พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - บทที่749 ไออ้วนที่คล่องแคล่วว่องไว
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- บทที่749 ไออ้วนที่คล่องแคล่วว่องไว
บทที่749 ไออ้วนที่คล่องแคล่วว่องไว
ทางเข้าฟิตเนสเซนเตอร์
รพีพงษ์พวกเขาทั้งสามมาถึงที่นี่ ไออ้วนและดำเกิงทั้งสองคนต้องมองไปที่กระจกที่ตกแต่งของฟิตเนสเซนเตอร์ ต่างก็ทอดถอนใจ
“ดูสภาพของคนอื่นสิ ออกกำลังกายยังสะดวกสบายขนาดนี้ เหมือนกับเราที่ไหนกันล่ะ ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่บนภูเขาเป็นอย่างมาก ต่างกันราวฟ้ากับดิน”ดำเกิงเอ่ยปาก
“มันไม่สำคัญหรอกว่าจะสบายหรือไม่ สิ่งสำคัญคือมีสาวสวยที่นี่อยู่มากมาย นายดูคนนั้นสิ รูปร่างที่โค้งว้าวหน้าอกและสะโพกที่ใหญ่ ฉันก็อยากออกกำลังกายไปพร้อมกับพวกเธอจัง”ไออ้วนด้วยท่าทางที่ไม่เก็บอาการ
รพีพงษ์กลอกตาใส่ทั้งสองคน แล้วพูดว่า: “ด้านล่างไม่มีอะไรให้ดู ฉันจำได้ว่าชั้นบนสุดมีคิกบอกซิ่งอยู่ ไปดูกันเถอะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปที่ลิฟต์
ไออ้วนและดำเกิงยังคงมองดูสาวสวยอย่างอาลัยอาวรณ์ เดินตามไปอย่างไม่เต็มใจ
ที่ชั้นบนสุด กลุ่มชายหนุ่มและหญิงสาวที่รักการออกกำลังกายรวมตัวกันที่หน้าเวทีประลองของคิกบอกซิ่ง มองไปที่เวทีประลองด้วยความชื่นชม ผู้ชายที่กำลังอวดโชว์กล้ามเนื้อของตัวเองอยู่
ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนอื่น ก็คือปานศักดิ์ ในขณะนี้มีผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อนอนอยู่บนพื้นใต้เท้าของเขา จมูกเขียวหน้าบวม เมื่อกี้นี้ ปานศักดิ์ต่อสู้กับชายคนนี้ ปานศักดิ์ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์
“พี่ชาย พี่หล่อมากจริงๆ! พี่เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลนบวรของเรา!”ธยานีย์มองไปที่ปานศักดิ์ที่อยู่บนเวทีด้วยความตื่นเต้น และตะโกน
ปานศักดิ์ก็เชิดหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ เห็นได้ชัดว่าพึงพอใจกับการแสดงเมื่อกี้นี้ของตัวเอง
“ยังมีใครอยากจะมาสู้กับฉันอีกมั้ย สู้ได้ตลอดเวลา”ปานศักดิ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทุกคนที่อยู่ข้างล่างส่ายหัวไปมา และคนที่พ่ายแพ้ให้กับปานศักดิ์ลงจากเวทีประลองด้วยท่าทางสิ้นหวัง ไม่กล้าที่จะประลองกับปานศักดิ์อีกต่อไป
ในขณะนี้รพีพงษ์พวกเขาทั้งสามก็มาถึงที่นี่ หลังจากที่เห็นปานศักดิ์ยืนอยู่บนเวทีประลอง ไออ้วนและดำเกิงทั้งสองคนก็นิ่งไปชั่วขณะ
“วันนี้โชคร้ายอะไรขนาดนี้ ทำไมไปถึงไหนก็เจอกับไอ้เด็กบ้าพวกนี้”ไออ้วนบ่นพึมพำ
ในตอนนี้ปานศักดิ์ก็สังเกตเห็นรพีพงษ์พวกเขาทั้งสามคน ตะลึงไปชั่วขณะ ธยานีย์พวกเขาก็มองตามสายตาของปานศักดิ์ หลังจากที่เห็นรพีพงษ์พวกเขาสามคน หน้าก็ถอดสี
ธยานีย์กลอกตาไปมา จากนั้นเดินไปที่รพีพงษ์พวกเขาสองก้าว จ้องมองพวกเขาทั้งสามคนด้วยสายตาที่สูงและพูดว่า: “พวกแกสามคนคงไม่ได้จิตวิปริตใช่ไหม กล้าที่จะตามติดพวกเรา พวกแกต้องการจะทำอะไร?”
