พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่733 ลอบสังหารทั้งหมดเชื่อฟังคุณ
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่733 ลอบสังหารทั้งหมดเชื่อฟังคุณ
บทที่733 ลอบสังหารทั้งหมดเชื่อฟังคุณ
“เห็นป้ายบัญชาการลอบสังหาร ดูๆแล้วสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริง”
ชายวัยกลางคนพูดต่อรพีพงษ์ จากนั้นก็คุกเข่าลง คำนับให้รพีพงษ์
รพีพงษ์โไม่คาดคิดว่าป้ายบัญชาการลอบสังหารจะมีข้อดีมากขนาดนี้ แล้วถาม “พวกคุณไม่ตรวจสอบหน่อยหรอว่าป้ายนี้เป็นของจริงหรือของปลอมจึงคุกเข่าลงไปแล้ว?”
“ป้ายบัญชาการลอบสังหารใช้วัสดุพิเศษในการทำ จะมีแค่ผมลอบสังหารเท่านั้นที่รู้ถึงความแตกต่าง ในโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว ไม่มีทางปลอมได้” ชายวัยกลางคนกล่าว
รพีพงษ์จ้องไปที่ป้ายที่อยู่ในมือ แต่ไม่พบว่ามันพิเศษตรงไหน มีเพียงคนในลอบสังหารเท่านั้น ที่จะรู้ถึงความแปลกของมันมั้ง
“พวกคุณลุกขึ้นเถอะ ไม่จำเป็นต้องเคารพขนาดนี้” รพีพงษ์กล่าว
ชายวัยกลางคนและนักฆ่าล้วนยืนขึ้นมา ท่าทีของชายวัยกาลคนที่มีต่อรพีพงษ์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แป๊ปเดียวก็ไม่มีท่าทีเย็นชาอย่างก่อนหน้านี้แล้ว
“ไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกพี่ของเราเป็นไงบ้าง ทำไมเขาถึงมอบป้ายบัญชาการลอบสังหารนี้ให้คุณ?” ชายวัยกลางคนถาม
รพีพงษ์ไม่ปิดบัง เล่าเรื่องของตนและจรัสในระหว่างอยู่ในคุกที่ห้าให้ฟัง
ในขณะพูดคุยอยู่นั้น รพีพงษ์ก็ได้รู้ชื่อของชายวัยกลางคนนี้มีชื่อว่าครองภพ ตามที่เขาพูด เขาคือเด็กกำพร้า ตอนเด็กจรัสเก็บเขามา จรัสปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นน้องชาย ดูแลมาตลอดจนกระทั่งเติบโต แล้วยังสอนความรู้ต่างๆมากมายให้กับเขา
หลังจากที่รพีพงษ์ฟังจบแล้ว รู้สึกว่าจรัสเป็นคนที่มีคุณธรรม ยังไงก็ตามหมกมุ่นกับอำนาจเกินไป จึงได้โดนความมืดครอบงำ แต่ได้แยกบุคลิกไว้ มิเช่นนั้นเขาก็ต้องเข้าคุกที่ห้าไปนานแล้ว
ครองภพได้ยินรพีพงษ์เล่าเรื่องของจรัสให้ฟัง ก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก จากนั้นก็ยิ้มให้รพีพงษ์ “ลูกพี่มอบป้ายบัญชาการลอบสังหารให้คุณ แสดงว่าเขาให้เกียรติคุณมาก ในเมื่อวันนี้คุณมาแล้ว งั้นผมจะมอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับลอบสังหารให้คุณ ให้คุณเป็นนักฆ่ามือฉมังที่เก่งที่สุดของโลก”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินก็ยิ้มออกมาแล้ว เมื่อกี๊เขาไม่ได้เล่าให้ครองภพฟังว่าเพราะจรัสแพ้เขาดังนั้นจึงต้องมอบป้ายบัญชาการลอบสังหารให้เขา ดังนั้นครองภพไม่รู้ถึงความสามารถของรพีพงษ์เลย
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมยังไม่อยากเป็นนักฆ่า” รพีพงษ์กล่าว
ครองภพมองรพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ กล่าว “รพีพงษ์ คุณต้องรู้ไว้นะว่าลอบสังหารของเราเป็นกลุ่มนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก คอนเน็คชั่นทั้งหมดที่พวกเรามี คุณนึกไม่ถึงมันแน่นอน หากพวกเราทุ่มเทฝึกฝนคนๆหนึ่ง คนเก่งของแต่ล่ะพื้นที่จะต้องแย่งกันเข้ามาแน่นอน”
“เมื่อกี๊คุณสามารถรับรู้ว่ามีนักฆ่าสองคนเข้าใกล้คุณได้อย่างง่ายได้ นั่นหมายถึงคุณมีพรสวรรค์อย่างมาก หากได้ฝึกฝน อย่างอื่นไม่กล้ารับประกัน แต่ที่กล้ารับประกันคือคุณจะได้เป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง แน่นอน”
“คาดไม่ถึงว่าคุณจะปฏิเสธ คุณรู้หรือไม่ว่าถ้าคุณทำแบบนี้จะพลาดโอกาสเป็นอย่างมากเลยนะ?”
ได้ยินคำพูดของครองภพ รพีพงษ์ก็ยังคงยิ้มเหมือนเดิมแล้วกล่าว “ไม่จำเป็น เอาคอนเน็คชั่นพวกนี้ไว้ให้คนอื่นดีกว่านะ”
“คุณนี่ ทำไมไม่ฟังคำพูดผมนะ นี่เป็นโอกาสดีที่จะให้คุณเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลางนะ คุณน่าจะรู้ว่าเน่ยจิ้งขั้นกลางน่าเกรงขามมากขนาดไหน?” ครองภพไม่สบอารมณ์
ชาลิสาดูต่อไปไม่ไหว จึงหัวเราะออกมาทันใด
ครองภพมองชาลิสา แล้วถาม “คุณหัวเราะอะไร?”
