พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่745 ราชาแห่งสวรรค์กูก็จะทำลายเหมือนกัน
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่745 ราชาแห่งสวรรค์กูก็จะทำลายเหมือนกัน
ทที่745 ราชาแห่งสวรรค์กูก็จะทำลายเหมือนกัน
“ให้ฉันขอโทษอาจารย์ของแก ไม่มีทาง ในเมื่อแกบีบบังคับอย่างนี้ งั้นก็อย่าโทษที่ฉันโหดเหี้ยมอำมหิต! ต่อให้ข้าจะต้องตาย ก็จะลากภรรยากับลูกของแกไปด้วย!”
ความเร็วของจิรภาสนั้นรวดเร็วมาก จนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่สามารถตอบสนองได้ และไม่มีใครคิดว่า แดนปรมาจารย์คนหนึ่ง จะลงมือกับภรรยาและลูกของคนอื่นได้
“ไอ้แก่ แกรนหาที่ตาย!”
หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของจิรภาส ร่างก็ปะทุขึ้นมาในทันที ความโกรธก็ระเบิดออกมาจากบนตัวเขา เขาก็คาดไม่ถึงว่าจิรภาสจะไร้ยางอายถึงขนาดนี้ กลับจะลงมือกับภรรยาและลูกสาวของเขา
ในขณะนี้พลังอานุภาพของพลังวิเศษเสนบรรลุถึงจุดที่สูงสุด ร่างกายของรพีพงษ์กลายเป็นเงา ผู้คนที่มองดูอยู่ก็ตาลาย พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่มีความเร็วเช่นนี้มาก่อน
จิรภาสที่ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะใช้พลังทั้งหมดครั้งสุดท้ายแล้ว ฉวยโอกาสที่รพีพงษ์ไม่ทันได้ระวัง ก่อนที่รพีพงษ์จะตอบสนองกลับคืนมา พุ่งไปตรงหน้าอารียา
อย่างไรก็ตามร่างกายของเขาเพิ่งจะขยับ ก็ได้ยินเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวจากด้านหลังของตัวเอง ต่อจากนั้น เขาก็รู้สึกว่าอากาศรอบตัวเองสั่นสะท้านขึ้นมา และมีกระแสลมแรงปรากฏขึ้น ทำให้ร่างของเขาทรงตัวไม่อยู่
เมื่อเขาใกล้จะเข้าใกล้อารียา ในขณะนี้ เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าจิรภาส จากนั้นก็ค่อยๆแข็งทื่อ เป็นรพีพงษ์ที่กำลังเต็มไปด้วยความอาฆาต
สีหน้าของจิรภาสถอดสี ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เขาฉวยโอกาสที่ไม่ทันได้ระวังตัวพุ่งเข้ามา ที่สำคัญด้วยความเร็วที่สูงสุด กลับถูกรพีพงษ์ขวางไว้ได้
ความเร็วของผู้ชายคนนี้ เหนือกว่าปรมาจารย์ ตกลงว่าทำได้อย่างไรกันแน่?!!
จิรภาสหยุดอย่างรวดเร็ว หันหลังกลับเพื่อหนี แต่ในเวลานี้ มือของรพีพงษ์ได้ยื่นมาบนตัวเขาแล้ว เขารู้สึกว่าความคิดของตัวเองช้าลงมาก แม้ว่าจะเห็นรพีพงษ์ยื่นมือมา เขาก็ไม่สามารถใช้ท่วงท่าใดๆมาต้านทานไว้ได้
นี่ไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ทำให้ความคิดของเขาช้าลงจริงๆ แต่เป็นรพีพงษ์ที่เร็วมาก จนเขาไม่สามารถตอบสนองได้เลย
“คนมีต่อมโมโห สะกิดโดนก็จะต้องตาย! แกกล้ามีความคิดที่จะทำร้ายภรรยาและลูกสาวของฉัน ต่อให้เป็นราชาแห่งสวรรค์ กูก็จะทำลายเหมือนกัน!”
