พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่716 อันดับคนโหดเหี้ยม
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่716 อันดับคนโหดเหี้ยม
บทที่716 อันดับคนโหดเหี้ยม
รพีพงษ์ค่อยๆเงยหน้าขึ้น เห็นว่าคนที่มามีเสื้อผ้ามอมแมมเลอะเทอะ และผมกระเซิง และความโหดเหี้ยมกระจายไปทั่วทั้งร่างของผู้ชาย
ในสายตาของคนคนนี้มีความอาฆาตที่รุนแรง ถ้าคนธรรมดามองไปแวบเดียว ก็จะเกิดความรู้สึกหวาดผวากันทั้งนั้น
ไออ้วนกำลังนำผู้คนไปพัฒนาพื้นที่ใหม่ๆ เป้าหมายของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่ที่การปลูกมันฝรั่งอีกต่อไป ด้วยประสบการณ์มากมายในการเอาชีวิตรอดในป่าที่พวกเขามี จึงสามารถหาผักป่าที่กินได้มากมายตามธรรมชาติ พวกเขาวางแผนที่จะปลูกผักป่าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก
คิดว่าอีกไม่นาน เขาอารีในคุกที่ห้าก็จะกลายเป็น ฐานพื้นที่ที่ปลูกผักเพียงแห่งเดียว
หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของชายคนนั้น พวกเขาทั้งหมดก็หันหน้ามองไปที่นั่น ต่อจากนั้นบางคนก็แสดงสีหน้าหวาดกลัว หลังจากนั้นก็อุทานว่า “นี่มันนัทธสมที่อยู่ในอันดับที่สิบของอันดับคนโหดเหี้ยม! จบเห่แล้ว ความแข็งแกร่งของคนคนนี้ทรงพลังมาก และเป็นกลุ่มอันดับต้นๆอยู่ในเน่ยจิ้งขั้นกลาง ที่สำคัญนิสัยของเขาแปลกๆ เมื่อพบเห็นคนก็ฆ่าทิ้ง พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”
ไออ้วนก็ขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดว่าคนที่มาหาถึงที่ในครั้งนี้ จะกลายเป็นยอดฝีมืออันดับคนโหดเหี้ยม
“เชื่อฟังอยู่ที่นี่แต่โดยดี ตอนนี้เน่ยจิ้งของพวกแกถูกกำจัดแล้ว ออกจากเขาอารี ก็จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น”
ไออ้วนพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปหารพีพงษ์อย่างรวดเร็ว เอ่ยปากว่า: “ลูกพี่ คนคนนี้เป็นยอดฝีมืออันดับที่สิบของอันดับคนโหดเหี้ยม ความแข็งแกร่งมองข้ามไม่ได้เลย ถ้าไม่ไหวจริงๆ พวกเราก็ปล่อยที่นี่ทิ้งก่อนเถอะ รักษาชีวิตไว้สำคัญกว่า”
รพีพงษ์เลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะเป็นการคนที่โหดเหี้ยมจริงๆ ในช่วงนี้เขาก็ได้ฟังไออ้วนเล่าเรื่องราวของอันดับคนโหดเหี้ยม นี่เป็นอันดับรายชื่อที่ฝ่ายบริหารของเรือนจำ จัดเรียงอันดับออกมาจากความแข็งแกร่งของยอดฝีมือเหล่านี้ มีทั้งหมดสิบอันดับ
ยอดฝีมือในอันดับคนโหดเหี้ยม เป็นตัวแทนอานุภาพในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของคุกที่ห้าทั้งหมด โดยที่ไม่มีข้อยกเว้นพวกเขาต่างก็เป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางอันดับต้นๆเหล่านั้น อยู่ในโลกภายนอก สามารถเป็นลูกพี่ผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถปั่นหัวสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายไปทั่ว
ยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางทั้งสามคนที่พ่ายแพ้ให้กับรพีพงษ์ก่อนหน้า อยู่ในระดับที่ไม่สามารถเข้าอันดับคนโหดเหี้ยมได้ ดังนั้นแม้ว่าชื่อเสียงของเขาอารีที่โด่งดังออกไป แต่ทว่าผู้คนมากมายยังคงไม่ให้ความสนใจ
