเก่งขนาดไหน ก็ดับไฟแค้นที่ฉันมีไม่ได้ ไม่ใช่แค่แก ทุกคนของตระกูลนิธวรสกุล ก็จะต้องไปอยู่กับปู่ของแกทุกคน หลังจากที่แกตายไปแล้ว อาจารย์แกจะล้างแค้นให้แกหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่แกควรจะกังวล!”
พูดจบ รพีพงษ์จับแขนข้างหนึ่งของอนันยชไว้อย่างแน่น ใช้แรงบิด จนแขนข้างนั้นของเขาหัก
อนันยชอดทนกับความเจ็บปวด ใช้อีกมือหนึ่งต่อยไปยังรพีพงษ์
รพีพงษ์ยกมือบัง จากนั้นก็บีบคอของอนันยช แล้วกล่าว “ฉันรพีพงษ์มาอเมริกา เพื่อล้างแค้น ฆ่าแก ตระกูลนิธิวรสกุลในสายตาฉันก็แค่ไอ้สวะ ทุกคนของตระกูลนิธิวรสกุล ล้วนต้องรับกรรมกับสิ่งที่ทำไว้ทั้งหมด!”
อนันยชหวาดกลัว ขณะนี้เขารับรู้ได้ถึงการข่มขู่ในการตาย ดังนั้นจึงเริ่มร้องขอชีวิต
แต่รพีพงษ์ไม่ให้โอกาสเขา และเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น เขาจึงใช้แรง มหาศาล หักคออนันยช
อนันยชตาค้าง ราวกับอยากพูดอะไรกับรพีพงษ์ แต่เขาไม่มีโอกาสได้พูดอีกแล้ว สายตาที่เต็มไปด้วยเลือดเปลี่ยนเป็นซีดในทันที ร่างก็อ่อนลง
ผู้คนล่างเวทีเห็นเหตุการณ์ก็นิ่งสงบ ความตกใจของพวกเขาไม่สามารถใช้การตะโกนสะท้อนออกมาได้แล้ว ทุกคนมองรพีพงษ์อย่างเลื่อมใส เหมือนกับเลื่อมใสเทพเจ้าอย่างไรอย่างนั้น
รพีพงษ์ทำอนันยชแบบนี้ จนกระทำร่างของเขาเย็นลง จึงทิ้งเหมือนขยะ ลงไปด้านล่างของเวที
คนด้านล่างเวทีก็ตามรพีพงษ์ จนกระทั่งเขาโยนอนันยชลงมา ถึงหยุดลง
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวทั่วสนามมวย ทุกคนเหมือนคนบ้า กำลังตะโกน “เทพมรณะ” คำนี้
ผลบุญมองอนันยชที่นอนอยู่กับที่ สักพัก จึงได้เปล่งเสียงออกมาว่า “ตะ……ตายแล้ว?”
เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เกือบจะทำให้สมองของผลบุญระเบิดแล้ว แรกเริ่มคือเรื่องที่รพีพงษ์แสดงพลังที่ตัวเองเป็นเน่ยจิ้งชั้นต้น จากนั้นอนันยชก็แสดงพลังว่าตัวเองเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง แล้วรพีพงษ์ก็เปลี่ยนเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางต่อ ตอนนี้นเ่ยจิ้งขั้นกลางทั้งสองมีหนึ่งคนตายอยู่บนเวที ผลบุญไม่รู้ว่าจะอธิบายสภาพจิตใจตอนนี้ของตัวเองอย่างไรดี
เขามองไปที่รพีพงษ์ ตอนนี้ไม่มีความดูถูกรพีพงษ์ใดๆอีกต่อไป จะมีก็แต่ เกรงกลัว
“ดูๆแล้ววันนี้กลับไป ต้องให้หัวหน้าประชุมด่วนแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ ต้องบันทึกไว้ในกลุ่มผู้ดูแลแล้ว” ผลบุญพูดกับตัวเอง
คนด้านล่างเวทีที่มากับอนันยชเห็นอนันยชเสียชีวิตด้วยมือของรพีพงษ์ ก็เกิดความกลัวขึ้นมา เขากลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว จากนั้นก็รีบหันหลัง วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
รพีพงษ์จ้องศพของอนันยชอยู่นาน ถอนหายใจยาวๆ สุดท้ายได้จัดการปัญหาใหญ่ออกไปได้แล้ว
แต่เขาก็ไม่รู้สึกผ่อนคลายลงสักเท่าไหร่ เพราะการฆ่าอนันยช นั่นหมายถึงว่าสิ่งที่เขาจะต้องเจอในอนาคต คือปรมาจารย์
ไม่ยืนต่อให้เสียเวลา รพีพงษ์ลงจากเวที แล้วเดินออกไปด้านนอก
ผลบุญเห็นเหตุการณ์ จึงรีบเดินตามไป
เขาอยากถามรพีพงษ์ว่าเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลางในขณะที่ยังวัยรุ่นอยู่ขนาดนี้ได้อย่างไรกัน แล้ว……ก็จะขอโทษรพีพงษ์ในเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา
……
ตระกูลนิธิวรสกุล
กาจพลกำลังไหว้บรรพบุรุษอยู่ที่ห้องโถง เขาปักธูปไว้ด้านหน้า จากนั้นกล่าว “บรรพบุรุษทุกท่าน ผมตระกูลนิธิวรสกุล มีอนันยชที่ฉลาดหลักแหลม เป็นนายใหญ่ของตระกูลนิธิวรสกุล ผมตระกูลนิธิวรสกุลจะจดจำไว้เป็นประวัติศาสตร์!”
เขาเพิ่งพูดจบ มีคนวิ่งมาจากด้านนอก จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น
กาจพลเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว กำลังจะเผากระดาษ ก็ได้ยินคนตะโกนว่า “คุณท่าน ไม่ได้การแล้ว! คุณชาย……คุณชายถูกต่อยตายแล้ว!”
“แกพูดว่าอะไรนะ!” กาจพลตัวสั่น รีบจับปกเสื้อของคนนั้นไว้ แล้วถาม
“คุณ……คุณชายไปสนามมวยใต้ดินวันนี้ เจอเข้ากับเด็กนั่นของตระกูลลัดดาวัลย์ ทั้งสองประลองกันบนเวที คุณชายต้านทานไม่ไหว ถูก……ถูกบีบคอตาย!” คนนั้นอธิบายให้ฟัง
ในขณะนี้ ธูปที่กาจพลปักไว้สามดอก ถูกลมพัดล้มลงทั้งหมด