มือของรพีพงษ์จับคอของจิรภาสไว้ ร่างกายของจิรภาสดิ้นรนอย่างรุนแรง รพีพงษ์ใช้แรงที่ฝ่ามือ เสียงกระดูกหักดังขึ้นมา ลำคอของจิรภาส ก็ถูกรพีพงษ์บีบจนหักทั้งเป็นแบบนี้
นี่ยังถือว่าไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่หักลำคอของจิรภาสแล้ว รพีพงษ์ก็โยนร่างของเขาลงไปที่พื้น ยกเท้าขึ้นเหยียบบนหน้าอก หลุมลึกปรากฏขึ้น และปากของจิรภาสก็มีเลือดพุ่งออกมานับไม่ถ้วน ดวงตาทั้งสองคนเบิกกว้าง ไม่มีโอกาสรอดชีวิต
ปรมาจารย์จิรภาส ก็เสียชีวิตอยู่ในเงื้อมมือของรพีพงษ์แบบนี้ และตระกูลภูธนก็สูญเสียยอดฝีมือที่มีตำแหน่งสำคัญไปหนึ่งคน
ทุกคนในที่เกิดเหตุมองดูฉากนี้ด้วยความตกตะลึง ในขณะนี้ รพีพงษ์เป็นเหมือนกับเทพสังหารที่กลับมาจากนรก เทพขวางฆ่าเทพ พระขวางฆ่าพระ
ปธานินทั้งสามคนจ้องมองดูจิรภาสที่ไม่ขยับ ร่างกายก็อดไม่ได้ที่จะสั่น สีหน้าซีดลงมากขึ้น
สายตาของรพีพงษ์จ้องมองมาที่พวกเขาทั้งสามคน ในใจของปีธานินก็หวาดกลัวขึ้น เผชิญหน้ากับรพีพงษ์ ในใจของพวกเขาก็เหลือเพียงความรู้สึกที่ไร้พลัง
“พวกแกสามคนยังคิดที่จะลงมือกับภรรยาฉันมั้ย?”รพีพงษ์ถามโดยไม่มีความผันผวนทางอารมณ์ใดๆ
ปธานินยืนขึ้นจากพื้นอย่างสั่นเทา และเดินไปหารพีพงษ์ เมื่ออยู่ห่างจากรพีพงษ์มากกว่าสิบเมตร ตูมดังขึ้นมา คุกเข่าลงมาทันที
“ฉันปธานิน อยากจะขอโทษวฤนท์ธมสำหรับความผิดก่อนหน้านี้ สาบานว่าจะไม่เป็นศัตรูกับวฤนท์ธมอีก และยังขอให้น้องชาย ไว้ชีวิตฉันด้วย!”
หลังจากพูดจบ ปธานินก็คลานไปที่รพีพงษ์
ในใจของปธานินรู้ดี แม้ว่าเจ้าสำนักของสำนักฮิงแสมา ก็ไม่ใช่เป็นคู่ต่อสู้ของรพีพงษ์อย่างแน่นอน ชายหนุ่มคนนี้ จะทำให้เกิดความวุ่นวายในแวดวงศิลปะต่อสู้โบราณอย่างแน่นอน ถ้าหากยังคงเป็นศัตรูกับเขาอีกต่อไป มีแต่ตายเพียงทางเดียว
ญาณวุฒิและศัจกรทั้งสองคนมีความคิดเช่นเดียวกับปธานิน เมื่อเห็นปธานินคุกเข่าลงให้กับรพีพงษ์ พวกเขาทั้งสองคนก็เดินไป เผชิญหน้ากับรพีพงษ์ คุกเข่าลง
“ฉันญาณวุฒิ อยากจะขอโทษวฤนท์ธมสำหรับความผิดก่อนหน้านี้…..”
“ฉันศัจกร….”