อยู่ในคุกที่ห้า เพียงแค่อยู่ในรายชื่อคนที่โหดเหี้ยมเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับการยอมรับ
“มาได้พอดีเลย ฉันต้องการหาคู่ต่อสู้เหมาะสมเพื่อใช้ท่วงท่าที่เรียนมาใหม่ ในเมื่อหามาหาถึงที่ งั้นฉันก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว”
รพีพงษ์กล่าวเสียงเรียบ จากนั้นเดินไปหานัทธสม
ไออ้วนกลัวจนหน้าถอดสี คนอื่นถ้าเจอยอดฝีมืออันดับคนโหดเหี้ยม หนีแทบไม่ทัน รพีพงษ์กลับจะเอาเขามาทดลองท่วงท่าใหม่ของตัวเอง นี่ก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย
ผู้คนที่อยู่ในสวนไร่เห็นว่ารพีพงษ์ไม่เพียงแต่ไม่หนี แต่ยังเดินไปหานัทธสม ทั้งหมดดูถูกเล็กน้อย
“แม้ว่าความแข็งแกร่งของรพีพงษ์จะไม่อ่อนแอ แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นเขาที่เป็นยอดฝีมือในอันดับคนโหดเหี้ยม วัยรุ่นไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่มักจะจบลงด้วยความกล้าหาญเช่นนี้”
“จะไปสนใจอะไรมากมายทำไม เขาถูกนัทธสมฆ่าตาย พวกเขาก็สามารถฉวยโอกาสหนีไปได้ เขาถูกฆ่าตายก็สมควรแล้ว ไม่เจียมตัว อยู่ข้างในนี้ ถือเป็นสิ่งต้องห้าม”
……
นัทธสมจ้องมองรพีพงษ์ที่เดินมาตรงหน้าตัวเอง พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “แกคือรพีพงษ์เหรอ?”
“ถูกต้อง”รพีพงษ์ตอบ
“แกไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปเหรอ? รีบเอามันฝรั่งของพวกแกส่งมอบออกมาให้ฉันทั้งหมด ไม่อย่างนั้นแกก็จะตายอย่างอนาถามาก”นัทธสมเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่สั่งการ
รพีพงษ์ยิ้มบางเบา พูดว่า: “อยากจะเอาของของฉัน แกมีสิทธิ์ด้วยเหรอ”
“จองหองจริงๆ แกคิดจริงๆเหรอว่าจัดการกับพวกที่ไม่มีอิทธิพลไม่กี่คนได้ ก็มีสิทธิ์มาท้าทายฉัน?”ความอาฆาตบนตัวของนัทธสมยึดติดกับรพีพงษ์
รพีพงษ์ตั้งท่าต่อสู้ให้กับนัทธสม แล้วพูดว่า: “อย่าพูดจาไร้สาระ ให้ฉันได้ดูว่าสิ่งที่เรียกว่าอันดับที่สิบของอันดับคนโหดเหี้ยม ว่ามีความแข็งแกร่งแค่ไหนกัน”
เมื่อนัทธสมเห็นรพีพงษ์ตรงไปตรงมาขนาดนี้ ก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระอีกต่อไป จึงรีบพุ่งตรงไปที่รพีพงษ์ เคลื่อนที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า พกพาอานุภาพพลังที่ไม่มีใครเทียบได้
รพีพงษ์หรี่ตา รู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากนัทธสม ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ โดยพื้นฐานแล้วมันเกือบจะเหมือนกับรพีพงษ์ที่ฝึกฝนแรงภายนอกชั้นสูงสุดของเน่ยจิ้ง
ถ้าเป็นเมื่อเดือนที่แล้ว รพีพงษ์ต้องการเอาชนะนัทธสมคนนี้ คงจะต้องผ่านการต่อสู้อย่าหนัก แต่ตอนนี้ รพีพงษ์ฝึกฝนพลังวิเศษเสนได้แล้ว และมีพลังชนิดนี้ที่ลี้ลับมหัศจรรย์ยิ่งกว่าเน่ยจิ้งที่มีอยู่ รพีพงษ์ต้องการเอาชนะนัทธสม ไม่ใช่เรื่องยาก
เมื่อทั้งสองคนต่อสู้กัน ต้นไม้รอบๆก็สั่นสะท้าน และพลังที่มองไม่เห็นก็กระจายไปรอบๆ ทำให้ไออ้วนและผู้คนที่ดูการต่อสู้จากข้างสนามตกใจอย่างฉับพลัน
อาคารใหญ่ในคุก ในห้องตรวจตรา
“พวกคุณรีบมาดู เด็กรพีพงษ์นั้นกำลังต่อสู้กับนัทธสม!”ชายที่ปฏิบัติหน้าที่เห็นฉากที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิด และตะโกนทันที
ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ทีละคน จ้องไปที่ภาพกล้องวงจรปิด
“ดูเหมือนว่าชีวิตดีของเด็กคนนี้สิ้นสุดลงในที่สุด ก็เป็นเพราะเขา ฉันจึงเสียค่าขนมครึ่งเดือนให้กับท่านโกรพ ฉันหวังให้เขาเผชิญหน้ากับยอดฝีมืออันดับคนโหดเหี้ยมตั้งนานแล้ว”
“เด็กคนนี้แม้ว่าความแข็งแกร่งจะไม่อ่อน แต่อวดดีมากไปหน่อย เป็นครองตำแหน่งราชา อย่างโจ่งแจ้งในคุกที่ห้า ไม่ช้าก็ถูกคนจัดการ”
“อานุภาพพลังของนัทธสมดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก ดูท่าทางว่าจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ตอนนี้เด็กรพีพงษ์นั้นโชคร้ายจริงแล้ว”
……
ผู้คนต่างก็ไม่ชอบรพีพงษ์คนนี้ที่เพิ่งเข้ามาคุกที่ห้าได้สองเดือนกว่า อายุเพียงแค่ยี่สิบกว่า “ผู้มาใหม่” ก็ทยอยออกความคิดเห็น
อย่างไรก็ตามสิบห้านาทีต่อมา ความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของทุกคน
“ฉันคงจะไม่ได้ตาลายใช่มั้ย? นัทธสมกลับถูกรพีพงษ์สู้จนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเหรอ?”
“โอ้พระเจ้าช่วย นี่ไม่ใช่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นี่เท่ากับว่าพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์นั้น ทำให้คนตกใจทึ่งมาก”
“ไม่ได้การล่ะ ครั้งนี้ที่ของพวกเรามีผู้ชายที่สุดยอดเหลือเชื่อมาแล้ว ฉันรู้สึกว่า คุกที่ห้า จะเป็นเพราะการมาของรพีพงษ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจจินตนาการได้”
……
บนเขาอารี รพีพงษ์โจมตีหมัดออกไปที่นัทธสม นัทธสมเคลื่อนที่หมุนเวียนใช้เน่ยจิ้งสกัดกั้นไว้ ร่างกายบินถอยหลังอย่างรวดเร็ว หน้าอกขึ้นลงฉับพลัน และการหายใจก็ไม่คงที่เล็กน้อย
“นายก็แค่อายุเพียงยี่สิบกว่าๆเอง ทำไมถึงมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องอายุ พวกผู้ชายที่อยู่อันดับข้างหน้าฉันคงจะเทียบกับนายไม่ได้”นัทธสมเอ่ยปาก
รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย กล่าวว่า: “อาจเป็นเพราะโชคดี”
“วันนี้โชคของแกก็ค่อนข้างดี ฉันเพิ่งจะฝึกฝนหนึ่งท่วงท่าได้ แกก็โชคดีกลายเป็นคนแรกได้เห็นกลยุทธ์ของฉัน”
นัทธสมแอบด่าในใจ ถ้าหากนี่เป็นโชคดี งั้นเขายอมที่จะโขกหัวให้ตายทีเดียวเลย
รพีพงษ์ไม่ให้โอกาสนัทธสมได้โจมตี พุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง
กลยุทธ์ของเขาเปลี่ยนไป พลังวิเศษเสนภายในร่างกายกับเน่ยจิ้งหลอมรวมเข้าด้วยกัน ลักษณะที่แปลกประหลาดมารวมตัวกันที่บนฝ่ามือ
ในขณะนี้ ดูเหมือนจะมีคลื่นอากาศที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าบนตัวรพีพงษ์ ซึ่งน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง
สีหน้าของนัทธสมเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยรู้ตัวว่าตัวเองไม่สามารถรับมือกับท่วงท่านี้ได้ ก็หันหลังจะวิ่งหนี
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะขยับ รพีพงษ์ได้ปรากฏตัวตรงหน้าเขาแล้ว ต่อจากนั้นก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่บนตัวของเขา
“ฝ่ามือดาวฟ้า!”