ดำเกิงไม่พอใจทันที เอ่ยปากว่า: “พูดอะไรของเธอ เธอขี้เหร่ขนาดนี้ ทำไมเราต้องตามติดเธอด้วย อย่ามาเสแสร้งที่นี่”
ธยานีย์โกรธขึ้นมาทันที หญิงสาวคนหนึ่ง ทนไม่ได้ที่สุด น่าจะถูกคนอื่นว่าให้ขี้เหร่
“แกไอ้คนบ้านนอกที่สมควรตาย กล้าว่าฉันขี้เหร่เหรอ แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช้มั้ย!”ธยานีย์ตะโกนเสียงดัง
ไออ้วนแสยะยิ้มมองดูหล่อน เอ่ยปากว่า: “ทำไม เดี๋ยวนี้พูดความจริงหน่อยก็พูดไม่ได้เลยเหรอ?”
ธยานีย์กำหมัดทั้งสองแน่นๆ และแววตาที่มองไปที่รพีพงษ์พวกเขาทั้งสาม เต็มไปความโหด
ปานศักดิ์ที่อยู่บนเวทีเห็นเหตุการณ์นี้ สีหน้าก็เย็นชา เขาจ้องมองรพีพงษ์พวกเขาสามคนแวบหนึ่ง เอ่ยปากว่า: “ในเมื่อพวกแกสามคนอวดดีแบบนี้ ไม่รู้ว่ากล้าที่จะใช้วิธีแบบลูกผู้ชายมาแก้ไขปัญหามั้ย? ฉันอยู่บนเวทีประลอง พวกแกมีใครกล้าขึ้นมาต่อสู้กับฉันสักตามั้ย?”
เมื่อธยานีย์ได้ยินปานศักดิ์พูดแบบนี้ แววตาก็เปล่งประกายทันที และก็พูดขึ้นมาทันที: “ขี้ขลาดตาขาวอย่างพวกเขาสามคนเนี่ยนะ ไม่กล้าสู้กับพี่ชายฉันแน่นอน ไม่แน่อาจจะฉี่ราดกางเกงด้วยความหวาดกลัว”
ไออ้วนส่งเสียงเย็นชา รีบเดินไปที่บนเวทีประลอง แล้วพูดว่า: “วันนี้ไม่สั่งสอนพวกแก พวกแกยังจะคิดว่าตัวเองสำคัญอยู่จริงๆ”
รพีพงษ์เห็นไออ้วนขึ้นไป ไม่ได้ห้าม แต่เอ่ยปากว่า: “สนุกๆก็พอแล้ว อย่าทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต”
ไออ้วนแสยะยิ้ม และกล่าวว่า: “สบายใจลูกพี่ ฉันมีความพอดี”
เมื่อปานศักดิ์เห็นไออ้วนจะขึ้นเวทีมาสู้กับเขา บนใบหน้าก็ยิ้มเยาะเย้ยออกมา ในสายตาของเขา ในบรรดาทั้งสามคน จัดการได้ง่ายที่สุด ก็คือไออ้วน ในระหว่างการต่อสู้ ร่างกายของไออ้วนจะกลายเป็นภาระที่ใหญ่ที่สุด เขาเพียงแค่ยื่นมือออกไปชั่วขณะ ก็สามารถจัดการกับไออ้วนอย่างราบคาบ
ไออ้วนขึ้นบนเวทีประลอง ปานศักดิ์แสยะยิ้มมองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า: “อย่าคิดว่าหนังแกหนา โดนตีแล้วไม่เจ็บ หมัดนี้ของฉัน ขวดแก้วสามารถกระแทกแตกได้”
ไออ้วนหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดว่า: “งั้นแกก็สุดยอดจริงๆด้วย เพียงแต่ว่า…..แกแน่ใจว่าหมัดนั้นของแกจะสามารถกระแทกลงบนตัวฉันได้เหรอ?”