หลังจากขอโทษแล้ว พวกเขาทั้งคู่ก็คลานลงที่พื้น
“ไสหัวไปซะ”รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชา และไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจอีกต่อไป
ปธานินพวกเขาทั้งสามคนรีบลุกขึ้นมาจากบนพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วพาคนของตัวเองออกจากที่นี่
การต่อสู้ที่น่าทึ่งที่หน้าคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ จนถึงตอนนี้ ถือได้ว่าสิ้นสุดลงแล้ว สุดท้ายก็จบลงด้วยการตายของปรมาจารย์หนึ่งคนและการคุกเข่าขอโทษของแดนครึ่งปรมาจารย์ทั้งสามคน
ท่ามกลางฝูงชนที่เฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้ มีคนไม่น้อยถ่ายการต่อสู้โพสต์บนอินเทอร์เน็ต เชื่อว่าอีกไม่นาน การต่อสู้ครั้งนี้ของรพีพงษ์ จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ชื่อรพีพงษ์นี้ ไม่เพียงแต่จะมีชื่อเสียงอยู่ในโลกธุรกิจเท่านั้น แต่จะทำให้แวดวงศิลปะการต่อสู้สั่นคลอน
ในไม่ช้า คนของตระกูลลัดดาวัลย์ก็เคลียร์เวทีประลองที่หน้าประตู พวกคนที่ดูความครึกครื้นก็ทยอยออกไป หน้าประตูคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
รพีพงษ์เก็บพลังอานุภาพของตัวเองกลับคืนมา หันหลังแล้วเดินไปหาอารียาพวกเขา
ดวงตาของทุกคนจับจ้องไปที่รพีพงษ์ ผู้ชายคนนี้ สามารถทำให้พวกเขาประหลาดใจได้เสมอ ตระกูลลัดดาวัลย์ มีรพีพงษ์อยู่ ไม่มีวันที่จะล้มลงไป
“ทำให้เธอเป็นห่วงแล้ว”รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดกับอารียา
อารียามองไปที่รพีพงษ์อย่างตำหนิแวบหนึ่ง แต่ในดวงตา กลับเต็มไปด้วยความสุข
“นายยังไม่อุ้มลูกสาวของตัวเองอีกเหรอ? นายไม่กลับมานานขนาดนี้ ลูกแทบจะจำนายที่เป็นพ่อไม่ได้แล้ว”อารียาเอ่ยปาก
รพีพงษ์รีบรับขวัญนลินมาจากอ้อมแขนของอารียา เอ่ยปากว่า: “ฉันเป็นพ่อของลูกนะ ต่อให้ห่างกันไปนาน ลูกก็ไม่มีทางลืมฉัน”
อารียากลอกตาใส่เขา แล้วพูดว่า: “ในเมื่อนายมั่นใจขนาดนี้ งั้นนายมีปัญญาทำให้เขาเรียกนายว่าพ่อได้หรือเปล่าล่ะ”
รพีพงษ์ก้มหน้ามองไปขวัญนลินที่อยู่ในอ้อมแขนแวบหนึ่ง ตัวเล็กมองไปที่รพีพงษ์อย่างอยากรู้อยากเห็น มีความใกล้ชิดในดวงตาที่ยากจะปิดซ่อน
“หนูลิน แม่ของลูกไม่เชื่อในสายสัมพันธ์พิเศษระหว่างพ่อลูกของเรา ลูกเรียกพ่อว่าพ่อหน่อยเร็ว ทำให้แม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเราไม่สามารถเจือจางไปตามกาลเวลา”รพีพงษ์เอ่ยปาก
ขวัญนลินยื่นมือเล็กๆออกมา จับใบหน้าของรพีพงษ์ ไม่เข้าใจว่ารพีพงษ์กำลังพูดถึงอะไร
อารียาก็หัวเราะขึ้นมาทันที แล้วพูดว่า: “ดูสิ ลูกไม่รู้จักนายเลย ในสายตาของลูก นายก็คงจะเป็นแค่ของเล่นสนุกๆ”
ผู้คนที่อยู่ด้านหลังอารียาก็เม้มปากยิ้มขึ้นมา
รพีพงษ์ทำอะไรไม่ถูก ไม่สามารถที่จะทำอะไรตัวเล็กคนนี้ได้
เมื่อรพีพงษ์กำลังจะอุ้มขวัญนลินเข้าไปในคฤหาสน์ใหญ่ ทันใดนั้นตัวเล็กก็ใช้น้ำเสียงอ่อนหวานตะโกนเรียก: “พ่อ”
แม้ว่าจะพูดไม่ชัด แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเธอกำลังเรียกรพีพงษ์
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง และใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
รพีพงษ์หัวเราะเสียงดัง และพูดอย่างมีความสุขว่า: “ลูกที่ดีของพ่อ ลูกคือความสุขของพ่อจริงๆ”
“พ่อพลาดงานเลี้ยงฉลองครอบหนึ่งร้อยวันของลูกไป ครั้งนี้กลับมา พ่อจะจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่โตให้กับลูก”
“ท่านคทา เลือกวันดีๆมาวันหนึ่ง ฉันอยากจะฉลองให้กับหนูลิน เชิญเพื่อนๆญาติพี่น้องมา จัดงานเลี้ยงสามวัน!