“เขามีฝีมือระดับปรมาจารย์แล้ว ตอนนี้คุณจะให้เขาไปเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง เขาต้องไม่ชอบใจอยู่แล้ว” ชาลิสายิ้มพลางกล่าว
“อะ……อะไรนะ!” ครองภพตะลึง มองรพีพงษ์อย่างคาดไม่ถึง “คุณมีฝีมือระดับปรมาจารย์? เป็นไปได้ไงกัน!”
เห็นครองภพไม่เชื่อ รพีพงษ์หยิบเม็ดทรายบนพื้นมาเม็ดหนึ่ง จากนั้นก็วางเม็ดทรายลงไป ในแก้วบนโต๊ะเบาๆ รพีพงษ์ใช้กำลังภายในให้ทรายกระทบเข้ากับแก้วชา แก้วชานั้นแตกทันใด
“ตอนนี้ยังต้องให้ผมอธิบายอะไรอีกไหม?” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว
ครองภพและนักฆ่าเหล่านั้นมองเหตุดการณ์นี้อย่างตะลึง ใช้เม็ดทรายหนึ่งเม็ดชนแก้วแตก ฝีมือแบบนี้ มีเพียงปรมาจารย์เท่านั้นที่ทำได้
“คุณ……คุณมีความสามารถระดับปรมาจารย์จริงๆด้วย แต่คุณเพิ่งจะยี่สิบกว่าปีเองนะ นี่……นี่มันเหนือความคาดหมายของผมเป็นอย่างมาก” ครองภพพูดอย่างรับได้ยาก
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “แค่โชคดีหนะ ความจริงครั้งนี้ที่พวกเรามาหาพวกคุณ มีเรื่องอยากจะให้คุณช่วย”
“เรื่องอะไร?” ครองภพรีบถาม หลังจากที่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาเป็นระดับปรมาจารย์แล้วนั้น เขาก็ไม่กล้าเชื่องช้าอีกต่อไป
“ช่วงนี้พวกคุณรับงานของสี่ตระกูลใหญ่ไชน่าทาวน์ใช่ไหม?” รพีพงษ์กล่าว
ครองภพพยักหน้า
“คนที่พวกมันให้คุณฆ่านั้น ล้วนเป็นลูกน้องของผม ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะปฏิเสธรับงานนี้ของพวกมัน” รพีพงษ์กล่าว
ครองภพยิ้ม แล้วกล่าว “ในมือคุณมีป้ายบัญชาการลอบสังหารอยู่ นั่นหมายถึง ลอบสังหารทุกคนจะต้องฟังคำสั่งของคุณ รับงานแบบไหน คุณเป็นคนสั่ง อย่าว่าแต่ยกเลิกงานของสี่ตระกูลใหญ่เลย แม้แต่คุณอยากจะให้ฆ่าพวกมันทิ้ง ก็ไม่ได้ยากอะไร”
ได้ยินคำพูดของครองภพ รพีพงษ์ก็ยิ้มออกมา
ถ้าแม้ตอนนี้เขามีฝีมือเทียบเท่าปรมาจารย์ พูดกันตามเหตุผล แม้เขาจะฆ่าคนของตระกูลใหญ่ทั้งสี่จริง ปรมาจารย์เน่ยจิ้งอเมริกาก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นศัตรูกับปรมาจารย์เน่ยจิ้ง
ดังนั้นถ้ารพีพงษ์ต้องการจัดการสี่ตระกูลใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง
ลอบสังหาร เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขา
ลอบสังหารนอกจากจะมีครองภพเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลางแล้วนั้น คนอื่นๆก็เป็นแค่คนธรรมดา พวกเขาฆ่าคนของสี่ตระกูลใหญ่ ก็เป็นแค่ความบาดหมางระหว่างคนทั่วไปเท่านั้น ปรมาจารย์เน่ยจิ้งข้องเกี่ยวไม่ได้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็จะไม่เกรงใจ ผมอยากให้กำจัดสี่ตระกูลใหญ่ซะ ถึงเวลานั้นอาจต้องให้พี่ครองภพออกโรง” รพีพงษ์จับมือ
“พูดเกินไป พูดเกินไป นี่เป็นสิ่งที่ผมพึงจะต้องทำ” ครองภพรีบตอบ สามารถอยู่กับยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ สำหรับพวกเขาแล้วมีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสียใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นในมือของรพีพงษ์ยังถือป้ายบัญชาการลอบสังหารไว้ด้วย
“สี่ตระกูลใหญ่วางแผนว่าจะฆ่าในวันที่สิบห้า ถึงเวลานั้นพวกเขาจะจัดงานเลี้ยง เพื่อฉลองเรื่องนี้ ไม่งั้นพวกเราลงมือในวันนั้นเลยดีไหม?” ครองภพกล่าว
รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของครองภพ ก็หลับตาลง แล้วกล่าว “ได้ งั้นก็ลงมือในวันงานเลี้ยง ให้คนของสี่ตระกูลใหญ่ รู้ว่าถ้าคิดไม่ดีกับคนของเทือกเขากิสนา จะต้องเจอกับจุดจบอย่างไร”
คนของตระกูลใหญ่ทั้งสี่ไม่คาดคิด ว่างานเลี้ยงที่พวกเขาจัดไว้เลี้ยงฉลองการฆ่านั้น จะเป็นอาหารค่ำมื้อค่ำมื้อสุดท้ายของพวกเขา