ทุกคนด้านล่างเวทีได้เห็นความแข็งแกร่งของปานศักดิ์แล้ว ตอนนี้เห็นว่าไออ้วนจะต่อสู้กับปานศักดิ์ ไม่ได้มองเขาดีมากนัก
“รูปร่างของไออ้วนก็ไม่เล็ก แต่คนอื่นเขาค่อนข้างคล่องแคล่วว่องไว ทักษะที่แสดงในตอนนั้นบอกได้เลยว่ารวดเร็วมาก ไออ้วนนี้ก็คงเป็นได้แค่เป้าที่มีชีวิตเท่านั้น”
“ไม่ต้องสนใจเขา ถึงยังไงคนที่โดนทุบตีก็ไม่ใช่ฉัน ดูไออ้วนโดนทุบตี ยิ่งรู้สึกดี”
“พี่ ทุบตีไอ้บ้านนอกนี้ให้ตายเลย ระบายความโกรธนี้แทนฉันน้องฉัน!”
ปานศักดิ์ไม่ได้พูดจาไร้สาระกับไออ้วนต่อไป แต่ตั้งท่าทางการต่อสู้แบบคิกบอกซิ่ง จากนั้นพุ่งไปด้านหน้า ชกไปด้านหน้า
ไออ้วนยืมอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ยังไงเขาก็เป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งชั้นต้นอยู่ดี แม้ว่าอยู่ในคุกที่ห้าถือได้ว่าไม่มีอะไรเลย แต่ต่อหน้าคนธรรมดา เขาก็เป็นยอดฝีมือศิลปะการต่อสู้ คิกบอกซิ่งอะไร เทควันโด คาราเต้และอื่นๆ อยู่ตรงหน้าเขา ต่างก็เป็นคนไม่มีความสามารถ
ทันทีที่หมัดของปานศักดิ์เข้าใกล้ด้านหน้าไออ้วน ไออ้วนก็ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว จับข้อมือของเขาไว้ ต่อจากนั้นใช้แรงสะบัด ทำให้ปานศักดิ์พุ่งไปที่ขอบเวทีประลอง
ถ้าไม่ใช่ว่ามีเชือกกั้นไว้ ปานศักดิ์คงบินพุ่งออกไปแล้ว
เมื่อเห็นฉากนี้ทุกคนก็ตกใจ คาดไม่ถึงว่าไออ้วนที่ดูไปแล้วเหมือนลูกชิ้น กลับคล่องแคล่วว่องไวขนาดนี้
ปานศักดิ์ก็คาดไม่ถึงตัวเองขึ้นมาก็ถูกจัดการด้วยหนึ่งท่าในทันที ใบหน้าก็แสดงความโกรธ ทันใดนั้นก็ตะโกนพุ่งเข้าไปหาไออ้วน
ไออ้วนมองว่านี่เป็นเกมหนึ่งเกมอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าปานศักดิ์จะดูดุร้าย แต่ก็ไม่สามารถแตะต้องร่างกายของไออ้วนได้ ห้านาทีผ่านไป ปานศักดิ์หายใจเหนื่อยหอบขึ้น แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่ปลายผมของไออ้วนก็แตะต้องไม่ได้
“เด็กน้อย กังวลมากใช่มั้ย แม้แต่เส้นผมของฉันก็แตะต้องไม่ได้ ต่อให้หมัดของแกจะกระแทกลงขวดแก้วแล้วยังไงล่ะ?”ไออ้วนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ปานศักดิ์แอบด่า กัดฟันและพุ่งเข้าหาไออ้วนอีกครั้ง
ไออ้วนก็รู้สึกว่าพอสมควรแล้ว ในขณะที่ปานศักดิ์พุ่งเข้ามา มือข้างหนึ่งก็สัมผัสท้องของเขา มืออีกข้างหนึ่งจับแขนของเขาไว้ ยกเขาขึ้นพลิกหมุนสามร้อยหกสิบองศา ทุ่มกระแทกลงบนพื้น
“กินก้มของปู่แกดูสิเป็นไง?”
ไออ้วนตะโกนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นทั้งก้น ก็นั่งลงบนใบหน้าของปานศักดิ์